[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ร้านน้ำชา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 05 มกราคม 2567 05:29:38



หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - 'ภัทรพงษ์' ก้าวไกล ซัดวาระแห่งชาติแค่ลมปาก รัฐบาลจัดงบแก้ PM2.5 น่าผิดหวัง
เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 05 มกราคม 2567 05:29:38
'ภัทรพงษ์' ก้าวไกล ซัดวาระแห่งชาติแค่ลมปาก รัฐบาลจัดงบแก้ PM2.5 น่าผิดหวัง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-01-04 16:54</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>‘ภัทรพงษ์’ สส. พรรคก้าวไกล เชียงใหม่ ผิดหวังรัฐบาลจัดงบแก้ฝุ่นไม่สะท้อนความรุนแรงของปัญหา มีแต่คำพูด แต่ไม่ให้งบประมาณ แนะข้อเสนอ ‘แปลนตึก 5 ชั้น’ แก้ฝุ่นพิษทั้งโครงสร้าง คืนอากาศบริสุทธิ์เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน  </p>
<p> </p>
<p>4 ม.ค. 2567 ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส. พรรคก้าวไกล เชียงใหม่ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พูดถึงงบจัดการปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่แม้รัฐบาลจะยกให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่เมื่อดูในเอกสารงบประมาณ กลับน่าผิดหวัง เพราะไม่ได้สะท้อนถึงความรุนแรงของปัญหา ไม่ทำให้รู้สึกถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาตามที่พูดไว้</p>
<p>ภัทรพงษ์ระบุว่า เอกสารงบประมาณรายจ่าย เปรียบเสมือนการบอกภารกิจพร้อมตัวเลขงบประมาณที่รัฐบาลจะทำให้กับประชาชน เป็นหลักฐานพิสูจน์สิ่งที่นักการเมือง ผู้บริหารประเทศ หรือคณะรัฐมนตรีได้เคยพูด เคยแถลง เคยสัญญากับประชาชน คนจะพูด พูดอะไรก็ได้ แต่สิ่งเดียวที่โกหกประชาชนไม่ได้คือตัวเลขงบประมาณ</p>
<p>ตนเคยอภิปรายในวันแถลงนโยบายของนายกฯ เมื่อเดือนกันยายน 2566 ว่าปัญหานี้ ต้องแก้ทั้งโครงสร้าง โดยวันนั้นได้เปรียบเทียบเป็นการสร้างตึก 5 ชั้น ที่เริ่มตั้งแต่การวางฐานรากด้วยข้อกฎหมาย จากวันนั้นถึงวันนี้ พรรคก้าวไกลยื่นร่างกฎหมาย 4 ร่าง โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน ที่จะมีส่วนช่วยทําให้ตึก 5 ชั้นตึกนี้มั่นคงได้</p>
<p>อย่างไรก็ตาม การสร้างชั้น 1-5 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ทั้งโครงสร้าง ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารด้วย จึงจะขอสํารวจงบประมาณของรัฐบาล ดูว่าสิ่งที่รัฐบาลพูดไว้ มีอะไรบ้างที่อยู่ในร่าง พ.ร.บ. งบฯ และมีอะไรบ้างที่พูดอย่างเดียวแต่ไม่คิดจะทำ</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ชั้นที่ 1 สาธารณสุข </span></h2>
<p>น่าผิดหวังมากที่งบประมาณสาธารณสุข มีโครงการเกี่ยวข้องกับประเด็น PM2.5 เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น แผนยุทธศาสตร์จัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม 298 ล้านบาท ฟังดูดี แต่เข้าไปดูในรายละเอียด 292 ล้านเป็นโครงการยกระดับโรงพยาบาล Green and Clean ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลกระทบจากฝุ่นพิษ ส่วนอีก 6.2 ล้านบาทเป็นของกรมอนามัยที่ปีนี้ตั้งเป้าจะลดจํานวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจให้ได้ 5% ซึ่งพอไปเจาะดูตัวเลขงบประมาณให้ละเอียดขึ้น ก็จะเหลือเพียง 2.8 ล้านบาทเท่านั้นที่เป็นโครงการเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษอากาศ เงิน 2.8 ล้านบาทนี้ เทียบเท่ากับโครงการจัดซื้อเครื่องวัดค่า PM2.5 และ PM10 เครื่องเดียว ที่จังหวัดสระบุรี กับวิกฤตที่กระทบสุขภาพ และพรากชีวิตคนที่เรารักไป รัฐบาลจัดงบได้แค่นี้หรือ</p>
<p>ทั้งที่ปัญหานี้มีความรุนแรง ข้อมูลจากกรมการแพทย์ อัตราส่วนโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดอยู่ในภาคเหนือ ปี 2556-2560 ตัวเลขของมะเร็งปอดอยู่อันดับ 2 ของทั้งเพศชายและหญิง แต่เมื่อเทียบกับภาคอื่น พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอด ภาคเหนือนําห่าง</p>
<p>ทั้งที่เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรผู้สูบบุหรี่ ภาคเหนือมีอัตราผู้สูบบุหรี่น้อยที่สุดในประเทศ จากข้อมูลทั้งหมดแสดงว่า ผู้ชายภาคเหนือมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าภาคอื่นๆ 1.4 เท่าและผู้หญิงภาคเหนือก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าที่อื่นๆ ถึง 1.7 เท่า ทั้งๆ ที่ตัวเลขผู้สูบบุหรี่ในภาคเหนือ มีน้อยกว่าตัวเลขผู้สูบทั่วประเทศถึง 10%</p>
<p>ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ภาคเหนือ ในปี 2566 มียอดผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจทั้งประเทศอยู่ที่ 6,826,577 คน กว่าครึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งเกินค่ามาตรฐาน</p>
<p>“ประชาชนเขาไม่ต้องดูตัวเลขพวกนี้ เพราะพวกเขาเจอปัญหานี้ด้วยตัวเองกันไปแล้ว แต่รัฐบาลต้องเข้าใจตัวเลขพวกนี้ก่อน ถึงจะจัดงบประมาณไปแก้ปัญหาได้ ท่านจัดงบมาแบบนี้ อดสงสัยไม่ได้ว่า ท่านเข้าใจปัญหาของประชาชนบ้างหรือเปล่า เปลี่ยนจากดูแลปัญหาปากท้อง มาดูแลปอดของประชาชนบ้างได้ไหม” ภัทรพงษ์ กล่าว</p>

<p>เมื่อมาดูว่า ครม. มีแนวทางอย่างไรในด้านนี้บ้าง หนึ่ง ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำห้องปลอดฝุ่น แต่งบ 67 ไม่มี งบปี 65 ปี 66 ก็ไม่มี ในอดีตมีเพียงการใช้งบจาก สสส. องค์การอนามัยโลก และการรณรงค์ให้ภาคประชาชนเข้าร่วมโครงการแบบอาสาเท่านั้น ตัวเลขยอดรวมปัจจุบัน กรมอนามัยแจ้งไว้ที่ 1,178 แห่ง แต่เมื่อเช้านี้ผมเข้าเว็บไซต์กรมอนามัยยังขึ้นโชว์ที่จังหวัดเชียงใหม่เพียง 4 จุดเท่านั้น</p>
<p>สอง ประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ งบประมาณไม่เห็นเช่นเคย ทุกวันนี้เห็นแต่เครือข่ายมลพิษออนไลน์ที่จะช่วยประเมินสุขภาพพร้อมให้คำแนะนําผ่าน LINE official แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าถึงระบบออนไลน์ได้ เพราะฉะนั้น ต้องเสริมมาตรการออนกราวน์ โดย อสม. เข้าไปด้วย โดยทั้งหมดต้องเตรียมงบประมาณในการแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นพิษ และจัดงบประมาณการเฝ้าระวังโรคและสุขภาพในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจาก PM2.5 อย่างรุนแรง เหมือนที่รัฐบาลจัดโครงการลักษณะเดียวกันนี้กับเขตพื้นที่ EEC ที่ไม่ได้มีความรุนแรงขนาดภาคเหนือด้วยซ้ำ</p>
