หัวข้อ: เล่าเรื่อง…พระสำเภาเจดีย์วัดยานนาวา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 24 สิงหาคม 2566 17:49:51 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/21402960270643_368362188_672409621589223_3014.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/26810726026693_Junk_at_Wat_Yannawa_Copy_.jpg) เล่าเรื่อง…พระสำเภาเจดีย์วัดยานนาวา พระสำเภาเจดีย์วัดยานนาวาตั้งอยู่ในถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งวัดยานนาวานี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเดิมชื่อว่า “วัดคอกควาย” ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง เพื่อเป็นที่สถิตของพระราชาคณะ และพระราชทานนามว่า“วัดคอกกระบือ” ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมาพร้อมกับสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่แทนหลังเดิมที่ชำรุด และเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ซึ่งปรากฏหลักฐานในหมายรับสั่ง เรื่อง การเสด็จพระราชาทานกฐินหลวง ในวันเสาร์เดือน ๑๑ แรม ๘ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๔๘ ที่ปรากฏรายนามวัดคอกกระบือ วัดเลียบ (วัดราชบูรณะ) วัดลาด (วัดราชสิงขร) รวม ๓ วัด ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสำเภาเจดีย์ขึ้น เมื่อ พ.ศ.๒๓๘๗ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้อธิบายมูลเหตุแห่งการสร้างเรือสำเภาวัดยานนาวาไว้ในพระนิพนธ์ “อธิบายเรื่องสำเภาวัดยานนาวา”ดังนี้ “เมื่อในรัชชกาลที่ ๓ พระอุโบสถวัดคอกกระบือทรุดโทรม พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชศรัทธาปฏิสังขรณ์พระอุโบสถแล้วใคร่จะทรงสร้างพระเจดีย์เพิ่มขึ้น ทรงพระราชดำริเห็นว่าจะสร้างเปนพระสถูปหรือพระปรางค์ก็มีอยู่ที่อื่นมากแล้ว ทรงปรารภว่าแต่ก่อนมาเรือที่ใช้ไปมาค้าขายกับต่างประเทศใช้เรือสำเภาเปนพื้น ในเวลานั้นเกิดต่อเรือกำปั่นใบอย่างฝรั่งใช้กันขึ้น ด้วยเห็นว่าดีกว่าเรือสำเภาจีน ต่อเรือกำปั่นใบอย่างฝรั่งใช้กันมากขึ้นทุกที พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพยากรณ์ว่า เรือสำเภาคงจะสูญไป อาศัยเหตุนี้ เมื่อทรงพระราชดำริหาแบบอย่างพระเจดีย์ที่จะสร้างที่วัดคอกกระบือ ทรงระลึกขึ้นถึงธรรมะทั้งหลายซึ่งพระเวสสันดรโพธิสัตวอุประมาเหมือนสำเภายานนาวาในมหาเวสสันดรชาดกกัณฑ์กุมาร จึงโปรดฯ ให้สร้างพระเจดีย์มีฐานเปนสำเภาเท่าขนาดเรือสำเภาจริงขึ้นไว้ที่วัดคอกกระบือ มีพระราชดำรัสว่า คนภายหน้าอยากจะเห็นว่า เรือสำเภาเปนอย่างไร จะได้มาดู" เมื่อสร้างสำเภาพระเจดีย์แล้ว จึงโปรดฯ ให้ขนานนามพระอารามใหม่ว่า วัดยานนาวา ซึ่งเรียกกันมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ สำเภาก่อสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน ความยาวตลอดลำ วัดแต่หงอนข้างบนถึงบั้นท้ายบาหลี ได้ ๒๑ วา ๒ ศอก ส่วนยาววัดจากพื้นดินได้ ๑๘ วา ๑ ศอกเศษ ส่วนกว้างตอนกลางลำ ๔ วา ๓ ศอก ส่วนสูงตอนกลางลำ ๒ วา ๓ ศอก บนสำเภามีพระเจดีย์ตั้งอยู่ ๒ องค์ เป็นสถาปัตยกรรม “แบบขนบประเพณี” พระเจดีย์องค์เล็กอยู่ด้านหน้า เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบหก ฐานล่างกว้าง ๗ ศอกเศษ สูงจากพื้นบนถึงยอด ๖ วา และองค์ใหญ่เป็นเจดีย์ย่อยมุมไม้ยี่สิบ ฐานล่างกว้าง ๓ วา หนึ่งศอกเศษ สูงจากพื้นถึงยอด ๘ วา ทางด้านหัวเรือ มีลักษณะแหวะออกเรียกว่าปากปลา มีปูนปั้นทางสีเป็นรูปหยินหยางอยู่ตรงกลาง ถัดหัวเรือเข้ามาทั้ง ๒ ข้าง เขียนเป็นตาเรือ มีลักษณะมองตรงไปทางด้านหน้า ภายในสำเภาด้านท้ายเรือ มีบันไดทางขึ้น ๒ ทางไปยังบริเวณห้องท้ายบาหลี ประดิษฐานพระพุทธยานนาวาจำลอง ในบุษบก ด้านหลังพระพุทธรูปมีจารึก ๒ แผ่น เป็นภาษาไทย ๑ แผ่น และภาษาจีน ๑ แผ่น รวมทั้งมีพระไตรปิฎกเสี่ยงทาย ส่วนทางหัวเรือสำเภามีบันไดทางขึ้น หัวเรือประดิษฐานพระพุทธรูปสร้างใหม่ ๒ องค์ ได้แก่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยในซุ้มเรือนแก้ว ประทับฐานชุกชี และด้านหน้าพระพุทธรูปางมารวิชัยประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง กรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนเรือสำเภาและเจดีย์ พร้อมด้วยแผ่นศิลาจารึกของวัดยานนาวาเป็นโบราณสถาน เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๖ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๑๐๐ ตอนที่ ๓๖ วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๖ ที่มา (เรื่อง/ภาพประกอบ) : องค์ความรู้: สำนักหอสมุดแห่งชาติ เรื่อง: เล่าเรื่อง…พระสำเภาเจดีย์วัดยานนาวา เรียบเรียงโดย: นางสาวชลลดา เอกสกุล บรรณารักษ์ชำนาญการ สำนักหอสมุดแห่งชาติ |