|
หัวข้อ: เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ : ไก่คอล่อน (Naked Neck Chicken) เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 31 กรกฎาคม 2567 18:50:42 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/93299940062893__Copy_.jpg) ไก่คอล่อน (ภาพจากเว็บไซต์ ไทยรัฐออนไลน์) ไก่คอล่อน (Naked Neck Chicken) Naked Neck Chicken เป็นไก่สายพันธุ์ขนาดใหญ่ ที่ไม่มีขนที่คอและช่องระบายอากาศตามธรรมชาติ สายพันธุ์นี้เรียกอีกอย่างว่าคอเปลือยทรานซิลวาเนียร์ และ Turken ชื่อ "Turken" เกิดขึ้นจากความคิดที่เข้าใจว่าเป็นลูกผสมของไก่พื้นเมืองกับไก่งวงบ้าน และเมื่อมีการผสมข้ามกับไก่พันธุ์อื่นจะได้ลูกไก่มีลักษณะคอเปลือย ใกล้เคียงไก่อู หนังหน้าลำคอจะมีสีชมพูกึ่งแดง ตั้งแต่วัยที่เป็นลูกเจี๊ยบกระทั่งโต บริเวณหัวด้านบนมีขน มองโดยรวมเหมือนใส่หมวก บริเวณกระเพาะพักใต้ลำคอ ตลอดแนวสันหลังไม่มีขน หรือมีขนแต่ไม่มากนัก ลักษณะหงอนแบบมงกุฎแต่ใหญ่กว่าไก่ชน ขนปีก สีข้างลำตัว สีดำแกมเขียวเข้ม ผิวหนังสีเหลือง ไก่คอล่อนนิยมเลี้ยงในภาคใต้ของประเทศไทย แต่เดิมเป็นไก่สายพันธุ์หนึ่งในเขตพื้นที่ทรานซิลวาเนียร์ ประเทศโรมาเนีย และมีทั่วไปในทวีปยุโรป ลักษณะเด่นคือ ตั้งแต่บริเวณช่วงคอจนถึงกระเพาะพักและใต้ปีกจะไม่มีขน มีหนังหนาสีแดง (เปลือยล่อน) ไก่คอล่อนหรือไก่คอเปลือยที่เลี้ยงในภาคใต้ เป็นไก่ที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างไก่พื้นเมืองของจังหวัดพัทลุง กับไก่คอล่อนซึ่งมีสายพันธุ์มาจากประเทศฝรั่งเศส แล้วนำมาเลี้ยงในประเทศเวียดนามและกัมพูชาในช่วงที่เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารญี่ปุ่นได้นำไก่คอล่อนจากประเทศเวียดนามและกัมพูชามาเป็นเสบียงอาหารในกองทัพที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง ทำให้ไก่คอล่อนแพร่หลายในบริเวณนี้ ตัวผู้อายุประมาณ ๗ เดือน ตัวเมียอายุประมาณ ๕ เดือนครึ่ง เพศผู้มีน้ำหนักตัวประมาณ ๒,๕๐๐ - ๓,๐๐๐ กรัม และเพศเมียหนักประมาณ ๑,๕๐๐ - ๒,๐๐๐ กรัม เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่มีอายุ ๑ ปีครึ่ง เพศผู้หนัก ๓,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ กรัม เพศเมียหนัก ๒,๐๐๐ - ๒,๘๐๐ กรัม ไก่คอล่อนเพศผู้มีความกว้างหงอน ความยาวหงอน ความกว้างกะโหลก ความยาวกะโหลก ความยาวคอ ความยาวปีก ความยาวแข้ง มากกว่าไก่เพศเมีย มีปริมาณขนที่ปกคลุมร่างกายประมาณ ๒๐-๔๐% ลักษณะสีขนของไก่คอล่อนจะมีสีเขียวจนถึงดำ หงอนถั่วหรือหงอนจักร แข้งเหลือง และผิวหนังมีสีเหลือง โดยทั่วไปเกษตรกรส่วนใหญ่ในภาคใต้จะเลี้ยงไก่สายพันธุ์นี้ โดยการปล่อยให้ไก่หากินอาหารเองตามธรรมชาติและเสริมอาหารจำพวกข้าวเปลือก ปลายข้าว ข้าวสุก รำ หรืออาหารสำเร็จรูป เป็นต้น ไก่คอล่อนมีนิสัยเชื่อง ไม่ดุร้าย ตัวผู้ไม่มีนิสัยอันธพาลไล่จิกตีเหมือนไก่ไทย หากินเก่ง โตเร็ว น้ำหนักตัวดี ทนทานต่อโรค ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เหมาะที่จะเลี้ยงรวมกันเป็นฝูงบริเวณที่โล่งกว้าง หัวข้อ: Re: ไก่โคชิน (Cochin Chicken) : เรื่องน่ารู้ ไก่ชนิดต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 01 สิงหาคม 2567 12:50:57 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/40561055060889__Copy_.jpg) ไก่โคชิน (ภาพจาก www.istockphoto.com) ไก่โคชิน (Cochin) ไก่พันธุ์โคชิน (Cochin) หรือไก่พันธุ์เซี่ยงไฮ้จีน (Chinese Shanghai) เป็นไก่ตะเภาชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ต่อมาแพร่ไปยังยุโรปและอเมริกาเหนือ ในทศวรรษที่ ๑๘๔๐ และ ๑๘๕๐ ลักษณะเป็นไก่บ้านพันธุ์ตัวอ้วนใหญ่ ขนฟูอ่อนนุ่ม มักมีขนที่แข้ง หางสั้น สวยงาม มีผิวหนังสีเหลือง ให้ไข่เปลือกสีน้ำตาล หงอนจักร น้ำหนักเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ ๓.๙๐ – ๕ กิโลกรัม ไก่พันธุ์โคชินมี ๔ ชนิด คือ โคชิน สีขาว สีดำ สีทอง และพาร์ทริดจ์ 700 หัวข้อ: Re: ไก่ฟริซเซิล (Frizzle Chicken) : เรื่องน่ารู้ ไก่ชนิดต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 03 สิงหาคม 2567 18:23:10 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33024021155304_Frizzle_Chicken_Appearance_1_C.png) ภาพจากเว็บไซต์ somerzby.com.au (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/42821846157312_Frizzle_Breed_Profile_Copy_.png) ภาพจากเว็บไซต์ somerzby.com.au ไก่ฟริซเซิล (Frizzle Chicken) Frizzle Chickens เป็นไก่สายพันธุ์ที่มีลักษณะขนหยิกหรือฟูคล้ายกับไม้ปัดขนไก่ มีหงอนเดียว ที่ขาไม่มีขน ได้รับการยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่น เป็นไก่ที่นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม ต้นกำเนิดของไก่ฟริซเซิล ไม่เป็นที่รู้จักแน่ชัด แต่ยีนขนหยักย้อนนั้นมีต้นกำเนิดมาจากทวีปเอเชีย พบหลักฐานเกี่ยวกับไก่ฟริซเซิลจากตะวันออกไกลตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๘ สายพันธุ์ ไก่ฟริซเซิล เป็นผลมาจากการคัดเลือกพันธุ์เพื่อการจัดประกวดเป็นไก่สวยงาม เป็นที่รู้จักใน ๙ ประเทศในยุโรป คือเบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก ฝรั่งเศส เยอรมัน ไอร์แลนด์ อิตาลีโป สโลวาเกีย และสหราชอาณาจักร โดยตัวผู้โตเต็มที่มีน้ำหนัก ๓.๖ กิโลกรัม ตัวเมีย ๒.๗ กิโลกรัม 650 หัวข้อ: Re: ไก่ซีไบร์ท (sebright chikcken) : เรื่องน่ารู้ ไก่ชนิดต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 สิงหาคม 2567 15:21:42 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/72287759764326_Silver_Laced_Sebright_Chicken_.jpg) ไก่ซีไบร์ท (ภาพจากเว็บไซต์ chickensandmore.com) ไก่ซีไบร์ท (sebright chikcken) sebright chikcken เป็นไก่แจ้สายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษที่ได้รับการบันทึกไว้ ชื่อ "sebright" ตั้งตามผู้พัฒนาสายพันธุ์ คือ Sir John Saunders Sebright ในช่วงต้นศตวรรษที่สิบเก้า ตัวผู้มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ๖๒๕ กรัม ตัวเมียประมาณ ๕๗๐ กรัม ไก่ซีไบร์ทมีหลังสั้น หน้าอกใหญ่ได้สัดส่วน และปีกชี้ลง สีขนของลำตันี้ส่วนใหญ่มักมีสีเงินและสีทอง ขอบขนเป็นสีดำ และด้วยความสวยงามของรูปลักษณ์ ไก่ซีไบร์ท จึงถูกเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินหรือเพื่อความสวยงาม ไม่นิยมเลี้ยงไว้เพื่อการบริโภค หัวข้อ: Re: ไก่โปแลนด์ (Poland Chicken) : เรื่องน่ารู้ ไก่ชนิดต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 สิงหาคม 2567 15:30:13 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/50678201682037_00_Copy_.jpg) ไก่โปแลนด์ (ภาพจากเว็บไซต์ .kapook.com) ไก่โปแลนด์ (Poland Chicken) Poland Chicken, Paduan Chicken, Polish Chicken (ไก่โปแลนด์) เป็นไก่สวยงามที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร มีจุดพิเศษอยู่ที่หงอนไก่สูงสะดุดตา ส่วนใหญ่จะมีขนาดปานกลางคล้ายกับไก่เลกฮอร์น น้ำหนักมาตรฐานอยู่ที่ ๒.๗๕ กิโลกรัม (แม่ไก่จะมีน้ำหนักประมาณ ๒ กิโลกรัม) ผิวเป็นสีขาว ขาเป็นสีเทา ส่วนขนมีหลากหลายสีขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ลักษณะหงอนบนหัวเป็นทรงวีสวย เหนียงมีขนาดเล็กออกสีแดงสด ส่วนติ่งหูออกสีขาวและมีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งบางครั้งทั้งเหนียงและติ่งหูอาจจะถูกบดบังด้วยขนที่ฟูฟ่อง ส่วนลักษณะนิสัย ไก่โปแลนด์ค่อนข้างเงียบ สงบ ขี้อาย และเป็นมิตร แต่อาจจะมีพฤติกรรมแปลกๆ บ้าง เพราะหงอนไก่บนหัวบดบังการมองเห็น ทำให้ไก่มีพฤติกรรมประหลาด รู้สึกตื่นกลัวและตกใจง่ายกว่าปกตินั่นเอง หัวข้อ: Re: ไก่ออร์ลอฟฟ์ (Orloff Chicken) : เรื่องน่ารู้ ไก่ชนิดต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 สิงหาคม 2567 15:42:31 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/49047779912749_Russian_Orloff_in_winter_Copy_.jpg) ไก่ออร์ลอฟฟ์ (Orloff Chicken) ไก่ออร์ลอฟฟ์ (Orloff Chicken) มีถิ่นกำเนิดในรัสเซีย ไก่สายพันธุ์นี้ตั้งชื่อตามผู้พัฒนาสายพันธุ์ คือ อเล็ก กริกอรี่ ออร์ลอฟ (Alexei Grigoryevich Orlov) เคานท์ชาวรัสเซีย บางครั้งจึงเรียกว่า Russian Orloff หรือเรียกง่ายๆ ว่า Russian ไก่ออร์ลอฟฟ์ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๓.๖ กิโลกรัม (๗.๙ ปอนด์) ตัวเมียมีน้ำหนักประมาณ ๓ กก. (๖.๖ ปอนด์) ผิวออกเหลือง ออกไข่สีน้ำตาลอ่อน สีของขนและลายคล้ายนกกาเหว่า คือมีสีขนดำ, ขาว, แดงออกน้ำตาล มีหางสีดำแซมสีขาวและน้ำตาล มีติ่งหูอันเล็ก และเหนียงอันจิ๋ว ขนนุ่ม ที่หัวและคอมีขนหนามาก ทำให้ไก่ออร์ลอฟฟ์เป็นสายพันธุ์ที่ทนทานต่อความหนาวเย็น ไก่สายพันธุ์นี้ปรากฏตัวครั้งแรกในเปอร์เซีย และจำหน่ายไปทั่วยุโรปและเอเชียภายในศตวรรษที่ ๑๗ จนกลายเป็นไก่ที่รู้จักในโลกตะวันตกตามความพยายามของ อเล็ก กริกอรี่ ออร์ลอฟ 750 หัวข้อ: Re:ไก่โอนากาโดริ (Onagadori Chicken) : เรื่องน่ารู้ ไก่ชนิดต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 สิงหาคม 2567 16:03:28 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/92417118243045_Onagadori_04_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์โอนากาโดริ (ภาพจากเว็บไซต์ petmaya.com) ไก่พันธุ์โอนากาโดริ (Onagadori Chicken) ไก่พันธุ์โอนากาโดริ (Onagadori Chicken) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ "Long-tailed Chicken" เป็นไก่สายพันธุ์เก่าแก่ของญี่ปุ่น ที่มีต้นกำเนิดจากจังหวัดโคจิ ที่ตั้งอยู่บนเกาะชิโกกุ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ไก่พันธุ์โอนากาโดริ เป็นหนึ่งในบรรพบุรุษของสายพันธุ์เยอรมันฟีนิกซ์ ได้รับการอนุรักษ์พันธุ์นี้ไว้เป็นอย่างดี และถูกกำหนดให้เป็นสมบัติทางธรรมชาติแห่งชาติของญี่ปุ่น ในปี พ.ศ.๒๔๙๕ โดยทั่วไปไก่พันธุ์โอนากาโดริตัวโตเต็มที่มีน้ำหนัก ๑.๘ กิโลกรัม ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ลักษณะที่โดดเด่นของไก่สายพันธุ์นี้คือมีหางที่ยาวมากเฉลี่ยอยู่ที่ ๘๐-๑๐๐ เซนติเมตร ในอดีตมีการบันทึกความยาวหางไก่ได้ถึง ๑๓ เมตร และในปี ๒๐๑๓ วัดได้สูงสุดเพียง ๓.๖ เมตร โดยขนาดของหางที่สั้นลงเรื่อย ๆ นี้อาจเป็นผลมาจากปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน ไก่โอนากาโดริถูกจัดให้อยู่ในประเภทสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โดยเหลืออยู่ประมาณ ๒๕๐ ตัว หนึ่งในเหตุผลที่มันใกล้สูญพันธุ์ก็คือ ไก่โอนากาโดริจะวางไข่ประมาณ ๒๕ ฟองต่อปีเท่านั้น 750 หัวข้อ: Re: ไก่พันธุ์ฟาเวโรลส์ (Faverolles Chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 08 สิงหาคม 2567 13:20:13 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/87168253709872_Salmon_Faverolles_hen_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์ฟาเวโรลส์ (เว็บไซต์ thepeasantsdaughter.net ที่มาภาพ) ไก่พันธุ์ฟาเวโรลส์ (Faverolles Chicken) Faverolles Chicken เป็นไก่สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดใกล้กับหมู่บ้าน Houdan และ Faverolles ในประเทศฝรั่งเศส ที่ได้รับการพัฒนาในช่วงทศวรรษปี ๑๘๖๐ สายพันธุ์นี้ได้รับการตั้งชื่อตามชื่อของหมู่บ้าน แต่เดิมไก่พันธุ์ฟาเวโรลส์ได้รับการเพาะพันธุ์เพื่อเป็นไก่สำหรับการบริโภคทั้งเนื้อและไข่ ไก่ฟาเวโรลส์มีหนวดเครา เท้ามีขน และมีนิ้วเท้า ๕ นิ้วต่อเท้า แทนที่จะเป็น ๔ นิ้วตามปกติ มีขนสีน้ำตาลและสีขาวครีม ตัวผู้จะมีสีเข้มกว่า มีขนสีดำ สีน้ำตาล และสีฟาง มีลำตัวที่อวบอ้วน ขนฟู นุ่ม หางเป็นพุ่ม ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๕ กิโลกรัม ตัวเมียมีน้ำหนักประมาณ ๔.๓ กิโลกรัม นิสัยมีความอ่อนโยนและเป็นมิตร เพราะความอ่อนโยนของพวกมันและด้วยลักษณะที่สวยงามและความแปลก ฟาเวโรลเลสจึงกลายเป็นไก่พันธุ์ยอดนิยมที่เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสำหรับเด็ก ไก่ฟาเวโรลถือเป็นไก่ชั้นที่ดีมาก ได้รับการดูแลอย่างดี ปัจจุบันเลี้ยงไว้เพื่อการจัดแสดงให้คนทั่วไปได้ดูได้ชมเป็นหลัก Faverolles chicken - Wikipedia, the free encyclopedia (ที่มาข้อมูล) 700 หัวข้อ: Re: ไก่ฮูดาน (Houdan chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 08 สิงหาคม 2567 19:48:32 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/57641054607099_Houdan_Chicken_Copy_.jpg) ไก่ฮูดาน (https://www.roysfarm.com/houdan-chicken/ - ที่มาภาพ) ไก่ฮูดาน (Houdan chicken) ไก่ฮูดาน (Houdan_chicken) เป็นไก่บ้านเก่าแก่พันธุ์หนึ่งของฝรั่งเศส ไม่ปรากฎที่มาของสายพันธุ์ ชื่อ Houdan ตั้งตามพื้นที่แหล่งกำเนิดของสายพันธุ์ คือชุมชน Houdan ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัด อีฟว์ลีน (Yvelines) ในแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ (Région Île-de-France) ของประเทศฝรั่งเศส มันเป็นกลุ่มไก่หงอนขนาดเล็ก มีเครา มีหงอนคู่สีแดงคล้ายรูปผีเสื้อ ขนบนหัวคล้ายใบไม้พองฟูสวยงามมาก และมีนิ้วเท้าข้างละห้านิ้ว แทนที่จะเป็นสี่นิ้วตามปกติ ติ่งหูและเหนียงมีขนาดเล็กและอาจซ่อนไว้ในขน ขนมีสีดำลายขาวหรือจุดสีขาว ปัจจุบันมีสีอื่นๆ อีกสามสีที่ได้รับการยอมรับในฝรั่งเศส ได้แก่ สีดำ สีเทามุก และสีขาว ไก่ฮูดาน ถูกนำเข้าครั้งแรกในประเทศอังกฤษในปี พ.ศ.๒๓๙๓ และไปยังอเมริกาเหนือในปี พ.ศ.๒๔๐๘ ซึ่งปรากฏหลักฐานในหนังสือ American Standard of Perfection ในปี พ.ศ.๒๔๑๗ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก (ซึ่งเป็นหนังสือที่จำแนกและอธิบายลักษณะทางกายภาพ สี และลักษณะนิสัยมาตรฐานของสัตว์ปีกหลายสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับในสหรัฐอเมริกา รวมถึงไก่ เป็ด ไก่งวง ห่าน และไก่ต๊อก แต่ไม่ใช่นกพิราบ) ความหลากหลายของสีขนที่พบมากที่สุดและเป็นสีเดียวที่ได้รับการยอมรับในสหราชอาณาจักรคือ mottled ซึ่งเป็นรูปแบบของสีดำและมีจุดสีขาว ในอดีตมีรูปแบบจุดด่างดำที่เบากว่า อาจมีความคล้ายคลึงกับการผสมผสานระหว่างสีขาวและสีดำที่กระเซ็น แต่ในมาตรฐานสัตว์ปีกของยุโรป สีขนของไก่ฮูดานที่ได้รับการยอมรับได้แก่ สีดำจุด นกกาเหว่า สีเทามุก สีขาว รวมถึงสีน้ำเงินจุดและสีแดง Houdan chicken - Wikipedia, the free encyclopedia (ที่มาข้อมูล) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14304546432362_800px_Houdan_M_SDA2013_cropped.jpg) หงอนไก่ฮูดาน ลักษณะคล้ายผีเสื้อ Wikipedia, the free encyclopedia (ที่มาภาพ) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62601464531487_Houdan_Landing_Page_mobile_Cop.jpg) ลักษณะขนบนหัวของไก่ฮูดาน https://www.pipinchicksilkies.com/houdan-chickens (ที่มาภาพ) 700 หัวข้อ: Re: ไก่พันธุ์ สุลต่าน (Sultan Chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 11 สิงหาคม 2567 14:39:49 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62638273545437_A_White_Sultan_chicken_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์ สุลต่าน ไก่พันธุ์ สุลต่าน (Sultan Chicken) ไก่พันธุ์ สุลต่าน (Sultan Chicken) มักพบเห็นได้ยาก ไก่พันธุ์นี้มีถิ่นเดิมอยู่ที่ตะวันออกเฉียงใต้ แต่มาทำการผสมและคัดเลือกพันธุ์ที่ประเทศเตอร์กี และได้ชื่อ สุลต่าน ไก่พันธุ์นี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีในสวนของสุลต่านออตโตมัน มันเป็นที่โปรดปรานของพวกเตอร์กีชั้นปกครองประเทศ เพราะลักษณะที่น่าสนใจ เช่น มีขนประดับมากมาย มี Crest (หงอนขนาดใหญ่) มี Muff (ห้าแต้ม) และมี Beard (หนวดเครา) มีหางยาว และขนเท้าจำนวนมาก ขนบนหัวรูปตัว V ขนาดเล็กของพวกมันถูกซ่อนไว้เกือบทั้งหมดภายใต้ขนหงอนที่ฟูฟ่อง สุลต่านยังเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ส่วนน้อยที่มีนิ้วเท้าแต่ละข้าง ๕ นิ้ว โดยตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๒.