หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๑๘๘ ตินทุกชาดก : พญาวานรเจ้าปัญญา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 พฤษภาคม 2567 17:03:00 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13576513404647__500_320x200_.jpg) พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๑๘๘ ตินทุกชาดก พญาวานรเจ้าปัญญา ในอีดตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดเป็นวานร มีบริวารแปดหมื่นอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ ป่าหิมพานต์นั้นมีบ้านชายแดนแห่งหนึ่ง บางครั้งก็มีคนอยู่ บางครั้งก็ไม่มีคนอยู่ ในท่ามกลางหมู่บ้านนั้นมีต้นมะพลับต้นหนึ่ง กิ่งก้านและค่าคบบริบูรณ์ มีผลอร่อย ฝูงลิงพากันมากินมะพลับนั้นในเวลาที่ไม่มีคนอยู่ ต่อมาถึงฤดูออกผลอีก บ้านนั้นได้กลับมาเป็นที่อยู่ของมนุษย์เรียงรายไปด้วยต้นอ้อ ประกอบไปด้วยประตู แม้ต้นไม้นั้นก็ออกผลกิ่งลู่น้อมลง ฝูงลิงคิดว่า เมื่อก่อนเรากินผลมะพลับที่บ้านโน้น บัดนี้มะพลับต้นนั้นมีผลหรือยังหนอ แล้วจะมีคนอยู่บ้านไหมหนอ ครั้นคิดดังนั้นแล้ว จึงส่งลิงไปตัวหนึ่ง โดยกล่าวว่าเจ้าจงไปสืบดูที ลิงนั้นไปสืบดูก็รู้ว่าไม้นั้นออกผล และบ้านมีผู้คนจับจองอยู่ จึงกลับมาบอกแก่พวกลิง พวกลิงได้ฟังว่าต้นไม้นั้นออกผล เกิดความพยายามว่าจักกินผลมะพลับอันโอชา จึงบอกความนั้นแก่พญาวานร พญาวานรถามว่า “บ้านมีคนอยู่หรือไม่” มันบอกว่า “มีจ้ะนาย” พญาวานรบอกว่า “ถ้าเช่นนั้นไม่ควรไป เพราะพวกมนุษย์มีเล่ห์กะเท่มาก” พวกลิงกล่าวว่า “เราจักกินตอนเที่ยงคืนในเวลาที่มนุษย์นอนหลับสนิท” ครั้นพญาวานรรับรู้แล้ว จึงลงจากป่าหิมพานต์ คอยเวลาที่พวกมนุษย์หลับสนิท นอนอยู่บนหลังแผ่นหินใหญ่ไม่ไกลหมู่บ้านนั้น ผู้คนหลับกันหมดแล้ว จึงพากันขึ้นไปกินผลไม้ ชายคนหนึ่งออกจากเรือนจะไปถ่ายอุจจาระ เดินถึงกลางบ้านเห็นฝูงลิง จึงตะโกนบอกพวกเพื่อนบ้าน พวกเพื่อนบ้านจำนวนมากมายสอดธนูและลูกศร ถืออาวุธต่างๆ ทั้งก้อนดินและท่อนไม้ เป็นต้น พากันยืนล้อมต้นไม้ตอนรุ่งสว่างด้วยความหวังว่าจักจับฝูงลิงให้ได้ ฝูงลิงแปดหมื่นตัวเห็นพวกมนุษย์ก็ตกใจกลัวตาย พากันไปหาพญาวานร รายงานเหตุการณ์ให้ทราบว่า พวกมนุษย์มีอาวุธครบมือมาล้อมพวกเราไว้หมดแล้ว พญาวานรได้ฟังคำของพวกลิงเหล่านั้นแล้วปลอบพวกลิงว่า “เจ้าอย่ากลัวเลย ขึ้นชื่อว่ามนุษย์มีการงานมาก แม้ตอนนี้ก็พึ่งมัชฌิมยาม บางทีเมื่อพวกมนุษย์ล้อมเราไว้พยายามจะฆ่า แต่ระหว่างนั้นพวกเขาก็อาจมีธุระยุ่งๆ ที่ต้องไปทำอยู่เหมือนกัน ฉะนั้น จึงยังพอมีทางที่พวกเจ้าจะเด็ดผลมะพลับกินกันได้” พญาวานรปลอบฝูงลิงไว้อย่างนั้น เพราะว่าถ้าพวกมันไม่ได้การปลอบใจเช่นนี้ ทั้งหมดจะหัวใจแตกถึงแก่ความตาย จากนั้นพญาวานรปลอบฝูงวานรอย่างนี้แล้วกล่าวว่า “พวกเจ้านับลิงทั้งหมดดูที” เมื่อพวกมันนับก็ไม่เห็นวานรชื่อเสนกะ ซึ่งเป็นหลานพญาวาน จึงแจ้งว่าเสนกะไม่มา พญาวานรกล่าวว่า “หากเสนกะไม่มา พวกเจ้าไม่ต้องกลัว เสนกะนั้นจักทำความปลอดภัยให้แก่พวกเจ้าในบัดนี้” เสนกะหลับในเวลาที่ฝูงลิงมาก ภายหลังตื่นขึ้นไม่เห็นใครๆ จึงเดินตามรอยเท้ามา ครั้นเห็นพวกมนุษย์ จึงรู้ว่าภัยเกิดขึ้นแก่ฝูงลิงเสียแล้ว จึงไปหาหญิงแก่ซึ่งดามไฟกรอด้ายอยู่ท้ายเรือนแห่งหนึ่ง แล้วทำเป็นเด็กชาวบ้านเดินไปหา คว้าคบไฟดุ้นหนึ่งวิ่งไปจุดบ้านซึ่งตั้งอยู่เหนือลม พวกมนุษย์พากันผละพวกลิงไปดับไฟ ลิงทั้งหลายก็พากันหนีเก็บผลไม้ได้ตัวละผล เพื่อนำไปให้เสนกะ แล้วพากันหนีไป นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อุบายช่วยให้รอดได้ในยามวิกฤต” พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ ขิปปเมว นิโพธติ มุจฺจเต สตฺตุสมฺพาธา กุกฺกุโฏว วิฬาริยา ฯ ผู้ที่รู้เท่าทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ฉับพลัน ย่อมพ้นจากการเบียดเบียนของศัตรูได้ เหมือนไก่พ้นจากเงื้อมมือของแมว (๒๗/๙๐๔) ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดยธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม |