[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ร้านน้ำชา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 21:25:12



หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - สส.ก้าวไกล อ้างมีขบวนการปล้นคนไทยจ่ายค่าไฟแพง 'ประยุทธ์' ทำ 'เศรษฐา' สานต
เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 21:25:12
สส.ก้าวไกล อ้างมีขบวนการปล้นคนไทยจ่ายค่าไฟแพง 'ประยุทธ์' ทำ 'เศรษฐา' สานต่อ มีนายทุนสั่งข้างหลัง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-13 18:34</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ก้าวไกล' แถลงจับตานโยบายพลังงาน อ้างมีขบวนการปล้นคนไทยจ่ายค่าไฟแพง 'ประยุทธ์' ทำ 'เศรษฐา' สานต่อ มีนายทุน 'ไอ้โม่ง' สั่งข้างหลัง ยกเรื่องพลังงานสะอาดบังหน้าประกาศรับซื้อกว่า 5 พันเมกะวัตต์ สุดท้ายกระบวนการล็อกสเปก-ไร้ประมูล ประเคนเอกชนแค่สองเจ้าชนะกวาดเกินครึ่ง จี้รัฐบาลสั่งชะลอการรับซื้อ-ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส</p>
<p>13 พ.ย.2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล ที่อาคารอนาคตใหม่ ศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวจับตานโยบายรัฐบาล (Policy Watch) ในส่วนของกระทรวงพลังงาน คือนโยบายการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนที่เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส</p>
<p>ศุภโชติ ระบุว่าสถานการณ์ปัจจุบันในภาคพลังงานล่าสุด จากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีการประกาศรับฟังความคิดเห็นกรณีค่าไฟที่เป็นไปได้ในช่วงเดือนมกราคม 2567 มีความเป็นไปได้ที่ค่าไฟอาจจะพุ่งขึ้นไปถึง 4.68 บาทต่อหน่วยในกรณีที่เลวร้ายน้อยที่สุด ส่วนในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจขึ้นไปแตะถึง 6 บาทต่อหน่วย</p>
<p>สิ่งที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เพิ่งแถลงไปถึงการลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาท ว่าเป็นผลงานรัฐบาล จึงเป็นเพียงการยืดหนี้โดยไม่มีมาตรการรองรับ เล่นกับความคาดหวังของประชาชนว่าเชื้อเพลิงจะมีราคาลดลง ทำให้ก้อนหนี้ที่หน่วยงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกอยู่จะลดลงไปด้วย แล้วรัฐบาลจะสามารถคงราคาค่าไฟอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยได้ต่อไป แต่ในความเป็นจริงทุกอย่างสวนทาง ราคาเชื้อเพลิงโลกเพิ่มสูงขึ้น ก้อนหนี้ที่แบกอยู่ก็ขยายขึ้นไปด้วย เราจึงได้เห็นราคาค่าไฟที่อาจขึ้นไปแตะถึง 6 บาทต่อหน่วยในกรณีที่เลวร้ายที่สุด</p>
<p>ศุภโชติกล่าวต่อไป ว่าพรรคก้าวไกลย้ำมาเสมอว่ารัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขที่โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ หยุดการนำของแพงมาให้ประชาชนแล้วนำของถูกให้เอกชน การแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพื่อลดค่าความพร้อมจ่าย หยุดเอาเงินของประชาชนไปให้กลุ่มทุนฟรีๆ ไปสร้างโรงไฟฟ้าที่สร้างมาแล้วไม่ได้เดินเครื่อง แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลับไม่มีความพยายามแก้ไขอย่างจริงใจ ซ้ำยังสานต่อปัญหาเดิม สร้างปัญหาใหม่ ปล้นคนไทยให้จ่ายค่าไฟแพงขึ้น ประยุทธ์เป็นคนคิด เศรษฐามาสานต่อ โดยรับคำสั่งมาจากกลุ่มทุนไอ้โม่งกลุ่มหนึ่ง</p>
<p>ทั้งนี้ มีจิ๊กซอว์อยู่ 5 ชิ้น ที่กำลังนำพาประชาชนคนไทยให้ไปจ่ายค่าไฟที่แพงขึ้น กล่าวคือ</p>
<p>1) ย้อนกลับไปวันที่ 10 ต.ค. 2566 กรณีศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาชั่วคราวการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนพลังงานลม 1,500 เมกะวัตต์ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีบริษัทเอกชนรายหนึ่งได้ยื่นร้องต่อศาลว่า กกพ. ได้ออกประกาศรับซื้อพลังงานหมุนเวียนอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย</p>
<p>2) พรรคก้าวไกลตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ และได้นำมาสู่การตั้งกระทู้สดของ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในวันที่ 26 ต.ค. 2566 ที่นายกรัฐมนตรีปฏิเสธการตอบกระทู้สดด้วยตนเอง แต่หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีกลับขึ้นมาตอบกระทู้ของคนอื่นได้ นี่เป็นการที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา กำลังทำเป็นมองข้าม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในภาคพลังงานไทยใช่หรือไม่?</p>
<p>3) แต่หากจะโยนทุกอย่างไปที่รัฐบาลเศรษฐาก็อาจจะไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะโครงการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนกว่า 5 พันเมกะวัตต์ เป็นผลงานทิ้งทวนของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ออกมติเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพิ่มการซื้อพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซื้อพลังงานหมุนเวียนเพื่อขายให้กับเอกชนที่ต้องการใช้พลังงานสะอาด</p>
<p>4) ประกาศระเบียบการรับซื้อที่ออกโดย กกพ. เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2565 ถูกตั้งคำถามมากมายโดยทั้งนักวิชาการและผู้ร่วมประมูลเอง ทั้งการรับประกันรายได้ที่นานถึง 25 ปี และระเบียบการรับซื้อที่ไม่ใช่การประมูลราคา แต่เป็นการให้คะแนนเชิงเทคนิคเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้บอกหลักเกณฑ์ว่าจะมีการให้คะแนนอย่างไรด้วย ทำให้ผู้เข้าร่วมหลายคนสงสัยว่าอาจจะเป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจโดยปราศจากหลักเกณฑ์ในการตัดสินหรือไม่</p>
<p>5) ผลของการคัดเลือก ที่เกินกว่าครึ่งของทั้ง 5 พันเมกะวัตต์ที่จะรับซื้อ ถูกจัดสรรไปให้กลุ่มทุนเอกชนเพียงแค่ 2 รายเท่านั้น โครงการมูลค่าหลายแสนล้านบาท เหตุใดจึงมีการจัดสรรให้เอกชนเพียงไม่กี่รายเท่านั้น?</p>
<p>ศุภโชติกล่าวต่อไป ว่าหลังคำสั่งศาลออกมาเพียงไม่กี่วัน รัฐบาลยังมีการลงนามในสัญญารับซื้อพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างรัฐกับเอกชนรายหนึ่งเกือบ 700 เมกะวัตต์ ทั้งที่มาจากประกาศฉบับเดียวกันที่เป็นปัญหาอยู่ คำถามคือนี่เป็นการร่งรัดกระบวนการให้ประชาชนจ่ายค่าไฟแพงขึ้น จากคำสั่งของไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่?</p>
<p>ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถสรุปให้เห็นได้ถึงความผิดปกติ 3 ประการในกระบวนการดังกล่าว ประกอบด้วย</p>
<p>1) จากเหตุผลที่ศาลปกครองให้ไว้ในคำสั่งทุเลาชั่วคราวดังกล่าว ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าการที่ กกพ. ไม่มีการประกาศเกณฑ์การให้คะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกผู้ชนะ เป็นการผิดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน 2550 ที่กำหนดว่า กกพ. จะต้องเป็นผู้ออกระเบียบ หลักเกณฑ์ และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และต่อมาเมื่อมีผู้ร้องเรียน กกพ. จึงออกหลักเกณฑ์ตามหลังมา แต่หลักเกณฑ์ที่ออกมากลับออกหลังปิดรับสมัครไปแล้วถึง 4 วัน</p>
<p>เหตุผลของศาลปกครองยังระบุให้เห็นว่าเมื่อมีผู้อุทธรณ์ ก็ปรากฏว่า กกพ. กลับทำหน้าที่เป็นผู้พิจารณาคำอุทธรณ์เอง ซึ่งเป็นการขัดต่อหลักการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองอย่างชัดเจน และสุดท้ายคือการที่ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกไม่สามารถขอดูคะแนนการประเมินจากคณะอนุกรรมการการคัดเลือกได้ </p>
<p>ศุภโชติกล่าวว่า ทั้งหมดนี้ทำให้คิดได้ว่าเกิดการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือการให้คะแนนที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ และเป็นที่ชัดเจนว่าประกาศรับซื้อพลังงานหมุนเวียนของ กกพ. ครั้งนี้มีปัญหาและไม่โปร่งใส ดังนั้น จึงไม่ใช่แต่เพียงโครงการลมที่ควรจะถูกชะลอการลงนามสัญญา แต่โรงไฟฟ้าประเภทอื่นที่อยูในฉบับเดียวกัน ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมระบบกักเก็บ ฯลฯ ก็ควรจะถูกชะลอการลงนามสัญญาเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หรือหากจำเป็นต้องมีกระบวนการคัดเลือกใหม่ ก็ควรทำอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และตรวจสอบได้</p>
<p>2) กำลังมีการอ้างถึงพลังงานสะอาดเพื่อเปิดช่องให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคารับซื้อที่สูงเกินไปโดย กกพ. เป็นผู้ตั้งราคารับซื้อ คำถามคือ กกพ. ทราบได้อย่างไรว่าราคาที่ตั้งมาเป็นราคาที่ถูกที่สุด เพราะโดยปกติที่ต่างประเทศทำกันคือการให้ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกยื่นเสนอราคาแข่งขันกันเข้ามา แล้วให้ผู้เสนอราคาที่ถูกที่สุดเป็นผู้ชนะไป</p>
<p>นี่ทำให้ระเบียบที่ออกมาอาจไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีราคาถูก และอาจเป็นการให้ประโยชน์เกินความจำเป็นกับเอกชนรายใดรายหนึ่ง เพราะเมื่อเปรียบเทียบโครงการที่รัฐให้เอกชนกับโครงการที่รัฐให้ประชาชน จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่านโยบายอย่างนี้ทำมาเพื่อใคร ไม่ว่าจะเป็นราคารับซื้อ ที่แม้ราคาจะใกล้เคียงกัน แต่ระยะเวลาการรับประกันรายได้ที่ให้เอกชนกลับยาวนานถึง 25 ปี ต่างจากที่รับประกันให้ประชาชนแค่ 10 ปี ขณะเดียวกัน กำลังการผลิตติดตั้งสูงสุด โครงการหนึ่งเอกชนติดตั้งได้ 90 เมกะวัตต์ แต่ประชาชนติดตั้งได้โครงการละแค่ 0.01 เมกะวัตต์ หรือต่างกัน 9 พันเท่า และสุดท้าย โควตาที่ให้ทั้งหมด เป็นการให้กับเอกชนกว่า 5 เมกะวัตต์ ให้ประชาชนแค่ 90 เมกะวัตต์</p>