<p>นี่คือข้อเสนอแนะแนวทางเพื่อทําให้ชั้นสาธารณสุขนี้เกิดประโยชน์สูงสุดจากงบประมาณของรัฐบาล สะท้อนปัญหาได้ดียิ่งขึ้น</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ชั้นที่ 2 ไฟเกษตร </span></h2>
<p>ตนตั้งความหวังไว้สูงมาก เพราะ รมว.เกษตรฯ เป็นอดีตประธาน กมธ.วิสามัญการแก้ปัญหา PM2.5 อย่างเป็นระบบ ซึ่งในผลการศึกษาของ กมธ. ชุดนั้น ชัดเจนว่ารัฐต้องมีนโยบายเพิ่มแรงจูงใจและมาตรการควบคุมการลดการเผาในด้านการเกษตรที่ชัดเจน</p>
<p>เมื่อมาดูงบปี 67 มีโครงการสำหรับพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือที่เจอปัญหาฝุ่นพิษอย่างรุนแรงมาตลอด วงเงิน 15.12 ล้านบาท เพื่อลดการเผามาทําปุ๋ยหมัก โดยมีเป้าหมายว่าจะลดการเผาภาคการเกษตรในพื้นที่ 21,000 ไร่ ในขณะที่ ครม. วางเป้าหมายว่าจะลดการเผาพื้นที่เกษตรลงร้อยละ 50</p>
<p>พอมาดูข้อมูลพื้นที่เผาไหม้ภาคการเกษตรทั้งหมดของ 9 จังหวัดภาคเหนือ อ้างอิงจาก GISTDA ปี 2566 ตัวเลขอยู่ที่ 237,867 ไร่ เพราะฉะนั้นโครงการนี้ตั้งเป้างบประมาณที่มุ่งเป้าเพียงแค่ 2 หมื่นต่อ 2 แสน หรือ 10% เท่านั้น และไม่เห็นโครงการอื่นที่มีเป้าหมายเช่นนี้แล้ว</p>
<p>นั่นหมายความว่า ที่พูดไว้ว่าจะลดการเผาหลักแสนไร่ แต่ตั้งงบมาแค่สองหมื่นไร่ ทำไมมันไม่เหมือนที่คุยกันไว้ แม้จะบอกว่า เรามีโครงการส่งเสริมการหยุดเผา 9.7 ล้านบาท และมีโครงการเฝ้าระวังการเผาซากพืชอีก 7 ล้านบาท แต่ 2 โครงการนี้ตั้งงบเท่ากับปี 66 เป๊ะ และงบกว่า 3 ใน 4 ค่อนไปที่การอบรมสัมมนาอย่างเดียว</p>
<p>ที่ประชุม ครม. ยังพูดไว้อีกหนึ่งประเด็น คือระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรที่มีที่มาจากการเผา งบ 4.5 ล้านบาทเท่านั้น น้อยกว่างบประมาณโครงการกว๊านพะเยาหลาย ๆ โครงการเสียอีก</p>
<p>นอกจากนี้ จากผลการศึกษาของ กมธ. ที่ รมว.เกษตรฯ เคยนั่งเป็นประธาน ยังมีผลการศึกษาว่า ธ.ก.ส. ต้องมีมาตรการการจูงใจเกษตรกรให้ไม่เผาด้วย แต่เมื่อดูงบประมาณ ธ.ก.ส. ด้านนี้ โครงการอุดหนุนเกษตรกรชาวสวนอ้อยไม่เผา 442 ล้านบาท ดูรายละเอียดแล้วเป็นการจ่ายย้อนหลังให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปี 63 และ 64</p>
<p>อีกหนึ่งต้นเหตุของไฟเกษตร คือข้าวโพดอาหารสัตว์ ไม่มีงบประมาณสักบาทเดียว ทั้งที่อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรพูดเอง ว่าเราต้องทําระบบกําหนดเขตที่ดินสําหรับข้าวโพดอาหารสัตว์ภายใต้มาตรการเขตเกษตรเศรษฐกิจ จัดทําโครงการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่สูงทั้งหมด ทําการเกษตรแบบไม่เผา แล้วทําระบบรับรองสินค้าการเกษตรแบบไม่เผาด้วย</p>
<p>“ที่ท่านอธิบดีพูด มาถูกต้องทุกอย่าง แต่พูดอย่างเดียว ไม่มีในงบประมาณเลย” ภัทรพงษ์ กล่าว</p>