๗ กิโลกรัม (๖ ปอนด์) และแม่ไก่ ๒ กิโลกรัม (๔ ปอนด์) พวกมันจึงเป็นไก่พันธุ์ที่เล็กที่สุดในบรรดาสายพันธุ์ไก่ขนาดใหญ่ และยังมีความเหมือนไก่แจ้ที่หน้าแข้งและนิ้วมากมาย แม่ไก่ให้ไข่ขนาดปานกลาง ไข่สีขาวขนาดเล็ก และโดยทั่วไปแล้วจะไม่ตกไข่ สุลต่านปรากฏในสามสายพันธุ์ ได้แก่ ดำ น้ำเงิน และขาว โดยสีขาวเป็นที่รู้จักมากที่สุด สายพันธุ์นี้ถูกส่งออกครั้งแรกจากประเทศบ้านเกิดในปี พ.ศ.๒๓๙๗ เมื่อนางเอลิซาเบธ วัตต์ส แห่งแฮมป์สตีด ลอนดอน นำฝูงแกะขนาดเล็กมายังอังกฤษ และพบเห็นในอเมริกาเหนือภายในปี พ.ศ.๒๔๑๐ ไก่พันธุ์ สุลต่าน (Sultan Chicken) ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ในมาตรฐานแห่งความสมบูรณ์แบบของสมาคมสัตว์ปีกแห่งอเมริกา (American Poultry Association's Standard of Perfection) ในปี พ.ศ.๒๔๑๗ -------------------------------------- อ้างอิง : - Sultan chicken From Wikipedia, the free encyclopedia - เว็บไซต์ สัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 700 หัวข้อ: Re: ไก่พันธุ์ สวาร์โธนา (Svarthöna chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 สิงหาคม 2567 20:19:48 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/93566022896104_1920px_Swedish_Black_Chicken_2.jpg) สวาร์โธนา, แม่ไก่ From Wikipedia, the free encyclopedia ไก่พันธุ์สวาร์โธนา (Svarthöna) ไก่พันธุ์ Svarthöna หรือ Swedish Black Rooster, Hen หรือ Chicken เป็นไก่พื้นเมืองของสวีเดน มีลักษณะคล้ายกับไก่สายพันธุ์อะยัมเซมานี (Ayam Cemani) มาก แต่มีขนาดค่อนข้างเล็ก และถือว่า "Svarthöna" มีต้นกำเนิดมาจากไก่สายพันธุ์ Ayam Cemani ไก่สายพันธุ์หายากของประเทศอินโดนีเซีย และ Kadaknath หรือที่เรียกว่า Kali Masi ไก่สายพันธุ์อินเดีย ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Dhar และ Jhabua รัฐมัธยประเทศ ในประเทศอินเดียตอนกลาง โดย Svarthöna ถูกขนส่งจากโมซัมบิกไปยังนอร์เวย์โดยลูกเรือในช่วงศตวรรษที่ ๑๗ ตั้งแต่นั้นมา Svarthöna ก็ได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศทางยุโรปเหนือ แต่ยังคงรักษาคุณภาพของผิวสีดำและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หาได้ยากเอาไว้ Svarthöna มีสีดำสนิทโดดเด่น พบที่ขนที่มีอยู่หนาแน่น ที่ผิวหนัง และเนื้อเยื่อ ไหล่โค้งมนไม่แบน ปีกขนาดกลางชี้ลงเล็กน้อย ช่วงคอสั้นแข็งแรง ใบหน้าเรียบเนียนไร้ขน เหนียงใต้คอค่อนข้างเล็ก ขาและเท้าไม่มีขน มีนิ้ว ๔ นิ้ว จัดอยู่ในประเภทไก่ขนาดเล็ก แข็งแรง นิสัยสงบ เป็นนักล่าที่ยอดเยี่ยม และมีความสามารถในการบินอยู่บ้าง โดยเพศผู้มีน้ำหนักได้ถึง ๒ กิโลกรัม ในขณะที่แม่ไก่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑.๕ กิโลกรัม สีของเปลือกไข่ขาวนวล ขนาดเล็ก (ประมาณ ๓๘-๔๘ กรัม) มีไข่แดงขนาดใหญ่ ปัจจุบัน ไก่ Svarthöna พบเห็นได้ยากมาก และการสำรวจสำมะโนสัตว์ปีกแห่งชาติในสวีเดนยืนยันว่ามีแม่ไก่สวีเดน (Svarthöna Hen) น้อยกว่า ๕๐๐ ตัว หัวข้อ: Re: ไก่ไวแอนดอท (Wyandotte Chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 สิงหาคม 2567 18:22:45 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/46057033456034_Silver_laced_Wyandotte_rooster.jpg) ไก่ไวแอนดอท (Wyandotte) ไก่พันธุ์ไวแอนดอท (Wyandotte) ไก่ไวแอนดอท (Wyandotte) เป็นไก่ที่มีถิ่นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา เดิมเรียกว่า Sebright Cochin หรือ American Sebright ไม่ทราบที่มาของสายพันธุ์ แต่คาดว่ามาจากการผสมข้ามสายพันธุ์ของฮัมบูร์กที่มีขนแพรวพราวและสีเข้ม และบราห์มาที่มีลวดลายสีสันสะดุดตา ซึ่งได้รับการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ขึ้นในช่วงทศวรรษปี ๑๘๗๐ โดยบุคคลสี่คน ได้แก่ H. M. Doubleday, John Ray, L. Whittaker และ Fred Houdlette และได้รับการตั้งชื่อตามชนเผ่าพื้นเมือง Wyandot ในทวีปอเมริกาเหนือ ไวแอนดอตต์เป็นไก่อเนกประสงค์ที่เลี้ยงไว้เพื่อการบริโภคเนื้อและไข่ แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามจึงนิยมเลี้ยงไว้เป็นไก่สวยงาม เพื่อความเพลิดเพลินอีกด้วย ไก่ Wyandotte ผสมทอง เกิดจากการผสมพันธุ์แม่ไก่พันธุ์เงินผสมพันธุ์กับไก่พันธุ์ฮัมบูร์กพันธุ์ทองและนกกระทา ไก่พันธุ์ Wyandotte สีขาวเป็นประเภทพันธุ์ผสมเงิน และพันธุ์หนังควายมาจากการผสมข้ามพันธุ์ไก่พันธุ์เงินผสมพันธุ์กับพันธุ์โคชินหนังควาย สีดำก็เป็นไก่เพื่อการกีฬาเช่นกัน มีทั้งเชือกเงินและเชือกทอง ไวแอนดอตต์เป็นไก่ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยมีน้ำหนักที่โตเต็มวัยอยู่ระหว่าง ๒.๗ ถึง ๔ กิโลกรัม (๖ ถึง ๙ ปอนด์) ลำตัวมีความยาวปานกลาง หลังกว้าง และมีอกที่ลึก อิ่มและโค้งมน มีขาที่เกลี้ยงเกลาและค่อนข้างขนชิด มีกะโหลกกว้าง มีหงอนคล้ายดอกกุหลาบ ผิวหนังและขามีสีเหลือง ติ่งหู ใบหน้า และเหนียงมีสีแดง เปลือกไข่สีน้ำตาล ไก่จะโตเร็วปานกลาง สถานะการอนุรักษ์ : ไม่อยู่ในระดับความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการสูญพันธุ์ ข้อมูล/ภาพ : From Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: : ไก่พันธุ์ อัพเพนเซลล์ สปิตเซาเบน : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 สิงหาคม 2567 19:27:18 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/78909270713726_800px_Appenzeller_Spitzhauben_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/74781278479430_Appenzeller_Spitzhauben1_PSR_c.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/12464715416232_1280px_Appenzeller_Spitzhauben.jpg) ไก่พันธุ์ อัพเพนเซลล์ สปิตเซาเบน (Appenzeller Spitzhauben) ไก่พันธุ์อัพเพนเซลล์ สปิตเซาเบน (Appenzeller Spitzhauben) ไก่ Appenzeller Spitzhauben เป็นไก่หงอนพันธุ์สวิสที่มีต้นกำเนิดในอัพเพนเซลล์ (Appenzell) ภูมิภาคอันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในสองสายพันธุ์ของไก่จากพื้นที่นั้น ซึ่งอีกพันธุ์หนึ่งคือ Appenzeller Barthuhn ไม่ทราบต้นกำเนิดของสายพันธุ์ Spitzhauben แต่เป็นไก่ที่ได้รับการเลี้ยงดูบนภูเขาของภูมิภาคอัพเพนเซลล์ มาหลายร้อยปีแล้ว สายพันธุ์ที่คล้ายกันคือ Brabanter of the Low Countrys หลักฐานปรากฏในภาพวาดของศตวรรษที่ ๑๗ มีการเสนอว่า Spitzhausen อาจมีต้นกำเนิดในช่วงเวลานั้น ในศตวรรษที่ ๒๐ พบเฉพาะในภูมิภาคอัพเพนเซลล์ ของสวิตเซอร์แลนด์ และเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๙๓ ไก่พันธุ์ Appenzeller Spitzhausen ก็ใกล้สูญพันธุ์แล้ว จึงมีโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูพันธุ์ ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี ๑๙๘๓ ด้วยความช่วยเหลือของ ProSpecieRara ในปีนั้นมีลูกไก่ฟักออกมา ๒๓๐ ตัว และมีการบันทึกไว้ว่า ในปี ๒๐๑๙ มีแม่ไก่ ๒๔๓ ตัว และไก่ตัวผู้ ๑๕๓ ตัว Spitzhausen ที่แพรวพราวเงินเป็นพันธุ์ที่พบมากที่สุด อัพเพนเซลล์ สปิตเซาเบน เป็นไก่ขนาดเล็ก มีน้ำหนักเพียง ๑.๕ กิโลกรัมเท่านั้น ไก่อาจวางไข่เปลือกขาวได้ประมาณ ๑๕๐ ฟองในปีแรก โดยมีน้ำหนักเฉลี่ย ๕๕ กรัม สายพันธุ์นี้มีความกระตือรือร้น แข็งแรง หากินเก่ง เจริญเติบโตได้ไม่ดีในที่จำกัด และจะเกาะอยู่บนต้นไม้หากมีโอกาส ในอเมริกาเหนือ พบได้ยากมาก และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก American Poultry Association และสำนักทะเบียนสายพันธุ์อื่นๆ พันธุ์สปิตเซาเบน Spitzhauben มีความหมายว่า "หมวกปลายแหลม" มีหงอนรูปตัววีและหงอนขนนกทั้งตัวผู้และตัวเมีย คำว่า 'spitzhauben' มาจากหมวกสำหรับพิธีการที่ผู้หญิงสวมใส่ในภูมิภาคอัพเพนเซลเลอร์ในสวิตเซอร์แลนด์ สายพันธุ์นี้ถูกนำเข้ามาในอเมริกา โดยแพทย์ Spitzhausen และได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการ EE Standard ในสีต่อไปนี้: แพรวสีเงิน แพรวพราวทอง แพรวพราวเลมอน เลียงผาแพรวพราว สีดำล้วน และสีน้ำเงินบริสุทธิ์ สถานะการอนุรักษ์ : อยู่ในระดับความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการสูญพันธุ์ (2022) ข้อมูล/ภาพ : From Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่เซรามา (Serama) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 สิงหาคม 2567 17:07:26 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/76652966232763_800px_Fidel_a_Jerry_Schexnayde.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/30018003077970_800px_Serama_Rooster091_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์เซรามา (Serama Chicken) ไก่พันธุ์เซรามา (Serama Chicken) ไก่แจ้ที่เล็กที่สุดในโลก ไก่เซรามา (Serama) หรือ เซรามา มาเลเซีย (Malaysian Serama) เป็นไก่แจ้สายพันธุ์พื้นเมืองมาเลเซียที่สง่างามที่สุด มีต้นกำเนิดในรัฐกลันตันของมาเลเซีย เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างไก่แจ้ญี่ปุ่นและมาเลเซีย ตามประวัติกล่าวว่า มาจากการถวายไก่ตัวเล็กๆ ของกษัตริย์ไทยแก่สุลต่านในสมัยโบราณ ไก่ตัวเล็กๆ นี้จึงเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในบริเวณนี้มาโดยตลอด และมักเรียกกันว่า "อะยัม กาติก" (ไก่แคระ) และ "อะยัม กันติค" (ไก่น่ารัก) ต่อมาได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ไก่แจ้สายพันธุ์ใหม่นี้ขึ้นในปี ๑๙๙๐ สายพันธุ์ใหม่มาจากความพยายามของ วี เย็น เอน จากรัฐกลันตัน และตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า "เซรามา" ตามชื่อพระราม ซึ่งเป็นชื่อกษัตริย์แห่งประเทศไทย ลักษณะเด่นของไก่สายพันธุ์นี้ คือ เป็นสายพันธุ์ไก่ที่เล็กที่สุดในโลก เป็นไก่ที่มีหน้าอกเต็ม มีปีกที่ค่อนข้างใหญ่ หงอนหวีเดี่ยวหรือรูปดอกกุหลาบ ขนรูปเคียวค่อนข้างตรงและมีลักษณะคล้ายหอก ยาวกว่าขนหาง มีหางเต็มและยกสูง ชี้ขึ้นไปและแนบชิดกับลำตัวโดยไม่มีช่องว่างระหว่างลำตัวกับหาง ท่าทางดูสง่า ขนหางตั้งตรงและแน่นจนถึงลำตัว และปีกแนวตั้งชูลงจนเกือบแตะพื้น เซรามามีท่าทางที่แน่วแน่และมั่นใจ แต่มีความสงบ ไม่แสดงท่าทีก้าวร้าว และเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นได้ว่ามีโครงร่างลักษณะคล้ายแจกัน หรือรูปตัว 'V' ที่กว้าง เป็นไก่ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงโดยยกหน้าอกขึ้นสูง ทำกิริยาเขย่าปีก ทำท่าเดินไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับการดึงศีรษะไปด้านหลังเพื่อเผยให้เห็นหน้าอกใหญ่ บางขณะจะยกขาขึ้น และในบางครั้งก็มีการสั่นคอและศีรษะคล้ายกับนกพิราบ ไก่เซรามา (Serama) จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นนักรบผู้กล้าหาญและไก่เทวทูต เนื่องจากมีลักษณะพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ (นักรบผู้องอาจ) Seramas เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักต่ำกว่า ๕๐๐ กรัม (๑๘ ออนซ์) (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง ๒๕๐-๕๐๐ กรัมเท่านั้น) ด้วยลักษณะของขนาด พฤติกรรมน่ารัก และสวยงาม ไก่เซรามาจึงถูกเลี้ยงเพื่อส่งเข้าประกวด ในการแข่งขันแบบเปิดบนโต๊ะ (มักเรียกว่า "การประกวดความงาม") และให้คะแนนโดยกรรมการหลายคน รางวัลสำหรับไก่ที่ชนะอาจเป็นเงินจำนวนมาก ข้อมูล/ภาพ : From Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่สเปนหน้าขาวดำ white-faced black Spanish : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 สิงหาคม 2567 11:18:40 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36557184904813_White_faced_black_spanish_Copy.jpg) ไก่สเปนหน้าขาวดำ (white-faced black Spanish Chicken) ไก่สเปนหน้าขาวดำ (white-faced black Spanish) ไก่สเปนหน้าขาวดำ Spanish หรือ White-faced Black Spanish หรือ Española Cara Blanca เป็นสายพันธุ์ของไก่พื้นเมืองที่มีต้นกำเนิดในสเปน เป็นสายพันธุ์ที่มีอายุมากกว่าพันธุ์ไมนอร์ก้า ในศตวรรษที่ ๑๘ ได้ถูกนำไปขยายพันธุ์ในบริเตนใหญ่ ปัจจุบันจัดเป็นไก่พันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันแพร่หลายไปทั่วโลกแต่พบได้ยากในสเปน ไก่พันธุ์นี้ได้รับการบันทึกสายพันธุ์อย่างเป็นทางการ ตามมาตรฐานสมบูรณ์แบบฉบับอเมริกัน ของสมาคมสัตว์ปีกอเมริกัน (American Poultry Association) เมื่อปี ๑๘๗๔ ไก่สเปนหน้าขาวดำ มีขนสีดำมันวาว นุ่ม เบา ลักษณะเด่นที่สุดคือติ่งหูสีขาวที่ใหญ่มากและห้อยต่ำ มีหงอนหวีเดี่ยว ขาไม่มีขน มีสี่นิ้วเท้า ไก่ตัวผู้มีน้ำหนัก ๒.๕ - ๓ กิโลกรัม ไก่ตัวเมียมีน้ำหนัก ๒ - ๒.๕ กิโลกรัม แม่ไก่จะวางไข่ซึ่งมีเปลือกไข่สีขาว ขาวปีละ ๑๖๐-๑๘๐ ฟอง โดยมีน้ำหนักประมาณ ๘๐ กรัม ข้อมูล/ภาพ : From Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่ซิลกี้ (Silkies Chicken)เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 สิงหาคม 2567 12:34:23 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/68626603856682_Male_Silkie_Copy_.png) ไก่ซิลกี้ (Silkies Chicken) ไก่ซิลกี้ (Silkies Chicken) ซิลกี้เป็นไก่สายพันธุ์ที่ตั้งชื่อตามขนซึ่งว่ากันว่าเหมือนผ้าไหมและผ้าซาติน ที่มีความนุ่ม ฟู ไก่สายพันธุ์นี้มีลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่น เช่น มีผิวหนัง/กระดูกสีดำหรือสีน้ำเงิน และเนื้อสีเทาอมดำ พวกมันอยู่ในกลุ่มไก่จีนที่รู้จักกันในชื่อภาษาจีนว่า wu gu ji แปลว่า "ไก่กระดูกดำ" มีติ่งหูสีฟ้า มีขนอยู่ใต้จงอยปาก และนิ้วเท้าแต่ละข้างมี ๕ นิ้ว ในขณะที่ไก่ส่วนใหญ่มีเพียง ๔ นิ้วเท่านั้น ส่วนสีของขนมีทั้งแบบสีเดียว สีผสม และลาย ซิลกี้ (Marco Silkie) เป็นไก่สวยงาม เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน ไม่นิยมเลี้ยงเพื่อกินเนื้อ หรือเก็บไข่ และพวกมันมักจะถูกนำไปโชว์ในงานแสดงสัตว์ปีก Silkies ยังมีชื่อเสียงในด้านนิสัยสงบและเป็นมิตร เป็นสัตว์ปีกที่เชื่องที่สุดชนิดหนึ่ง ไก่ยังมีความเป็นพ่อแม่เป็นพิเศษในการดูแลลูกได้ดี Silkies วางไข่ทีมีเปลือกไข่สีครีมเพียงประมาณสามฟองต่อสัปดาห์ แต่พวกมันมักถูกนำไข่ที่จะฟักไปผสมกับสายพันธุ์อื่น เนื่องจากธรรมชาติของพวกมัน สามารถได้รับการผสมพันธุ์ให้มีสีที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ: สีดำ สีฟ้า สีน้ำตาลอมเหลือง นกกระทา สแปลช สีขาว ลาเวนเดอร์ สีทา และพอร์ซเลน ต้นกำเนิดของไก่ Silkies ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าไก่เหล่านี้ปรากฏตัวครั้งแรกที่ไหนหรือเมื่อใด แต่จุดกำเนิดที่ได้รับการบันทึกไว้ที่ชัดเจนที่สุดคือ เอกสารจีนโบราณ สถานที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการขนานนามว่าเป็นไปได้ เช่น อินเดียและชวา เรื่องราวที่เป็นลายลักษณ์อักษรตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดที่ ของ Silkies มาจาก Marco Polo ผู้เขียนเกี่ยวกับไก่ "ขนยาว" ในศตวรรษที่ ๑๓ ระหว่างการเดินทางในเอเชีย ในปี ค.