|
หัวข้อ: ชนิดของกล้วย (Types of bananas) เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 31 ตุลาคม 2567 19:12:37 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/65476737626724_999_Copy_.jpg) ชนิดของกล้วย (Types of bananas) กล้วยแดง (Red banana) เป็นกลุ่มพันธุ์กล้วยที่มีผิวสีม่วงแดง บางชนิดมีขนาดเล็กและอวบอ้วนกว่ากล้วยคาเวนดิชทั่วไป และบางชนิดก็ใหญ่กว่ามาก กล้วยสีแดงดิบสุกมีเนื้อสีครีมถึงสีชมพูอ่อน เนื้อนุ่มและหวานกว่าพันธุ์คาเวนดิชสีเหลือง บางพันธุ์มีรสราสเบอร์รี่เปรี้ยวเล็กน้อย และบางพันธุ์มีรสเอิร์ธโทน กล้วยแดงจำนวนมากถูกส่งออกโดยผู้ผลิตในแอฟริกาตะวันออก เอเชีย อเมริกาใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นพันธุ์โปรดในอเมริกากลาง แต่มีจำหน่ายทั่วโลก กล้วยคาเวนดิช (Cavendish banana) ชื่อภาษาไทยเรียกว่า กล้วยหอมเขียว เป็นกล้วยที่มาจากแอฟริกาใต้ รสชาติของกล้วยพันธุ์นี้จะไม่หวานมาก นำเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงสองสามปีก่อน เป็นกล้วยหอมที่ต่างประเทศให้ความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากนัก ก่อนหน้าที่จะมาเพาะปลูกในไทยมีอยู่ในประเทศลาว กล้วยชวาสีน้ำเงิน (Blue Java banana) (หรือที่รู้จักในชื่อ blue Banana, Ice Cream Banana, Vanilla Banana, Hawaiian Banana, Ney Mannan, Krie หรือ Cenizo) เป็นกล้วยพันธุ์ที่ทนทานต่อความเย็น ขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ที่มีกลิ่นหอมหวาน ซึ่งว่ากันว่าเมื่อสุกงอม มีรสชาติเหมือนไอศกรีมกลิ่นวานิลลา มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นลูกผสมของกล้วยสองสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มูซา บัลบิเซียนา (Musa balbisiana) และ มูซา อะคูมิเนท (Musa acuminate) กล้วยหอมทอง (Gros Michel Banana) หรือกล้วยหอมกรอสมิเชล เป็นสายพันธุ์ที่เป็นทริปพลอยด์ของกล้วยป่า Musa acuminata เป็นกล้วยราคาแพง ผลขนาดกลางถึงใหญ่ เปลือกหนา สีเหลือง เนื้อละเอียด หวาน สีครีม มีกลิ่นหอม กล้วยเบอร์โร (Burro banana) ผลมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี มีรสมะนาวอมเปรี้ยว เมื่อสุกเนื้อนุ่มมีสีขาวครีมหรือเหลืองและมีความแน่นตรงกลาง ผลที่ยังไม่สุกทำเป็นกล้วยแผ่นทอดได้ เมื่อเนื้อสุกนิ่ม ก็สามารถบดและนำไปใช้ในเค้กและสูตรขนมหวานอื่นๆ ได้ กล้วยเลดี้ฟิงเกอร์ (Lady finger banana) หรือที่รู้จักกันในชื่อกล้วยชูการ์ กล้วยมะเดื่อ หรือกล้วยอินทผลัม ผลไม้มีขนาดเท่านิ้ว มีรสหวาน และมีเปลือกบาง เป็นพันธุ์กล้วยที่มีต้นกำเนิดในประเทศมาเลเซียหรืออินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ในกลุ่มย่อย Sucrier ของกลุ่มพันธุ์กล้วย AA กล้วยเลดี้ฟิงเกอร์ เป็นพันธุ์ AA ที่ได้รับการปลูกอย่างกว้างขวางที่สุด และเป็นหนึ่งในกล้วยท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก กล้วยปีซังรายาเซอเระห์ (Pisang raja sereh banana) มีต้นกำเนิดในประเทศฟิลิปปินส์ มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น กล้วยลาตุนดัน (Latundan banana) หรือกล้วยตุนดัน (Tundan banana) กล้วยไหม (Silk banana) กล้วยมันซานา (Manzana banana) กล้วยแอปเปิ้ล (Apple banana) เป็นกล้วยลูกผสมที่พบได้ทั่วไปในฟิลิปปินส์ คู่กับกล้วยลากาตันและกล้วยซาบา กล้วยราธ เคเซล (Rath Kesel banana) เป็นกล้วยที่มีเปลือกผลสีม่วงแดง มีเนื้อนุ่ม สีครีมถึงชมพูอ่อน มีรสชาติหวานคล้ายราสเบอร์รี่ กล้วยแดงนี้นิยมปลูกในประเทศศรีลังกา หัวข้อ: Re: ชนิดของกล้วย (Types of bananas) เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 08 มีนาคม 2568 16:03:19 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/48103149359424_Apple_Bananas_320_Copy_.jpg)