<p>งบประมาณจัดทำมาตรฐาน GAP ก็ไม่ต่างอะไรกับปี 66 หนําซ้ํางบประมาณกระทรวงเกษตรฯ ก็ถูกปรับลดจาก 1.26 แสนล้านบาท เป็น 1.18 แสนล้านบาท</p>
<p>“ท่านนายกฯ ผมทราบว่าท่านลงไปมอบนโยบายให้กรมต่างๆในกระทรวงเกษตรฯ จัดการปัญหา PM2.5 ที่ต้นตอ มีแต่คําสั่งมา แต่เงินไม่มี วิกฤตแบบไหน ท่านจึงจัดงบแบบนี้” ภัทรพงษ์ กล่าว</p>

<h2><span style="color:#2980b9;">ชั้นที่ 3 ไฟป่า</span></h2>
<p>ปีนี้เราเห็นงบประมาณด้านไฟป่าเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มีความชัดเจนในหลายๆ ด้าน ทั้งที่เรามีข้อมูล มีความรู้หมด</p>
<p>ยกตัวอย่างข้อมูลทางดาวเทียม พฤติกรรมพื้นที่เผาไหม้รายเดือนตั้งแต่ปี 2563-2566 ของภาคเหนือ ระบุอย่างชัดเจนว่าไฟป่ามักเริ่มต้นจากจังหวัดตาก มาที่ลําพูนและเชียงใหม่ตอนใต้ พื้นที่เผาไหม้สะสมของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 63 และ 66 ก็แสดงพื้นที่เฝ้าระวังให้เราอย่างชัดเจน ว่าจุดไหนหนักหรือเบา แต่ทำไมเราทำอะไรกับมันไม่ได้ ทำไมไม่เคยมี action plan ที่ต่อเนื่องและจริงจัง</p>
<p>อีกทั้งสิ่งที่เป็นปัญหาหลักของไฟป่ามาตลอด คืองบประมาณจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการดับไฟ</p>
<p>ป่าให้กับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ตรงนี้ก็ยังไม่ชัดเจน</p>
<p>- งบประมาณ 80.8 ล้านบาทในการเพิ่มจุดเฝ้าระวังไฟป่า 1,000 จุดในเขตพื้นที่อุทยาน ก็ยังคลุมเครือว่า 80,000 บาทต่อจุดนั้น เป็นการจัดทำระบบ sensor หรือระบบการตั้งหน่วยของอาสาสมัคร</p>
<p>- งบสำหรับโดรนตรวจจับความร้อนเพื่อช่วยในการระบุตำแหน่งของไฟที่ชัดเจนให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปดับไฟได้อย่างถูกจุด ก็ยังไม่เห็นในรายละเอียด</p>
<p>แต่สิ่งที่ตนผิดหวังมากที่สุด คืองบประมาณยังคงกระจุกที่ส่วนกลาง ไม่ได้กระจายมายังคนที่อยู่ใกล้ปัญหามากที่สุด นั่นก็คือท้องถิ่น</p>
<p>กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นของบในการป้องกันและจัดการไฟป่าไปทั้งหมด 1,709 ล้านบาท สำหรับ อปท. 2,368 แห่ง แต่กลับได้งบมา 50 ล้านบาทเท่านั้น ตัวเลขนี้ไม่ต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้วเลย งบห้องปลอดฝุ่นก็ไม่มีให้ท้องถิ่น งบไฟป่าก็ไม่มีอีก ท้องถิ่นในพื้นที่ป่าก็มีงบประมาณต่อปีน้อยอยู่แล้ว จะเอางบประมาณที่ไหนมาจัดการปัญหานี้</p>
<p>“ท่านนายกฯ จะให้นักการเมืองท้องถิ่นต้องควักกระเป๋ากันเอง เพื่อหาทุนมาดับไฟป่าอย่างนั้นหรือ” ภัทรพงษ์ กล่าว</p>

<p>อ้างอิงจาก GISTDA พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนที่เผาไหม้ในปี 2566 ของเชียงใหม่จังหวัดเดียวอยู่ที่ 1 ล้านไร่ แม่ฮ่องสอน 1.7 ล้านไร่ กี่ปีต่อกี่ปีมาแล้วที่เราเห็นว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานและกรมป่าไม้ มีไม่เพียงพอต่อการดับไฟป่า และหลายครั้งก็ไม่สามารถเข้าถึงจุดดับไฟได้ไวเท่ากับคนในพื้นที่</p>