<p>นี่ยังไม่รวมมติจากรัฐบาลล่าสุดที่อนุมัติให้มีการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอีก 3,600 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ทำให้โครงการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนนี้มีปริมาณรวมเป็นกว่า 8 พันเมกะวัตต์แล้ว ซ้ำร้ายยังมีข้อแม้เพิ่มขึ้นมาว่าห้ามผู้มีข้อพิพาทหรือฟ้องร้องรัฐอยู่เป็นผู้ยื่นข้อเสนอ ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่าจะเป็นการจงใจล็อกผลให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกแล้วหรือไม่?</p>
<p>3) ความจำเป็นในการรับซื้อพลังงานทดแทน ทั้งที่ประเทศไทยมีพลังงานไฟสำรองล้นเหลืออยู่แล้ว ตัวเลขล่าสุดคือ 55% และหากย้อนกลับไปดูในอดีต จะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่มีการรับซื้อพลังงานจากเอกชน จะทำให้ประเทศมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นเรื่อยๆ หมายความว่าประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟที่สูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นแล้วไม่ได้ใช้</p>
<p>ในอดีต ตั้งแต่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการเปิดอนุมัติให้มีการประมูลโรงไฟฟ้า IPP กว่า 5 พันเมกะวัตต์ และไม่กี่ปีถัดมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ประเคนซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าอีก 1,400 เมกะวัตต์ โดยไม่มีการออกระเบียบการรับซื้อ ยังไม่นับรวมกับที่เรากำลังพูดถึงกันวันนี้ คือการรับซื้อเพิ่มอีกกว่า 8 พันเมกะวัตต์ คำถามคือโรงไฟฟ้าจำนวนมากขนาดนี้ เหตุใดจึงมีการรวบรัดนำมาประมูลในครั้งเดียว ทั้งที่สามารถซอยย่อยทีละ 1-2 พันเมกะวัตต์ จะสามารถกำหนดราคารับซื้อที่ถูกลงได้? </p>
<p>จากความผิดปกติทั้ง 3 ประการ หากยังปล่อยให้มีการออกระเบียบการรับซื้อพลังงานที่ไม่โปร่งใสเช่นนี้ ย่อมส่งผลต่อความเชื่อถือของนักลงทุนต่อกระบวนการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแน่นอน</p>
<p>ศุภโชติกล่าวต่อไป ว่าทั้งหมดนี้ทำให้ตนต้องตั้งคำถามไปที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กพช. ที่มีอำนาจในการออกมติให้ทบทวนการลงนามสัญญา หรือชะลอการลงนามสัญญาออกไปก่อน อย่างน้อยเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและคลายข้อครหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่ปัจจุบันเรากลับเห็นได้ว่าไม่มีการทำอะไรเลย ซ้ำยังปล่อยให้มีการลงนามสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชนเกือบ 700 เมกะวัตต์ ทั้งที่ศาลได้มีคำสั่งระงับหรือชะลอการลงนามสัญญาออกไปก่อนแล้ว</p>
<p>“นี่คือการจงใจฮั้วประมูล ซื้อขายโรงไฟฟ้าที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาทอยู่หรือไม่ พรรคก้าวไกลไม่ได้มีความพยายามเตะถ่วงไม่ให้เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในประเทศ แต่หากจะเกิดขึ้นก็ต้องมีกระบวนการที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เป็นโครงการที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ขอถามถึงนายกรัฐมนตรีว่าในเมื่อกระบวนการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนนี้มีปัญหา ส่อทุจริต และไม่โปร่งใสอย่างชัดเจนเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจที่มีในการทบทวน ตรวจสอบ และชะลอ หรือกระทั่งยับยั้งการลงนามสัญญาหรือไม่?” ศุภโชติกล่าว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่าว[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-category field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">การเมือง[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">เศรษฐกิจ[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-tags field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">นโยบายพลังงาน[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">พลังงาน[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%88" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ศุภโชติ ไชยสัจ[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">พรรคก้าวไกล[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/policy-watch" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">Policy Watch[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%9F" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ค่าไฟ[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106789