|
หัวข้อ: หนึ่งขณะจิตกับวิบากจิต เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 14 พฤษภาคม 2553 15:25:50 (http://album.taklong.com/addons/albums/images/137140619.jpg) อย่าโทษหรือโกรธใคร เพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่มีใคร มีแต่ธรรมเท่านั้น และคิดนึกเอาเองว่ามีเรื่องราวมีสิ่งต่างๆ หลงอยู่ในโลกของความคิดของตัวเองกลับ มาสู่ความจริงคือสิ่งที่มีจริง(ตัวปรมัต)ก็จะเบาเพราะเข้าใจว่าเรื่องไม่มีมีแต่ธรรมทีละ ขณะอยู่ด้วยความเข้าใจ อยู่ด้วยความเมตตา อยู่ด้วยกุศลจิต เหตุการณ์ปัจจุบันจึงเป็น เครื่องพิสูจน์ปัญญาจึงควรเห็นโทษของอกุศลที่เกิดกับตัวเอง ไม่ใช่สิ่งอื่น ประโยชน์ คือขัดเกลากิเลสตัวเองเป็นสำคัญ กลับมาสู่ความสนใจพระธรรม เวลาเหลือน้อย มัวเมาด้วยเรื่องราว สะสมสิ่งที่เพิ่ม อกุศลทำให้ขาดโสภณธรรมมีเมตตา เป็นต้น ขณะนี้กำลังมีธรรม รู้หรือยัง ? ยังไม่รู้จึง เป็นผู้กลับมาสู่ขณะที่ประเสริฐคือศึกษาธรรม ฟังธรรม สิ่งที่คิดว่าสำคัญมากมายดูเป็น เรื่องใหญ่ในขณะนี้ก็แค่นึกคิดแล้วก็ดับไปไม่เหลือเลย ตายแล้วก็ลืมหมดแล้วอะไรที่ สำคัญที่สุดกับชีวิตจริง ๆ ที่จะติดตัวและเป็นมิตรช่วยเหลือในภพหน้าหากไม่ใช่กุศล ธรรมและความเข้าใจพระธรรม...........................................ขออนุโมทนา ....................................... มัชฌิมประภาสปุญสถาน.......................................... ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัย เกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคน เทอญ...................... ....................................... นำโมออมีทอฝอ.............................. http://yoawarat.blogspot.com/ (http://yoawarat.blogspot.com/) OM MANI PADME HUM Tibetan Incantations (VuLan2552) (http://www.youtube.com/watch?v=eFtjIntktis#ws) หัวข้อ: Re: หนึ่งขณะจิตกับวิบากจิต เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 15 พฤษภาคม 2553 03:03:52 (http://www.watkoh.com/forum/richedit/upload/2k22e889743d.jpg) คาถาแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ (http://www.salatham.com/images/leaf.gif) บทเมตตา สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นผู้ไม่มีเวรแก่กันและกันเถิด อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน อะนีฆา โหนตุ จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์กาย ทุกข์ใจเถิด สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงเป็นผู้มีสุข พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด บทกรุณา สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ จงพ้นจากทุกข์เถิด บทมุทิตา สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ จงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด บทอุเบกขา สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งสิ้น กัมมัสสะกา เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน กัมมะทายาทา เป็นผู้รับผลของกรรม กัมมะโยนิ เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด กัมมะพันธุ เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กัมมะปะฏิสะระณา เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ยัง กัมมัง กะริสสันติ กระทำกรรมอันใดไว้ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่ว ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:F_nWlBHkdSGkqM::www.prachataiwebboard.com/webboard/sites/default/files/pictures/picture-4793.jpeg&t=1&h=245&w=206&usg=__yEfkwLas-eWh-by-VhCph6HVj8k=) (http://www.salatham.com/images/leaf.gif) (http://www.salatham.com/images/leaf.gif) (http://www.salatham.com/images/leaf.gif) |