หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๙๑ สุจจชชาดก : ภรรยาที่แสนดี เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 ธันวาคม 2565 14:41:41 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13576513404647__500_320x200_.jpg) พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๙๑ สุจจชชาดก ภรรยาที่แสนดี พระเจ้าพรหมทัตเป็นกษัตริย์ครองราชย์ในเมืองพาราณสี แห่งกาสิกรัฐ เมื่อพระโอรสเจริญวัยเต็ม เกรงว่าจะก่อการกบฏยึดครองราชสมบัติ จึงมีรับสั่งให้พระโอรสออกไปอยู่ในป่า พระโอรสจึงพาพระชายาออกไปปลูกกระท่อมอยู่ในป่าแถบชายแดน อาศัยผักผลไม้เป็นอาหาร ใช้ชีวิตอยู่อย่างอึดอัด เมื่อเวลาผ่านไปพระเจ้าพรหมทัตเสด็จสวรรคต พระโอรสจึงพาพระชายากลับพระนครพาราณสี ระหว่างทางกลับ ผ่านภูเขา พระชายาได้ตรัสกับพระโอรสว่า “ถ้าภูเขาลูกนี้เป็นทอง พระองค์จะประทานอะไรให้หม่อมฉันเพคะ” “นางเป็นใคร ทำไมฉันต้องให้อะไรนางด้วย” พระโอรสตรัสตอบ พระชายาน้อยพระทัยพระสวามี ที่พระองค์มีพระทัยแข็งกระด้าง พูดจาไม่น่าฟัง ถ้าไม่เป็นพระราชาแล้วคงจะไม่เห็นหัวเราแน่” จากนั้นเมื่อทั้งสองพระองค์ได้เสด็จถึงพระราชวัง เช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้สถาปนาพระโอรสให้สืบราชสมบัติต่อจากพระบิดา และทรงแต่งตั้งพระชายาเป็นพระอัครมเหสี ทรงพระราชทานแต่เพียงตำแหน่งให้พระนางเท่านั้น แต่ทรัพย์สินเงินทองนั้นไม่ให้ และไม่สนพระทัยความเป็นอยู่ของพระนางเลย ปุโรหิตผู้เป็นพระโพธิสัตว์เห็นว่าพระราชามีพระทัยคับแคบ ขณะที่พระนางได้ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุข ทนลำบากอยู่ในป่า เมื่อได้ดีแล้วยังไม่นึกถึง หนำซ้ำยังเที่ยวอภิรมย์กับสนมอื่นๆ สร้างความขนขื่นพระทัยแก่พระนางเป็นยิ่งนัก วันรุ่งขึ้นเขาจึงไปเข้าเฝ้าพระเทวี กราบทูลว่า “ข้าแต่มหาเทวี ข้าพระองค์ไม่ได้กินอะไรเลย ทำไมพระองค์จึงไร้พระทัยเช่นนี้” พระมเหสีตรัสตอบ “ถ้าเรามีอะไร ทำไมเราจะไม่แบ่งท่านล่ะ แต่นี่เราไม่ได้อะไรเลยเราคงเลี้ยงท่านไม่ได้หรอก พระราชาท่านไม่ได้ให้ทรัพย์สินเงินทองแก่เราเลย พระราชาของเรา พระองค์ไม่สละอะไรให้ใครได้ง่ายๆ หรอก” ปุโรหิตทูลว่า “พระองค์ทรงกล้ากราบทูลต่อหน้าพระราชาหรือไม่?” “ทำไมเราจะไม่กล้า” เมื่ออยู่ต่อหน้าพระราชา ปุโรหิตจึงแกล้งทูลเรื่องดังกล่าว แล้วพระเทวีก็ตรัสดังกล่าวเช่นกัน ปุโรหิตจึงทูลถามพระราชาว่า “จริงอย่างพระเทวีตรัสหรือพระเจ้าข้า” พระราชารับว่าจริง แล้วตรัสตอบว่า “บัณฑิตกล้ารับในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่พูด บัณฑิตรู้ดีว่าคนที่ดีแต่พูดนั้นไม่ชอบทำ” “หม่อมฉันขอนอบน้อมพระองค์ที่ยึดมั่นในสัจจะ แม้จะตกอยู่ในความลำบากถูกขับไล่ออกจากพระราชวังก็ยังยึดมั่นในสัจธรรม” ปุโรหิตเห็นโอกาสเหมาะ จึงประกาศคุณความดีของพระเทวี “หญิงผู้ใดในเวลาที่สามีขัดสน ก็พลอยลำบากด้วยกัน เมื่อสามีมั่งคั่งก็พลอยเป็นสุข หญิงนั้นนับเป็นยอดภรรยา เพราะถ้าสามีมีเงินภรรยาก็ย่อมมีเหมือนกัน ข้าแต่มหาราช พระเทวี ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่ในป่ากับพระองค์ พระองค์ควรยกย่องพระเทวีให้มากกว่านี้” พระราชาระลึกถึงคุณของพระเทวีได้ก็เพราะถ้อยคำของปุโรหิต จึงพระราชทานพระอิสริยยศทั้งปวงให้พระเทวี และทรงพระราชทานทรัพย์สินอันมีค่าให้กับปุโรหิตอย่างมากมายและอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “เป็นสามีภรรยาต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน” พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สุทุลฺลภิตฺถี ปุริสสฺส ยา หิตา ภตฺติตฺถิยา ทุลฺลโภ โย หิโต จ ฯ ภรรยาที่คอยช่วยเหลือสามี หาได้ยาก สามีที่คอยช่วยเหลือภรรยา ก็หาได้ยาก (๒๗/๒๙๓๔) ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดย ธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม |