หัวข้อ: อจิณไตย บั้งไฟพญานาค เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 ตุลาคม 2564 20:00:31 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/75062615465786__2.jpg) หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/93759200556410_248293147_2936724163246736_489.jpg) อจิณไตยบั้งไฟพญานาค ผู้บันทึกถามเวลาพญานาคแสดงอนุโมทนาผู้ไม่มีตาในใจทิพย์จะทราบจากภายนอกได้อย่างไร.. หลวงปู่ชอบ “ บางครั้งจะเกิดลมกะทันหัน บางครั้งเขาจะแผ่พังพานบังแดดให้ผู้ทำบุญ บางครั้งเขาจะพ่นน้ำขึ้นอากาศให้เป็นฝน บางครั้งเขาจะคายฤทธิ์ขึ้นอากาศ ” ถามท่าน พญานาคคายฤทธิ์คืออะไร หลวงปู่ชอบ “ คือพญานาคแสดงทิพยาฤทธิ์ในตน ทิพยาฤทธิ์พิษพญานาคนี้แฮงกว่าไฟพระอาทิตย์ ถ้าจะทำร้ายผู้ใดแค่เขาเพ่งพิษใส่มนุษย์หรือสัตว์นั่นกะเป็นเถ้าในทันที พิษใดๆ ในโลกนี้รวมกันแล้วยังบ่ได้เท่าเสี้ยวทิพยาฤทธิ์พิษพญานาค เรื่องเทวดาพญานาคนี่เป็นเรื่องอจิณไตยหาข้อสรุปทางโลกบ่ได้ นอกจากผู้ปฏิบัติเท่านั่นเพิ่นถึงจะฮู้ได้ด้วยปัญญาของเพิ่นเอง ” (แปล : หลวงปู่ชอบ “ คือพญานาคแสดงทิพยาฤทธิ์ในตน ทิพยาฤทธิ์พิษพญานาคนี้แรงกว่าไฟพระอาทิตย์ ถ้าจะทำร้ายผู้ใดแค่เขาเพ่งพิษใส่มนุษย์หรือสัตว์นั่นก็เป็นเถ้าในทันที พิษใดๆ ในโลกนี้รวมกันแล้วยังไม่ได้เท่าเสี้ยวทิพยาฤทธิ์พิษพญานาค เรื่องเทวดาพญานาคนี่เป็นเรื่องอจิณไตยหาข้อสรุปทางโลกไม่ได้ นอกจากผู้ปฏิบัติเท่านั่นท่านถึงจะรู้ได้ด้วยปัญญาของท่านเอง ”..) ถามองค์ท่าน ลูกไฟที่ขึ้นในแม่น้ำโขงหนองคายมันคืออะไร หลวงปู่ชอบ “ แต่ก่อนเขาเอิ้น(เขาเรียก)บั้งไฟผี สมัยนี่เขาเอิ้นบั้งไฟพญานาค สิ่งนี้มีมาแต่สมัยพุทธกาลคนทุกวันนี้มันจะหามาตื่นกันเอาใหม่ๆ พญานาคเขาแสดงพุทธบูชาระลึกถึงพระพุทธเจ้าเพิ่นเสด็จกลับจากจำพรรษาโปรดพุทธมารดาอยู่ดาวดึงส์ พอวันพระพุทธเจ้าเปิดโลกเขาแสดงสื่อธรรมให้มนุษย์ฮู้ว่า บาปบุญคุณโทษนรกสวรรค์ นั่นมีจริง คนเฮามันพิจารณาบ่ออกในปริศนาธรรมที่เขาสื่อความหมาย มันกะเอาความโง่ของเจ้าของมาเถียงกันเป็นธรรมมาวิวาท เถียงกันไปกะเป็นอจิณไตยหาข้อยุติในธรรมให้เป็นอันหนึ่งอันใดกะบ่ได้คือจั่งคนตาบอดคำซ้างมาเถียงกัน จิตผู้ฮู้แจ้งในธรรมแล้วเพิ่นบ่เถียงกัน เพิ่นฮู้ว่าอั่นใด๋เป็นอั่นใด๋ ” (แปล : หลวงปู่ชอบ “ แต่ก่อนเขาเรียกบั้งไฟผี สมัยนี่เขาเรียกบั้งไฟพญานาค สิ่งนี้มีมาแต่สมัยพุทธกาลคนทุกวันนี้มันจะหามาตื่นกันเอาใหม่ๆ พญานาคเขาแสดงพุทธบูชาระลึกถึงพระพุทธเจ้าเพิ่นเสด็จกลับจากจำพรรษาโปรดพุทธมารดาอยู่ดาวดึงส์ พอวันพระพุทธเจ้าเปิดโลกเขาแสดงสื่อธรรมให้มนุษย์รู้ว่า บาปบุญคุณโทษนรกสวรรค์ นั่นมีจริง คนเรามันพิจารณาไม่ออกในปริศนาธรรมที่เขาสื่อความหมาย มันก็เอาความโง่ของเจ้าของมาเถียงกันเป็นธรรมมาวิวาท เถียงกันไปก็เป็นอจิณไตยหาข้อยุติในธรรมให้เป็นอันหนึ่งอันใดก็ไม่ได้คือเหมือนคนตาบอดคลำช้างมาเถียงกัน จิตผู้รู้แจ้งในธรรมแล้วท่านไม่เถียงกัน ท่านรู้ว่าอันไหนเป็นอันไหน ”..) ที่มา
ขอขอบคุณที่มา : พระพุทธศาสนา |