[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 27 มิถุนายน 2566 17:08:30



หัวข้อ: พระบรมรูปและศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 มิถุนายน 2566 17:08:30
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/47343141792548_356267583_1656131208235886_382.jpg)
พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในพระอิริยาบถประทับบนพระราชอาสน์ พระแสงดาบพาดบนพระเพลา
ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/32171598821878_356809092_1656131178235889_641.jpg)

พระบรมรูปและศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ถนนจรดวิถีถ่อง  อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นสัญลักษณ์ของเมืองตาก ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านเมืองตากต้องระลึกถึงประวัติศาสตร์ของชาติไทยสมัยหนึ่ง   เดิมนี้แต่เดิมเป็นศาลเล็กๆ อยู่บนดอยวัดเขาแก้วทางฝั่งขวาของแม่น้ำปิง ตรงกันข้ามกับตัวเมืองตากในปัจจุบัน  ต่อมาชาวเมืองตากเห็นว่าศาลเดิมนั้นไม่สมพระเกียรติ จึงได้บอกบุญเรี่ยไรเพื่อหาเงินมาสร้างศาลหลังใหม่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำปิง และได้ให้กรมศิลปากรหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในพระอิริยาบถประทับบนพระราชอาสน์ พระแสงดาบพาดบนพระเพลา มีจารึกไว้ที่ฐานพระบรมรูปนี้ว่า พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงสมภพเมื่อ พ.ศ.๒๒๗๗ สวรรคต ๒๓๒๕ รวม ๔๘ พรรษา  ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๒  และต่อมาศาลที่ประดิษฐานพระบรมรูปซึ่งสร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๒ มีขนาดคับแคบ มีประตูเข้าออกเพียงทางเดียว ประชาชนที่เข้าไปทำความเคารพสักการะจะต้องเบียดเสียดยัดเยียดกันไม่สะดวก คณะกรรมการจัดงานตากสินมหาราชานุสรณ์จึงได้ดำริว่า สมควรจะสร้างขยายใหม่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น จึงได้รวบรวมเงินรายได้จากการจัดงานประจำปีสะสมไว้ เงินจากการสร้างพระบรมรูปเพื่อให้ประชาชนมีไว้บูชาและเงินจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาค แล้วจึงสร้างศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขึ้นใหม่ดังปรากฏในปัจจุบันนี้ และทุกๆ ปี จะมีงานสมโภชที่ยิ่งใหญ่ ในราวปลายเดือนธันวาคม


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/26238070800900_3_Copy_.JPG)

พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ตามที่กล่าวไว้ในหนังสืออภินิหารบรรพบุรุษว่า ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้มีคฤหบดีชาวจีนผู้หนึ่งนามว่า ไหฮอง เป็นขุนพัฒน์นายอากรบ่อนเบี้ย มีภรรยาชื่อ นางนกเอี้ยง ทั้งสองได้เข้าไปพึ่งบารมีอาศัยอยู่หน้าบ้านเจ้าพระยาจักรีมาช้านานจนภรรยาตั้งครรภ์มีกำหนดได้ ๑๐ เดือน คลอดบุตรออกมาเป็นชาย ณ วันอาทิตย์ เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีขาล จุลศักราช ๑๐๙๖ ตรงกับวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๒๗๗ (คำจารึกที่ฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ศาลภายในพระราชวังเดิม กองทัพเรือ ว่า พระราชสมภพ วันศุกร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีขาล จุลศักราช ๑๐๙๖ ตรงกับวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๒๗๗)  กล่าวกันว่า กุมารนั้นมีลักษณะเป็นจัตุรัสกาย คือ วัดตั้งแต่เท้าถึงศูนย์สะดือ เป็นมัชฌิมกายได้ส่วนหนึ่ง และวัดตั้งแต่ศูนย์สะดือถึงผมตกแห่งหน้าผากเป็นส่วนหนึ่ง และวัดตั้งแต่ศูนย์อุระราวถันออกไปถึงนิ้วมือข้างซ้ายส่วนหนึ่ง ข้างขวาส่วนหนึ่ง ทั้ง ๔ ส่วนนั้นยาวเสมอเท่ากัน ไม่ก้ำเกิน เป็นที่น่าอัศจรรย์แปลกกว่าคนธรรมดาสามัญชน   อนึ่ง ยังปรากฏว่าที่สะดือนั้นเป็นหลุมลึกลงไปพอจะบรรจุผลหมากสงทั้งเปลือกได้  ฉะนั้น ลักษณะกายดังกล่าวมาจึงเป็นลักษณะจัตุรัสกาย คือ รูปสิริกายเป็นรูปสี่เหลี่ยม  

ขณะกุมารคลอดออกจากครรภ์มารดาได้เกิดอสุนีบาต ฟ้าผ่าลงมาที่ตรงเสาเรือนแห่งห้องกุมารคลอดนั้น ทั้งๆ ที่ไม่มีเค้าว่ามีเมฆหมอกฝนฟ้าจะตกเลย แต่กุมารนั้นเล่าหาได้รับอันตรายแต่ประการใดไม่ นับว่าเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ประการหนึ่ง ครั้นกุมารคลอดได้ ๓ วัน ในเวลาพลบค่ำปรากฏว่ามีงูเหลือมใหญ่ตัวหนึ่ง ไม่ทราบว่ามาจากไหนเข้าไปขดเป็นทักษิณาวรรตอยู่ในกระด้งรอบกายกุมารซึ่งนอนนิ่งเงียบอยู่  ดูดุจคล้ายกับคอยพิทักษ์รักษากุมารนั้น โดยมิได้ทำอันตรายแต่ประการใด จึงนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกคำรบหนึ่ง ฝ่ายบิดามารดาของกุมารได้เห็นงูเหลือมใหญ่เข้าไปขดในกระด้งของบุตรนั้น ก็มีความกังวลและกลัวภัยอันตรายต่างๆ จะบังเกิดขึ้นในกาลข้างหน้า เพราะตามธรรมเนียมจีนในสมัยโบราณถือว่าหากมีเหตุภัยร้ายเกิดขึ้นเช่นนี้ ฝ่ายบิดามารดาย่อมนำเอาบุตรนั้นไปฝังเสียทั้งเป็น เพื่อป้องกันภัยพิบัติของตนอันอาจจะเกิดขึ้นภายหลัง  แต่เหตุการณ์ทั้งนี้เกิดในเมืองไทย ซึ่งประเพณีแตกต่างกับจีน ทางจีนอาจจะถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอัปมงคล แต่ตรงกันข้ามกับทางไทยอาจจะถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิริมงคลก็ได้ ด้วยเหตุฉะนี้จีนไหฮอง ผู้เป็นบิดา จึงไม่กล้านำบุตรไปฝังตามธรรมเนียมจีน คิดว่าควรจะต้องนำบุตรไปทิ้งเสียให้พ้นบ้านจึงจะพ้นภัยอันตราย  ครั้นเวลาเช้าท่านเจ้าพระยาจักรีลงมาถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระสงฆ์ที่หน้าบ้านของท่านได้ทราบเรื่องราวดังกล่าว ก็เกิดมีจิตเมตตาคิดสังเวชและสงสาร ประกอบกับเป็นบุญบารมีอภินิหารของกุมารน้อยยังไม่ถึงกาลมรณะ  ทั้งจะได้ดำรงพระมหาเศวตฉัตรเป็นพระเจ้าแผ่นดินต่อไปในภายภาคหน้า เทพยเจ้าจึงดลให้ท่านเจ้าพระยาจักรีขอกุมารน้อยกับจีนไหฮอง จีนไหฮองก็ยอมยกให้เป็นบุตรบุญธรรมแต่โดยดี

ตั้งแต่เจ้าพระยาจักรีได้รับกุมารมาเป็นบุตรบุญธรรม ก็มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองได้ลาภและทรัพย์สมบัติพัสถานเป็นจำนวนมากขึ้นๆ เพื่อเป็นนิมิตดีเจ้าพระยาจักรีจึงตั้งชื่อกุมารนั้นว่า นายสิน  พออายุได้ ๙ ขวบ ก็ไปฝากไว้ในสำนักพระอาจารย์ทองดีมหาเถระ ณ วัดโกษาวาศน์ (โกษาวาสน์หรือโกษาวาส) นัยหนึ่งว่าวัดคลัง ครั้นนายสินเรียนหนังสือขอมไทยได้จบบริบูรณ์แล้วก็เรียนคัมภีร์พระไตรปิฎกสมควรแก่คุณานุรูปชำนาญแล้ว จนอายุได้ ๑๓ ปี  นายสินคิดสนุกอยากร่ำรวยจึงตั้งบ่อนการพนันโดยเป็นเจ้ามือถั่วขึ้นในอาราม แล้วชักชวนเด็กวัดมาแทงถั่ว เมื่อพระอาจารย์ทราบก็จับตัวมาลงโทษ เฉพาะนายสินพระอาจารย์ลงโทษโดยมัดมือคร่อมกับบันไดน้ำ แช่น้ำไว้ตั้งแต่เวลาพลบค่ำซึ่งเป็นเวลาตรงกับน้ำขึ้นด้วย แล้วพระอาจารย์ก็ไปสวดมนต์จนลืมไป ครั้นเลิกสวดมนต์แล้วเป็นเวลาประมาณยามเศษจึงนึกขึ้นได้ จึงพร้อมด้วยพระสงฆ์พากันไปดูยังท่าน้ำก็เห็นน้ำท่วมตลิ่งแล้ว แต่นายสินหาเป็นอันตรายไม่ เว้นแต่มือยังมัดติดกับบันไดซึ่งถอนหลุดขึ้นมาตามน้ำที่เอ่อขึ้นๆ เรื่อยๆ  พระสงฆ์เห็นดังนั้นก็ช่วยกันแก้เชือกที่มัดนายสินออกมาพาตัวมายังบนบก เป็นอันว่านายสินรอดตายมาได้อย่างน่าอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ที่สุด เพื่อเป็นสิริมงคลและเรียกขวัญให้แก่นายสิน พระอาจารย์และพระสงฆ์ทั้งหลายก็นำตัวนายสินไปในพระอุโบสถ แล้วพระสงฆ์ทั้งหลายก็สวดชัยมงคลคาถาให้  

เนื่องจากนายสินเป็นผู้ปรีชาเฉลียวฉลาดรอบรู้ขนบธรรมเนียมราชการต่างๆ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นมหาดเล็กรายงานด้วยข้อราชการทั้งหลายในกรมมหาดไทยและกรมวังศาลหลวง ต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายสินมหาดเล็ก ได้มีราชการ มีความดีความชอบ ประจวบกับหลวงยกกระบัตรเมืองตากว่างเปล่ามาช้านานแล้วเพราะคนเก่าถึงแก่กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายสินดำรงตำแหน่งยศเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตาก ขึ้นไปช่วยราชการพระยาตาก ครั้นกาลล่วงมาไม่ช้าพระยาตากและปลัดเมืองตากได้ถึงแก่กรรมลง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตำแหน่งยศเลื่อนหลวงยกกระบัตรสินให้เป็นพระยาตากแทนคนเก่า

ขณะพระยาตากปกครองเมืองตาก พระยาตากได้สร้างวัดขึ้นวัดหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนเนินดิน มีลำน้ำปิงและห้วยแม่ท้อไหลผ่านตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตาก  วัดนี้ชื่อว่า วัดดอยเขาแก้ว แต่เรียกกันตามธรรมดาว่า วัดพระเจ้าตากสิน มีโบสถ์ซึ่งมีใบเสมาคู่ วิหาร พระเจดีย์ และพระพุทธบาทจำลองอยู่ในโบสถ์ด้วย ที่หน้าโบสถ์ได้ก่อเจดีย์ขึ้น ๒ องค์ ใช้บรรจุอังคารมารดาและบิดาพระยาตาก

ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ พระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชรถึงแก่กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระยาตากสินให้เป็นพระยาวชิรปราการ ผู้สำเร็จราชการเมืองกำแพงเพชรสืบต่อไป

ในปี พ.ศ.๒๓๐๘ พระเจ้าอังวะส่งกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา ๒ ทาง ทางหนึ่งเข้าทางเมืองทวาย ผ่านเมืองสุพรรณบุรี  อีกทางหนึ่งเข้ามาทางเมืองเชียงใหม่ และล่องตามลำแม่น้ำพระยา เวลานั้นไทยเราอ่อนแอมาก พม่ามาถึงไหนก็ไม่มีกำลังไทยต่อสู้ป้องกัน มีแห่งเดียวที่บางระจัน ซึ่งราษฎรพร้อมใจกันต่อสู้พม่าอยู่ถึง ๕ เดือน