กล้วยแอปเปิล (Apple bananas) กล้วยแอปเปิล (Apple bananas) เป็นกล้วยสายพันธุ์จากฮาวาย มีกลิ่นหอมเหมือนแอ๊ปเปิ้ลเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์ เนื้อนิ่ม รสชาติอร่อย หวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ขนาดผลค่อนข้างเล็ก เนื้อแน่นกว่ากล้วยสายพันธุ์อื่น ปลูกง่ายโตเร็ว ให้ผลิตใน ๑ ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแล) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/42750756566723__Copy_.jpg) กล้วยเขาแรด (Rhino Horn bananas) กล้วยเขาแรด (Rhino Horn bananas) หรือเรียกอีกอย่างว่ากล้วยเขาแรดแอฟริกา เป็นกล้วยลูกผสมพันธุ์จากแอฟริกา ระหว่างกล้วยเมล็ด Musa balbisiana และ Musa acuminate ผลกล้วยมีลักษณะโค้งและยาวมาก สามารถยาวได้ถึง ๒ ฟุต แม้ว่าปกติจะยาวเพียง ๑๒ ถึง ๑๔ นิ้วเท่านั้น ถือเป็นผลกล้วยที่ยาวที่สุดในบรรดาพันธุ์กล้วย กล้วยชนิดนี้ให้ผลได้ ๒ ถึง ๔ หวีต่อเครือ ใบกล้วยเขาแรดมีจุดสีแดง ต้นกล้วยสามารถเติบโตได้สูงถึง ๑๒ ถึง ๒๐ ฟุต ผลกล้วยเขาแรดสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและปรุงสุก นอกจากนี้ยังปลูกเป็นไม้ประดับได้อีกด้วยเนื่องจากมีสีสันสวยงาม (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/99425285433729_17131_Copy_.png) กล้วยมืออธิษฐาน Praying Hands bananas กล้วยมืออธิษฐาน Praying Hands bananas เติบโตเป็นเครือขนาดกลางถึงใหญ่ที่ปลายก้านดอกที่ห้อยลงมา กล้วยมีขนาดแตกต่างกัน มีผล ๖ ถึง ๒๐ ผล และมีความผิดปกติ คือ กล้วย ๒ แถวเชื่อมติดกัน (ลักษณะติดกันแน่น เหมือนสองฝ่ามือประกบกัน ซึ่งคล้ายกับท่าทางที่บางคนทำพิธีสวดมนต์) กล้วยแต่ละลูกมีด้านแบนด้านหนึ่งและมีส่วนโค้งเล็กน้อยตรงที่กดทับอีกด้าน ผลมีลักษณะเหลี่ยม สั้น และหนา เปลือกจะสุกจากสีเขียวขุ่นเป็นสีเหลืองสดใส และอาจมีรอยและสีน้ำตาล เปลือกสามารถลอกออกได้ง่าย เนื้อสีเหลืองอมขาวจะค่อนข้างแน่น ฉ่ำ และมีแป้งเล็กน้อย เปลือกจะนิ่มลงและมีเนื้อครีมเมื่อแก่จัด กล่าวกันว่ากล้วย Praying Hands สุกจะมีเปลือกที่นิ่มกว่าและมีแกนที่เหนียว ไส้กล้วยยังหุ้มเมล็ดสีดำที่ยังไม่เจริญอยู่เล็กน้อยซึ่งมักจะไม่สังเกตเห็น และเนื้อจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลช้ากว่ากล้วยพันธุ์ที่ขายตามท้องตลาด กล้วย Praying Hands ควรรับประทานดิบๆ เมื่อสุกแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลือง สามารถแยกกล้วย Praying Hands ทีละผลได้โดยไม่ต้องฉีกเปลือกของผลอื่นๆ กล้วย Praying Hands มีรสชาติคล้ายคัสตาร์ดแบบเขตร้อนกึ่งหวาน มีกลิ่นเลมอน วานิลลา และกลิ่นหญ้าอ่อนๆ กล้วยพันธุ์นี้ให้ผลตลอดปี เชื่อกันว่ากล้วยพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งใช้เป็นแหล่งอาหารมาตั้งแต่สมัยโบราณ ฝ่ามือหลาย ๆ ฝ่ามือจะงอกชิดกันบนก้านผล ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า ช่อดอก มีลักษณะยื่นออกมาด้านข้างหรือห้อยลงมาเล็กน้อยจากพื้น โดยปกติกล้วยจะสุกภายในระยะเวลา ๒ ถึง ๓ เดือนหลังจากปรากฏบนก้าน กล้วย Praying Hands ยังรู้จักกันในชื่อ Ripping, Inabaniko, Binendito, Oremos และ Domino ในฟิลิปปินส์ และ Uht Kapakap ในไมโครนีเซีย กล้วยพันธุ์นี้ไม่ผลิตเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ แต่ปลูกในปริมาณน้อยโดยผู้ปลูกเฉพาะทางและในสวนครัว ในฟิลิปปินส์และบางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พืชล้มลุกเหล่านี้ยังเติบโตในป่าและเก็บผลมาปลูกเอง ผู้ปลูกทั่วโลกมักปลูกกล้วยพันธุ์ Praying Hands เพื่อความแปลกใหม่ พืชชนิดนี้มีคุณค่าเนื่องจากปลูกง่าย ต้านทานโรคและลมได้ และให้ผลมาก กล้วยพันธุ์ Praying Hands สามารถรับประทานสดเมื่อสุกได้ และยังใช้ปรุงอาหารหวานหรือเผ็ดร้อนได้หลากหลาย คุณค่าทางโภชนาการ : เป็นแหล่งของโพแทสเซียมที่ช่วยปรับสมดุลระดับของเหลวในร่างกาย ไฟเบอร์ช่วยควบคุมระบบย่อยอาหาร และวิตามินซีช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ผลไม้ยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นโปรตีนสำหรับการขนส่งออกซิเจนผ่านกระแสเลือด แมกนีเซียมช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาทให้มีสุขภาพดี วิตามินเอช่วยรักษาอวัยวะต่างๆ แคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และสารอาหารอื่นๆ เช่น ทองแดง ฟอสฟอรัส และสังกะสี ในยาแผนโบราณของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปลือกกล้วยมักใช้เพื่อการบำรุงผิวพรรณ โดยทั่วไปแล้ว เปลือกกล้วยจะถูกนำมาถูที่ผิวหนังบริเวณหูด สิว และริ้วรอยเพื่อให้ได้รับสารอาหาร และความเชื่อพื้นบ้านมากมายก็เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของเปลือกกล้วย (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/45502929803397_800px_Musa_uranoscopos_Rumphiu.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/61176134728723_11604_Copy_.png) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/90896768247087_s_l1200_Copy_.jpg) กล้วยเฟย (Fehi bananas) กล้วยเฟย (Fe'i bananas หรือ Fehi bananas) เป็นพืชที่ในสกุล Musa และใช้ผลเป็นหลัก ส่วนใหญ่ กล้วย Fe'i ที่ปลูกกันในปัจจุบัน พบได้มากในหมู่เกาะแปซิฟิก โดยเฉพาะโพลินีเซียของฝรั่งเศส เปลือกของกล้วยมีสีส้มสดใสจนถึงสีแดง เนื้อด้านในสีเหลืองหรือส้ม กล้วยชนิดนี้มักรับประทานโดยปรุงสุกและเป็นอาหารสำคัญของชาวเกาะแปซิฟิกโดยอพยพข้ามมหาสมุทรไปกับพวกเขา กล้วยส่วนใหญ่มีเบตาแคโรทีนสูง (สารตั้งต้นของวิตามินเอ ) ชื่อพฤกษศาสตร์ของกล้วย Fe'i คือ Musa × troglodytarum L. เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นสูง โดยทั่วไปจะสูงประมาณ ๓-๑๐ เมตร (๑๐-๓๓ ฟุต) หรือมากกว่านั้น แม้ว่าจะดูเหมือนต้นไม้ แต่ "ลำต้น" จริงๆ แล้วคือลำต้นเทียมที่เกิดจากฐานของใบที่พันกันแน่น เมื่อโตเต็มที่ ลำต้นเทียมแต่ละต้นจะผลิตก้านดอกเดี่ยวที่เติบโตขึ้นภายในและในที่สุดก็โผล่ออกมาจากด้านบน เมื่อก้านยาวขึ้น ดอกเพศเมียจะปรากฏขึ้นซึ่งจะกลายเป็นผล - กล้วย ในท้ายที่สุดก็จะผลิตดอกเพศผู้ ในกล้วยที่ปลูก ผลมักจะไม่มีเมล็ดและดอกเพศผู้จะเป็นหมัน กล้วยเฟยสามารถแยกแยะจากกล้วยและกล้วยน้ำว้าที่ปลูกชนิดอื่นได้หลายวิธี กล้วยเฟยมีน้ำยาง ที่มีสีสันสวยงาม ตั้งแต่สีชมพูไปจนถึงสีแดงอมม่วงสดและสีม่วงเข้มใบประดับของช่อดอก ( ช่อดอก ) มีสีเขียวสดใสเป็นมันเงาแทนที่จะเป็นสีแดงเข้มหรือสีม่วง ก้านดอกและผลตั้งตรงขึ้นหรือลงเล็กน้อย (แทนที่จะห้อยลงมา) ทำให้ช่อกล้วยตั้งตรงเช่นกัน ผลสุกจะมีเปลือกสีส้มสดใส สีทองแดงหรือสีแดง โดยมีเนื้อด้านในเป็นสีส้มหรือสีเหลือง มีสันนูนที่เด่นชัด ทำให้หน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส |