[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 12 เมษายน 2567 15:13:27



หัวข้อ: ลิ้มลอง "ราเม็ง" บะหมี่น้ำของญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 เมษายน 2567 15:13:27
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/86539315597878_1_Copy_.jpg)
ราเม็งเส้นเหนียวนุ่มในน้ำซุปคัตสึ สีขาวขุ่นข้นคล้ายน้ำนม รสเข้มข้น หวานหอมเครื่องเทศ

ราเม็ง

ราเม็ง  เป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่น มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนและถูกนำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นโดยชาวจีนอพยพในศตวรรษที่ ๑๙ หรือช่วงต้นศตวรรษที่ ๒๐ ราเม็งมักจะทานกับเนื้อหมู สาหร่าย คามาโบโกะ ต้นหอม ราเม็งมีการปรุงรสแตกต่างกันตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช่นในเกาะคีวชู ต้นกำเนิดของราเม็งทงกตสึ (ราเม็งซุปกระดูกหมู) หรือในเกาะฮกไกโด ต้นกำเนิดของราเม็งมิโซะ (ราเม็งเต้าเจี้ยว)

คำว่า "ราเม็ง" มาจากภาษาจีน "ลาเมี่ยน" ที่มีความหมายถึง เส้นบะหมี่ที่ใช้มือนวดให้มีความเหนียวนุ่ม ที่ได้รับความนิยมบริโภคไปทั่วเอเชียตะวันออก ได้รับความนิยมแพร่หลายในญี่ปุ่นเมื่อต้นศตวรรษที่ ๒๐  จากบันทึกของพิพิธภัณฑ์ราเม็งแห่งโยโกฮาม่า ราเม็งถูกนำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในราวปี ค.ศ.๑๘๕๙  โทกูงาวะ มิตสึกูนิ ขุนนางยุคเมจิ ได้นำวิธีการทำเส้นบะหมี่จากเมืองจีน มาทำกินในประเทศญี่ปุ่น  ในระยะแรก ราเม็งถูกเรียกว่า "ชินาโซบะ" หรือ "โซบะเจ๊ก"  ("ชินา" เป็นคำเรียกเชิงดูหมิ่นชนชาติจีนในภาษาญี่ปุ่น)  คนญี่ปุ่นติดใจรสชาติราเม็ง จึงคิดค้นวิธีทำเส้นราเม็งให้มีความเหนียวนุ่ม และทำน้ำซุปให้หอมน่ากิน และคิดวิธีทำหมูต้มในรูปแบบต่างๆ กินกับเส้นราเม็งให้อร่อยยิ่งขึ้น จนราเม็งกลายเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นในเรื่องวัฒนธรรมการกิน


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36096655494636_2_Copy_.jpg)
อิ่มจุกๆ ชามละ 189 บาท
 
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36300203038586_3_Copy_.jpg)
ชาวเมืองอากาตะ ในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้คิดสูตรและวิธีการปรุงน้ำซุปคัตสึ
ด้วยการต้มเคี่ยวกระดูกหมูล้วนๆ กับเครื่องเทศญี่ปุ่นที่เป็นความลับ จนได้น้ำซุปมีลักษณะสีขาวขุ่นข้นคล้ายน้ำนม
รสชาติเข้มข้น หวานหอมเครื่องเทศ  และเป็นน้ำซุปราเม็งที่อร่อยที่สุด  จนเชฟจากทั่วโลกต้องบินไปเรียนวิธีการ
ทำน้ำซุปถึงเมืองอากาตะ ที่ประเทศญี่ปุ่น