ศ.๑๕๙๘ Ulisse Aldrovandi นักเขียนและนักธรรมชาติวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโบโลญญา ประเทศอิตาลี ได้ตีพิมพ์บทความที่ครอบคลุมเกี่ยวกับไก่ ซึ่งยังคงมีให้อ่านอยู่จนทุกวันนี้ ในนั้นเขากล่าวถึง "ไก่ขนขน" และไก่ที่ "มีขนเหมือนแมวดำ" Silkies ถูกจัดเป็นสายพันธุ์ไก่แจ้ในบางประเทศ แต่จะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และมาตรฐานสายพันธุ์หลายแห่งจัดว่าเป็นไก่ตัวใหญ่อย่างเป็นทางการ ไก่ Silkie สายพันธุ์อเมริกาเหนือเกือบทั้งหมดมีขนาดเท่าไก่แจ้ แต่ในยุโรปขนาดมาตรฐานคือขนาดดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม แม้แต่ซิลกี้มาตรฐานก็เป็นไก่ที่ค่อนข้างเล็ก โดยตัวผู้มีน้ำหนักเพียง ๑.๘ กิโลกรัม (๔ ปอนด์) และตัวเมียมีน้ำหนัก ๑.๔ กิโลกรัม (๓ ปอนด์) เท่านั้น ข้อมูล/ภาพ : From Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่ฮอลแลนด์ (Holland chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 28 สิงหาคม 2567 19:05:14 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/64932861841387_HollandwPullet_600x600_Copy_.jpg) ไก่ฮอลแลนด์ ไก่อเมริกันสายพันธุ์ที่หายากที่สุด (ภาพจาก https://livestockconservancy.org) ไก่ฮอลแลนด์ (Holland chicken) ฮอลแลนด์ เป็นไก่ขนาดใหญ่สายพันธุ์ที่ค่อนข้างหายาก มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา ที่เรียกว่า "ฮอลแลนด์" คำตอบอยู่ที่บรรพบุรุษของสายพันธุ์ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์เริ่มต้นด้วยการนำเข้าจากประเทศฮอลแลนด์และนำไปพัฒนาสายพันธ์ โดยผสมกับพันธุ์ White Leghorn, Rhode Island Red, New Hampshire และ Lamona ที่ฟาร์มเพาะพันธุ์รัทเกอร์ส ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ จนได้พันธุ์ไก่ White Holland Barred ไก่ฮอลแลนด์ มีขนสีขาว ปลายขนสีเข้มรูปหยัก คดไปโค้งมา - สีผิว ข้อขา และนิ้ว เป็นสีเหลือง - ใบหน้า หงอน และเหนียง เป็นสีแดงสด จะงอยปากสีเหลืองอ่อน น้ำหนักโตเต็มที่ของตัวผู้ประมาณ ๓.๙ กิโลกรัม แม่ไก่ ๓ กิโลกรัม ไก่ให้ผลผลิตไข่ที่มีสีขาว ขนาดกลาง-ใหญ่ ประมาณ ๒๐๐-๒๔๐ ฟองต่อปี วัตถุประสงค์ของการเลี้ยงเพื่อการบริโภคไข่และเนื้อ ไก่ฮอลแลนด์ เป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างอดทนต่อความหนาวเย็น แม้ว่าในช่วงที่อากาศหนาวจัด เลี้ยงดูง่าย มีสุขภาพดี นิสัยร่าเริง ไม่ส่งเสียงดัง และชอบมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ ดังนั้น พวกมันจึงมักถูกเลี้ยงไว้ในบริเวณหลังบ้าน ไก่สายพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับจาก American Poultry Association Standard of Perfection ในปี ๑๙๔๙ หัวข้อ: Re: ไก่ลา เฟลช (La Flèche chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 28 สิงหาคม 2567 19:41:12 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/63719231138626_Poule_de_La_Fl_che_cropped_Cop.jpg) ไก่ลา เฟลช (La Flèche chicken) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/28540658040179_Tab17_H_hner_Gefl_gel_Album_Je.jpg) ไก่ลา เฟลช (La Flèche chicken) ไก่ลา เฟลช (La Flèche chicken) เป็นไก่บ้านสายพันธุ์ฝรั่งเศสที่หายาก มีต้นกำเนิดมาจากทางแยกของแม่น้ำซาร์ต (Sarthe) ในภูมิภาคเปเดอลาลัวร์ (Pays de la Loire) และได้รับการตั้งชื่อสายพันธุ์ตามชื่อเมืองและชุมชนของลา เฟลช (La Flèche) ในพื้นที่นั้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของชาร์ต (Sarthe) นั่นคือ เลอ ม็อง (Le Mans) สายพันธุ์นี้เคยมีชื่อเสียงด้านเนื้อไก่ที่มีคุณภาพดี ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง สถิติก็ลดลงต่ำมาก ไก่สายพันธุ์นี้ มีผิวสีขาว หงอนแนวตั้งหนามแหลม ๒ อัน หน้าและเหนียงสีแดง หูสีขาว ปากสีน้ำตาลอ่อน ข้อขาและนิ้วสีเทา ตัวผู้มีน้ำหนักระหว่าง ๓.๕ – ๔ กิโลกรัม ตัวเมียหนัก ๓ – ๓.๕ กิโลกรัม วัตถุประสงค์หลักของการเลี้ยงไก่สายพันธุ์นี้ คือ เพื่อการบริโภคเนื้อและไข่ ซึ่งไก่สามารถวางไข่ซึ่งมีเปลือกสีขาวได้ประมาณ ๑๘๐ ฟองต่อปี โดยมีน้ำหนักเฉลี่ย ๖๐ กรัม/ฟอง ข้อมูล/ภาพ : From Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่เบลเยียม เดออัคเคิล (Belgian d'Uccle) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 31 สิงหาคม 2567 20:02:07 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/23901825232638_7E5DD286_D08E_4279_9399_022936.jpeg) ไก่แจ้ เบลเยียม เดออัคเคิล (ภาพจาก https://sunsetvalleychicks.com) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/30356071806616_Belgian_d_Uccles_in_various_co.jpg) ไก่แจ้ เบลเยียม เดออัคเคิล Belgian d'Uccle chicken Belgian d'Uccle หรือ Barbu d'Uccle เป็นไก่แจ้ขนาดเล็กมาก ลักษณะเด่นคือ มีขนที่ข้อขายาวและหนามาก เป็นหนึ่งในสิบเอ็ดสายพันธุ์ของไก่แจ้พันธุ์แท้ในประเทศเบลเยียม น้ำหนักโดยเฉลี่ยของเพศผู้ ๗๕๐ กรัม ตัวเมีย ๖๕๐ กรัม มีต้นกำเนิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ โดย Michael Van Gelder ชาวเมืองอุกล์ หรือ อัคเคิล (Uccle) เทศบาลในเขตเมืองหลวงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในช่วงต้นศตวรรษที่ ๒๐ และไม่ทราบแน่ชัดว่าเขาได้นำไปผสมข้ามพันธุ์กับไก่แจ้ Sabelpoot และ Barbu d'Anvers ที่มีอยู่แล้วหรือไม่ Belgian d'Uccle ถูกนำแสดงโชว์ครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๔๘ สีที่เพาะพันธุ์ได้ครั้งแรกคือ มิลล์เฟลอร์ (Millefleurs - ลายดอก) และสี porcelain (สีกระเบื้องพอร์ซเลน) แต่ในไม่ช้าก็มีการผสมพันธุ์ได้สีสันเพิ่มขึ้นมาอีก ได้แก่ สีดำ และลายนกกาเหว่า (ลายสีดำปนน้ำตาล) ในปี พ.ศ.๒๔๕๒ สายพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างดี Belgian d'Uccle ถูกส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๕๔ และในศตวรรษที่ ๒๑ สถานะการอนุรักษ์ของสายพันธุ์นี้ถูกระบุว่า "วิกฤต" แต่ยังคงครองอันดับไก่แจ้พันธุ์แท้จริงที่มีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศเบลเยียม ข้อมูล From Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่ครีวีเคอร์ Crèvecour Chicken : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 01 กันยายน 2567 12:59:03 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/92678200991617_image_asset_Copy_.jpeg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62617551245623_Crevecoeur_chicken_Copy_.jpg) ไก่ครีวีเคอร์ ไก่ครีวีเคอร์ Crevecoeur (Crèvecour) Chicken ไก่ครีวีเคอร์ เป็นไก่หงอนพันธุ์เก่าแก่ของฝรั่งเศสที่ใกล้สูญพันธุ์ จากพื้นที่ Pays d'Auge ในจังหวัดกาลวาโดส (Calvados) แคว้นนอร์ม็องดี (Normandy) ประเทศฝรั่งเศส ไก่พันธุ์นี้ถูกตั้งชื่อตามชื่อชุมชน Crèvecoeur-en-Auge เชื่อว่าไก่ครีวีเคอร์มีสายพันธุ์เกี่ยวข้องกับไก่ลาเฟลชและสายพันธุ์นอร์มันอื่น เช่น Caumont, Caux และ Pavilly ที่สูญพันธุ์ Merlerault เดิมถือว่าเป็นประเภทย่อยของ Crèvecoeur ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง ไก่ครีวีเคอร์ได้รับผลกระทบของสงครามต่อชีวิตจนทำให้เกือบจะสูญพันธุ์ไป แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีการฟื้นตัวเริ่มขึ้นในปี ๑๙๗๖ โดย Jean-Claude Périquet ซึ่งในปี พ.ศ.๒๕๓๘ มีรายงานว่ามีจำนวนไก่ครีวีเคอร์อยู่ระหว่าง ๑๐๐ ถึง ๑,๐๐๐ ตัว และในปี พ.ศ.๒๕๕๐ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) จัดประเภทสายพันธุ์นี้ว่าเป็น "สัตว์ใกล้สูญพันธุ์" ไก่ครีวีเคอร์ มีหงอนคล้ายกับพันธุ์ฮูดอง (Houdan) แตกต่างจากฮูดองตรงที่มีสี่นิ้วและมีหงอนรูปตัววีเหมือนกับพันธุ์ La Flèche มีขนนุ่ม ใบหน้า หงอน ติ่งหู และเหนียง มีสีแดงสด ข้อขาและเท้าเป็นสีน้ำเงินหรือสีดำ จะงอยปากมีสีเข้ม ดวงตาอาจเป็นสีแดงหรือบางตัวเป็นสีดำ เปลือกไข่มีสีขาว มีน้ำหนักประมาณ ๕๕ กรัม สีของขนส่วนใหญ่เป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีเดียวที่ได้รับการยอมรับในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา และยังมีสีอื่นอีกสามสีที่ได้รับการยอมรับในประเทศฝรั่งเศส ได้แก่ สีน้ำเงิน สีขาว สีลายนกกาเหว่า น้ำหนักมาตรฐานของไก่ครีวีเคอร์ ตัวผู้ ๓ - ๓.๕ กิโลกรัม ตัวเมีย ๒.๕ – ๓ กิโลกรัม ถ้าเป็นพันธุ์เล็ก (ไก่แจ้) ตัวผู้หนักประมาณ ๑.๑ กิโลกรัม ตัวเมีย ๙๐๐ กรัม เดิม ไก่ครีวีเคอร์เลี้ยงไว้เพื่ออเนกประสงค์ คือ เลี้ยงเพื่อการบริโภคไข่และเนื้อซึ่งมีคุณภาพสูง ปัจจุบันได้รับการเลี้ยงดูเพื่อการจัดแสดงสัตว์ปีกเป็นหลัก ------------------------------------ From : Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่เลคบาร์ (Legbar Chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 กันยายน 2567 19:44:37 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/50570000252789_Cream_Legbar_Copy_.jpg) ไก่เลคบาร์ ไก่เลคบาร์ Legbar Chicken ไก่เลคบาร์ (Legbar Chilken) เป็นไก่สายพันธุ์ของประเทศอังกฤษ พวกมันเกิดจากวิวัฒนาของการผสมเทียมข้ามสายพันธุ์ขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ ๒๐ โดย เรจินัลด์ ครันดัลล์ ปันเน็ตต์ (Reginald Crundall Punnett) และ ไมเคิล พีส (Michael Pease) ที่สถาบันพันธุกรรมแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Genetical Institute of Cambridge University) โดยนำน้ำเชื้อของไก่พันธุ์อเมริกัน พลีมัทร็อค (Plymouth Rock) ผสมกับไก่พันธุ์ เลกฮอร์น (Leghorns) สีน้ำตาล ซึ่งในเวลานั้นเป็นไก่สายพันธุ์หลักที่เลี้ยงไว้เพื่อต้องการผลผลิตจากไข่ และสร้างพันธุ์ที่มีสีทอง สีเงิน และแบบครีมโดยการผสมข้ามสายพันธุ์กับเลคฮอร์น สีขาว ในเวลาต่อมาได้ทำการผสมข้ามพันธุ์กับไก่อะรอคานา(Araucanas) ซึ่งเป็นไก่ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศชิลี และวางไข่ที่มีเปลือกสีฟ้า ทำให้ Legbar เกิดหงอนและวางไข่สีน้ำเงินหรือสีน้ำเงินเขียว เลคบาร์ สีครีม เกิดจากการทดลองผสมข้ามสายพันธุ์ได้โดยบังเอิญ ของไก่พันธุ์ Legbars ทองคำกับน้ำเชื้อตัวผู้ของไก่เลคฮอร์น ทำให้ไมเคิล พีส ได้ไก่เลคบาร์ สีครีมมาบ้าง แต่ไม่มีหงอน วางไข่มีเปลือกสีขาว และเมื่อได้ทดลองผสมพันธุ์เหล่านี้กับอะราวคานาสีครีมจากห้องทดลองของปันเน็ตต์ ทำให้เกิดเลกบาร์สีครีม ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถผสมพันธุ์เลคบาร์ ได้หลากหลายสี แต่ทั้ง Legbar และ Cream Legbar ถือเป็นสายพันธุ์ที่แยกจากกัน ไก่เลคบาร์มีหงอนขนาดใหญ่หงอนเดียว น้ำหนักของตัวผู้โดยเฉลี่ย ๒.๗ - ๓.๔ กิโลกรัม ตัวเมีย ๒.๐ - ๒.๗ กิโลกรัม ไก่เลคบาร์สีขาว ออกไข่มีเปลือกสีขาว ส่วนเลคบาร์สีครีม มีหงอน ออกไข่มีเปลือกสีน้ำเงิน มะกอก หรือสีเขียว ไก่อาจให้ไข่ได้ ๑๘๐ ฟองขึ้นไปต่อปี ขนมีสามสี ได้แก่ สีทอง สีเงิน และสีครีม ซึ่งสโมสรสัตว์ปีกแห่งบริเตนใหญ่ (Poultry Club of Great Britain) และสมาคม Autosexing Breeds Association จัดความสำคัญให้เลกบาร์ เป็นไก่สายพันธุ์หายาก ------------------------------------ From : Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่อาเรากาน่า (Araucana Chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 07 กันยายน 2567 15:00:19 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/26310194780429_176316763_10159019288467226_42.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/71768284547660_999701_10151721376187226_14426.jpg) ไก่อาเรากาน่า ไก่อาเรากาน่า Araucana Chicken ไก่อาเรากาน่า (Araucana) หรือในภาษาสเปนเรียกว่า กัลลินา มาปูเช่ (Gallina Mapuche) เป็นไก่พันธุ์พื้นบ้านจากประเทศชิลี ชื่อของมันมาจากแคว้นอาเรากานิอา Araucanía ของชิลี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นกำเนิดของไก่พันธุ์นี้ ไก่อาเรากาน่า เป็นไก่ที่มีขนเบา นุ่ม วางไข่เปลือกสีน้ำเงิน สีฟ้า หรือเขียวอมฟ้าอ่อนๆ จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่สายพันธุ์ของไก่ที่ให้ไข่มีสีแตกต่างไปจากไก่ชนิดอื่น บริเวณด้านข้างของใบหน้าจะมีขนยาวปุกปุยแผ่ออกด้านข้าง (คล้ายเด็กมัดผมแกละทั้งสองข้าง) ไก่ตัวผู้มีน้ำหนัก ๒.๗ - ๓.๒ กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าหนัก ๒.๓ – ๒.๗ กิโลกรัม และวางไข่ประมาณ ๒๕๐ ฟองต่อไป อย่างไรก็ตาม มาตรฐานการผสมพันธุ์ของไก่อาเรากาน่า มีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ มันอาจมีขนกระจุกผิดปกติที่หู และอาจไม่มีขน ไม่มีหางและกระดูกก้นกบ ด้วยเหตุนี้ ในสหรัฐอเมริกา จึงอาจเป็นที่รู้จักในชื่อ South American Rumpless พันธุ์ที่ไม่มีขนที่ยุ่งเหยิงที่กระจุกหูทั้งสองข้าง ------------------------------------ From : Wikipedia, the free encyclopedia Image source : Fb.สำรวจโลก 750 หัวข้อ: Re: ไก่แบนตัม (ไก่แจ้พม่า) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 10 กันยายน 2567 19:53:47 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/49450840387079_62e05e81146a65001fd97a41_Copy_.jpg) ไก่แจ้พม่า ภาพจาก https://vocal.media/petlife/chickens-in-the-coop ไก่แบนตัม (ไก่แจ้พม่า) Burmese Bantam ไก่แบนตัม -ไก่แจ้พม่า (Burmese Bantam) มีต้นกำเนิดในประเทศพม่า หรือ เมียนมา ในช่วงหลังของศตวรรษที่ ๑๙ เมื่อถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็คาดว่าไก่พันธุ์นี้น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว จนกระทั่งในปี ๑๙๗๐ พบว่ายังมีไก่แจ้พม่าที่ยังรอดชีวิต จึงมีการเอาใจใส่เลี้ยงดูเพื่อขยายพันธุ์ และนำไปผสมพันธุ์กับไก่แจ้บูตแบนตัม (Booted Bantams) สีขาว เพื่อสร้างสายพันธุ์ใหม่ ไก่แจ้พม่า เป็นไก่ขนาดเล็กและไม่มีพันธุ์ขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวผู้ประมาณ ๕๗๐ กรัม ตัวเมียหนักประมาณ ๔๕๐ กรัม ไม่มีหงอน แต่มีขนบนหัวฟูสวยงาม ติ่งหูมีขนาดเล็กสีขาว เหนียงสีแดงเล็กๆ ขาสีเหลืองสดใสและมีขนตรงข้อขาห้อยยาวคลุมถึงนิ้ว ขนมีสีสันหลากหลาย อาจเป็นสีดำ สีขาว สีฟ้า และบางตัวอาจมีลาย ไข่ไก่มีสีขาว และแม่ไก่อาจออกไข่ได้ประมาณสามฟองต่อสัปดาห์ ไก่เหล่านี้มีท่าทางตั้งตรง และหากตกใจก็จะยืนกระโดด เป็นไก่ที่สงบ เป็นมิตร ขี้สงสัย และตื่นตัว พวกเขาชอบที่จะวิ่งอย่างอิสระแต่ก็พอใจที่จะอยู่ในพื้นที่บ้านของพวกเขาด้วย ไก่แบนตัม ถูกส่งจากพม่าไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ยังสหราชอาณาจักรในช่วงทศวรรษปี ๑๘๘๐ โดยเจ้าหน้าที่ในกองทัพของอังกฤษ และสโมสรสัตว์ปีกแห่งบริเตนใหญ่ยอมรับสายพันธุ์เพียงสีเดียวเท่านั้น คือ สีขาว วัตถุประสงค์ของการเลี้ยง : เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์ปีกและเลี้ยงไว้ดูความสวยงาม ------------------------------------ 750 หัวข้อ: Re: ไก่ชาโมะ (Shamo Chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 10 กันยายน 2567 20:09:35 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/53183800851305_Shamo_chicken_Copy_.jpg) ไก่ชาโมะ ไก่ชาโมะ Shamo Chicken ไก่ชาโมะ (Shamo Chicken) เป็นไก่พันธุ์หนึ่งที่ใช้สำหรับเป็นไก่ชนเพื่อการกีฬา หรือบริโภคเนื้อ กล่าวกันว่าสายพันธุ์นี้นำเข้าสู่ญี่ปุ่นจากประเทศไทยในยุคเอโดะ แต่นับตั้งแต่มีการเปิดตัว ก็ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในญี่ปุ่น และในปี พ.ศ.๒๔๘๔ ก็ได้ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งชาติญี่ปุ่นด้วยเหตุผลว่า "เป็นปศุสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะในญี่ปุ่น" นอกจากนี้ยังถือเป็นไก่สายพันธุ์พื้นเมืองในมาตรฐานเกษตรญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์ : ว่ากันว่ามีการนำไก่ชนิดนี้เข้ามาจากญี่ปุ่นในยุคเอโดะตอนต้น แต่ไม่ทราบวันที่แน่ชัด ชื่อ "ชาโมะ" มีที่มาจากคำว่า "สยาม" ซึ่งเป็นชื่อเรียกเก่าของประเทศไทยในสมัยนั้น ด้วยความนิยมแพร่หลายของการชนไก่ ไก่ชนิดนี้จึงถูกเพาะพันธุ์ในที่ต่างๆ และสร้างสายพันธุ์ต่างๆ ขึ้นมา เนื่องจากการชนไก่มักใช้เป็นวิธีการพนัน เมื่อการพนันถูกห้ามจึงทำให้การเลี้ยงไก่ชนิดนี้เพื่อเป็นไก่ชนลดลงไปด้วย แต่เนื่องจากเนื้อมีรสชาติดีจึงถูกเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร ปัจจุบันมีการเพาะพันธุ์เพื่อเป็นอาหารตามท้องถิ่นต่างๆ มากมาย ------------------------------------ ที่มา (ข้อมูล/ภาพประกอบ) : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 750 หัวข้อ: Re: ไก่บาร์บู เดอ กรับเบ (Barbu de Grubbe) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 กันยายน 2567 18:57:35 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/17019607043928_1000_F_221964355_AVdv6Y8NfkvKg.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60830247774720_1000_F_221964367_xlyxieYR6BjH4.jpg) ไก่บาร์บู เดอ กรับเบ - Barbu de Grubbe Chicken https://stock.adobe.com (ที่มาภาพ) ไก่บาร์บู เดอ กรับเบ Barbu de Grubbe ไก่บาร์บู เดอ กรับเบ (Barbu de Grubbe) เป็นสายพันธุ์ของไก่แจ้แท้จากเบลเยียม เป็นสายพันธุ์ที่ไม่มีหาง มีหงอนรูปดอกกุหลาบ ลักษณะเหมือนกันทุกประการกับไก่บาร์บู ดันแวร์ส (Barbu d'Anvers) ยกเว้นว่าหางและกระดูกก้นกบหายไป เพศผู้มีน้ำหนักประมาณ ๗๐๐ กรัม เพศเมียประมาณ ๖๐๐ กรัม ไก่วางไข่สีขาวครีมขนาดเล็กหนักประมาณ ๓๕ กรัม ไก่บาร์บู เดอ กรับเบ มีกำเนิดมาจากผู้เพาะพันธุ์ โรเบิร์ต พอเวลส์ (Robert Pauwels) ผู้สร้างสายพันธุ์บาร์บู เดอเอเวอร์เบิร์ก (Barbu d'Everberg) ที่ฟาร์มเพาะพันธุ์ของเขาในเขตเทศบาลคอร์เทนเบิร์ก (Kortenberg) ระหว่างบรัสเซลส์และลูเวน (Louvain) ด้วยการผสมพันธุ์อย่างระมัดระวัง เขาจึงสร้างสายพันธุ์ไก่ไร้หางจำนวนมาก ชื่อบาร์บู เดอ กรับเบ (Barbu de Grubbe) เป็นชื่อที่ตั้งให้กับสายพันธุ์นี้ ซึ่งพบเห็นได้ในนิทรรศการต่างๆ มากมาย จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และหลังสงครามไม่มีใครเห็นไก่บาร์บู เดอ กรับเบ เป็นเวลาหลายสิบปี จนถึงในปี ๒๐๑๒ มีการสำรวจและนับจำนวนไก่บาร์บู เดอ กรับเบ ในประเทศเบลเยียม ได้ทั้งหมด ๑๗๐ ตัว จึงถูกจัดอยู่ในประเภท “วิกฤต” หรือเป็นสัตว์หายากและกำลังจะสูญพันธ์ ไก่บาร์บู เดอ กรับเบ เป็นสัตว์ที่สวยสดุดตา นิยมนำมาเลี้ยงไว้เพื่อความสุข และไว้ประกวดแข่งขัน ซึ่งมีให้เห็นเป็นประจำในงานนิทรรศการสัตว์ปีกในประเทศเนเธอร์แลนด์ และตั้งแต่ปี ๒๐๐๘ เป็นต้นมา ได้รับการยอมรับในเยอรมนี ในสหราชอาณาจักร ว่าเป็นไก่แจ้สายพันธุ์แท้ดั้งเดิม ------------------------------------ From : Wikipedia, the free encyclopedia หัวข้อ: Re: ไก่สายพันธุ์ ขันยาว : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 14 กันยายน 2567 15:51:33 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/18096011297570_American_Long_Crower_Cock_2021.jpg) ไก่สายพันธุ์ ขันยาว - American Long Crower Cock ไก่สายพันธุ์ ขันยาว American Long Crower Cock ไก่ American Long Crower เป็นไก่สายพันธุ์ขันยาวที่ได้รับการยอมรับ มีลักษณะเฉพาะคือ เสียงขันที่ลากยาวผิดปกติ ซึ่งในบางกรณีอาจใช้เวลานานถึง ๖๐ วินาที ข้อมูลอ้างอิงที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับไก่ขันยาวมาจากประเทศจีน พบได้ในตะวันออกไกล ในตุรกี ในคาบสมุทรบอลข่าน และในเยอรมนีตะวันตก และโดยทั่วไปแล้ว ไก่พันธุ์นี้จะมีความสูง ขาและคอยาว ไก่พันธุ์ที่มีพฤติกรรมการขันนาน ได้แก่ ไก่พันธุ์เบราท (Berat), แบร์กิสเช่ เครเฮอร์ (Bergische Kräher), เจอร์โลเวอร์ (Jurlower) และโคโซวา ลองโครว์ (Kosova Long Crower) ของยุโรปตะวันออก, เดนิซลีแห่งตุรกี และพันธุ์โคเอโยชิ, คุโรกาชิวะ, โทมารุ และโทเทนโกในญี่ปุ่น ในเยอรมนี อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น มีประเพณีการแข่งขันไก่ขันกับนกในท้องถิ่นที่เป็นที่ยอมรับ โดยวัดกันที่ความยาวของเสียงขัน แต่เสียงร้องและทำนองก็อาจนำมาเป็นเกณฑ์การตัดสินได้เช่นกัน From : Wikipedia, the free encyclopedia หัวข้อ: Re: ไก่บาร์บู ดิแอนเวอร์ : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 กันยายน 2567 18:51:48 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/77344678963224_0_1_Antwerpener_Bartzwerg_wach.jpg) ไก่บาร์บู ดิแอนเวอร์ ไก่บาร์บู ดิแอนเวอร์ Barbu d'Anvers Chicken ไก่บาร์บู ดิแอนเวอร์ เป็นไก่แจ้มีเคราขนาดเล็กสายพันธุ์หนึ่งของประเทศเบลเยียม มันเป็นไก่แจ้พันธุ์แท้ ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๗๐๐ กรัม ตัวเมียหนักประมาณ ๖๐๐ กรัม Barbu d'Anvers เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไก่แจ้ที่เก่าแก่ที่สุด และเชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดในจังหวัดแอนต์เวิร์ป (Anvers) ทางตอนเหนือของแฟลนเดอร์ส (Flanders) เป็นไก่แจ้สายพันธุ์เดียวในเบลเยียมที่ไม่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ในสหรัฐอเมริกาอาจเรียกว่า แอนต์เวิร์ป เบลเยียม (Antwerp Belgian) หรือ เบลเยี่ยม เบียร์ด ดิแอนเวอร์ (Belgian Bearded d'Anvers) บาร์บู ดิแอนเวอร์ เป็นไก่ตัวเล็กที่มีอกกลมขนาดใหญ่ยื่นไปข้างหน้าและมีหางโค้ง ตามชื่อของมัน มีหนวดเคราหนาปกคลุมใบหูส่วนล่าง มีหงอนรวงกุหลาบเล็กๆ และเหนียงเล็กหรือไม่มีเลย ไก่วางไข่สีขาวครีมขนาดเล็กซึ่งมักจะมีน้ำหนักน้อยกว่า ๓๕ กรัม แม่ไก่มีสัญชาตญาณของความเป็นแม่สูง จะคอยปกป้องดูแลลูกเล็กๆ (ลูกเจี๊ยบ) เป็นอย่างดี ในเบลเยียม ไก่บาร์บู ดิแอนเวอร์ มีขนและลวดลายหลากสีสัน ที่ได้รับการยอมรับมีถึง 29 สี เป็นไก่อยู่ในประเภทสัตว์สวยงาม เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน และความสุขใจของผู้เลี้ยง ------------------------------------ From : Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่แจ้ ไนน์ ดี ทัวร์เนซิส : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 22 กันยายน 2567 19:14:22 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/55067504776848_NaineDuTournaisis1_Copy_.jpg) Naine du Tournaisis chicken : ความสวยงามที่กำลังจะหายไป ไก่แจ้ ไนน์ ดี ทัวร์เนซิส Naine du Tournaisis chicken ไก่ไนน์ ดี ทัวร์เนซิส (Naine du Tournaisis chicken) หรือเรียกอีกอย่างว่า “ไก่แจ้ทัวร์เนซิส” (Tournaisis bantam) เป็นไก่แจ้สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดในประเทศเบลเยียม องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) จัดให้ไก่แจ้พันธุ์นี้มีความเสี่ยงขั้นสูงต่อการสูญพันธุ์ ------------------------------------ From : https://www.wikidata.org/wiki/Q93855988 (https://www.wikidata.org/wiki/Q93855988) 750 หัวข้อ: Re: ไก่มูเกลลีส (Mugellese chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 29 กันยายน 2567 13:42:34 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/11568756567107_Gruppo_Mugellese_frumento_Copy.jpg) ไก่มูเกลลีส Mugellese chicken ไก่มูเกลลีส (Mugellese) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มักกีนีส (Mugginese) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไก่แจ้ไม่กี่สายพันธุ์ของประเทศอิตาลี เป็นไก่แจ้พันธุ์เล็กจากแคว้นทัสคานี (Tuscany) ทางตอนกลางของอิตาลี ชื่อของไก่มาจากชื่อของภูมิภาคมูเจลโล (Mugello Region) ซึ่งเป็นภูมิภาคอันเก่าแก่และเป็นสังคมชนบท ที่ทอดตัวไปจนถึงทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฟลอเรนซ์ ไก่มูเกลลีสยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นไก่สายพันธุ์ในอิตาลี แต่กำลังพิจารณาให้ยอมรับ ในอดีตมันถูกเลี้ยงไว้อย่างกว้างขวางไม่เพียงแต่ในชนบทของทัสคานีเท่านั้น แต่ยังอยู่ในสวนหรือบนระเบียงของบ้านในเมืองด้วย และเป็นธรรมเนียมที่ปู่ย่าตายายจะมอบไก่มูเกลลีสคู่หนึ่งให้กับเด็กที่มีอายุถึงเกณฑ์ที่จะดูแลพวกเขาได้ จึงพบเห็นไก่มูเกลลีสได้ทั่วไปในสมัยนั้น มาในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ ๒๐ ไก่มูเกลลีสกลายมาเป็นไก่แจ้สายพันธุ์ที่หายาก ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการฟื้นฟู คัดเลือก และปรับปรุงสายพันธุ์ สีของมูเกลสมีสีทองเข้ม ขาว และขาซีดหรือสีเนื้อ หงอนหวีเป็นแบบเดี่ยวมี ๔-๖ แต้ม ติ่งหูมีตั้งแต่สีแดงจนถึงสีขาว น้ำหนักเฉลี่ยคือ ๐.๘ กิโลกรัมสำหรับไก่ตัวผู้ และ ๐.๗ กิโลกรัมสำหรับแม่ไก่ ไข่มีขนาดเล็กสีขาวงาช้าง มูเกลลีสเป็นสายพันธุ์ที่กระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา แม่ไก่เป็นพี่เลี้ยงที่ดี แม้ว่าไก่จะตัวเล็กแต่ก็มีความก้าวร้าวต่อไก่ตัวอื่นมาก มีความแข็งแรงและทนทานต่อความร้อนและความเย็น และสามารถเลี้ยงในที่โล่งได้ตลอดทั้งปี หากได้รับอนุญาต พวกมันจะเกาะอยู่บนต้นไม้ ------------------------------------ From : Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่บาสเซตต์ ลิเอฌัวส์ : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 01 ตุลาคม 2567 19:21:31 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/75014983614285_istockphoto_1069515038_2048x20.jpg) www.istockphoto.com : ที่มาภาพ ไก่บาสเซตต์ ลิเอฌัวส์ Bassette Liégeoise ไก่บาสเซตต์ ลิเอฌัวส์ (Bassette Liégeoise) หรือ Bassette เป็นไก่แจ้ขนาดใหญ่จากประเทศเบลเยียม มันมีขนาดใหญ่กว่าไก่แจ้ส่วนใหญ่ แต่เล็กกว่าไก่แจ้ตัวโตมาก Bassette Liégeoise มีต้นกำเนิดมาจากไก่แจ้สีนกกระทาขนาดเล็กในยุโรปที่แพร่หลาย ซึ่งในภาษาเฟลมิช (เป็นภาษาถิ่นของชาวฟลามส์ ในเบลเยียม) รู้จักกันในชื่อ Engelse kiekskes หรือ "ไก่แจ้อังกฤษ" ในศตวรรษที่ ๑๙ มีไก่ตัวเล็กๆ หลายชนิดอยู่ในพื้นที่เมืองลีแยฌ (Liège) ในวัลโลเนีย (Wallonia) ซึ่งรู้จักกันในชื่อบาสเซตต์ว่า "ไก่ตัวเล็ก" ซึ่งเชื่อกันว่ามาจากการผสมพันธุ์ระหว่างไก่แจ้เหล่านี้กับไก่พันธุ์ท้องถิ่น มันมีค่ามากสำหรับการนำไปผสมข้ามพันธุ์ระหว่างไก่และนกกระทา และไข่ไก่ฟ้า ไก่บาสเซตต์ ลิเอฌัวส์ ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๑,๐๐๐ กรัม แม่ไก่ประมาณ ๙๐๐ กรัม หงอนเป็นรูปหวีเดี่ยว ติ่งหูเป็นสีขาว จะงอยปากและขาเป็นสีฟ้าหินชนวน แม่ไก่ Bassette Liégeoise เป็นไก่ไข่ชั้นดี วางไข่ได้ ๑๒๕-๑๘๐ ฟองต่อปี ไข่มีน้ำหนักประมาณ ๔๒-๔๘ กรัม แม่ไก่เป็นพี่เลี้ยงที่ดีและเป็นแม่ที่ดี และเช่นเดียวกับไก่แจ้พันธุ์เบลเยี่ยมที่ส่วนใหญ่กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ประมาณปี ๑๙๑๗ วิลเลียม คอลลิเออร์ แห่งบรัสเซลส์ เริ่มคัดเลือกไก่เหล่านี้ที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์ เพื่อความสามารถในการวางไข่ เพราะเป็นไก่หายากและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ มาตรฐานสายพันธุ์ถูกกำหนดขึ้นในปี ๑๙๓๐ และได้รับการอนุมัติในปี ๑๙๓๒ หัวข้อ: Re: ไก่เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 01 ตุลาคม 2567 19:30:12 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79176937457587_Mericanel_della_Brianza_Copy_.jpg) ไก่เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา สายพันธุ์แคระของไก่แจ้ที่มีไม่กี่สายพันธุ์ในอิตาลี www.pollitaliani.it : ที่มาภาพ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/25360050590501_Mericanel_della_Brianza_2_Copy.jpg) ไก่เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา www.rivistadiagraria.org : ที่มาภาพ ไก่เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา Mericanel della Brianza ไก่เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา (Mericanel della Brianza Chicken) เป็นสายพันธุ์ของไก่ตัวเล็กหรือไก่แจ้จากแคว้นลอมบาร์เดีย (Regione Lombardia) ทางตอนเหนือของอิตาลี ชื่อนี้มาจากชื่อเมืองเบรียนซา (Brianza) ซึ่งลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่เป็นเนินเขาทอดยาวไปทางเหนือและทางตะวันออกเฉียงเหนือของมิลาน และจากชื่อเมอริคาเนล (Mericanell) ซึ่งเป็นชื่อย่อของลอมบาร์ดของ Merican "American" จะเห็นได้ชัดว่า เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา ไก่สายพันธุ์พื้นเมืองของแคว้นลอมบาร์เดีย ได้รับการผสมพันธุ์จากไก่สายพันธุ์แคระในท้องถิ่นในช่วงต้นทศวรรษ ๑๙๐๐ ไก่เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา มีหลากหลายสี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเงิน ทอง ไพล์ และสีดำลายจุดขาว ผิวหนังและขามีสีเหลือง หงอนรูปหวีเดี่ยว มีห้าแฉกและมีกลีบหลังเด่นชัด ติ่งหูมีสีแดง น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ ๐.๗-๐.๘ กิโลกรัม สำหรับไก่ตัวผู้ และ ๐.๖-๐.