การศึกครั้งนี้ได้ทำกันอยู่นานเกือบ ๒ ปี เวลาที่การศึกติดพันอยู่นั้น พระยาตากสินเข้ามาอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ได้ทำการต่อสู้พม่ามีความดีความชอบหลายครั้ง ครั้งหนึ่งถูกพิจารณาโทษเรืองยิงปืนใหญ่ เพราะพวกท้าวนางข้างในวังตกใจกลัวเสียงปืน  ข้างในกรุงได้ตั้งเป็นข้อบังคับว่า ใครจะยิงปืนใหญ่ต้องได้รับอนุญาตจากศาลาลูกขุนเสียก่อน พระยาตากสินยิงโดยไม่ขออนุญาต เกิดเรื่องจนจวนถูกประหารชีวิต หากแต่มีบำเหน็จความชอบ จึงได้รับกรุณาเพียงภาคทัณฑ์ไว้  พระยาตากสินเห็นว่าไม่มีทางที่จะรักษาบ้านเมืองไว้ได้ จึงชวนพรรคพวกตีฝ่าพม่าออกไปทางด้านวัดพิชัย เพื่อไปรวบรวมกำลังที่อื่นแล้วยกมาสู้พม่าใหม่  กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในวันอังคาร เดือน ๕ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีกุน พ.ศ.๒๓๑๐ พม่าได้กวาดต้อนผู้คน ขนทรัพย์สมบัติไปแล้วให้สุกี้เป็นนายกองตั้งค่ายอยู่ที่โพธิ์สามต้น เพื่อควบคุมคนไทยเหมือนอย่างเป็นเมืองขึ้น ในเวลานั้นคนไทยที่ทรยศต่อชาติไปเข้าข้างพม่าก็มาก สุกี้ได้ตั้งให้พวกทรยศเหล่านี้ควบคุมคนไทยด้วยกันเอง ทางเมืองธนบุรีสุกี้ตั้งคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งพงศาวดารว่าชื่อทองอิน แต่จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีว่าชื่อบุญส่ง เป็นเจ้าปกครองเมืองธนบุรี

พระยาตากสินเมื่อตีฝ่าพม่าออกไปแล้ว เดินทางไปจนถึงเมืองจันทบุรีรวบรวมกำลังผู้คนได้มากพอแล้ว ก็ยกเป็นทัพเรือเข้ามาทางอ่าวไทย พอถึงเมืองธนบุรีก็ได้รบพวกของเจ้าทองอิน เมื่อปราบเจ้าทองอินได้แล้ว ก็ยกไปตีค่ายโพธิ์สามต้น  สุกี้นายกองพม่าตายในที่รบ  ครั้นแล้วจึงยกกลับมาตั้งราชธานีใหม่ที่ธนบุรี  ปราบดาภิเษกเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ในปี พ.ศ.๒๓๑๑

การรบชนะที่ค่ายโพธิ์สามต้น เป็นการกู้อิสรภาพ กระทำให้ไทยพ้นมือพม่า แต่ประเทศไทยในเวลานั้นยังแตกแยกกันอยู่เป็นหลายก๊ก เนื่องจากบ้านเมืองเป็นกลียุค อำนาจของกรุงศรีอยุธยาอ่อนแอ ผู้ครองเมืองสำคัญต่างๆ เช่น เมืองพิษณุโลก เมืองนครศรีธรรมราช และอื่นๆ ได้ตั้งตัวเป็นใหญ่ขึ้นตามลำดับกัน  สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปราบปรามก๊กต่างๆ รวบรวมประเทศไทยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทรงแสวงหาอาหารมาแจกจ่ายแก่พลเมืองที่อดอยาก ทรงส่งคนไปเที่ยวป่าวร้องให้พลเมืองซึ่งเที่ยวซุ่มซ่อนอยู่ในที่ต่างๆ กลับเข้ามาทำมาหากินในภูมิลำเนาเดิม  อนึ่ง ในเวลาที่เสียกรุงมีภิกษุบางรูปไปเข้าข้างพม่า บอกที่ฝังทรัพย์ของไทยให้พม่า และยุยงให้พม่าฆ่าฟันคนไทยด้วยกัน  พระเจ้ากรุงธนบุรีรับสั่งให้เอาตัวมาชำระตามโทษานุโทษ แล้วเที่ยวเสาะแสวงหาพระสงฆ์ที่มีศีลบริสุทธิ์ มาตั้งเป็นพระราชาคณะ ทรงอัญเชิญพระไตรปิฎกจากนครศรีธรรมราช เพื่อจำลองไว้สำหรับพระนคร แล้วอัญเชิญกลับไปประดิษฐานยังเมืองนครศรีธรรมราชดังเดิม และทรงอุปถัมภ์พระภิกษุสงฆ์ให้ได้ดำรงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองต่อไป

