[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปรษณีย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 15 มีนาคม 2566 19:59:58



หัวข้อ: ถั่งเช่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า”
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 15 มีนาคม 2566 19:59:58
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/49156620850165__696x364_Copy_.jpg)
ถั่งเช่า หรือ Cordyceps Sinensis
(ภาพโดย Rafti Institute จาก Wikimedia Commons สิทธิ์การใช้งาน CC BY 2.5) - มีการตกแต่งกราฟิกเพิ่มโดย กอง บก.ศิลปวัฒนธรรม

“ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ถั่งเช่า

ผู้เขียน - กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2566

ถั่งเช่า” อีกชื่อคือ “ตังถั่งเช่า” เป็นสมุนไพรจีนที่ใช้กันทั้งแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนจีนมาอย่างยาวนาน และขึ้นชื่อในสรรพคุณเกี่ยวกับการช่วยเสริม “สมรรถภาพทางเพศ” พบได้ในพื้นที่ภูเขาสูงของจีน เป็นสมุนไพรตามธรรมชาติที่ทั้งหายากและราคาแพง ผลิตภัณฑ์ยาหรืออาหารเสริมส่วนใหญ่จึงเป็นถั่งเช่าที่ปลูกในห้องปฏิบัติการ

องค์ประกอบของถั่งเช่าคือสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดอยู่ร่วมกัน ได้แก่ หนอนผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่ง ชื่อ เฮเพียลัส (ชื่อเต็ม Hepialus americanus Oberthur) กับ “เห็ด” หรือเห็ดรา ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า คอร์ดีเซปส์ (Cordyceps) และสายพันธุ์ที่หายากและเฉพาะถิ่นกว่าจากที่ราบสูงทิเบตชื่อ คอร์ดีเซปส์ ไซเนนซิส (Cordyceps sinensis) สปอร์เห็ดจะขึ้นอยู่บนตัวดักแด้หรือตัวอ่อนหนอนผีเสื้อที่ฝังตัวจำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาว ก่อนหนอนจะตายในฤดูใบไม้ผลิ เห็ดจึงเจริญขึ้นจากการดูดเอาสารอาหารจากตัวหนอนมาใช้

ถั่งเช่าที่เราเห็นเป็นลักษณะแท่งยาว ๆ ก็คือตัวหนอนที่มีเห็ดขึ้นบนตัว เป็นที่มาของฉายา “ตังถั่งแห่เช่า” ซึ่งแปลไทยได้ว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” นั่นเอง



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/69287933119469_A_text_book_of_mycology_and_pl.jpg)
ตำราเรียนเกี่ยวกับเชื้อราและโรคพืช (1917) แสดงภาพราในตัวอ่อนแมลง รวมถึง Cordyceps Sinensis หรือถั่งเช่า
(ภาพจาก Flickr / No known copyright restrictions)

สรรพคุณทางยาของถั่งเช่าในตำราสมุนไพรจีนระบุว่า มีสรรพคุณคล้าย “โสม” คือ มีฤทธิ์อุ่น รสหวาน และมีกลิ่นหอม ช่วยบำรุงร่างกายสำหรับผู้ที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง หรืออยู่ในช่วงฟื้นไข้ทั้งช่วยบำบัดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า

ไม่เพียงเท่านั้น ถั่งเช่ายังมีสรรพคุณในฐานะสมุนไพรแก้ไอ หอบหืด ช่วยละลายเสมหะ ช่วยให้นอนหลับสนิท ปรับการทำงานของกระเพาะอาหารให้เป็นปกติ บำรุงปอด ไต ป้องกันการลดจำนวนของเม็ดเลือดขาวหลังผ่านการรักษาโรคด้วยเคมีและรังสี ป้องกันอาการน้ำอสุจิเคลื่อนบ่อย เป็นสมุนไพรที่ช่วยปรับการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ และหากกินติดกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจะช่วยรักษาอาการปวดเอวด้วย


วิธีใช้หรือกินถั่งเช่า จากหนังสือ “มหัศจรรย์สมุนไพรจีน” โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย บอกวิธีการปรุงยาจากถั่งเช่าด้วย 3 กรรมวิธี พร้อมประโยชน์จากการรับประทาน ดังนี้

1. ถั่งเช่า (ทั้งตัว) จำนวน 6 ตัว ตุ๋นกับเป็ดแก่ที่สับเป็นชิ้น ๆ แล้ว กินเป็นซุป ช่วยบำรุงไต รักษาอาการปวดหลังบริเวณบั้นเอวและบำบัดภาวะฝันเปียกบ่อยจนเกิดอาการ “กามตายด้าน”

2. ถั่งเช่า 9 กรัม ห่วยซัว หรือกรอยจีน (พืชกินหัว คล้ายเผือก-มัน) 30 กรัม ตุ๋นรวมกับไก่ดำ 2 ขีดครึ่ง เติมน้ำพอประมาณ ตุ๋นจนเนื้อไก่เปื่อยนุ่ม แล้วกินทั้งน้ำซุปและเนื้อไก่ ช่วยบำรุงกำลัง แก้ท้องผูก ปากแห้ง เหงื่อออกง่าย หอบ ปัสสาวะเหลืองและปริมาณน้อย

3. ถั่งเช่า 10 กรัม ต้มในน้ำ เติมน้ำตาลกรวดจนละลาย นำน้ำที่ต้มมาดื่มวันละหนึ่งหม้อ ต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลาหนึ่งเดือน รักษาอาการไอจากโรคปอด

อย่างไรก็ตาม การใช้สมุนไพรนี้ในทางยาก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วย คือ ผู้ที่มีอาการไข้หวัด โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และภาวะการเต้นหัวใจผิดปกติ รวมถึงกลุ่มที่แพ้หนอนหรือเห็ด ไม่ควรกินอาหารหรือยาที่มีส่วนผสมของถั่งเช่า ผู้ที่มีอาการคอแห้งหรือร้อนในควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เป็นที่ทราบกันว่าถั่งเช่ามีราคาสูงมาก จึงมีการทำของปลอมออกมาขาย ข้อสังเกตคือถั่งเช่าของแท้จะมีส่วนที่เป็นตัวหนอนอวบอ้วนและสีเหลืองเป็นมันเงา ส่วนด้านในเนื้อสีเหลืองนวล และส่วนที่เป็นก้านเห็ดไม่ยาวจนเกินไป

วงการแพทย์แผนปัจจุบันพบว่าถั่งเช่ามีส่วนประกอบของ วิตามินบี 12 กรดอะมิโนต่าง ๆ โปรตีน กรดไขมันอิ่มตัว-ไม่อิ่มตัว กรดถั่งเช่า (Cordycepic acid) และสารถั่งเช่า (Cordycepin) โดยมีงานวิจัยเกี่ยวกับถั่งเช่าและการใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็ง โรคไต โรคเบาหวาน ปัญหาสมรรถภาพทางเพศ และโรคเกี่ยวกับภูมิต้านทานบกพร่องต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยจากการทดสอบดังกล่าวยังมีจำนวนน้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นเพียงการทดลองในสัตว์ทดลอง (หนู) และหลอดทดลองเท่านั้น

สรรพคุณที่แท้จริงของถั่งเช่าจากการศึกษาด้วยหลักการแพทย์สมัยใหม่ จึงต้องรอการพิสูจน์ต่อไป