๗ กิโลกรัม สำหรับแม่ไก่ สีของไข่แตกต่างกันไปตั้งแต่สีครีมไปจนถึงสีน้ำตาลอ่อน และมีน้ำหนักประมาณ ๓๕ กรัม ในช่วงต้นปี ๒๐๑๒ ไก่เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา เป็นไก่แจ้สายพันธุ์เดียวของอิตาลีที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก Federazione Italiana Associazioni Avicole ซึ่งเป็นสหพันธ์พ่อพันธุ์แม่พันธุ์สัตว์ปีกของอิตาลี ------------------------------------ From : Wikipedia, the free encyclopedia 750 หัวข้อ: Re: ไก่บราห์มา-ไก่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 ตุลาคม 2567 16:59:36 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/77157008358173_Brahmahahn_cropped_Copy_.png) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/11568673451741_Tab04_H_hner_Gefl_gel_Album_Je.jpg) ไก่บราห์มา - ไก่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไก่บราห์มา Brahma chicken ไก่บราห์มา (Brahma chicken) ไก่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสายพันธุ์ไก่ในอเมริกาที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากไก่ขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากประเทศจีน ผ่านทางท่าเรือเซี่ยงไฮ้ เมื่อประมาณปี ๑๘๔๐ สายพันธุ์นี้ตั้งชื่อตามแม่น้ำพรหมบุตร (Brahmaputra river) ในประเทศอินเดีย รูปร่างหัวที่โดดเด่นและหงอนรูปรวงถั่วของบราห์มา น่าจะเกิดจากการผสมพันธุ์กับไก่นำเข้าจากเมืองจิตตะกอง ซึ่งเป็นเมืองท่าตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเบงกอล (ปัจจุบันอยู่ในประเทศบังกลาเทศ) ลักษณะเหล่านี้ทำให้บราห์มาแตกต่างจากไก่ที่นำเข้าจากเมืองเซี่ยงไฮ้ บราห์มา เป็นไก่ที่เลี้ยงเพื่อบริโภคเนื้อเป็นหลักของอเมริกามาตั้งแต่ทศวรรษที่ ๑๘๕๐ จนถึงประมาณปี ๑๙๓๐ อุปนิสัย เชื่องมากและกระตือรือร้นน้อยกว่าไก่สายพันธุ์อื่นๆ มีขนขาและเท้าที่หนามาก จึงทนทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี สีสันของพวกมันมีหลากหลายเหมือนกับสายพันธุ์ไก่ทั่วไป แต่มีลักษณะพิเศษคือเมื่อโตเต็มที่ มันจะมีความสูงได้ถึง ๖๐ เซนติเมตร พ่อไก่ (cocks) หนักประมาณ ๕.๕ กิโลกรัม แม่ไก่ (hens) ประมาณ ๔.๕ กิโลกรัม ไข่สีน้ำตาลขนาดใหญ่ แต่ละฟองมีน้ำหนักมากถึง ๕๕-๖๐ กรัม ออกไข่ประมาณ ๓-๖ ฟองต่อสัปดาห์ ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia หัวข้อ: Re: ไก่วาสเซครีล (Waasse kriel chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 ตุลาคม 2567 16:46:28 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/76258907094597_Ras_WaasseKriel_Copy_.jpg) ไก่วาสเซครีล - ความสวยงามดั่งอัญมณีที่มีชีวิต ไก่วาสเซครีล Waasse kriel chicken ไก่วาสเซครีล (Waasse kriel chicken) มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า สตีนส์ คีคสเกน (Steens Kieksken) เป็นสายพันธุ์ไก่แจ้แท้ของประเทศเบลเยี่ยม ที่มีความสวยงามมาก เปรียบเสมือนอัญมณีที่มีชีวิต ลักษณะหงอนหวีดอกกุหลาบที่ค่อนข้างแบนและมีปุ่มกลมซึ่งมีปลายหนามแหลม เดือยยาว ข้อขาถึงเล็บมีสีเทา ใบหน้าและเหนียงมีสีแดงสด นอกจากนี้มีลักษณะเหมือนกับไก่แจ้เบลเยียมสายพันธุ์อื่นทุกประการ ชื่อไก่แจ้ Waasse มาจากภูมิภาควาส (Waas) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแอนต์เวิร์ป ปัจจุบัน ไก่วาสเซครีลมีแนวโน้มของความเสี่ยงสูงต่อการสูญพันธุ์ ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia หัวข้อ: Re: ไก่บลูเบรส ไก่เนื้อชั้นดีที่แพงที่สุดในโลก : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 ตุลาคม 2567 15:29:02 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/75609917069474_s233080691511407608_p110_i12_w.jpeg) ไก่บลูเบรส ไก่เนื้อชั้นดีที่แพงที่สุดในโลก และเป็นไก่พันธุ์เดียวในโลกที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาล www.bressefarms.com - ที่มาภาพ ไก่บลูเบรส Blue Bresse Chicken ไก่บลูเบรส มีต้นกำเนิดในจังหวัดเบรส ที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส มานานกว่า ๕๐๐ ปี เป็นไก่ที่สวยงามมาก มีขนสีเทาน้ำเงิน หงอน เหนียง และใบหน้า มีสีแดงสด ข้อขาถึงนิ้วเท้าสีเทา นอกจากรูปร่างน่ารักแล้วยังนิสัยดี เป็นมิตร อดทนต่อสภาพอากาศร้อนและความหนาวเย็น และดูแลง่ายมาก กล่าวกันไก่เบรสเป็น "ราชินีแห่งสัตว์ปีกของกษัตริย์” มีชื่อเสียงว่าเป็นไก่เนื้อชั้นดีที่มีราคาแพงที่สุดในโลก และมีรสชาติดีที่สุดในโลก และเป็นไก่พันธุ์เดียวในโลกที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาล ไก่เบรสมีน้ำหนักประมาณ ๕.๕ ปอนด์ ไก่ตัวผู้ ๗ ปอนด์ Bresse จะเริ่มวางไข่เมื่ออายุประมาณ ๔.๕ เดือน 700 หัวข้อ: Re: ไก่แจ้บูท (Booted Bantam) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 ตุลาคม 2567 15:01:08 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/90004647274812_Booted_Bantam_peting_zoo_The_H.jpg) ไก่แจ้บูท Booted Bantam ไก่แจ้บูท (Booted Bantam Chicken) หรือ ไก่แจ้ดัตช์ (Dutch Booted Bantam) เป็นไก่แจ้สายพันธุ์ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ถูกนำเข้าจากอินเดีย ลักษณะพิเศษของไก่แจ้บูท คือมีขนยาวที่เท้าและขา ซึ่งจากเข่ายาวเกิน ๒ นิ้ว และขาจะมีขนแข็งยาวชี้ลงที่หลังต้นขาจรดนิ้วเท้าด้วย ซึ่งทำให้มีลักษณะคล้าย "บู๊ท ซึ่งเป็นที่มาของชื่อชาวดัตช์ว่า ซาเบลพูต (Sabelpoot) ไก่แจ้บูท เลี้ยงไว้เป็นสัตว์สวยงาม และสำหรับแสดงโชว์ ไก่อาจวางไข่ได้ประมาณ ๑๒๐ ฟองต่อปี โดยมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ ๓๐ กรัม ไก่พันธุ์นี้มีปรากฎภาพอยู่ในผลงานของ อูลิสเซ่ อัลโดรวานดี (Ulisse Aldrovandi) นักธรรมชาติวิทยาชาวอิตาลี ในศตวรรษที่ ๑๗ และ เอลีซาร์ อัลบิน (Eleazar Albin) นักธรรมชาติวิทยาและนักวาดภาพสีน้ำชาวอังกฤษ ในศตวรรษที่ ๑๘ ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 700 หัวข้อ: Re: ไก่บาร์บู เดอ วอเตอร์เมล (Barbu de Waterma) :เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 ตุลาคม 2567 15:07:16 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33346047500769_1_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/65670516300532_2_Copy_.jpg) ไก่บาร์บู เดอ วอเตอร์เมล Barbu de Watermael ไก่บาร์บู เดอ วอเตอร์เมล (Barbu de Watermael chicken) หรือเรียกอีกชื่อว่า วอเตอร์มาลส์ บาร์ดครีล (Watermaalse Baardkriel) เป็นไก่แจ้สายพันธุ์เบลเยียม มีต้นกำเนิดในเมืองวอเตอร์เมล-บอยท์ฟอร์ต (Watermael-Boitsfort) ประเทศเบลเยียม ซึ่งใช้ชื่อนี้ซึ่งแปลว่า "ไก่มีเคราจาก Watermael" ไก่บาร์บู เดอ วอเตอร์เมล มีสายพันธุ์เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับบาร์บู ดันแวร์ส (Barbu d'Anvers) แต่มีความแตกต่างกันตรงขนหงอนขนาดเล็กที่กวาดไปทางด้านหลังและหงอนรูปดอกกุหลาบที่มีหนามแหลมสามอัน บาร์บู เดอ วอเตอร์เมล เป็นหนึ่งในไก่แจ้สายพันธุ์เบลเยียมรุ่นล่าสุด มันถูกเลี้ยงเป็นไก่สวยงาม เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน เป็นไก่ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ที่ไม่เคยเปิดเผยว่าผสมมาจากสายพันธุ์ใด โดยตัวผู้มีน้ำหนัก ๖๐๐-๗๐๐ กรัม และแม่ไก่มีน้ำหนัก ๔๕๐-๕๕๐ กรัม มีหงอนหลังแคบ มีเคราสามส่วน และหวีดอกกุหลาบหนามอันเป็นเอกลักษณ์ มีสีให้เลือกมากกว่าสามสิบสี สีและลวดลายที่มักพบเห็นได้แก่ สีดำ สีน้ำตาลแดง นกกาเหว่า นกกระทา และสีขาว บางสีที่หายากและก็อยู่ในมือของผู้เพาะพันธุ์เพียงคนเดียว ในปี ๒๐๑๐ มีประชากรไก่บาร์บู เดอ วอเตอร์เมล เพียง ๗๖๔ ตัว และถูกจัดอยู่ในประเภท "เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์" ในปีนั้น ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 700 หัวข้อ: Re: ไก่แจ้ญี่ปุ่น (Japanese Bantam) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 ตุลาคม 2567 15:50:01 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/92866628865400_J._W._Ludlow_Japanese_Bantams_.jpg) ไก่แจ้ญี่ปุ่น Japanese Bantam ไก่แจ้ญี่ปุ่น ((Japanese Bantam Chicken)) หรือเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “ชาโบ” (Chabo) เป็นไก่ประดับพันธุ์แท้ขนาดเล็กของญี่ปุ่น (ไม่มีไก่ขนาดใหญ่) มีลักษณะที่โดดเด่นด้วย “ขา” ที่สั้นมาก ซึ่งเป็นผลมาจากกรรมพันธุ์ และมีหางตั้งตรงขนาดใหญ่ที่ชี้ขึ้นสูงกว่าหัวของไก่มาก ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๕๑๐-๖๒๐ กรัม ตัวเมีย ๔๐๐-๕๑๐ กรัม หนังมีสีเหลือง เปลือกไข่สีครีม หงอนหวีเดี่ยว หลักฐานดีเอ็นเอของไมโตคอนเดรียแสดงให้เห็นว่า บรรพบุรุษของสายพันธุ์ “ชาโบ” และไก่ประดับสายพันธุ์อื่นๆ ของญี่ปุ่นทั้งหมดได้มาจากการคัดเลือกพันธุ์จากไก่ต่อสู้หรือไก่ชน ที่มีจะงอยปากที่แข็งแรง ขาที่แข็งแรง และหน้าอกที่กว้าง ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 650 หัวข้อ: Re: ไก่เปปอย (Pépoi chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 พฤศจิกายน 2567 13:21:33 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/65521013695332_pepoi_rit_rifl_1030x929_Copy_.jpg) ไก่เปปอย ภาพจาก www.pollitaliani.it ไก่เปปอย Pépoi Chicken ไก่เปปอย (Pépoi chicken) หรือ Pepoi เป็นไก่พันธุ์เล็กจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี ในภูมิภาคเวเนโต (Veneto) และ ฟริอูลี-เวเนเซีย จูเลีย (Friuli-Venezia Giulia) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไก่แจ้พันธุ์แท้เพียงไม่กี่สายพันธุ์ในอิตาลี ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ ได้แก่ เมอริคาเนล เดลลา บริอันซา (Mericanel della Brianza) และมูเจลลีส (Mugellese) เพศผู้มีน้ำหนัก ๑.๓–๑.๕ กิโลกรัม ตัวเมียมีน้ำหนัก ๑.๐-๑.๑ กิโลกรัม ผิวหนังและขามีสีเหลือง เปลือกไข่สีขมพูอมน้ำตาล หงอนหวีเดี่ยว เนื้อมีรสชาติดี จึงนิยมเลี้ยงเพื่อบริโภคเนื้อเป็นหลัก ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 650 หัวข้อ: Re: ไก่พินชอน (Pyncheon chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 พฤศจิกายน 2567 13:30:34 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/18837808486488_Pyncheon_Bantam_from_a_hatcher.jpg) ไก่พินชอน ภาพจาก www.feathersite.com ไก่พินชอน Pyncheon Chicken ไก่พินชอน (Pyncheon chicken) เป็นไก่แจ้แท้สายพันธุ์อเมริกันที่หายาก เป็นสายพันธุ์เก่าที่ได้รับการพัฒนาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา เชื่อกันว่าบรรพบุรุษของไก่พินชอนนำมาจากเนเธอร์แลนด์หรือเบลเยียม ลักษณะมีหงอนเป็นรูปหวีเดี่ยว ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๖๘๐ กรัม ตัวเมียหนักประมาณ ๖๒๐ กรัม เปลือกไข่มีสีขาว เป็นไก่ที่มีความสามารถในการบินที่แข็งแกร่ง มีนิสัยที่เป็นมิตร และมีแนวโน้มสูงต่อความเจ้าอารมณ์ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสัตว์เลี้ยงที่มีความสวยงาม ไม่นิยมรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหรือไข่ ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 650 หัวข้อ: Re: ไก่พิกเทฟ (pictave chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 09 พฤศจิกายน 2567 18:42:50 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/50664408960276_888_Copy_.jpg) ไก่พิกเทฟ ภาพจาก www.imago-images.com ไก่พิกเทฟ pictave chicken ไก่พิกเทฟ (pictave chicken) เป็นไก่แจ้สายพันธุ์แท้ของฝรั่งเศสที่ใกล้สูญพันธุ์ ได้รับการพัฒนาข้ามสายพันธุ์ในศตวรรษที่ ๒๐ โดย เรย์มอนด์ เลคอยน์เตอร์ (Raymond Lecointre) เขาใช้แม่ไก่ฟักไข่ที่ผสมกับไก่ฟ้าและให้แม่ไก่เลี้ยงลูก ไก่พิกเทฟ ตั้งชื่อตามชนเผ่าพิคตาวี (Pictavi) ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งให้กับอดีตจังหวัดปัวตู ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคนูแวล-อากีแตน (Nouvelle-Aquitaine) ไก่มีลักษณะหางยาว ปีกยาวต่ำ และมีอกที่โค้งมน ไก่ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๘๐๐ กรัม แม่ไก่หนักประมาณ ๖๐๐ กรัม แม่ไก่พิกเทฟจะวางไข่เปลือกสีขาวครีม ประมาณ ๑๓๐ ฟองต่อปี โดยไข่มีน้ำหนักประมาณ ๔๐ กรัม แม่ไก่พิกเทฟเป็นแม่ที่ดีเยี่ยม จะคอยปกป้อง คุ้ยเขี่ยหาอาหารให้แก่ลูก ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 650 หัวข้อ: Re: ไก่เปกิน แบนตัม (Pekin Bantam) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 09 พฤศจิกายน 2567 18:51:14 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/95963703178697_889_Copy_.jpg) ไก่เปกิน แบนตัม ภาพจาก https://chooks.co.nz/ ไก่เปกิน แบนตัม Pekin Bantam ไก่เปกิน แบนตัม (Pekin Bantam chicken) เป็นไก่แจ้สายพันธุ์อังกฤษ ที่นำมาสู่ยุโรปจากประเทศจีนในศตวรรษที่สิบเก้า “Pekin” เป็นชื่อของเมืองปักกิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นต้นกำเนิด ไก่เปกินรุ่นแรก ถูกกล่าวหาว่าถูกขโมยไปจากคอลเลกชันส่วนตัวของจักรพรรดิแห่งจีนที่ปักกิ่ง โดยทหารอังกฤษในช่วงสิ้นสุดสงครามฝิ่นครั้งที่สองประมาณปี พ.ศ.๒๔๐๓ แต่ข้อมูลบางแห่งกล่าวว่า ราวปี พ.ศ.๒๓๗๘ ประเทศจีนมีการส่งมอบไก่พันธุ์นี้ให้แก่สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย ไก่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี มีการนำเข้าเพิ่มเติม และพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่เรารู้จักในปัจจุบันในชื่อ “Pekins” Pekins ที่ถูกนำเข้ามาในสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกกล่าวกันว่ามีสีน้ำตาลอมเหลือง โดยสีดำและสีลายนกกาเหว่าถูกส่งเข้ามาในภายหลัง ไก่เปกินเป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในชื่อ Cochin Bantams ไก่ Pekins มีนิสัยอ่อนโยน เลี้ยงดูง่าย มีหงอนหวีเดี่ยว ตัวค่อนข้างกลม และเอียงไปข้างหน้า โดยส่วนหัวจะอยู่ใกล้กับพื้นมากกว่า มีขนหางจำนวนมากและมีลักษณะโค้งมนสวยงาม การ "เอียง" นี้เป็นคุณลักษณะสำคัญของ Pekin ไก่ตัวผู้มักมีขนยาวยื่นออกมาจากเท้า ต้องระมัดระวังไม่ให้ขนเท้าของ Pekin สกปรก เท้าที่สกปรกอาจทำให้เท้าเน่าหรือไก่กลายเป็นง่อยได้ อาจต้องตัดแต่งขนที่ข้อขาสม่ำเสมอ ไก่ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๖๘๐ กรัม ตัวเมียหนักประมาณ ๕๗๐ กรัม เปลือกไข่มีสีขาวหรือสีครีม สีของขนมีหลากหลาย ได้แก่ สีดำ สีน้ำเงิน สีบัฟ นกกาเหว่า ลายจุด ลายไม้ โคลัมเบียน ลาเวนเดอร์ นกกระทา สีขาว เบิร์ช นกกระทาสีเงิน และสีปลาแซลมอน ที่หายากเป็นที่ต้องการอย่างมาก และผู้ผสมพันธุ์หลายคนใช้เวลามากในการปรับปรุงเส้นสีใหม่ๆ ให้กับไก่ของตน แม่ไก่เป็นแม่ไก่ที่ผสมพันธุ์เป็นประจำ แต่ไข่ไม่มีประสิทธิผลมากนัก บางตัวจะวางไข่สองสามฟองในช่วงฤดูหนาว และเป็นที่รู้กันว่าแม่ไก่เป็นพี่เลี้ยงที่ดีและเป็นแม่ที่เอาใจใส่ลูก ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 650 หัวข้อ: Re: ไก่ยากิโดะ (Yakido Chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 15:58:18 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/57753732717699_yakido_Copy_.jpg) ไก่ยากิโดะ ภาพจาก www.agraria.org ไก่ยากิโดะ Yakido Chicken ไก่ยากิโดะ (Yakido Chicken) เป็นไก่ต่อสู้สายพันธุ์ญี่ปุ่น มาจากกลุ่มไก่ต่อสู้สายพันธุ์ชาโม (Shamo) เข้าใจว่าสืบเชื้อสายมาจากประเทศมาเลเซีย ที่นำมาจากประเทศไทยในช่วงต้นศตวรรษที่ ๑๗ ในสมัยเอโดะ ยากิโดะได้รับการเพาะเลี้ยงที่มิเอะ จังหวัดในภูมิภาคคันไซ ทางตอนใต้ของเกาะฮอนชู ในช่วงกลางศตวรรษที่ ๑๙ ในช่วงปลายเอโดะ ไก่ยากิโดะ เป็นไก่ก่ชนขนาดเล็ก ลักษณะล่ำสัน แข็งแรง และยืนตัวตรงมาก มีขนแข็งปิดแน่นและยึดปีกไว้ใกล้ลำตัว จงอยปากและขามีสีเหลือง บางครั้งมีรอยดำ หนังสีแดง หงอนเป็นแบบหวีสามอัน เปลือกไข่สีครีม-น้ำตาล ออกไข่ประมาณ ๘๐ ฟองต่อปี น้ำหนักไข่ประมาณ ๕๐ กรัม สีขนพบมีสีเดียวคือสีดำ ยากิโดะมีน้ำหนักปานกลางระหว่างไก่ขนาดมาตรฐานกับไก่แจ้ ตัวผู้มีน้ำหนัก ๒.๑-๒.๖ กิโลกรัม ตัวเมียมีน้ำหนัก ๑.๗-๒.๑ กิโลกรัม Yakido Chicken ถูกสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของญี่ปุ่นภายใต้กฎหมาย ๒๑๔ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๓ ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 650 หัวข้อ: Re: ไก่แจ้แนนกินส์ (Nankin Bantam) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 17:42:58 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/89550258467594__nankin_bantam_Copy_.jpg) ไก่แจ้แนนกินส์ Nankin Bantam ไก่แจ้ Nankin เป็นไก่แจ้พันธุ์อังกฤษ ซึ่งเป็นสายพันธุ์เล็กแท้ตามธรรมชาติที่หายาก มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไก่แจ้ที่เก่าแก่ที่สุด ได้รับการตั้งชื่อตามเมืองท่าในจีนโบราณที่นานกิง (ปัจจุบันคือหนานจิง) ซึ่งตั้งอยู่บนแม่น้ำแยงซีเกียงทางตะวันออก –ภาคกลางของประเทศจีน เชื่อกันว่า Nankin ถูกนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์ในแถบตะวันตกในศตวรรษที่ ๑๘ แต่ก็มีหลักฐานที่แสดงว่า ในศตวรรษที่ ๑๖ พวกมันปรากฏตัวในประเทศอังกฤษ แนนคินส์มีพื้นเพมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ได้รับการเพาะพันธุ์ในสหราชอาณาจักรมาเป็นเวลานาน อาจนานถึง ๕๐๐ ปี จึงถือเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของอังกฤษ ในปี พ.ศ.๒๕๔๕ จำนวนทั้งหมดประมาณไว้ที่ ๕๐-๑๐๐ ตัว อยู่ในประเภทที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง และในปี พ.ศ.๒๕๕๐ สถานะการอนุรักษ์ถูกระบุโดย FAO ว่าอยู่ในขั้น "วิกฤต" ลักษณะเฉพาะ : สายพันธุ์นี้มีสองพันธุ์ แตกต่างกันตามประเภทหงอน ได้แก่หงอนหวีเดี่ยวขนาดใหญ่ ๕ แฉก และหงอนหวีดอกกุหลาบมีขนาดกลาง ๑ หวี แนนกินส์ทั้งหมดมีสีน้ำตาลอมเหลืองที่ลำตัวและหางสีดำ สีทองจะเข้มกว่าและเป็นมันเงามากกว่าในตัวผู้ และมีขนรูปเคียวที่ยาวกว่าซึ่งพบได้ทั่วไปในไก่ตัวผู้ จะงอยปากของพวกมันมีสีอ่อน และขาเป็นสีฟ้าชนวน แม่ไก่วางไข่ได้ดีและเป็นพี่เลี้ยงที่ดี ไข่มีขนาดเล็กมากและมีสีขาวครีม ตัวผู้มีน้ำหนัก ๖๘๐-๗๔๐ กรัม ตัวเมีย ๕๗๐-๖๒๐ กรัม ปกติแล้ว Nankin จะถูกเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม เพลิดเพลินใจ และการแสดงนิทรรศการ ---------------------------------------- From : Wikipedia, the free encyclopedia 550 หัวข้อ: Re: ไก่แจ้บาร์บู ดา เอเวอร์เบิร์ก : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 ธันวาคม 2567 15:55:47 (https://i2.wp.com/www.poultryclubsa.co.za/wp-content/uploads/Barbu-D-Everberg-21.jpg) (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/c/c5/Everbergse_baardkriel.jpg) ไก่แจ้บาร์บู ดา เอเวอร์เบิร์ก Barbu d’ Everberg Bantam บาร์บู ดา เอเวอร์เบิร์ก (Barbu d'Everberg) เป็นไก่แจ้เบลเยียม สายพันธุ์ที่ไม่มีหาง ได้รับการผสมพันธุ์ในปี ๑๙๐๖ ที่ปราสาทเอเวอร์เบิร์ก (Château d'Everberg) ในเขตเทศบาลคอร์เทนเบิร์ก (Kortenberg) จังหวัดเฟลมิชบราบานต์ ระหว่างกรุงบรัสเซลส์และเลอเวน (Leuven) เป็นหนึ่งในไก่พันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดในเบลเยียม ไก่ตัวผู้มีน้ำหนัก ๗๐๐-๘๐๐ กรัม และแม่ไก่ ๕๕๐-๖๕๐ กรัม ในปี ๒๐๑๐ สถานการณ์อนุรักษ์ ถูกจัดว่า "วิกฤต" หัวข้อ: Re: ไก่ลาเวนเดอร์ซัสเซ็กซ์ (Lavender Sussex c) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 09 มกราคม 2568 19:23:14 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/61895995545718_299977960_574784144439271_7577.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/85528425623973_38012344_217782135593368_67244.jpg) ไก่ลาเวนเดอร์ซัสเซ็กซ์ Lavender Sussex chickens ไก่ลาเวนเดอร์ซัสเซ็กซ์ (Lavender Sussex chickens) มีหลังแบนยาวกว้าง กระดูกหน้าอกยาวและตรง ไหล่กว้างและทรงสี่เหลี่ยม หางทำมุม ๔๕ องศาจากลำตัว ดวงตาเป็นสีส้มที่สวยงาม หวีเป็นแบบเดี่ยว ติ่งหูเป็นสีแดง ส่วนขาและผิวหนังเป็นสีขาว ไก่ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๔ กิโลกรัม และแม่ไก่ประมาณ ๓.๒ กิโลกรัม ลาเวนเดอร์ตัวผู้ ขนหัวสีขาว ลายทางสีขาวลายลาเวนเดอร์ที่อยู่ตรงกลางของขนแต่ละอันจะถูกล้อมรอบด้วยขอบสีขาวทั้งหมด ปีกโค้ง หลังสีขาวเงิน ต้นขาสีเทาเข้ม หางสีเทาเข้ม สีอันเดอร์: เทาอ่อนลาเวนเดอร์ ไล่เฉดไปจนถึงสีขาวที่ผิวหนัง ตัวเมีย ขนศีรษะและคอเหมือนกับตัวผู้ ขนแต่ละเส้นสีเทาลาเวนเดอร์มีก้านสีขาว สีเงิน 650 หัวข้อ: Re: ไก่ซิลเวอร์สแปงเกิล ฮัมบูร์ก : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 10 มกราคม 2568 12:38:51 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/45632988338669_1_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/27716568195157_2_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์ ซิลเวอร์สแปงเกิล ฮัมบูร์ก Silver Spangled Hamburg ฮัมบูร์ก (Hamburg]) เป็นไก่สายพันธุ์ที่เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดในประเทศฮอลแลนด์และสหราชอาณาจักร ก่อนศตวรรษที่ ๑๔ เป็นไก่พันธุ์เล็กหรือขนาดกลาง ที่มีท่าทางสง่างาม รูปร่างสีสันสวยงาม ไก่ตัวผู้มีน้ำหนัก ๒-๒.๕ กิโลกรัม แม่ไก่มีน้ำหนักประมาณ ๑.๖-๑.๙ กิโลกรัม มีขาเรียวยาวและมีหงอนรวงกุหลาบที่เรียบร้อย ขนเป็นสีขาวเงิน มีลายจุดสีดำที่ปลายขน สำหรับแม่ไก่ สีที่แตกต่างกันสิบเอ็ดสีได้รับการยอมรับในเยอรมนีและฮอลแลนด์ ได้แก่ สีแพรวพราว สีเงิน สีแพรวพราวทอง สีดินสอสีทอง สีดินสอซิตรอน สีดินสอสีเงิน สีขาว สีดำ และสีซิตรอนแพรวพราว โดย ๖ สีเหล่านี้รวมอยู่ในมาตรฐานแห่งความสมบูรณ์แบบของอเมริกา ฮัมบูร์กเลี้ยงง่าย โตเร็ว จุดประสงค์หลักของการเลี้ยงคือ เพื่อการบริโภคไข่ ซึ่งเป็นไข่ที่มีคุณภาพดี มีขนาดกลาง น้ำหนักประมาณ ๕๐ กรัม เปลือกสีขาวมันวาว หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 มีนาคม 2568 12:37:21 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/95867382817798_Buff_Orpington_chicken_UK_Copy.jpg) ไก่บัฟออร์พิงตันในสหราชอาณาจักร ไก่ออร์พิงตัน Orpington chicken ไก่ออร์พิงตัน (Orpington chicken) เป็นสายพันธุ์ไก่ของอังกฤษ ได้รับการผสมพันธุ์ในช่วงปลายศตวรรษที่ ๑๙ โดยวิลเลียม คุก William Cook แห่ง Orpington ซึ่งขณะนั้นอยู่ในเขตเคนท์ (Kent) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ตั้งใจให้เป็นสายพันธุ์ที่มีวัตถุประสงค์สองประการ คือ เลี้ยงไว้เพื่อบริโภคไข่และเนื้อ แต่ไม่นานก็กลายเป็นสายพันธุ์สำหรับการแสดงโชว์เท่านั้น Australorp ของออสเตรเลียได้รับอิทธิพลมาจากสายพันธุ์นี้ ไก่พันธุ์ออร์พิงตันดำ (Black Orpington chicken) ดั้งเดิมได้รับการผสมพันธุ์โดยวิลเลียม คุก (William Cook) ในช่วงปี ๑๘๘๐ ที่ Orpington ซึ่งในเวลานั้นอยู่ในเขต Kent ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เขาผสมพันธุ์ไก่พันธุ์มินอร์กาส (Minorcas) ,หลางซาน (Langshan) และพลีมัธ ร็อคส์ (Plymouth Rocks) เพื่อสร้างไก่ลูกผสมพันธุ์ใหม่ ไก่พันธุ์นี้ได้รับการผสมพันธุ์ให้เป็นไก่เอนกประสงค์ที่เลี้ยงไว้เพื่อเอาไข่และเนื้อ ไก่พันธุ์ Cook เลือกสีดำ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เพาะพันธุ์เป็ด Orpington อีกด้วย ลักษณะของไก่ออร์พิงตัน (Orpington chicken) มีหงอนขนาดกลาง หวีเดี่ยว น้ำหนักตัวของไก่เพศเมียขนาดใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ ๒.๗๐-๓.๖๐ กิโลกรัม สำหรับไก่เพศผู้น้ำหนักเฉลี่ย ๓.๖-๔.๕๕ กิโลกรัม และน้ำหนักเฉลี่ยของไก่แจ้ออร์พิงตัน คือ ๑.๓ -๑.๕ กิโลกรัม แม่ไก่ออร์พิงตันวางไข่สีน้ำตาลอ่อนประมาณ ๑๘๐ ฟองต่อปี โดยมีน้ำหนักเฉลี่ย ๕๓ กรัม ไก่แจ้วางไข่ประมาณ ๑๑๐ ฟอง น้ำหนักประมาณ ๔๐ กรัม กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งออร์พิงตันสามารถวางไข่ได้มากถึง ๓๔๐ ฟองต่อปี 650 หัวข้อ: Re: ไก่พันธุ์แอนโคนา (Ancona chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 มีนาคม 2568 17:02:41 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/32248981586760_7_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์แอนโคนา (Ancona chicken) ขอขอบคุณเว็บไซต์ https://cs-tf.com : ที่มาภาพ ไก่พันธุ์แอนโคนา Ancona chicken From Wikipedia, the free encyclopedia ไก่พันธุ์แอนโคนา (Ancona Chicken) เป็นสายพันธุ์ไก่ที่มีต้นกำเนิดในแคว้นมาร์เชส (Marches) ของอิตาลี และสหราชอาณาจักร เป็นหลัก ตั้งชื่อตามเมือง Ancona ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้น Marche Ancona เป็นที่ นิยมในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ค่อยพบในอิตาลี ในปี ๒๐๐๐ จึงได้ริเริ่มโครงการฟื้นฟูสายพันธุ์นี้ในพื้นที่ดั้งเดิมและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ไก่พันธุ์แอนโคนา (Ancona) มีถิ่นกำเนิดในอิตาลีตอนกลาง เป็นสายพันธุ์ไก่ที่มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางที่สุด ไก่ตัวแรกถูกนำเข้ามาในอังกฤษในปี ๑๘๕๑ และผสมพันธุ์แบบคัดเลือกที่นั่นเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์และความสม่ำเสมอของลายสีขาวบนขน ในปี ๑๘๘๐ นักเพาะพันธุ์ชื่อ คอบบ์ (Cobb) ได้นำไก่จำนวนหนึ่งมาแสดง และบางตัวถูกส่งออกจากบริเตนไปยังสหรัฐอเมริกาในปี ๑๘๘๘ ไก่พันธุ์แอนโคนา (Ancona) ขนสีชมพูถูกนำมาแสดงครั้งแรกในเมืองเบอร์มิงแฮมในปี ๑๙๑๐ ลักษณะเฉพาะ : แอนโคนา (Ancona) เป็นไก่สายพันธุ์เมดิเตอร์เรเนียน ทั่วไป มีลักษณะ ร่าเริง และแข็งแกร่ง ชอบอาณาเขตกว้างและบินได้ง่าย ขามีสีเหลืองด่างดำ ปากมีสีเหลือง มีลายสีดำบางส่วนที่ขากรรไกรบน และตาเป็นสีส้มแดง ผิวหนังมีสีเหลือง ติ่งหูมีสีขาวหรือสีครีม หงอนมีขนาดกลาง มี ๕ จุดที่เห็นชัดเจน ในไก่ตัวเมีย หงอนควรห้อยไปด้านข้างอย่างสง่างาม ขนมีสีดำแต้มสีขาว ขนประมาณ ๑ ใน ๓ เส้นจะมีลายสีขาวเป็นรูปตัววีที่ปลายขน ขนหลัก ขนเคียว และขนหางทั้งหมดควรมีปลายขนสีขาว ขนสีดำอาจมีสีเขียวคล้ายด้วง ไก่ตัวผู้มีน้ำหนัก ๒.๕ ถึง ๒.๘ กิโลกรัม ไก่ตัวเมียมีน้ำหนัก ๑.๘ ถึง ๒.๑ กิโลกรัม ขนาดวงแหวนคือ ๑๘ มิลลิเมตร (๐.๗๑ นิ้ว) และ ๑๖ มิลลิเมตร (๐.๖๓ นิ้ว) ตามลำดับสำหรับขนาดปกติ และ ๑๓ มิลลิเมตร (๐.๕๑ นิ้ว) และ ๑๑ มิลลิเมตร (๐.๔๓ นิ้ว) สำหรับไก่แจ้ ในประเทศอิตาลี ไก่แอนโคนา (Ancona) ขนาดปกติจะพบขนสีน้ำเงินแต้มสีขาว ในประเทศออสเตรเลียพบขนสีแดง ซึ่งมีสีพื้นเป็นสีน้ำตาลเกาลัดจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม วัตถุประสงค์หลักของการเลี้ยง : เพื่อการบริโภคไข่ Ancona เป็นไก่ไข่ที่มีไข่สีขาวและสีครีม โดยจะวางไข่เฉลี่ยปีละ ๒๒๐ ฟอง ไข่มีน้ำหนัก ๕๐ กรัม หรือมากกว่า ไก่ตัวเมียไม่ค่อยมีแนวโน้มที่จะกกไข่โดยไก่สาวอาจเริ่มวางไข่ได้เมื่ออายุ ๕ เดือน 650 หัวข้อ: Re: ไก่พันธุ์อันดาลูเซียน (Andalusian chicken) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 มีนาคม 2568 12:47:05 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/45109859191709_andalusian_600x750.jpg) ไก่พันธุ์อันดาลูเซียน (Andalusian chicken) ขอขอบคุณเว็บไซต์ livestockconservancy.org : ที่มาภาพ ไก่พันธุ์อันดาลูเซียน Andalusian chicken From วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ไก่พันธุ์อันดาลูเซียน (Andalusian) สีน้ำเงิน เป็นไก่บ้านสายพันธุ์พื้นเมืองของแคว้นปกครองตนเอง “อันดาลูเซีย” (Andalusia) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน ไก่พันธุ์นี้กระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางในชนบทของเมืองคอร์โดบา (Cordoba) และเมืองเซบียา(Seville) และเลี้ยงกันมากในพื้นที่เมืองอูเตรรา Utrera ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของไก่พันธุ์นี้ ไก่พันธุ์อันดาลูเซียน ที่มีมีขนสีน้ำเงินเข้มกว่าและมีขนสีฟ้าอ่อน ถูกผสมพันธุ์ขึ้นในอังกฤษจากไก่ที่นำเข้าจากเมืองอันดาลูเซีย ผ่านการผสมพันธุ์แบบคัดเลือกโดยการผสมข้ามพันธุ์กับไก่สายพันธุ์อื่น ในราวปี ค.ศ.๑๘๕๐-๑๘๕๕ ไก่พันธุ์อันดาลูเซียน ถูกนำเข้ามายังสหรัฐอเมริกา และรวมอยู่ในมาตรฐานความสมบูรณ์แบบฉบับแรก ของ American Poultry Association ในปี ค.ศ.๑๘๗๔ สายพันธุ์นี้มาถึงอเมริกาใต้ในปี ค.ศ.๑๘๗๐ และจัดแสดงครั้งแรกในเยอรมนีในปีเดียวกัน สำหรับไก่พันธุ์แคระหรือไก่แจ้ถูกผสมพันธุ์ขึ้นในปี ค.ศ.๑๘๘๐ ลักษณะเฉพาะ : ขนอ่อน น้ำหนักเบา ขนสีน้ำเงินเทาของไก่พันธุ์อันดาลูเซียน เกิดจากยีนที่ทำให้สีจางลงซึ่งเมื่อรวมกับยีน E ที่ทำให้ขนเป็นสีดำ จะทำให้เมลานิน เจือจางลงบางส่วน ทำให้ได้สีดำ และไก่พันธุ์อันดาลูเซียนไม่ใช่ทุกตัวจะมีสีน้ำเงิน นกที่มียีน ๒ ชุดจะมีสีจางลงเกือบทั้งหมดและมีสีขาวขุ่น ใบหูของไก่พันธุ์แอนดาลูเซียนมีลักษณะเรียบ สีขาว และมีลักษณะเหมือนอัลมอนด์ หงอนเป็นสันเดียวและมีขนาดปานกลาง โดยมีจุดที่ชัดเจน ๕ จุด ผิวหนังเป็นสีขาว ส่วนขาและเท้าเป็นสีดำ มาตรฐานของน้ำหนัก : ไก่เพศผู้มีน้ำหนัก ๓.๒-๓.๖ กิโลกรัม (ไก่แจ้มีน้ำหนัก ๖๘๐-๗๙๐ กรัม) ไก่เพศเมียมีน้ำหนัก ๒.๒๕-๒.๗๐ กรัม (ไก่แจ้มีน้ำหนัก ๕๗๐-๖๘๐ กรัม) วัตถุประสงค์ของการเลี้ยง : เพื่อการบริโภคไข่ ไก่วางไข่สีขาว ประมาณ ๑๖๕ ฟองต่อปี โดยไข่มีน้ำหนัก ๗๐-๘๐ กรัม ไก่พันธุ์ขาวพันธุ์ฟ้าวางไข่ได้มากที่สุด หัวข้อ: Re: ไก่พิตาปินตาอัสตูเรียส The Pita Pinta Asturiana : สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 มีนาคม 2568 13:11:22 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62790932713283_555_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์พิตาปินตาอัสตูเรียส (The Pita Pinta Asturiana) ไก่พันธุ์พิตาปินตาอัสตูเรียส The Pita Pinta Asturiana From Wikipedia, the free encyclopedia hensonoxney.co.uk - ที่มาภาพ ไก่พันธุ์พิตาปินตาอัสตูเรียส (The Pita Pinta Asturiana) เป็นไก่พันธุ์สเปน พันธุ์เดียวที่มีถิ่นกำเนิดในแคว้นอัสตูเรียส (Asturias) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน ชื่อนี้มาจากภาษาอัสตูเรียส โดยที่พิตาแปลว่า "ไก่" และพินตาแปลว่า "ทาสี" หรือ "มีรอยด่าง" ไก่พันธุ์นี้เป็นไก่บ้านในสายแอตแลนติก มีต้นกำเนิดร่วมกับไก่พันธุ์อื่นๆ ทางตอนเหนือของสเปน เช่น ไก่พันธุ์ยูสคัล ออยโลอา (Euskal Oiloa) ของแคว้นบาสก์ เมื่ออุตสาหกรรมการผลิตไข่ไก่ในอัสตูเรียสเริ่มดำเนินการในช่วงทศวรรษปี ๑๙๕๐ และ ๑๙๖๐ จำนวนไก่พันธุ์นี้จึงลดลงอย่างมากจนเกือบจะสูญพันธุ์ การฟื้นฟูสายพันธุ์นี้เริ่มขึ้นระหว่างปี ๑๙๘๐ ถึง ๑๙๙๐ โดยสมาคมผู้เพาะพันธุ์ Asociación de Criadores de la Pita Pinta Asturiana ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นในปี ๒๐๐๓ โดยมีสมาชิก ๕๒ คน จำนวนมีไก่ทั้งหมด ๑,๘๔๒ ตัว มีการจัดทำสมุดบัญชีจำนวนไก่ในปี ๒๐๐๕ และเมื่อสิ้นปี ๒๐๑๓ มีการบันทึกไก่ทั้งหมด ๒,๑๗๒ ตัว ลักษณะของไก่พิตาปินตาอัสตูเรียส : มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักปานกลาง โดยตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๔-๔.