<p>“ผมหวังว่าเราจะไม่ได้เห็นพี่น้องของเราที่เข้าไปดับไฟ โดยที่ไม่ได้รับอุปกรณ์การป้องกันใดๆ จากงบประมาณของรัฐบาล ขอให้ท่านนายกชี้แจงให้ท้องถิ่นทั่วประเทศได้ฟัง ว่าทําไมท่านถึงตัดงบท้องถิ่นลงเยอะขนาดนั้น และทําไมเราจึงไม่สามารถจัดสรรงบประมาณด้านไฟป่าให้คนที่อยู่ใกล้ปัญหามากที่สุดได้” ภัทรพงษ์ กล่าว</p>

<h2><span style="color:#2980b9;">ชั้นที่ 4 การแจ้งเตือนและการเก็บข้อมูล  </span></h2>
<p>เพื่อสามารถพยากรณ์ค่า PM2.5 ล่วงหน้าได้แม่นยํามากขึ้น จําเป็นต้องมีเครื่องวัดระดับความสูงชั้น PBL หรือชั้นบรรยากาศที่อยู่ใกล้ผิวโลก ชั้นบรรยากาศนี้คือชั้นที่มลพิษไม่สามารถผ่านได้ ทําให้หากชั้นบรรยากาศนี้ต่ำลงเท่าไร ความหนาแน่นของฝุ่นละอองก็จะมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่เราได้เห็นสิ่งนี้ในงบประมาณรายจ่ายเสียที</p>
<p>แต่สิ่งที่ผิดหวังคือในงบ 67 นี้ กลับมีโครงการเพียงแค่ กทม. ที่เดียวเท่านั้น และในแผนงบประมาณผูกพันปี 67-68 วงเงิน 127 ล้านบาท จะทําได้แค่ 3 ที่ คือ เชียงใหม่ สงขลา และ กทม. </p>
<p>ในส่วนการแจ้งเตือน ได้เห็นงบประมาณการแจ้งเตือนผ่านสัญญาณโทรศัพท์ 135 ล้านบาทของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งคาดว่าจะเป็นการทำ Cell broadcast entity เพื่อจัดการข้อมูลเตือนภัยและส่งข้อความไปยัง cell broadcast center ซึ่งตรงนี้ตนยังไม่เห็นในเอกสารงบประมาณฉบับนี้</p>
<p>ดังนั้นขอแนะนําให้กระทรวงดิจิทัลฯ  ใช้งบการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Service Obligation) ของ กสทช. จัดทําไปเลย เพื่อให้การแจ้งเตือนภัยด้วยระบบ cell broadcast สามารถเริ่มต้นได้ก่อนปี 2568 เรื่องนี้ขอฝากทางกระทรวงมหาดไทยไปยังกรม ปภ. เพราะปัจจุบันแค่ app thai disaster alert ยังแจ้งเตือนกันไม่ได้</p>
<p>เพราะฉะนั้นถ้ายังเป็นแบบนี้ ต่อให้มีเทคโนโลยี เราก็ไม่มีข้อมูลไปแจ้งเตือนประชาชน</p>
<p>นอกจากนี้ ขอเสนอแนะเพิ่มเติมคือการใช้ภาพถ่ายทางดาวเทียมเพื่อประเมินปริมาณใบไม้ร่วง จะทําให้เราประเมินถูกว่าในพื้นที่ไหนมีใบไม้แห้งที่เป็นเชื้อเพลิงมากหรือน้อย และทําให้เราสามารถวางแผนจัดทําแนวกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจากข้อมูลทางดาวเทียม มีแนวกันไฟหลายแนวที่ทําขึ้นมาโดยอ้างอิงจากข้อมูลในอดีต ทําให้เสียทั้งแรงกายและงบประมาณ แต่หากนําเทคโนโลยีมาใช้ประมวลผล จะใช้งบประมาณในการทําแนวกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น</p>
<p>อีกส่วนหนึ่งที่ช่วยดับไฟตั้งแต่ต้นลม คือ sensor detect ไฟป่า เคยมีงานวิจัยไปทดลองที่ลําพูนมาแล้วว่าการแจ้งเตือนไฟป่าให้คนในพื้นที่เข้าไปดับได้ตั้งแต่แรกเริ่มนั้น จะสามารถลดความรุนแรงและการลุกลามของไฟได้ ทั้งหมดนี้คือเหตุผล ว่าทําไมเราถึงต้องกระจายงบประมาณในการดับไฟไปยังคนที่อยู่ใกล้ปัญหาอย่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ชั้นที่ 5 ศูนย์บัญชาการ  </span></h2>
<p>คำถามถึงรัฐบาล คือในปีนี้ รัฐบาลจะแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นพิษให้ประชาชนด้วยวิธีใด และเกณฑ์การแจ้งเตือนอยู่ที่เท่าไร</p>