เมื่อพม่ารู้ว่าไทยกลับตั้งตัวได้ ก็ส่งกองทัพมารบอีกหลายครั้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงออกรบด้วยพระองค์เองเป็นส่วนมาก  ในการรู้รบนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ทรงออกหน้าเสมอ ทรงทำการทุกอย่างเหมือนทหารทั่วไป แม้เมื่อปราบดาภิเษกแล้ว ก็ทรงออกหน้าทำการรบจนถูกปืนบาดเจ็บที่เมืองพิชัย  เมื่อเรือล่มครั้งยกกองทัพมาจากเหนือ ทรงว่ายน้ำขึ้นฝั่ง แล้วทรงพระดำเนินลัดป่าจนถึงค่ายหลวง โดยไม่ยอมให้ใครแบกหาม  ไทยได้อิสรภาพสมบูรณ์บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นเรียบร้อย ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข เชียงใหม่เข้ามารวมอยู่กับไทยจนกระทั่งถึงบัดนี้  อะแซหวุ่นกี้แม่ทัพผู้มีฝีมือที่สุดของพม่าในครั้งนั้นได้ประกาศว่า แต่นี้ต่อไปพม่าคงจะไม่สามารถรบชนะไทยอีก

ในการกู้ประเทศชาติและแผ่อำนาจของไทยให้ไพศาลออกไปนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ได้ทรงอาศัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทเป็นกำลัง ประหนึ่งพระกรซ้ายและขวา

สมเด็จพระเจ้าตากสินน ทรงเป็นวีรกษัตริย์ที่ล้ำเลิศพระองค์หนึ่งของไทย แต่คงเป็นเพราะทรงตรากตรำในพระราชภาระกู้บ้านสร้างเมือง กับต้องทรงผจญกับการสะเทือนพระทัยหลายเรื่อง ระยะหลังจึงทรงใฝ่พระทัยในวิปัสสนากรรมฐาน จนมีพระอาการพลุกพล่าน ดังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชาธิบายไว้ในหนังสือพระราชวิจารณ์จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวีว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงฟั่นเฟือนไปบ้างบางครั้ง แต่มิใช่บ้าคลั่งดังที่พงศาวดารกล่าวไว้

สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ครองราชย์ได้ ๑๕ ปี เกิดจลาจลในพระนคร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ครั้งเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต้องรีบเสด็จยกกองทัพจากเขมร เหล่าขุนนางประชาราษฎร์กราบบังคมอัญเชิญปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงรับในความผิด และถูกพิพากษาให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์เมื่อ พ.ศ.๒๓๒๕



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/33500959806971_2_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/76879881901873_1_Copy_.JPG)
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/60634425116909_4_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/39381667971610_5_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/86366671530736_6_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/64124904862708_7_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/23247735036743_8_Copy_.jpg)
ประชาชน ศรัทธาและเดินทางเข้าสักการะ เข้ามาขอพร บนบาน...แต่เช้าตรู่

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/59782614227798_9_Copy_.JPG)
เมื่อได้สำเร็จสมประสงค์แล้วก็จะมาแก้บน โดยนำรูปปั้นทหาร ช้าง ม้า มาถวาย

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/67744046780798_10_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/79206806421279_11_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/27792492798632_12.jpg)
ภาพจิตรกรรมแสดงพระราชกรณียกิจที่สำคัญ
ในการกอบกู้เอกราชของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ศาลพระเจ้าตากสินมหาราช


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/18055567310915_13_Copy_.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/29049672890040_14_Copy_.JPG)


ขอขอบคุณ (ที่มาข้อมูล)
บุคคลในประวัติศาสตร์ : สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
โดย คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ
หนังสือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๙)
เรื่อง วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดตาก
กรมศิลปากร จัดพิมพ์เผยแพร่