[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปรษณีย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 12 พฤษภาคม 2565 10:01:00



หัวข้อ: “เน่าแล้วอร่อย” เผยเคล็ดลับการหมักอาหารคนอาเซียน ไม่ต่างกับการทำศพ!
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 12 พฤษภาคม 2565 10:01:00
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/43544438729683__696x500_Copy_.jpg)
โครงปลาช่อนกับปลาดุก ฝังรวมอยู่กับโครงกระดูกมนุษย์ราว 3,000 ปีมาแล้ว
ที่บ้านโนนวัด ต.พลสงคราม อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
(ภาพของ รัชนี ทศรัตน์ นักโบราณคดี ผู้ควบคุมการขุดค้น)



“เน่าแล้วอร่อย”
เผยเคล็ดลับการหมักอาหารคนอาเซียน ไม่ต่างกับการทำศพ!

เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม
วันพฤหัสที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2565


เน่าแล้วอร่อย เป็นวัฒนธรรมร่วมของบรรพชนคนอาเซียนไม่น้อยกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เช่น ปลาร้า ปลาฮอก ปลาแดก ปลาเค็ม น้ำปลา น้ำบูดู กะปิ ถั่วเน่า ฯลฯ และของหมักดองทุกอย่าง ทั้งหมดไม่ใช่วัฒนธรรมโดยเฉพาะของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่ของมอญ ไม่ใช่ของเขมร และไม่ใช่ของลาว ฯลฯ แต่เป็นของทุกชาติพันธุ์อุษาคเนย์

เน่าแล้วอร่อยเป็นขบวนการถนอมอาหารไว้กินนาน ๆ ของคนในอุษาคเนย์ เคยมีนักวิชาการตะวันตกศึกษาอาหารที่หมักดองเน่าแล้วอร่อย พบว่าขั้นตอนการแปรรูปอาหารประเภทนี้ ไม่ต่างจากประเพณีทำศพของคนอุษาคเนย์ในยุคดึกดำบรรพ์

ทำศพ เป็นประเพณีที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งของคนในอุษาคเนย์ เมื่อมีคนตาย ต้องปล่อยศพเน่า โดยเก็บไว้หลายวัน บางทีเป็นเดือนเป็นปี

ศพเน่า คือส่วนที่เป็นเนื้อหนังหุ้มกระดูกของคนตาย ถูกทิ้งให้เน่าเปื่อยตามปกติธรรมชาติเมื่อผ่านไปหลายวัน ต่อจากนั้นลอกเนื้อหนังเน่าเปื่อยออก เอากระดูกล้างน้ำแล้วสาดน้ำล้างกระดูกขึ้นหลังคาเรือนขับไล่ผีร้าย เอากระดูกไปทำพิธีอีกครั้งหนึ่ง เรียกพิธีทำศพครั้งที่ 2 เช่น ใส่ภาชนะดินเผาหม้อไหแล้วฝังอีกครั้งหนึ่ง และอาจใส่โกศแล้วเผาบนพระเมรุมาศ

เก็บศพเน่า เป็นความเชื่อดั้งเดิมที่สุดว่าคนตาย ขวัญไม่ตายแต่ขวัญหายไปด้วยเหตุร้ายอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วจะคืนกลับมาสู่ร่างเดิมไม่วันใดก็วันหนึ่ง เมื่อขวัญพบทางกลับถูก เครือญาติในชุมชนจึงต้องร่วมกันเป่าปี่ตีฆ้องกลองสนุกสนานรื่นเริง เป็นมหรสพคบงันให้สัญญาณแก่ขวัญที่หลงทางกลับคืนสู่ร่างถูก

กินศพเน่า มีนิทานแสดงร่องรอยซึ่งน่าเชื่อว่า เป็นต้นตอของอาหารประเภทเน่าแล้วอร่อย บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ จดนิทานไว้ในหนังสือชาวเขาในไทย ว่าด้วยเรื่องละว้ากินศพเน่า


ปลาร้า
ปลาร้าที่ไทยรู้จักกันดี แล้วหลงว่าเป็นคำไทยแท้นี้ เป็นคำเขมรทั้งดุ้น เพียงแต่เพี้ยนจากเสียงเดิม เพราะบรรพชนไทยสายหนึ่งเป็นเขมรลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีละโว้ (ลพบุรี) เป็นศูนย์กลาง แล้วมีพัฒนาการเป็นกรุงศรีอยุธยา ใช้ภาษาเขมรปนลาวปนมอญ แล้วเรียกว่าภาษาไทย

แต่ในกัมพูชาเรียกว่าปลาฮอก มีผู้รู้บอกเพิ่มขึ้นว่า ปลาร้าในอาเซียนอื่น ๆ ก็มี เช่น ฟิลิปปินส์เรียกว่า “บากูง” เวียดนามเรียกว่า “มั้ม” มาเลเซียเรียกว่า “เปกาซัม” อินโดนีเซียเรียกว่า “บากาแซ็ง”

ทั้งหมดล้วนทำให้เน่า แล้วอร่อย เหมือนกันหมด



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/24062079108423__Copy_.jpg)
ปลาร้าปลาหมักประเภทต่างๆ ที่พบในตลาดสดของไทย (ภาพจาก มติชนออนไลน์)