[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ห้องสมุด => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 15:38:40



หัวข้อ: ประวัติศาสตร์ของผ้าไหมจีน
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 15:38:40
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/95456279855635_152518319_449294966421456_8615.jpg)
อิทธิพลของผ้าไหมแพรจีน ในราชสำนักหลวงพระบาง รัชสมัยของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าคำฝั้น พระมเหสีในพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระราชมารดาเลี้ยง
ในพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัทนา และ เจ้าฟ้าหญิงสมาธิ พระน้องนางเธอร่วมพระราชบิดา-ราชมารดา
กับพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัทนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพระราชอาณาจักรลาว
ขอขอบคุณ เพจ บรรณาลัย (ที่มาภาพประกอบ)

ประวัติศาสตร์ของผ้าไหมจีน


ไหมจีน ความเงางามเป็นประกาย นุ่มนวล แข็งแรง ย้อมได้สวยงามสดใส ผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมนี้เป็นสินค้าอันดับ ๑ ที่ราชวงศ์ส่งออกมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ และผ้าไหมยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม


ประวัติศาสตร์ของผ้าไหมในจีนย้อนหลังไปกว่า ๒,๐๐๐ ปี

จีนเป็นผู้ผลิตผ้าไหมรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมากกว่าส่วนอื่นๆ ของโลกที่ผลิตผ้าไหมได้ร้อยละ ๗๘ ของผ้าไหมทั้งหมดในโลกรวมกัน มีเพียงอินเดียเท่านั้นที่มีอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างใหญ่ โดยมีผลผลิตประมาณ ๓๐,๐๐๐ เมตริกตัน

แหล่งผลิตผ้าไหมที่มีชื่อเสียงของจีน ส่วนใหญ่ผลิตทางตอนใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ได้แก่ มณฑลเจียงซู เจ้อเจียง และเสฉวน เมืองต่างๆ เช่น ซูโจว หางโจว หนานจิง และเส้าซิง

ผ้าไหมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทออย่างประณีตจากเส้นใยโปรตีนของรังไหม การผลิตผ้าไหมเป็นกระบวนการที่กินเวลายาวนานและต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด

การเลี้ยงไหมของจีน เป็นความรู้ที่นางลั่วจู่ สนมของจักรพรรดิหวงตี้ เป็นผู้สอนประชาชนจีนเมื่อกว่าห้าพันปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนจีนรู้เทคนิคการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และทอผ้าไหมตั้งแต่สมัยโบราณ

หลังจากที่จางเชียนในสมัยฮั่นตะวันตกได้บุกเบิกเส้นทางไปถึงตะวันตกแล้ว ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของจีนก็ได้แพร่หลายไปถึงยุโรป ชาวยุโรปเห็นผ้าไหมที่นุมนวลและหลากหลายสีสัน เลยถือเป็นของล้ำค่และแย่งกันซื้อ เล่ากันว่า จักรพรรดิซีซาร์ของโรมก็เคยฉลองพระองค์ที่ทำด้วยผ้าไหมจีนไปชมละคร ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งโรงละคร โคลัมบัสเคยกล่าวกับกะลาสีเรือว่า ระหว่างการเดินทาง ถ้าใครได้พบแผ่นดินใหญ่เป็นคนแรก ก็จะได้รางวัลเป็นเสื้อผ้าไหม ราคาของผ้าไหมขณะนั้นแพงเหมือนทอง   ขณะนั้น อาณาจักรโรมันต้องประสบปัญหาขาดดุลการคลัง เนื่องจากจ่ายค่านำเข้าผ้าไหมที่แสนแพง ด้วยเหตุนี้ พฤฒิสภาจึงลงมติห้ามจำหน่ายและสวมเสื้อผ้าไหมจีน แต่ก็ต้องประสบกับการคัดค้านอย่างรุนแรงจากชนชั้นสูงทั้งหลายที่นิยมผ้าไหมจีน สุดท้าย อาณาจักรโรมันต้องยกเลิกข้อห้ามนี้ไปในที่สุด

ตอนแรกชาวยุโรปไม่ทราบว่าผ้าไหมจีนมากจากการเลี้ยงตัวไหมและถักทอเป็นผ้าไหม พวกเขานึกว่า ไหมสกัดจากต้นไม้ แล้วแช่น้ำเย็นจนกลายเป็นเส้นไหม พอทราบว่าผ้าไหมทำด้วยเส้นไหมที่มาจากการเลี้ยงตัวไหม พวกเขาตัดสินใจหาทางที่จะเรียนรู้วิธีเลี้ยงตัวไหมของจีน มีหลายตำนานที่กล่าวขานถึงวิธีการเลี้ยงไหมของจีนแพร่ไปยังตะวันตกได้อย่างไร จากบันทึกที่พระเสวียนจ้าง เขียนไว้ในบันทึกการเดินทางไปตะวันตกสมัยราชวงศ์ถัง ระบุว่า ทางตะวันตกมีแคว้นเล็กชื่อโคสตนะ ซึ่งอยากเรียนรู้วิธีการเลี้ยงตัวไหม ก็เลยขอความช่วยเหลือจากประเทศตะวันออก แต่ประเทศตะวันออกขณะนั้นปฏิเสธที่จะสอนให้ และตรวจตราตามด่านอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ตัวไหมและเมล็ดต้นหม่อนแพร่หลายไปยังต่างประเทศ ตามการศึกษาค้นคว้าของนักวิชาการประเทศตะวันออก ในที่นี้น่าจะเป็นราชวงศ์เป่ยเว่ยในสมัยนั้น กษัตริย์แคว้นโคสตนะเห็นว่าการขอความช่วยเหลือไม่เป็นผล ก็เลยคิดหาวิธีอื่น พระองค์ทรงของอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงประเทศตะวันออกโดยถือการส่งเสริมสัมพันธไมตรีเป็นข้ออ้าง และได้รับอนุญาตจากประเทศตะวันออก
 ก่อนจะอภิเษกสมรส กษัตริย์โคสตนะส่งทูตพิเศษไปลอบทูลเจ้าหญิงขอให้เจ้าหญิงทรงพยายามนำไข่ตัวไหมและเมล็ดต้นหม่อนออกไปด้วย จ้าหญิงทรงยอมรับการร้องขอ ก่อนจะเดินทางเจ้าหญิงทรงลอบเก็บไข่ตัวไหมและเมล็ดต้นหม่อนไว้ในพระมาลา เวลาออกจากด่าน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเสื้อผ้าและกระเป๋าทั้งหมด เพียงแต่ไม่กล้าตรวจค้นพระมาลาบนเศียรของเจ้าหญิง ด้วยเหตุนี้ ไข่ตัวไหมและเมล็ดต้นหม่อนจึงถูกนำไปยังแคว้นโคสตนะและแพร่หลายต่อไปยังตะวันตก

การบันทึกที่ล้ำค่าของพระเสวียนจ้าง ได้รับการพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นจริงจากภาพพิมพ์สมัยโบราณที่พบในซินเกียงโดยนายสแตนลี่ ชาวฮังการี สัญชาติอังกฤษ ผู้เป็นนักผจญภัย ตรงกลางของภาพพิมพ์มีรูปสตรีที่ใส่อาภรณ์หรูหรา และใส่หมวก มีผู้รับใช้ทั้งซ้ายและขวา ผู้รับใช้ที่อยู่ซ้ายมือชี้ไปยังหมวกที่สตรีผู้นั้นใส่ สตรีผู้นี้คือเจ้าหญิงของประเทศตะวันออกที่นำไข่ตัวไหมและเมล็ดต้นหม่อนไปยังตะวันตกนั้นเอง


ที่มา :
    - http://www.digitalschool.club
    - http://m.th.chinesesilk.com



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/93141240502397__696x364.jpg)
ภาพเขียนการเตรียมผ้าไหมโดย Zhang Xuan ศิลปินสมัยราชวงศ์ถัง
(ตกแต่งภาพเพิ่มเติมโดยกองบรรณาธิการ) ... ขอขอบคุณนิตยสารศิลปวัฒนธรรม (ที่มาภาพประกอบ)


ผ้าไหมคุณภาพสูงจะมีความนุ่มและเงางาม มีสีชัดเจน และสม่ำเสมอ ลักษณะที่แวววาวของผ้าไหม
เกิดจากโครงสร้างเส้นใยไหมที่มีลักษณะคล้ายปริซึมสามเหลี่ยม  หักเหแสงที่เข้ามาในมุมต่างๆ กัน
ทำให้ได้สีที่แตกต่างกัน  ผ้าไหมมีความแข็งแรงแต่ไม่ยืดหยุ่น ถ้ายืดแล้วจะไม่กลับมายาวเหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังดูดซับความชื้น ปัญหาอย่างหนึ่งของไหมคือแมลงบางชนิดพบว่ามันอร่อย