หัวข้อ: วัดเวฬุวัน (วัดเขาจีนแล) จ.ลพบุรี เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 มกราคม 2566 17:55:34 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/36514442621005_1_Copy_.jpg) วัดเวฬุวัน (วัดเขาจีนแล) จ.ลพบุรี อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดลพบุรีประมาณ ๑๘ กิโลเมตร อยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก แต่เดิมบริเวณวัดนี้เป็นป่าทึบเต็มไปด้วยป่าไผ่ ภาพประกอบนี้ จากเพจวัดเวฬุวัน วัดเวฬุวัน (วัดเขาจีนแล) ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี วัดเวฬุวัน (วัดเขาจีนแล) ตั้งอยู่ในหุบเขาจีนแล ท้องที่หมู่ ๗ ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี มีเนื้อที่โดยพฤตนัย (ตามเป็นจริง) ประมาณ ๑ ตารางกิโลเมตร เนื้อที่โดยนิตินัย (ตามกฎหมาย) ๖๔ ไร่ ๓๘ ตารางวา อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดลพบุรีประมาณ ๑๘ กิโลเมตร อยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก แต่เดิมบริเวณวัดนี้เป็นป่าทึบเต็มไปด้วยป่าไผ่ หลวงพ่อลี (พระครูอุบาลี ธรรมาจารย์) ได้เดินธุดงค์มาถึงที่นี่ เห็นภูมิประเทศเหมาะสมดี จึงหยุดยั้งอยู่และตั้งสำนักสงฆ์ขึ้น วัดเขาจีนแลนี้เป็นสถานที่สงบร่มรื่นธรรมชาติสวยงามเพราะตั้งอยู่กลางหุบเขา ภูเขาล้อมรอบทั้งสี่ด้าน พระพุทธรูปสำคัญคือ พระพุทธรูปใหญ่ ที่หลวงพ่อลีสร้าง ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา ที่วัดแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนชมธรรมชาติหรือไปแสวงบุญ มีโบสถ์ลักษณะจั่วเป็นซุ้มกุทุแบบอินเดีย แปลกสวยงามสำหรับให้บำเพ็ญธรรม มีสำนักชีคอยบริการให้ความสะดวกแก่ผู้ไปเที่ยวและไปทำบุญ และยังมีหอสมุดของวัดซึ่งมีหนังสือธรรมะต่างๆ มากมายไว้บริการ" ...ที่มาข้อมูล เว็บไซต์ส่งเสริมการท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์ จังหวัดลพบุรี ประวัติวัดเขาเวฬุวัน หรือวัดเขาจีนแล วัดเขาจีนแล เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ โดย "แม่ชีอินทร์" อายุประมาณ ๔๕ ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในตัวเมืองลพบุรี มีอาชีพค้าทอง เจ็บป่วยเป็นประจำ ได้ไปพบ "พ่อท่านลี ธมมธโร" เจ้าอาวาสและองค์ผู้สร้างวัดอโศการาม ที่สมุทรปราการ พ่อท่านลีรักษาโรคให้ด้วยธรรมมะและแนะนำให้ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิขจัดโรคร้าย แม่อินทร์ก็ทำตามและหายจากโรคร้ายทั้งหลาย จึงเกิดความศรัทธาในพ่อท่านลีได้ติดตามพ่อท่านลีไปตลอด คืนหนึ่งได้นิมิตเห็นป่าที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา และมีกรดของพระธุดงค์ปักอยู่เต็มไปหมด ต่อมาพ่อท่านลีไปทอดผ้าป่าที่วัดบ่อหก ลพบุรี ท่านได้ถามเจ้าอาวาสวัดบ่อหก ว่ามีสถานที่ใดเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมบ้าง เจ้าอาวาสวัดบ่อหกจึงพาพ่อท่านลี และผู้ติดตามรวมทั้งแม่อินทร์ด้วยไปยังบริเวณที่เป็นวัดเขาจีนแลทุกวันนี้ เมื่อแม่อินทร์เห็นก็บอกทันทีว่าตรงบริเวณนี้ตรงกับนิมิต และเมื่อพ่อท่านลีปฏิบัติธรรมอยู่ ๓ วันก็กลับไปยังวัดอโศการาม แต่แม่อินทร์ที่เป็นชาวลพบุรีอยู่แล้วขออยู่ต่อไม่ติดตามกลับไป และอยู่คนเดียว อาหารการกินเข้าใจว่าสามีที่ยังค้าทองอยู่ในตัวเมืองลพบุรีจะเอามาส่งไว้ ถนนสายที่เข้ามายังวัดไม่ดี เข้ามาลำบากมาก และเชื่อว่าชาวบ้านคงมีศรัทธาส่งอาหารให้ด้วย แม่อินทร์นอนบนเขา เช้าลงมาถากถางป่าและสร้างวัดด้วยตัวคนเดียว ต่อมาหลานสาวทราบเข้าตามมาอยู่ด้วย ต่อมาอีกสามีที่ค้าทองอยู่ในเมืองก็เลิกค้าขายบวชเป็นพระ แม่อินทร์และหลานก็บวชเป็นชีจนได้สมาธิ แล้วช่วยกันถากถางป่าจะสร้างวัด ต่อมาอีกมีนายทหารราบ (เวลานั้นศูนย์การทหารราบตั้งอยู่ที่ลพบุรี) พาทหารมาฝึก เห็น ๓ คนถางป่าจะสร้างวัดก็เกิดศรัทธาร่วม นำทหารมาช่วยหาอาหารแห้ง น้ำดื่ม ข้าวสารมาให้หลายครั้ง และเริ่มมีศรัทธามาช่วยเหลือ แม่อินทร์เริ่มสร้างวิหาร สร้างแล้วไม่มีพระประธาน ชาวบ้านมีแต่เศียรพระโบราณจึงเอามาถวายแม่ชี แม่ชีได้เศียรพระจึงสร้างองค์พระเป็นพระพุทธไสยาสน์แล้วถวายนามว่า "หลวงพ่อสมใจนึก" ...ที่มาข้อมูล เว็บไซต์ dooasia.com (http://www.sookjaipic.com/images_upload/18477884266111__1_Copy_.jpg) พระพุทธไสยาสน์ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/82489706865615_2_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/97780096696482_3_Copy_.jpg) อุโบสถวัดเขาจีนแล (http://www.sookjaipic.com/images_upload/56536902652846__2_Copy_.jpg) ซุ้มรูปปั้น (กลาง) พ่อท่านลี ธมมธโร (ซ้าย) แม่ชีอินทร์ ศิริมงคล (ขวา) หลวงตาแซ ศิริมงคล (อดีตสามีแม่ชีอินทร์) นกยูงอินเดีย วัดเขาจีนแล (http://www.sookjaipic.com/images_upload/90884442668822_6_Copy_.jpg) นกยูงอินเดีย วัดเขาจีนแล (http://www.sookjaipic.com/images_upload/23543739070494_7_Copy_.jpg) นกยูงอินเดีย (เผือก) วัดเขาจีนแล จากการบอกเล่าว่า ประมาณ ๒๐ กว่าปีที่ผ่านมา มีผู้ซื้อนกยูงอินเดียมาถวายวัดเวฬุวัน หรือวัดจีนแล จำนวน ๓-๔ คู่ และทางวัดทำเล้าให้นกยูงวางไข่ขยายพันธุ์ จนปัจจุบันมีนกยูงจำนวนมากกว่า ๓๐๐ ตัว ซึ่งอาศัยทั้งในป่าบนเขา และตามลานวัด โดยทางวัดให้อาหารเลี้ยงนกยูง นกยูงอินเดีย (India Peafowl) เป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศอินเดีย มีขนาดเล็กกว่านกยูงไทยเล็กน้อย ตัวผู้มีสีน้ำเงินสดเป็นมันวาว ส่วนตัวเมียมีสีน้ำตาล ซึ่งแตกต่างจาก นกยูงไทย (Green Peafowl) ที่ทั้งผู้และตัวเมียมีสีเขียวเข้ม และนกยูงอินเดียและนกยูงไทยจัดเป็นนกที่มีแพนหางสุดอลังการ ลักษณะของนกยูงอินเดีย : ขนบริเวณคอและอกมีสีน้ำเงิน ขนบริเวณปีกเป็นลายสีขาวสลับกับสีดำ ขนตามลำตัวจะมีสีเขียวอมน้ำเงิน ด้านหลังเป็นเกล็ดคล้ายใบไม้ ในตัวเมียนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ ขนตามลำตัวเป็นสีน้ำตาล ขนคอและหลังจะมีสีอ่อนกว่าตัวผู้ ผู้ตัวเต็มวัย เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูสืบพันธุ์จะมีขนคลุมหางที่ยาวออกมาประมาณ ๒ เท่าของลำตัวหรือประมาณ ๑๕๐ เซนติเมตร ประกอบด้วยขน ๒ ประเภทด้วยกัน คือ ขนที่มีวงกลม ซึ่งเรียกว่า "แววมยุรา" และขนที่อยู่บริเวณขอบ เรียกว่า "T Feathers" ซึ่งบริเวณนี้จะไม่มีแววมยุรา ขนคลุมหางของนกยูงหนึ่งตัวจะประกอบด้วยขนคลุมหางประมาณ ๒๐๐ เส้น แบ่งเป็นขนที่มีแววมยุรา ประมาณ ๑๗๐ เส้น และขนคลุมหางที่เป็นขอบหรือ T-feathers อีกประมาณ ๓๐ เส้น ซึ่งขนคลุมหางนี้จะมีเพื่อการเกี้ยวพาราสีตัวเมียในฤดูสืบพันธุ์ ที่เรียกว่า "การรำแพน (http://www.sookjaipic.com/images_upload/71346629410982_8_Copy_.jpg) หงอนนกยูงอินเดีย วัดเขาจีนแล จ.ลพบุรี (http://www.sookjaipic.com/images_upload/34426862001418_5_Copy_.jpg) หงอนนกยูงอินเดีย วัดเขาจีนแล จ.ลพบุรี ขนหงอนของนกยูงอินเดีย หรือ นกยูงสีน้ำเงิน มีลักษณะเป็นรูปพัดต่างจากนกยูงไทยที่เป็นกระจุก สีของผิวหนังบริเวณหน้าจะมีสีขาว และมีสีดำคาดบริเวณตา (http://www.sookjaipic.com/images_upload/19376621767878_9_Copy_.jpg) แววมยุรา ได้แก่ แผ่นขนแบนๆ เป็นวงกลมของขนคลุมหางนกยูง เมื่อตัวผู้รำแพนเกี้ยวตัวเมียจะเห็นความสวยงามอลังการ และขนนี้จะหลุดร่วงหลังฤดูผสมพันธุ์แล้วงอกขึ้นมาใหม่ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/66105093517237_10_Copy_.jpg) กระรอกเผือกวัดเวฬุวัน มีมากมายหลายร้อยตัว ออกมากินอาหารพร้อมๆ กับนกยูง และไก่ในวัด (http://www.sookjaipic.com/images_upload/49807837108770_11_Copy_.jpg) พวกเขาต่างคุ้นเคยกับผู้มาเยือนในวัด ไม่ตื่นกลัวผู้คน (http://www.sookjaipic.com/images_upload/44641341144839_12_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/27937722826997_13_Copy_.jpg) นกกระตั้ว หรือ นกคอกคาทู วัดเขาจีนแล (http://www.sookjaipic.com/images_upload/58250964267386_14_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/38509293976757_15_Copy_.jpg) แหล่งอาศัยของนกยูงในวัดเขาจีนแล (http://www.sookjaipic.com/images_upload/74436713920699_16_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/91110378214054_17_Copy_.jpg) ชาวบ้านใกล้วัดผู้ให้อาหารเลี้ยงสัตว์ในวัดแทบทุกวัน เป็นเวลากว่า ๒๐ ปี โดยใช้อาหารสัตว์สำเร็จรูปผสมกับเมล็ดข้าวโพด (http://www.sookjaipic.com/images_upload/61451759479112_18_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/17612297957142__C300068_Copy_.jpg)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/35003587024079_322712977_688102659451162_4145.jpg) โปรดร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์สัตว์สวยงามอย่าให้สูญหายจากวัด และร่วมช่วยกันบริจาคค่าอาหารให้เป็นทานแก่สัตว์เลี้ยงในวัด (เท่าที่สังเกต ทั้งวัดเห็นมีตู้รับบริจาคแต่ภายในวิหารพระพุทธไสยาสน์เพียงที่เดียว) 850/22 |