หัวข้อ: ต่อชีวิตเพื่อนร่วมสายพันธุ์ด้วยการพาสัตว์เลี้ยงมาบริจาคเลือดกัน เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 01 กันยายน 2566 13:00:52 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/70245394772953_371758310_1693848287797511_339.jpg) แมวพันธุ์วิเชียรมาศ เพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี น้ำหนัก 5 กิโลกรัม สุภาพแข็งแรง อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริจาคเลือดได้ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/19060679276784_371801822_1693848334464173_351.jpg) รอคนมารับไปบริจาคเลือด แม่ Kimleng สั่งให้ไปบริจาคเลือด บอกว่าจะได้บุญมาก ต่อชีวิตเพื่อนร่วมสายพันธุ์ด้วยการพาสัตว์เลี้ยงมาบริจาคเลือดกัน สำหรับมนุษย์ การบริจาคเลือดเปรียบเสมือนการต่อชีวิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แล้วมนุษย์หลายคนล่ะรู้กันไหม? ว่าสัตว์เลี้ยงก็สามารถบริจาคเลือดเพื่อช่วยเพื่อนสัตว์ตัวอื่นได้เหมือนกันนะ สัตว์เมื่อเจ็บป่วยก็มีหลายกรณีที่ต้องการเลือดเช่นเดียวกับมนุษย์ ซึ่งในปัจจุบันพบปัญหาสัตว์ป่วยขาดแคลนเลือดเป็นจำนวนมาก เลือดสัตว์หายากยิ่งกว่าเลือดคนซะอีก ทำให้มีสัตว์เป็นจำนวนมากที่เจ็บป่วยแต่ขาดแคลนเลือดในการรักษา สัตว์บางตัวเสียชีวิตระหว่างรอการบริจาคก็มี แน่นอนว่าเหล่าคนรักสัตว์ก็คงอดสงสารไม่ได้เวลาเจอน้องหมาน้องแมวป่วย แต่ก็กลัวว่าถ้าพาสัตว์เลี้ยงที่บ้านตนเองมาบริจาคเลือดแล้วจะเกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลข้างเคียงตามมาเยอะ ขอบอกเลยว่าจริง ๆ แล้วการบริจาคเลือดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ! “การบริจาคเลือดไม่ใช่เรื่องอันตรายสำหรับสัตว์เลี้ยง” การพาสัตว์เลี้ยงมาบริจาคเลือดเป็นการนำเลือดเก่าออกไปจากน้องหมาน้องแมว จากนั้นร่างกายของพวกเขาจะสร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมาใหม่เพื่อหมุนเวียนใช้ในร่างกาย ส่งผลให้สัตว์สุขภาพดีและยังแข็งแรงขึ้นด้วย ผิดคาดจากที่คิดกันเลยใช่มั้ยล่ะ คุณสมบัติสุนัขที่สามารถบริจาคเลือดได้ 1. มีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง อายุระหว่าง 1-6 ปี ไม่เคยได้รับเลือดหรือผ่าตัดใหญ่มาก่อน 2. มีน้ำหนัก 30 กิโลกรัมขึ้นไป 3. ได้รับยาป้องกันเห็บ หมัด พยาธิหนอนหัวใจอย่างต่อเนื่องทุก 2 เดือนก่อนมาบริจาคเลือด 4. ได้รับวัคซีนรวมและวัคซีนพิษสุนัขบ้า ทุกปีอย่างต่อเนื่องก่อนมาบริจาคเลือด 5. ไม่ได้ผ่านการฉีดวัคซีนภายใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา 6. เพศเมียไม่ได้อยู่ในระหว่างเป็นสัด ตั้งท้อง ให้นม หรือแท้งลูก ภายในเวลา 3 เดือน 7. ไม่ได้เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคตับ ไต หัวใจ มะเร็ง หรือโรคติดเชื้ออื่นๆ 8. ไม่ได้รับยาปฎิชีวนะ ยาลดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คุณสมบัติของแมวที่สามารถบริจาคเลือดได้ 1. มีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง อายุระหว่าง 1-7 ปี 2. มีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 4 กิโลกรัมขึ้นไป 4. ได้รับการป้องกันเห็บ หมัด พยาธิหนอนหัวใจอย่างต่อเนื่องทุก 1 เดือน 5. ทำวัคซีนรวม และ วัคซีนพิษสุนัขบ้าทุกปีอย่างต่อเนื่อง 6. ไม่ได้ผ่านการฉีดวัคซีนภายใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา 7. ไม่เคยได้รับเลือดหรือผ่าตัดใหญ่มาก่อน 8. สำหรับเพศเมียต้องไม่ได้อยู่ในระหว่างเป็นสัด ตั้งท้อง ให้นม หรือแท้งลูก ภายในเวลา 3 เดือน 9. ไม่ได้เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคตับ ไต หัวใจ มะเร็ง หรือโรคติดเชื้ออื่นๆ 10. ไม่ได้รับยาปฎิชีวนะ ยาลดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หากพบว่าสุนัขหรือแมวมีคุณสมบัติตามที่กำหนดข้างต้น สามารถพามาบริจาคเลือดได้ โดยจะมีขั้นตอนในการบริจาค ดังนี้ ขั้นตอนการบริจาคเลือด ตรวจร่างกายและตรวจเลือด ได้แก่ ตรวจนับเม็ดเลือด ตรวจพยาธิเม็ดเลือดและพยาธิหนอนหัวใจ ตรวจค่าตับ ตรวจค่าไต เพื่อประเมินภาวะสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกาย ทำการเจาะเลือดจากหลอดเลือดดำใหญ่บริเวณคอหรือแขน หากสุนัขหรือแมวมีอาการตื่นเต้น อยู่ไม่นิ่ง อาจมีการวางยาให้ซึมลงเล็กน้อยจึงค่อยเจาะ ในการบริจาคเลือด 1 ครั้ง จะเก็บเลือดปริมาณ 10 – 20 CC / น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 1 ยูนิต (350 – 450 CC) เมื่อบริจาคเลือดเรียบร้อยแล้ว จะทำการบันทึกประวัติการให้เลือดไว้ทุกครั้ง และมีการจ่ายยาบำรุงเลือดให้กลับไปรับประทานเพื่อบำรุงร่างกาย การพาสัตว์เลี้ยงมาบริจาคเลือด หลายคนมองว่าจะเป็นการทำให้น้องหมาน้องแมวเจ็บป่วยง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่เลย การบริจาคเลือดจะช่วยให้สุขภาพของสัตว์แข็งแรงเพราะมีการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขึ้นมาใหม่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องหมาน้องแมว นอกจากสัตว์เลี้ยงของเราจะได้ช่วยเหลือเพื่อนสัตว์ตัวอื่นเมื่อต้องใช้เลือดยามเจ็บป่วยแล้ว การบริจาคเลือดยังดีต่อสุขภาพของเขาอีกด้วย เลือดจากสัตว์เลี้ยงของคุณหนึ่งตัว อาจต่อชีวิตเพื่อนร่วมสายพันธุ์ได้อีกหลายชีวิต พาสัตว์เลี้ยงมาบริจาคเลือดกันนะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดแน่นอน ขอขอบคุณ "โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน" (ที่มาข้อมูล) |