หัวข้อ: ย้อนดูที่มา การบริจาคเลือดของไทย ใครคือผู้บริจาคหมายเลข 1 เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 13 กรกฎาคม 2567 13:50:53 (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2024/07/cover-thep-696x364.jpg) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต-ประทับตรงกลาง (ภาพจาก เพจโรงเรียนเทพศิรินทร์) ย้อนดูที่มา การบริจาคเลือดของไทย ใครคือผู้บริจาคหมายเลข 1 ผู้เขียน - วิภา จิรภาไพศาล เผยแพร่ - วันพฤหัสที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2567 “การให้เลือด” หรือ “การบริจาคเลือด” คือความท้าทายในวงการแพทย์ทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตกับผู้ป่วยจำนวนมาก การศึกษาเกี่ยวกับการให้เลือดมีมาช้านาน แต่สำหรับการให้เลือดยุคปัจจุบัน คงต้องให้เครดิตนี้กับ เจมส์ บลันเดลล์ สูติแพทย์ชาวอังกฤษ ที่ใน พ.ศ. 2361 (อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 2 ของไทย) เขาประสบความสำเร็จในการให้เลือดเป็นครั้งแรก โดยให้เลือดของสามีแก่ภรรยาที่ตกเลือดหลังคลอด หลังจากนั้นในปี 2429 จอห์น ดันแคน ศัลยแพทย์ชาวสก็อตแลนด์ ประสบความสำเร็จการให้เลือดระหว่างการผ่าตัดเป็นรายแรกของโลก ต่อมาในปี 2486 ลูติต และมอลลิสัน เสนอสูตรน้ำยากันเลือดแข็งตัว ACD (Acid Citrate Dextrose) ทำให้สามารถเก็บเลือดที่ 4 องศาเซลเซียส ไว้ใช้ได้นานถึง 21 วัน ซึ่งช่วยแก้ปัญหาสำคัญหนึ่งของการให้เลือดลงได้ ส่วนธนาคารเลือดแห่งแรกของโลก เกิดขึ้นในปี 2480 ที่โรงพยาบาลคุ้ก เคาน์ตี้ เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศไทย ปี 2472 มีการให้เลือดระหว่างการผ่าตัดครั้งแรกที่โรงพยาบาลศิริราช โดยศาสตราจารย์สูตินรีเวชชาวต่างชาติของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ที่เข้ามาทำงานกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กระทั่งปี 2477 ศาสตราจารย์ นายแพทย์เติม บุนนาค นำเครื่องถ่ายเลือดโดยตรง มาใช้เป็นครั้งแรกที่แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลศิริราช ปี 2489 มีการตั้ง “หน่วยถ่ายเลือด” ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งถือเป็น “ธนาคารเลือดแห่งแรกของประเทศ” เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2489 ก่อนจะมีธนาคารเลือดอื่นๆ ตามมา เช่น โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ปี 2492, โรงพยาบาลหญิง (ปัจจุบันคือ โรงพยาบาลราชวิถี) ในปี 2495 โดย นายแพทย์เสม พริ้งพวงแก้ว ปี 2495 โรงพยาบาลศิริราชเริ่มเจาะเลือดใส่ขวด เพื่อเก็บไว้ใช้หลายๆ วัน โดยใช้น้ำยาโซเดียมไซเตรท 3.8% เป็นสารกันการแข็งตัวของเลือด ปีเดียวกันนั้น สภากาชาดไทยจัดตั้ง “แผนกบริการโลหิต” ขึ้นในกองวิทยาศาสตร์ และเริ่มการผลิตน้ำยา ACD บรรจุในขวดแก้ว มี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต เป็นผู้บริจาคโลหิตหมายเลข 1 ของไทย ปี 2498 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ (พัฒนาจากแผนกบริการโลหิต สภากาชาดไทย) เริ่มออกรับบริจาคโลหิตภายนอกสถานที่ทำการ ในปี 2499 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินยังสถานเสาวภา เพื่อให้ผู้บริจาคเลือดเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ต่อมาสภากาชาดไทยจัดให้มีการมอบเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคเลือดในปี 2503 เป็นครั้งแรก ปี 2509 ศิริราชได้เปลี่ยนภาชนะเก็บเลือดจากขวดมาเป็นถุงพลาสติกทั้งหมด และเริ่มทำส่วนประกอบโลหิต เช่น เม็ดเลือดแดงเข้มข้น, พลาสมาสดแช่แข็ง และเกล็ดเลือดเข้มข้น 13 ตุลาคม 2512 จัดตั้ง “ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย” ถือเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ของการบริการโลหิตของประเทศ ต่อมาในปี 2519 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ มีรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่คันแรก จนปัจจุบันมี “การบริจาคเลือด” มีบริการต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้บริจาค ... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/history/article_135343 |