๕ กิโลกรัม ส่วนตัวเมียมีน้ำหนักประมาณ ๒.๕-๓ กิโลกรัม หงอนเดี่ยวมี ๕-๗ แฉก ตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ ติ่งหูมีสีแดง ดวงตาสีส้ม ผิวหนังสีเหลือง ปากและขาสีเหลืองและมีจุดสีดำ มีขน ๔ สี ได้แก่ พินตา เนกรา (สีดำด่าง) พินตา โรซา (สีแดงอมน้ำตาลด่าง) บลังกา (สีขาว) และอาเบดูล (สีดำ) ขนของพินตา เนกราจะมีสีดำ ขอบขนเป็นสีขาว ทำให้มีลักษณะเป็นลายด่างตามลักษณะเฉพาะ วัตถุประสงค์ของการเลี้ยง : เพื่อการบริโภคเนื้อและไข่ เปลือกไข่มีสีครีมเข้ม มีน้ำหนัก ๖๐-๖๕ กรัม หัวข้อ: Re: ไก่ อิกซ์เวิร์ธ Ixworth : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 03 เมษายน 2568 17:30:46 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/16285750311281_Ixworth_cockerel_600_Copy_.gif) ไก่ อิกซ์เวิร์ธ (Ixworth ) ไก่ อิกซ์เวิร์ธ Ixworth ไก่ อิกซ์เวิร์ธ (Ixworth) เป็นไก่บ้านสีขาวสายพันธุ์อังกฤษ ถูกตั้งชื่อตามหมู่บ้านอิกซ์เวิร์ธ (Ixworth) ในซัฟฟอล์ก (Suffolk) ไก่พันธุ์นี้มาจากผสมพันธุ์จากไก่ซัสเซ็กซ์สีขาว , ไก่มินอร์กาสีขาว, ไก่ออร์พิงตันสีขาว, ไก่จูบิลี่ และไก่ Indian Game สีขาว ในปี พ.ศ.๒๔๗๕ โดย เรจินัลด์ แอปเปิลยาร์ด (Reginald Appleyard) ซึ่งเป็นผู้คิดค้นวิธีผสมผสมพันธุ์จนได้เป็ดพันธุ์แอปเปิ้ลยาร์ดสีเงิน (Silver Appleyard Duck) ที่ฟาร์มสัตว์ปีกของเขาในหมู่บ้านอิกซ์เวิร์ธ (Ixworth) ไก่พันธุ์อิกซ์เวิร์ธ เป็นไก่เนื้อคุณภาพดี เนื้อมีราคาค่อนข้างสูง เติบโตเร็ว และมีความสามารถในการวางไข่ที่เหมาะสม ในปี ๒๐๐๗ ไก่พันธุ์อิกซ์เวิร์ธ ได้รับการขึ้นบัญชีโดย FAO ว่าเป็น "สัตว์ใกล้สูญพันธุ์-ได้รับการดูแล" ในปี ๒๐๐๘ ได้รับการขึ้นบัญชีเป็น "ประเภท ๒ : ใกล้สูญพันธุ์" โดย มูลนิธิเพื่อการอนุรักรักษ์สัตว์สายพันธุ์หายาก (Rare Breeds Survival Trust) และในปี ๒๐๑๔ มันอยู่ในรายชื่อสายพันธุ์สัตว์ปีกพื้นเมืองที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของ Trust ลักษณะเฉพาะ : ไก่ อิกซ์เวิร์ธ มีขนสีขาวบริสุทธิ์ หงอนหวีถั่ว ใบหน้า ติ่งหู และเหนียงเป็นสีแดงสดใส ดวงตาเป็นสีส้มสดหรือสีแดง ปาก ขา เท้า ผิวหนัง และเนื้อเป็นสีขาวทั้งหมด ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๓.๖-๔.๑ กิโลกรัม ตัวเมียมีน้ำหนักประมาณ ๒.๗-๓.๒ กิโลกรัม วางไข่เฉลี่ยวันละ ๐.๗๔ ฟอง โดยมีน้ำหนักไข่เฉลี่ย ๖๑ กรัม หัวข้อ: Re: ไก่เดอร์บีเชียร์ เรดแคป-Derbyshire Redcap: เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 เมษายน 2568 14:31:56 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13031729434927_88_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์ เดอร์บีเชียร์ เรดแคป (Derbyshire Redcap) ไก่พันธุ์ เดอร์บีเชียร์ เรดแคป Derbyshire Redcap เดอร์บีเชียร์ เรดแคป (Derbyshire Redcap) เป็นไก่สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดในเขต Derbyshire ของอังกฤษ ชื่อ "เรดแคป" มาจากหงอนรูปกุหลาบขนาดใหญ่ผิดปกติของสายพันธุ์ มาตรฐานพันธุ์อังกฤษกำหนดให้หงอนไก่ Redcap ต้องมีความยาวมากกว่า ๗ เซนติเมตร (๓ นิ้ว) สำหรับหงอนเรดแค็ป มันถูกปกคลุมด้วยจุดเล็ก ๆ อวบ ๆ และมีหนามแหลมชี้ไปข้างหลังอย่างชัดเจน ไก่พันธุ์เดอร์บีเชียร์ เรดแคป จัดอยู่ในกลุ่มไก่เนื้อ หงอน เหนียง และติ่งหูควรมีสีแดงสด โดยไก่ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ ๓.๔ กิโลกรัม (๗.๕ ปอนด์) ไก่ตัวเมียมีน้ำหนัก ๒.๗๕ กิโลกรัม (๖.๑ ปอนด์) ไก่พันธุ์เรดแคปสามารถแยกแยะได้จากไก่พันธุ์ที่ดูคล้ายกัน โดยเฉพาะพันธุ์แฮมเบิร์กซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่า โดยดูจากติ่งหูสีแดงและหงอนที่ใหญ่กว่า ปากจะมีลักษณะเหมือนเขา ไก่พันธุ์นี้มีขนหลายแบบ โดยมีเฉดสีเข้มต่างๆ เช่น สีแดง น้ำตาล และดำ ไก่ตัวผู้จะมีสีสันที่หลากหลายกว่า แต่ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะมีหางสีดำและขนสีดำเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ขอบลำตัวส่วนใหญ่ ไก่พันธุ์นี้ยังมีโครงสร้างร่างกายที่คล้ายคลึงกันมากกับไก่พันธุ์ยอร์กเชียร์และแลนคาเชียร์มูนีซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว ไก่พันธุ์เดอร์บีเชียร์เรดแคปเป็นไก่พันธุ์ที่แข็งแรง กระตือรือร้น เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไม่กี่สายพันธุ์ที่เติบโตได้ดีในภูมิอากาศหนาวเย็น เป็นไก่ที่หาอาหารเก่ง ดังนั้นจึงต้องการพื้นที่ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สามารถเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ ไก่พันธุ์นี้เหมาะสำหรับเลี้ยงในฟาร์มเพื่อจุดประสงค์สองประการ เนื่องจากนอกจากจะใช้เลี้ยงเนื้อและไข่แล้ว ยังใช้เพื่อความสวยงามอีกด้วย โดยปกติแล้วไก่พันธุ์นี้จะไม่กกไข่ แต่จะออกไข่สีขาวขนาดใหญ่ได้ ๑๕๐-๒๐๐ ฟองต่อปี ไก่พันธุ์เดอร์บีเชียร์เรดแคปเป็นไก่ที่พบเห็นได้ทั่วไปในฟาร์มของอังกฤษจนถึงกลางศตวรรษที่ ๒๐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณเทือกเขาเพนไนน์ทางตอนใต้ ไก่พันธุ์นี้ถือเป็นไก่ที่หายากมาก และอยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังว่าเป็นไก่ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ในรายชื่อเฝ้าระวังของ American Livestock Breeds Conservancy 650 หัวข้อ: Re: ไก่พันธุ์อเมริกันเกม (American Game Chicken):เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 14 มิถุนายน 2568 16:46:15 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39579172597991_american_game_fowl_0_1_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์อเมริกันเกม American Game Chicken ไก่พันธุ์อเมริกันเกม (American Game Chicken) เป็นไก่พันธุ์อเมริกันที่เพาะพันธุ์เพื่อการชนไก่โดยเฉพาะ ไก่พันธุ์ นี้มีหลากหลายสีและยังสามารถเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามได้อีกด้วย อเมริกันเกมแบนตัม (ไก่แจ้อเมริกันเกม) ไก่พันธุ์อเมริกันเกมแบนตัม ไม่ได้มาจากไก่พันธุ์ใหญ่สายพันธุ์ดั้งเดิม ไก่พันธุ์นี้ถูกผสมพันธุ์ในรัฐนิวเจอร์ซีในช่วงปี ค.ศ.๑๙๔๐ โดยผู้เพาะพันธุ์ชื่อแฟรงก์ แกรี เขาผสมพันธุ์ไก่ป่าสีแดงกับไก่พันธุ์แบนตัมต่อสู้ซึ่งในขณะนั้นเรียกว่า "ไก่ชน" ไก่พันธุ์แบนตัมอเมริกันได้รับการขึ้นทะเบียนในสมุดประจำปีของสมาคมไก่พันธุ์แบนตัมอเมริกันตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๕๐ และได้รับการรับรองมาตรฐานความสมบูรณ์แบบจากสมาคมสัตว์ปีกอเมริกันในปี ค.ศ.๒๐๐๙ ลักษณะเฉพาะ ไก่พันธุ์อเมริกันขนาดมาตรฐานมีขนให้เลือกหลายสี ตัวผู้จะมีขนยาวเป็นรูปเคียว ไก่พันธุ์แคระมีหงอนเล็ก ๕ แฉกและเหนียง เรียบเล็ก และติ่งหู ไก่พันธุ์พื้นเมืองของออสเตรเลียมี ๑๐ สี ได้แก่ เบิร์ช ดำ อกสีดำแดง น้ำเงิน น้ำเงินแดง น้ำตาลแดง ปีกเป็ดสีทอง ปีกเป็ดสีแดง และขาว ไก่พันธุ์อื่นอีก ๒ สี ได้แก่ "หลังสีบรอนซ์" และสีน้ำตาลอ่อน ไก่พันธุ์อเมริกันได้รับการผสมพันธุ์มาเพื่อการกีฬาชนไก่ เป็นไก่สำหรับบริโภคเนื้อเป็นอาหารได้ดี และอาจเลี้ยงไว้เป็นสัตว์สวยงาม ไก่จะวางไข่สีน้ำตาล ขนาดกลางถึงใหญ่ เช่นเดียวกับไก่พันธุ์ต่อสู้ชนิดอื่น ๆ หวี ติ่งหู และเหนียงจะถูกตัดออก เพื่อการแสดง 650 หัวข้อ: Re: เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ : ไก่คอล่อน (Naked Neck Chicken) เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 14 มิถุนายน 2568 16:53:32 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/48803411258591_Rhode_Island_Red_cock_cropped_.jpg) ไก่พันธุ์โรดไอแลนด์เรด Rhode Island Red Chicken โรดไอแลนด์เรด (Rhode Island Red) เป็นสายพันธุ์ไก่บ้านของอเมริกา เป็นไก่ประจำรัฐโรดไอแลนด์ โรดไอแลนด์เรดได้รับการพัฒนาขึ้นที่นั่นและในแมสซาชูเซตส์ในช่วงปลายศตวรรษที่ ๑๙ โดยการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างไก่ที่มีต้นกำเนิดจากตะวันออก เช่น ไก่มาเลย์กับไก่เลกฮอร์นสีน้ำตาลจากอิตาลี โรดไอแลนด์เรดเป็นสายพันธุ์ที่มีวัตถุประสงค์สองประการ โดยเลี้ยงทั้งเพื่อบริโภคเนื้อและไข่ สายพันธุ์สมัยใหม่ได้รับการผสมพันธุ์เพื่อความสามารถในการวางไข่ สายพันธุ์ดั้งเดิมที่ไม่ใช่สายพันธุ์อุตสาหกรรมของโรดไอแลนด์เรดได้รับการขึ้นบัญชีว่า "เฝ้าระวัง" (ลำดับความสำคัญในการอนุรักษ์ระดับกลาง ระหว่าง "กำลังฟื้นตัว" และ "ใกล้สูญพันธุ์" โดย The Livestock Conservancy โรดไอแลนด์เรดเป็นสายพันธุ์ที่แยกจากโรดไอแลนด์ไวท์ โรดไอแลนด์เรดได้รับการผสมพันธุ์ในโรดไอแลนด์และแมสซาชูเซตส์ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ ๑๙ โดยการผสมพันธุ์แบบคัดเลือกจากไก่ที่มีต้นกำเนิดจากตะวันออก เช่น โคชิน ชวา มาเลย์ และเซี่ยงไฮ้ กับไก่เลกฮอร์นสีน้ำตาลจากอิตาลี ขนสีแดงเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ได้มาจากไก่กมาเลย์ รัฐโรดไอแลนด์เฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปีของสายพันธุ์นี้ในปี ๑๙๕๔ เมื่อมีการสร้างอนุสาวรีย์โรดไอแลนด์เรดที่ฟาร์มวิลเลียม ทริปป์ในลิตเทิลคอมป์ตัน รัฐโรดไอแลนด์ ชื่อของสายพันธุ์นี้ได้รับการตั้งให้กับไอแซ็ก แชมปลิน วิลเบอร์ แห่งลิตเทิลคอมป์ตัน ในวันที่ไม่ทราบแน่ชัด หรือให้กับมิสเตอร์เจนนี่แห่งสมาคมสัตว์ปีกแมสซาชูเซตส์ตอนใต้ในปี ๑๘๗๙ หรือ ๑๘๘๐ ในปี ๑๘๙๑ นาธาเนียล บอร์เดน อัลดริชได้จัดแสดงบางส่วนในชื่อ "Golden Buffs" ในโรดไอแลนด์และฟิลาเดลเฟีย พวกมันถูกจัดแสดงครั้งแรกภายใต้ชื่อปัจจุบันในปี พ.ศ.๒๔๓๘ ก่อนหน้านี้พวกมันยังรู้จักกันในชื่อ "John Macomber fowls" หรือ "Tripp fowls" มาตรฐานสายพันธุ์แรกถูกจัดทำขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๔๑ และได้รับการอนุมัติจาก American Rhode Island Red Club ในบอสตันในปี พ.ศ.๒๔๔๔ พันธุ์หงอนเดี่ยวได้รับการยอมรับให้เข้าสู่มาตรฐานความสมบูรณ์แบบของ American Poultry Association ในปี พ.ศ.๒๔๔๗ และพันธุ์หงอนสีชมพูในปี พ.ศ.๒๔๔๙ ลักษณะเฉพาะ ขนของโรดไอแลนด์เรดแบบดั้งเดิมมีตั้งแต่สีแดงเข้มเป็นมันเงาไปจนถึงเกือบดำ หางส่วนใหญ่เป็นสีดำ หงอนอาจเป็นหวีเดี่ยวหรือหวีสีชมพูก็ได้ สีแดงสดใส เช่นเดียวกับติ่งหูและเหนียง ปากมีสีเหมือนเขาแดง ตามีสีน้ำตาลแดง เท้าและขามีสีเหลือง โดยมักจะมีสีแดงบ้างที่นิ้วเท้าและข้างแข้ง สายพันธุ์อุตสาหกรรมอาจมีขนาดเล็กกว่าและมีสีซีดกว่าสายพันธุ์แบบเก่า น้ำหนักมาตรฐานของไก่ตัวผู้ ๓.๙ กิโลกรัม (สำหรับพันธุ์ไก่แจ้ ๙๖๕ กรัม) และน้ำหนักมาตรฐานของไก่ตัวเมีย ๓ กิโลกรัม (สำหรับพันธุ์ไก่แจ้ ๘๕๐ กรัม) หนังไก่มีสีเหลือง ออกไข่เป็นสีน้ำตาล โรดไอแลนด์เรดได้รับการพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่มีวัตถุประสงค์สองประการ คือ ให้ทั้งเนื้อและไข่ โดยจะวางไข่สีน้ำตาลปีละ ๒๐๐-๓๐๐ ฟอง และให้เนื้อที่มีรสชาติเข้มข้น ตั้งแต่ปี ๑๙๔๐ เป็นต้นมา ได้มีการผสมพันธุ์แบบคัดเลือกโดยเฉพาะเพื่อคุณสมบัติในการออกไข่ และโรดไอแลนด์เรดที่ใช้ในอุตสาหกรรมในปัจจุบันเป็นสายพันธุ์สำหรับวางไข่ 650 หัวข้อ: Re: ไก่ฟ้าสีทอง Golden pheasant : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 14 กันยายน 2568 13:07:23 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62095542376240_544614873_1660647525052716_776.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/30313874491386_Fasanhona_3_Copy_.jpg) ไก่ฟ้าสีทอง Golden pheasant ไก่ฟ้าสีทอง (Golden pheasant, Red golden pheasant, Chinese pheasant; ชื่อวิทยาศาสตร์: Chrysolophus pictus) เป็นสัตว์ป่าประเภทไก่ฟ้าที่นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม ได้รับความนิยมอย่างมาก มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมบนภูเขาสูง พบมากทางภาคกลางและภาคตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงบางส่วนในปากีสถาน, อินเดีย, ศรีลังกา มีความสวยงามและทนทานต่ออากาศหนาวได้เป็นอย่างดี ไก่ฟ้าสีทอง ตัวผู้จะมีหลายสี (๕ สี) แต่ถ้าเป็นสีทองส่วนของอกจะมีสีแดง ส่วนหลังมีสีเหลืองและปีกมีสีน้ำเงิน นัยน์ตาจะเป็นวงแหวนนสีน้ำเงิน สำหรับตัวเมียจะมีสีน้ำตาลพื้นธรรมดา นัยน์ตาไม่มีวงแหวน เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีน้ำหนักตัวประมาณ ๕๐๐-๗๐๐ กรัม มีรูปร่างป้อม และไม่มีหงอน ไก่ฟ้าสีทอง สามารถแยกแยะเพศออกได้เมื่อมีอายุ ๓ เดือน ดูความแตกต่างที่วงแหวนของดวงตา ส่วนสีขนจะค่อย ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งตัวเต็มวัย เฉลี่ยประมาณ ๑.๕-๒ ปี จึงจะมีสีเหมือนกับไก่ตัวเต็มวัย โตเต็มวัยเมื่อมีอายุได้ ๒ ปี ออกลูกในช่วงฤดูร้อนเพียงปีละครั้ง ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ออกไข่ครั้งละ ๕-๖ ฟอง ใช้เวลาฟักประมาณ ๒๑-๒๓ วัน ปัจจุบัน ในประเทศไทย มีการเพาะเลี้ยงกันเป็นฟาร์มอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งสามารถเพาะเลี้ยงได้อย่างเสรี เนื่องจากไม่จัดว่าเป็นสัตว์ที่จะจัดอยู่ในสถานะคุ้มครองตามกฎหมายแต่ประการใด โดยการเลี้ยงในแบบฟาร์ม สามารถทำให้ไก่ออกไข่ได้ตลอดทั้งปี เฉลี่ยแล้วปีละถึง ๒๐-๓๐ ฟอง มีอายุขัยในที่เลี้ยงประมาณ ๑๕ ปี โดยมีราคาขายในฐานะสัตว์เลี้ยงสวยงามถึงราคาคู่ละ ๖,๐๐๐-๗,๐๐๐ บาท (อายุ ๑.๕ ปีขึ้นไป) ทั้งนี้ราคาจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับอายุของไก่ที่ขายและสายพันธุ์ โดยราคาสูงอาจไปถึงคู่ละ ๔๐๐,๐๐๐-๕๐๐,๐๐๐ บาท ในอดีตราว ๒๐ ปีก่อน (นับจาก พ.ศ.๒๕๕๕๕) ไก่ฟ้าสีทองมีราคาขายเพียงคู่ละไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท เท่านั้น 650 หัวข้อ: Re: ไก่ป่าสีเทาตัวผู้ : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 14 กันยายน 2568 13:14:42 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/52145798876881_546607527_1669065860877549_886.jpg) ไก่ป่าสีเทาตัวผู้ สายพันธุ์นี้พบส่วนใหญ่ในคาบสมุทรอินเดีย แต่ขยายไปถึงคุชราต มัธยประเทศ และราชสถานตอนใต้ 650 หัวข้อ: Re: ไก่อเมรัวคานา Ameraucana Chicken : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 กันยายน 2568 16:44:13 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/93005684432056_Blue_Ameraucana_Cock_Copy_.jpg) ไก่บลูอเมรัวคานา อายุไม่ถึง ๑ ปี ไก่อเมรัวคานา Ameraucana Chicken อเมรัวคานา (Ameraucana) เป็นไก่บ้าน สายพันธุ์ต้นกำเนิด-สหรัฐอเมริกา ได้รับการพัฒนาในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ ๑๙๗๐และมีต้นกำเนิดมาจากไก่พันธุ์อะรัวคานา (Araucana) ที่นำเข้ามาจากชิลี มันถูกผสมพันธุ์เพื่อรักษายีนไข่สีน้ำเงินไว้ ไก่พันธุ์อเมรัวคานาเป็นหนึ่งในไก่ไม่กี่สายพันธุ์ที่วางไข่สีฟ้า ไก่พันธุ์นี้มีความคล้ายคลึงกับไก่พันธุ์อะรัวคานาหลายประการ รวมถึงหงอนถั่วและยีนไข่สีฟ้า ไก่พันธุ์นี้มีหาง ขนฟู และมีเครา ในขณะที่ไก่พันธุ์อะรัวคานาในสหรัฐอเมริกามีขนเป็นกระจุกที่หูและไม่มีก้น ติ่งหูมีขนาดเล็กและกลม เหนียงมีขนาดเล็กหรือไม่มีเหนียง ติ่งหู หงอน และเหนียงล้วนเป็นสีแดง ขาไก่มีสีฟ้าอมเทา ซึ่งมีแนวโน้มเป็นสีดำในขนสีดำ น้ำหนักของเพศผู้ ๒.๕ – ๒.๙ กิโลกรัม น้ำหนักเพศเมีย ๒.๐ – ๒.๕ กิโลกรัม) สำหรับพันธุ์ไก่แจ้ น้ำหนักเพศผู้ ๗๔๐ – ๘๕๐ กรัม เพศเมีย ๖๘๐ – ๗๔๐ กรัม มาตรฐานความสมบูรณ์แบบของอเมริกา (American Standard of Perfection) ระบุสีไว้ ๘ สี ได้แก่ สีดำ สีน้ำเงิน สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลแดง สีน้ำตาลอ่อน สีเงิน สีน้ำตาลอ่อน และสีขาว (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/24562901879350_images.jpg) 650 หัวข้อ: Re: ไก่ฟายูมี Fayoumi Chicken : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 กันยายน 2568 17:03:59 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/18138174215952_Cory_s_chickens_09_Egyptian_Fa.jpg) ไก่สาวอียิปต์ฟายูมี (Egyptian Fayoumi) ไก่ฟายูมี Fayoumi Chicken ไก่ฟายูมี (Fayoumi) หรือ ฟายูมีอียิปต์ (Egyptian Fayoumi) หรือที่รู้จักกันในอียิปต์ว่า บิกาวี (Bigawi) เป็นไก่สายพันธุ์อียิปต์ มีต้นกำเนิดและตั้งชื่อตามเขตปกครองฟายูม (Fayoum) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงไคโรและทางตะวันตกของแม่น้ำไนล์ เชื่อกันว่าเป็นไก่สายพันธุ์โบราณ ในช่วงทศวรรษ ๑๙๔๐ มีการนำเข้าไข่ไก่บางส่วนจากอียิปต์มายังสหรัฐอเมริกาโดยคณบดีคณะเกษตรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐไอโอวา และไข่ที่ฟักออกมาจากไก่เหล่านี้ถูกผสมข้ามสายพันธุ์กับไก่อเมริกัน เชื่อกันว่าไก่อียิปต์อาจมีความต้านทานต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ดีกว่าไก่อเมริกัน ไก่ฟายูมีไม่ได้รับการรับรองจากสมาคมสัตว์ปีกแห่งอเมริกา และไม่ได้รวมอยู่ในมาตรฐานความสมบูรณ์แบบของสมาคม ไก่ฟายูมีถูกนำเข้ามาในสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๕๒๗ มีสองสีที่ได้รับการยอมรับ คือ สีเงินและสีทอง มีหงอนเดียว (รอยหยักสม่ำเสมอ) หงอน ติ่งหู และเหนียงมีสีแดงสด ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ปากและเล็บเท้ามีสองสีที่พบ ได้แก่ สีเงินดินสอและสีทองดินสอ ลวดลายสีขนมีความคล้ายคลึงกับไก่บราเคิลเบลเยียม เพศผู้มีน้ำหนักประมาณ ๑.๓๕-๑.๘ กิโลกรัม (น้ำหนักพันธุ์ไก่แจ้ ๔๓๐ กรัม) เพศเมียมีน้ำหนักประมาณ ๐.๙-๑.๖ กิโลกรัม (น้ำหนักพันธุ์ไก่แจ้ ๔๐๐ กรัม) ฟายูมีเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง เหมาะกับสภาพอากาศร้อน หาอาหารเก่ง เหมาะกับการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ แม่ไก่ออกไข่ขนาดเล็กสีขาวหรือสีครีมจำนวนมาก พวกมันไม่ได้ถูกฝึกให้กกไข่เมื่อเป็นไก่สาว แต่สามารถกกไข่ได้เมื่ออายุสองหรือสามปี สายพันธุ์นี้โตเร็ว โดยแม่ไก่จะวางไข่ได้สี่เดือนครึ่ง และไก่ตัวผู้จะขันเมื่ออายุห้าหรือหกสัปดาห์ 650 หัวข้อ: Re: อายัม เซมานี Ayam Cemani Chicken : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 กันยายน 2568 17:32:26 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/74202432235081_7_Copy_.jpg) อายัม เซมานี (Ayam Cemani) ไก่พันธุ์หายากจากอินโดนีเซีย ไก่อายัม เซมานี Ayam Cemani Chicken ไก่พันธุ์อายัม เซมานี (Ayam Cemani) เป็นไก่พันธุ์หายากจากอินโดนีเซีย พวกมันมียีนเด่นที่ทำให้เกิดภาวะเม็ดสีมากเกิน (fibromelanosis) ทำให้ไก่มีสีดำเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงขนปาก และอวัยวะภายใน ไก่พันธุ์ Cemani เป็นไก่ชนที่นิยมใช้กันมากในบาหลี เพราะต้นขาของมันมีกล้ามเนื้อมากกว่าไก่พันธุ์อื่นมาก ทำให้พวกมันวิ่งได้เร็วกว่า นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับไก่พันธุ์อื่น และราคาอาจสูงถึง ๙,๐๐๐ ดอลลาร์ สำหรับไก่โตเต็มวัย และ ๑๖ ดอลลาร์สำหรับไข่ Ayam แปลว่า "ไก่" ในภาษาอินโดนีเซียในขณะที่ cemani (เดิมเป็นคำภาษา ชวา ) แปลว่า "ดำสนิท" (ดำถึงกระดูก) เนื่องจากเป็นสายพันธุ์แท้ของอินโดนีเซีย สายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย และน่าจะถูกนำมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๒ เพื่อจุดประสงค์ทางศาสนาและความลึกลับ สายพันธุ์นี้ถูกนำเข้ามาในยุโรปเป็นครั้งแรกในปี ๑๙๙๘ ปัจจุบัน ไก่สายพันธุ์นี้เลี้ยงอยู่ในเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เยอรมนี สโลวาเกีย สวีเดน อิตาลี สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐเช็ก อายัม เซมานี เป็นไก่ขนาดกลางที่รู้จักกันในเรื่องรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ มาตรฐานที่ดีที่สุด คือ จะงอยปาก ลิ้น หงอน และเหนียง จะปรากฏเป็นสีดำ แม้แต่เนื้อและอวัยวะต่างๆ ก็มีสีดำหรือสีเทา อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน กระดูกของพวกมันไม่ได้เป็นสีดำจริงๆ พวกมันมีนิสัยที่ค่อนข้างเป็นมิตรแต่ก็ยังค่อนข้างขี้ตกใจ สีดำของนกเกิดจากเม็ดสีที่มากเกินไปของเนื้อเยื่อ ซึ่งเกิดจากภาวะทางพันธุกรรมที่เรียกว่าไฟโบรเมลาโนซิส โรคไฟโบรเมลาโนซิสยังพบได้ในไก่สายพันธุ์อื่นๆ ที่มีผิวสีดำหรือสีฟ้า เช่น ไก่ซิลกี้ อายัม เซมานีตัวผู้มีน้ำหนัก ๒-๒.๕ กิโลกรัม และไก่ตัวเมียมีน้ำหนัก ๑.๕-๒ กิโลกรัม ไก่ตัวเมียจะวางไข่ที่มีสีอ่อนหรือสีครีม ไข่มีน้ำหนักเฉลี่ย ๔๕ กรัม และไก่พันธุ์นี้ไม่ค่อยฟักไข่เอง 650 หัวข้อ: Re: ไก่เดลาแวร์ Delaware : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 ตุลาคม 2568 12:28:55 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/49463052840696_Speedy_in_repose_Copy_.jpg) เดลาแวร์ (Delaware) - ตัวสีขาว (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/24201738213499_Delaware_hens_scaled_Copy_.jpg) เดลาแวร์ (Delaware) livestockconservancy.org (ที่มาภาพ) ไก่เดลาแวร์ Delaware Chicken ไก่เดลาแวร์เป็นไก่สายพันธุ์อเมริกันที่มีลวดลายขนที่แปลกตา ได้รับการพัฒนาขึ้นในรัฐเดลาแวร์ในช่วงกลางศตวรรษที่ ๒๐ ในตอนแรกรู้จักกันในชื่ออินเดียนริเวอร์ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเพื่อให้ตรงกับชื่อของรัฐที่เป็นต้นกำเนิดในการเพาะพันธุ์ ในศตวรรษที่ ๒๑ ถือเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 'วิกฤต' ซึ่งเป็นระดับที่น่ากังวลสูงสุด และในปี ๒๐๒๔ สายพันธุ์นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 'กำลังฟื้นตัว' เดลาแวร์อาจเลี้ยงไว้เพื่อบริโภคเนื้อและไข่ หรือเพื่อการแสดง มีขนาดกลาง น้ำหนักเฉลี่ยของตัวผู้คือประมาณ ๓.๕ กก.และตัวเมียประมาณ ๒.๘ กิโลกรัม ขนมีลักษณะคล้ายกับลายโคลอมเบีย ขนหางมีสีดำแซม หงอนมีลักษณะเป็นเส้นเดี่ยวและมีห้าแฉก เหนียงและติ่งหูล้วนเป็นสีแดงสด ปากมีสีออกแดง ตามีสีน้ำตาล แดงอมน้ำตาล ขาและเท้ามีสีเหลือง สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือขนทั้งหมดมีแกนและขนสีขาว เดลาแวร์เป็นไก่ที่แข็งแรงและโตเร็ว ไก่ไข่มีไข่สีน้ำตาลขนาดใหญ่ถึงใหญ่มาก และจะฟักไข่ได้ดี เดลาแวร์สามารถเจริญเติบโตได้ดีในฟาร์มแบบปล่อยอิสระ ในด้านอุปนิสัยเป็นไก่ที่สงบนิ่ง แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ใช่ไก่ที่เป็นมิตร แม้ว่าในบางกรณีอาจเป็นมิตรก็ตาม 650 หัวข้อ: Re: โรบัสต้า ลิโอนาต้า Robusta Lionata chickens-เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 พฤศจิกายน 2568 14:32:43 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60085238474938_RobustaLionata_maschio_xlivrea.jpeg) โรบัสต้า ลิโอนาต้า Robusta Lionata chickens โรบัสต้า ลิโอนาต้า (Robusta Lionata chicken) เป็นไก่สายพันธุ์อิตาเลียนสมัยใหม่ที่เลี้ยงเพื่อวัตถุประสงค์สองประการ มีต้นกำเนิดในเมืองโรวีโก แคว้นเวเนโตทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี โรบัสต้าเกิดขึ้นระหว่างปี พ.ศ.๒๕๐๒ ถึง พ.ศ.๒๕๐๘ โดยการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างไก่บัฟฟ์ออร์พิงตันกับไก่สายพันธุ์เชิงพาณิชย์ที่รู้จักกันในอิตาลีในชื่อ "ไวท์อเมริกา" ที่ศูนย์เพาะพันธุ์ไก่ทดลอง สตาซิโอเน สเปริเมนตาเล ดิ โพลลิโคลตูรา (Stazione Sperimentale di Pollicoltura) ในเมืองโรวีโก แคว้นเวเนโต ลักษณะเฉพาะ Robusta Lionata มีลักษณะคล้ายกับ Buff Orpington มาก เพียงแต่มีผิวและขาสีเหลือง ซึ่งเป็นลักษณะที่ผู้บริโภคชาวอิตาลีนิยมรับประทานเนื้อไก่ เดิม โรบัสต้า ไลโอนาต้ามีสีน้ำตาลอ่อนอมน้ำตาล หางและปลายปีกเป็นสีดำมีแสงสีเขียวเข้ม ลำตัวและขาเป็นสีเหลือง ติ่งหูเป็นสีแดง หงอนเป็นเส้นเดี่ยวและขนาดกลางถึงใหญ่ มีห้าหรือหกแฉก น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ ๓.๘ - ๔.๒ กก.สำหรับไก่ตัวผู้ ๒.๘ - ๓.๐ กก. สำหรับแม่ไก่ โดย Veneto Agricultura ให้น้ำหนักที่มากขึ้น คือ ๔.๐ – ๔.๕ กก.สำหรับไก่ตัวผู้และ ๒.๘ – ๓.๓ กก.สำหรับแม่ไก่ โรบัสต้า ไลโอนาต้า เป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงเพื่อนำเนื้อและไข่บริโภค ไก่จะวางไข่ปีละ ๑๖๐-๑๗๐ ฟอง ไข่มีสีเหมือนปลาแซลมอน และมีน้ำหนัก ๕๕ กรัมขึ้นไป ในการผลิตเนื้อสัตว์ ไก่จะต้องมีอายุ ๔ เดือน มีน้ำหนัก ๑.๙ – ๒.๐ กก. 650 หัวข้อ: Re: ไก่เออร์เมลลินาตา ดี โรวีโก : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 พฤศจิกายน 2568 15:12:00 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/26207008005844_88_Copy_.jpg) ไก่เออร์เมลลินาตา ดี โรวีโก Ermellinata di Rovigo chickens ไก่เออร์เมลลินาตา ดี โรวีโก (Ermellinata di Rovigo chickens) เป็นไก่สายพันธุ์อิตาเลียนสมัยใหม่ที่เลี้ยงเพื่อวัตถุประสงค์สองอย่าง มีต้นกำเนิดในเมืองโรวีโก (Rovigo) แคว้นเวเนโต (Veneto) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนี้ ไก่เออร์เมลลินาตา ดี โรวีโก เกิดขึ้นระหว่างปี พ.ศ.๒๕๐๒ ถึง พ.ศ.๒๕๐๘ ที่ศูนย์เพาะพันธุ์ไก่ทดลองสตาซิโอเน สเปริเมนทาเลดิ โพลลิโคลตูรา (Stazione Sperimentale di Pollicoltura) ในเมืองโรวีโก แคว้นเวเนโต ไก่พันธุ์นี้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อให้เป็นสายพันธุ์ที่ใช้งานได้สองวัตถุประสงค์คือเพื่อการบริโภคเนื้อและไข่ โดยอาศัยสายพันธุ์โรดไอแลนด์เรดและซัสเซกซ์ ไก่เออร์เมลลินาตา ดี โรวีโก มีลักษณะคล้ายไก่พันธุ์ไลท์ซัสเซกซ์ ต่างกันตรงที่มีผิวและขาสีเหลือง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวอิตาลีโดยทั่วไป ลักษณะเฉพาะ ตามมาตรฐาน ANSAV เดิม เออร์เมลลินาตา ดิ โรวีโก มีสีขาว มีลาย "เออร์มีน" ทั่วไป คือ ขนที่คอ ปลายปีก และหางสีดำ กล่าวคือ มี ลวดลายสีโคลอมเบียนเหมือนกับไลท์ซัสเซกซ์ ผิวและขามีสีเหลือง ติ่งหูมีสีแดง หงอนใหญ่เป็นเส้นเดียว มี ๕ - ๖ แฉก น้ำหนักตัวผู้จะอยู่ในช่วง ๓.๔ - ๓.๙ กิโลกรัม (๗ - ๙ ปอนด์) และตัวเมียจะอยู่ในช่วง ๒.๖ - ๓.๑ กิโลกรัม (๖ - ๗ ปอนด์) ไข่มีสีน้ำตาลอมชมพูและมีน้ำหนัก ๕๕ - ๖๐ กรัม ไก่จะวางไข่ปีละ ๑๗๐ – ๑๙๐ ฟอง ในการผลิตเนื้อสัตว์ ไก่จะมีน้ำหนักถึง ๑.๗ – ๑.๘ กก.ใน ๑๒๐ วัน 650 หัวข้อ: Re: ไก่ปาโดวานา (Padovana Chickens) : เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 พฤศจิกายน 2568 15:31:05 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14189896153079_Padovana_d_femmina_xlivrea_824.jpeg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/81237087729904_Padovana_c_femmina_xlivrea_103.jpeg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/88590777748160_Padovana_d_maschio_xlivrea_821.jpeg) ไก่ปาโดวานา (Padovana Chickens) ไก่ปาโดวานา (Padovana Chickens) หรือ ไก่่ปาโดวานา ดัล กราน ชิอุฟโฟ (Padovana dal gran ciuffo Chickens) เป็นไก่สายพันธุ์โบราณของอิตาลี มีลักษณะเป็นไก่หงอนและเคราขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดและตั้งชื่อตามเมืองปาโดวาและจังหวัดโดยรอบ ในภูมิภาคเวเนโต ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี แม้จะมีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับต้นกำเนิดที่แท้จริงของไก่สายพันธุ์นี้ แต่ไก่สายพันธุ์นี้ก็ยังได้รับการยอมรับในอิตาลีว่าเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของอิตาลี ไก่ปาโดวานา มีสีเก้าแบบ ซึ่งหกแบบเป็นที่รู้จักและมีบันทึกไว้ในตำราเก่าแก่ ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเงิน สีทอง สีน้ำตาลอ่อน และ "เหยี่ยวนกกระจอก" ผิวหนังเป็นสีขาว ขาเป็นสีเทาหรือสีดำ ไม่มีหงอนและเหนียงเป็นร่องรอย ติ่งหูมีขนาดเล็ก สีขาว และมีหงอนปกคลุมอยู่ทั่ว น้ำหนักเฉลี่ยของตัวผู้คือ ๑.๘ - ๒.๓ กิโลกรัม (๔ - ๕ ปอนด์) และตัวเมียคือ ๑.๕ - ๒.๐ กิโลกรัม (๓ - ๔ ปอนด์) ไข่มีตั้งแต่สีครีมไปจนถึงสีน้ำตาลอ่อน และมีน้ำหนักประมาณ ๕๐ - ๖๐ กรัม (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/20/Gallo_di_Padovana.jpg) 650 หัวข้อ: Re: ไก่พันธุ์ลาเคนเวลเดอร์ (Lakenvelder Chicken) เรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ไก่ต่างๆ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 ธันวาคม 2568 15:07:13 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/98422587828503_lakenvelder_scaled_Copy_.jpg) ไก่พันธุ์ลาเคนเวลเดอร์ (Lakenvelder Chicken) ไก่พันธุ์ลาเคนเวลเดอร์ (Lakenvelder Chicken) คือ ไก่บ้านสายพันธุ์เก่าแก่จากเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ มีจุดเด่นที่ขนสีดำขาวลายสวยงามโดดเด่น เหมือน "เงาบนแผ่นผ้า" (Shadow on a Sheet) ขนสีขาวทั่วทั้งตัว มีส่วนหัว คอ และหางสีดำเป็นเงา วางไข่สีขาวถึงสีอ่อน น้ำหนักประมาณ 50 กรัมต่อฟอง จำนวนประมาณ ๑๕๐-๒๔๐ ฟองต่อปี (ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ) มีทั้งขนาดมาตรฐานและขนาดเล็กหรือไก่แจ้ (Bantam เป็นไก่ที่กระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น หาอาหารเก่ง ไม่ชอบการถูกจำกัดพื้นที่ ปรับตัวได้ดีในอากาศส่วนใหญ่ แต่ไม่ทนความหนาวเย็นจัดนัก วัตถุประสงค์ของการเลี้ยงไก่พันธุ์ลาเคนเวลเดอร์ คือเพื่อบริโภคเนื้อและไข่ แต่เน้นที่ความสวยงาม และการเป็นไก่สายพันธุ์มีค่าเก่าแก่ (heritage breed) 55 |