หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๑๓ อุรคชาดก : ฤๅษีกับพญาครุฑ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 กันยายน 2567 17:08:36 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13576513404647__500_320x200_.jpg) พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๒๑๓ อุรคชาดก ฤๅษีกับพญาครุฑ ในอดีตกาลครั้งเมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในกรุงพาราณสี เมื่อเขาประกาศมีมหรสพในกรุงพาราณสี ได้มีการประชุมใหญ่ พวกมนุษย์และเทวดา นาค ครุฑ เป็นต้น ต่างประชุมกันเพื่อชมมหรสพ พญานาคจำพญาครุฑไม่ได้ จึงพาดมือลงไว้เหนือจะงอยบ่าพญาครุฑ พญาครุพนึกในใจว่าใครเอามือวางบนจะงอยบ่าของเรา เหลียวไปดูรู้ว่าเป็นพญานาค พญานาคมองดูก็จำได้ว่าเป็นพญาครุฑ จึงหวาดหวั่นต่อมรณภัย ออกจากพระนครหนีไปทางท่าน้ำ พญาครุฑก็ติดตามไปด้วยคิดว่าจักจับพญานาคนั้นให้ได้ ในสมัยนั้น พระโพธิสัตว์เป็นดาบสอาศัยอาศรมใกล้ฝั่งแม่น้ำนั้น เพื่อระงับความกระวนกระวายในตอนกลางวัน จึงนุ่งผ้า (ผ้าอาบน้ำ) วางผ้าเปลือกไม้ไว้ที่นอกฝั่งแล้วลงอาบน้ำ พญานาคคิดว่าเราจักได้ชีวิตเพราะอาศัยบรรพชิตนี้ จึงแปลงกายเป็นก้อนมณีเข้าไปอาศัยอยู่ในผ้าเปลือกไม้ พญาครุฑติดตามไปเห็นพญานาคนั้นเข้าไปอาศัยอยู่ในผ้าเปลือกไม้นั้น ก็ไม่จับต้องผ้าเปลือกไม้เพราะความเคารพ จึงพูดกับพระฤๅษี “ท่านขอรับข้าพเจ้าหิว ท่านจงเอาผ้าเปลือกไม้ของท่านไป ข้าพเจ้าจักกินพญานาคนี้เพื่อประกาศความนี้ จึงกล่าวว่า พญานาคผู้ประเสริฐกว่างูทั้งหลายต้องการจะพ้นไปจากสำนักของข้า จึงแปลงกายเป็นก้อนแก้วมณีเข้าไปอาศัยอยู่ในเปลือกไม้นี้ ข้าเคารพยำเกรงพระคุณเจ้าซึ่งเป็นผู้ประเสริฐนัก แม้จะหิวก็ไม่อาจจะจับพญานาคซึ่งเข้าไปอยู่ในผ้าเปลือกไม้นั้นออกมากินได้” พระฤๅษีทั้งๆ ที่ยืนอยู่ในน้ำได้สรรเสริญพญาครุฑ กล่าวว่า “เจ้าเคารพยำเกรงผู้ประเสริฐ แม้จะหิวก็ไม่อาจจะจับนาคซึ่งเข้าไปอยู่ในผ้าเปลือกไม้นั้นออกมากินได้ เจ้าดำรงชีวิตอยู่สิ้นกาลนานเถิด ขอภักษาหารอันเป็นทิพย์จงปรากฏแก่ท่านเถิด” พระฤๅษีทั้งๆ ทึ่ยืนอยู่ในน้ำ กระทำอนุโมทนาแล้วขึ้นนุ่งผ้าเปลือกไม้ พาสัตว์ทั้งสองไปอาศรม แสดงถึงคุณของการเจริญเมตตา แล้วทำให้สัตว์ทั้งสองนั้นสามัคคีกัน นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “เราทุกคนต้องมีความสามัคคีจะนำพาความสุขมาให้” พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สมคฺคานํ ตโป สุโข ความเพียรของหมู่ชน ผู้พร้อมเพรียงกันทำให้เกิดสุข (๒๕/๒๕) ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดยธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม |