[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 08 กันยายน 2567 14:41:39



หัวข้อ: ต้นไม้กลายป่าหินใหญ่ที่สุดในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 08 กันยายน 2567 14:41:39
(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/a7/Petrified_forest_log_1_md.jpg/800px-Petrified_forest_log_1_md.jpg)
ลักษณะของต้นไม้ที่กลายเป็นหิน

(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/f/f3/PetrifiedWood.jpg)
ภายในเต็มไปด้วยซิลิกาเห็นเป็นประกายเมื่อเจอแสง

ต้นไม้กลายป่าหินใหญ่ที่สุดในโลก

อุทยานแห่งชาติป่าหิน (Petrified Forest National Park) ตั้งอยู่ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เดิมเป็นอนุสรสถานแห่งชาติป่าหินเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ.1906 มีอาณาเขต 378 ตารางกิโลเมตร หรือ 236,250 ไร่ ภายหลังรวมเอาอาณาเขตทะเลทรายเพนเท็ด (painted) จึงมีอาณาเขต 800 ตารางกิโลเมตร หรือ 500,000 ไร่ และได้กลายมาเป็นอุทยานแห่งชาติป่าหินซึ่งเป็นป่าหินแห่งใหญ่ที่สุดในโลก ถูกค้นพบครั้งแรกโดยร้อยโทลอเรนโซ ซิตกรีฟส์ แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ โดยบังเอิญ ในปี ค.ศ.1851 มีลักษณะเป็นเศษท่อนไม้ที่เนื้อไม้กลายเป็นหินควอตซ์จำนวนมาก ซึ่งดูมีลักษณะเหมือนต้นไม้จริงทุกประการ เพียงแต่กลายเป็นหินทั้งท่อน ซุงหินที่พบมีขนาดใหญ่และส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแตกหัก พบมากบริเวณลองเลกส์ (long Legs) นับตั้งแต่ก่อตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติป่าหิน มีผู้เข้าเยือนแล้วกว่า 600,000 คน

ต้นกำเนิดของป่าหิน
ต้นกำเนิดของป่าหิน เกิดจากการกระทำของกระบวนการธรรมชาติ ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ 200 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเป็นยุคที่ทะเลทรายแอริโซนาเป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงอันกว้างใหญ่ และยังคงมีไดโนเสาร์อาศัยอยู่ท่ามกลางป่าสนยักษ์ โดยมีภูเขาไฟหลายลูกโอบล้อม ขนาดต้นสนสูงใหญ่มากประมาณ 30 เมตร และลำต้นวัดได้กว้างกว่า 1.8 เมตร มีชนิดสูงใหญ่กว่านี้สองเท่า ซึ่งน้ำป่าได้พัดต้นสนล้มไปกับน้ำล้มระเนระนาดตามพื้นดินเป็นเป็นท่อนซุงจำนวนมาก บางส่วนกองอยู่บริเวณคุ้งน้ำและธารแคบๆ หลังจากนั้นโคลนตมซึ่งมีตะกอนภูเขาไฟปะปนมาด้วยก็พัดมาสะสมเรื่อยๆจนมิดหายไปซึ่งทับถมนานหลายพันปี ซึ่งในช่วงที่ถูกฝังนั้นตะกอนภูเขาไฟซึ่งมีซิลิกาจากธุลีภูเขาไฟที่ละลายมากับน้ำค่อยๆ ซึมเข้าไปในเนื้อไม้และตกผลึก ซึ่งแร่ธาตุต่างๆ ที่ไปปะปนระหว่างตกผลึกได้แก่ อะมีธิสต์(สีม่วง) หินโมรา แจสเพอร์(สีเขียวเข้ม) โอนิกซ์(สีดำ) และ โกเมน(สีแดง) และผลึกซิลิกาจะมีรูปร่างเหมือนเซลล์ไม้ต้นตอนั้นๆ ซึ่งอยู่ใต้ดินลึกกว่า 300 เมตร ก่อนที่การยกตัวของเปลือกโลกและกระบวนการกัดกร่อนจะทำให้ท่อนไม้ที่ถูกฝังถูกเปิดเผยขึ้น ซึ่งกระบวนการกำเนิดป่าหินนี้ ยังทำให้เกิดซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลของพืชและสัตว์นานาชนิดที่เคยอาศัยเมื่อ 200 ล้านปีก่อน ซึ่งนอกจากต้นสนแล้วยังมีต้นปรง ไดโนเสาร์ไฟโทซอร์(phytosaur) เมโทโพซอร์(metoposaur) และ เอโทซอร์(aetosaur)

ความเชื่อของชาวอินเดียนแดง
ชาวอินเดียนแดงชนเผ่านาวาโฮ (Navajo) เชื่อว่าซุงหินเหล่านี้เป็นกระดูกของยักษ์ในตำนานชื่อ"ยีเอตโซ"(Yietso) ส่วนชาวอินเดียนแดงเผ่าเพยูติเชื่อว่าเป็นลูกศรของเทพเจ้าคำรามชื่อ"ชินาฟ"(Shinauv)

ศิลปะบนหินทราย
ก่อนที่จะเป็นอุทยานแห่งชาติป่าหิน บริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่ของชาวอินเดียนแดงหลายเผ่า รวมทั้งเผ่านาวาโฮ รูปสลักบนหินทรายเป็นสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในโบราณสถานปูเอร์โก ซึ่งเป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่ที่สุดในป่าหินแห่งนี้ คาดว่ามีมนุษย์อยู่ที่นี่เมื่อ ค.ศ.500-1400