หัวข้อ: พระเทพวัชรเมธี (สมคิด จินตามโย) วัดราชบพิธฯ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 31 สิงหาคม 2564 16:18:22 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/86768485688500__Copy_.jpg) พระเทพวัชรเมธี (สมคิด จินตามโย) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ พระเทพวัชรเมธี อธิการบดีมหามกุฏฯ : เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระราชปฏิภาณโกศล เป็น พระเทพวัชรเมธี ศรีศาสนศาสตรบัณฑิต วิมลปริยัติกิจยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีพระราชาคณะชั้นเทพสถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 5 รูป ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.2564 ประกาศ ณ วันที่ 7 พ.ค.2564 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน ปัจจุบัน พระเทพวัชรเมธี (สมคิด จินตามโย) สิริอายุ 51 ปี พรรษา 31 ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, เลขานุการส่วนพระองค์สมเด็จพระสังฆราช และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร มีนามเดิมว่า สมคิด เนาว์ชมภู เกิดเมื่อ วันที่ 3 มี.ค.2513 ที่บ้านจำ หมู่ 6 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ในวัยเยาว์ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 14 พ.ค.2526 เข้าพิธีบรรพชาที่วัดจำทรายมูล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มีพระพิศิษฏ์ธรรมภาณ (สมาน รามธัมโม) วัดเชตวัน อ.เมือง จ.ลำปางเป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมา เดินทางมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพฯ และเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2533 ณ มหาพัทธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มีสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตากโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชสารสุธี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระราชมงคลสุธี (เขมฉันโท) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามเมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระปริยัติกวีเป็นพระอนุสาวนาจารย์ มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สำเร็จการศึกษานักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 5 ประโยคที่สำนักเรียนวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปรัชญา จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, ปริญญาโท สาขา Buddhist Studies จาก University of Delhi สาธารณรัฐอินเดีย และปริญญาเอก สาขาพุทธศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ปฏิบัติงานด้านการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนามาโดยตลอดกล่าวคือเป็นอาจารย์สอนพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามและเป็นอาจารย์ประจำคณะศาสนาและปรัชญามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ทั้งนี้ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ด้านศาสนศึกษา ตั้งแต่ พ.ศ.2550 ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เมื่อพ.ศ.2562 นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ช่วยเลขานุการ แม่กองธรรมสนามหลวง และปฏิบัติหน้าที่พระธรรมทูต ที่วัดธัมมธโร เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อปี พ.ศ.2543 สนองงานและสนองพระดำริ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาเป็นลำดับ อาทิ การจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ได้รับผล กระทบจากสถานการณ์โรคระบาด ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โครงการสาธุ โขปัพพัชชา ในพระสังฆราชูปถัมถ์ รวมทั้งสนองพระดำริในการจัดตั้งทุนการศึกษาสมเด็จพระสังฆราชเจ้า (วาสนมหาเถร) และทุนการศึกษาสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) ในนามมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยเพื่อสร้างศาสนทายาทให้มีโอกาสศึกษาต่อด้านพระพุทธศาสนาปรัชญาภาษาบาลีสันสกฤตและพระไตรปิฎกศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ อ.เถิน จ.ลำปาง อันเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สงบร่มรื่น และมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน อำนวยการสร้างหอพุทธปาพจนบดีอนุสรณ์ ตามพระดำริสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตากโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2544 เป็นพระครูฐานานุกรม ที่พระครูปลัดสัมพิพัฒนวราจารย์ ฐานานุกรมในสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินตากโร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามฯ พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอุดม ธีรคุณ พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานโปรดเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปฏิภาณโกศล ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ 1 มิ.ย.2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตรไปถวายแด่พระเทพวัชรเมธี ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ข่าวสดออนไลน์ |