<p>นอกจากนี้ในส่วนระหว่างประเทศ หรือฝุ่นพิษข้ามพรมแดน กระทรวงการต่างประเทศตั้งเป้าลดความเสี่ยงผลกระทบจากภัยธรรมชาติและจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยงบประมาณ 797.5 ล้านบาท แต่ไม่บอกรายละเอียดอะไรเลย มีเพียงแค่ 2 ตัวชี้วัดลอยๆ ก็คือข้อเสนอของไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ 80% และความสําเร็จของไทยในการจัดหารือสัมมนา ตลอดจนพัฒนามาตรฐานภายในประเทศให้เป็นสากล 70%</p>
<p>“ขอถาม รมว.ต่างประเทศ ว่าท่านจัดงบประมาณตรงนี้มาเพื่ออะไร ต่อให้เราผ่านตัวชี้วัดทั้งสองตัวนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าเราสามารถลดความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศได้เลย” ภัทรพงษ์ กล่าว</p>

<p>จากการประชุม ครม. มีมติให้กระทรวงต่างประเทศดําเนินการเจรจาประเทศเพื่อนบ้านตามกลยุทธ์ฟ้าใสหรือว่า CLEAR sky strategy ที่เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ไม่เคยเห็นผลลัพธ์แม้แต่ตัวอักษรเดียว</p>
<p>ตนจึงขอเสนอแบบนี้</p>
<p>- C commitment ดําเนินการตามข้อตกลงอาเซียน เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านแล้วตั้งเป้าหมายจํานวนจุดความร้อนในปี 2567 และ 2568 ให้ชัดเจน</p>
<p>- L Leverage ใช้ข้อตกลง ASEAN ไม่ว่าจะเป็นหมอกควันข้ามแดนหรือ ATIGA ในการต่อรองแก้ไขประกาศการนําเข้าข้าวโพดอาหารสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านให้เอื้อกับประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ประโยชน์ของนายทุน และกําหนดมาตรฐานของหนังสือรับรองสินค้าว่าไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่วมกันใหม่ให้ชัดเจนในด้านการเผาหรือการก่อให้เกิดฝุ่นพิษ</p>
<p>- E experience sharing แลกเปลี่ยนการฝึกอบรมอาสาระหว่างประเทศ ทําอาสาข้ามพรมแดน</p>
<p>- A air quality network ทําฐานข้อมูลให้ครอบคลุมเครือข่ายประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยในระบบการแจ้งเตือนในพื้นที่ชายแดนและการลุกลามของไฟในแนวเขตป่าติดต่อระหว่างประเทศ</p>
<p>- R response รับมือกับฝุ่นพิษข้ามพรมแดนโดยการลงทุน sensor ตรวจไฟป่า สนับสนุนงบประมาณช่วยประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดการเผา และนําส่วนนี้เข้าไปเพิ่มน้ําหนักในการต่อรอง เป็น leverage ในชั้นตัว L อีกทางหนึ่ง</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">หวังรัฐบาลนำข้อเสนอไปพิจารณาแก้ไข</span></h2>
<p>จากเอกสารงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ฝุ่นพิษ PM2.5 ที่นายกฯ ยกให้เป็นวาระแห่งชาติ สิ่งที่เราได้เห็น คือ</p>
<p>- งบประมาณรายจ่ายด้านสาธารณสุข ที่จัดมาโดยไม่ได้สะท้อนถึงวิกฤตปัญหา</p>
<p>- งบไฟเกษตรที่มีแต่คําพูด แต่กลับไม่มีเงิน</p>
<p>- งบไฟป่าที่ยังคงกระจุกอยู่ที่ส่วนกลาง ไม่ได้กระจายสู่ท้องถิ่น ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลชุดที่</p>
<p>แล้ว</p>
<p>- งบการพยากรณ์และการแจ้งเตือนที่ทําให้เรายังวิ่งตามเทคโนโลยีมาตรฐานสากลไม่ทัน</p>
<p>และติดขัดในภาคปฏิบัติ</p>
<p>- งบการบัญชาการ ที่นอกจากจะไม่ได้กระจายอํานาจแล้ว งบฝุ่นพิษข้ามแดนก็ยังคลุมเครือ</p>
<p> </p>
<p>จึงหวังว่าวันนี้ รัฐบาลจะนําสิ่งที่ตนอภิปรายเสนอแนะไปพิจารณาแก้ไข เพราะถ้าจะจัดงบกันแบบนี้ ทางแก้มีทางเดียวคือต้องจุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภาวนาให้ธรรมชาติ ทุเลาเบาบางไปกว่าเดิม ถ้าธรรมชาติปรานี ประชาชนก็พ้นภัย แล้วก็ต้องสวดมนต์อ้อนวอนให้ประเทศเพื่อนบ้านเลิกเผาด้วย แต่ก็ไม่รู้จะเลิกหรือไม่ เพราะทุกวันนี้รัฐยังไม่มีมาตรการใดๆ กับการนําเข้าข้าวโพดอาหารสัตว์ที่มีที่มาจากการเผาเลย</p>
<p>ส่วนนี้ขอให้ รมว.พาณิชย์ เร่งดําเนินการพิจารณาตามข้อเสนอแนะที่ตนเสนอผ่านกระทู้สดไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาด้วย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ของขวัญที่ประชาชนอยากได้ คืออากาศบริสุทธิ์</span></h2>
<p>ในอีกไม่กี่สัปดาห์ เราจะเจอกับปัญหา PM2.5 ที่รุนแรงอีกครั้ง จะรอดูว่าประชาชนพอจะมีความหวังกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ได้หรือไม่ ประชาชนภาคเหนือกําลังรอตัดสินท่านอยู่ ตนและพรรคก้าวไกลจะติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด และหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่ให้ความสนใจกับประเด็นนี้เพียงแค่ช่วงที่มีปัญหา แต่พอฝุ่นเบาบางลง ก็ปล่อยปละละเลยไม่วางแผนเตรียมการใดๆ อย่างเช่นที่ผ่านมา</p>
<p>“ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ปี 2567 นี้ ของขวัญที่ประชาชนอยากได้จากท่านคงไม่ใช่คําอวยพร หรือคํามั่นสัญญาใดๆ แต่ของขวัญที่ประชาชนอยากได้ คืออากาศบริสุทธิ์ที่พวกเขาสามารถหายใจได้ เด็กๆ ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านได้ และเราไม่ต้องยิ้มให้กันภายใต้หน้ากากอนามัย ขอแค่เท่านี้ มอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน” ภัทรพงษ์ กล่าว</p>

<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่าว[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-category field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สังคม[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สิทธิมนุษยชน[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">คุณภาพชีวิต[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-tags field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A5" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">พรรคก้าวไกล[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">เชียงใหม่[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/pm25" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">PM2.5[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C-%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2567" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">อภิปรายงบประมาณปี 2567[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107499