หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - เปิดใจ ‘นักศึกษาพม่า’ ในไทย ธุรกิจการศึกษาบูม หลังพม่าบังคับเกณฑ์ทหาร เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 31 ตุลาคม 2567 22:06:33 เปิดใจ ‘นักศึกษาพม่า’ ในไทย ธุรกิจการศึกษาบูม หลังพม่าบังคับเกณฑ์ทหาร
<span>เปิดใจ ‘นักศึกษาพม่า’ ในไทย ธุรกิจการศึกษาบูม หลังพม่าบังคับเกณฑ์ทหาร</span> <span><span>See Think</span></span> <span><time datetime="2024-10-31T20:18:06+07:00" title="Thursday, October 31, 2024 - 20:18">Thu, 2024-10-31 - 20:18</time> </span> <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>เรื่อง: ศิชา รุ่งโรจน์ธนกุล</p><p>ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์</p></div> <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>สำรวจแนวโน้มการอพยพของชนชั้นกลางพม่า เจาะลึกชีวิต ‘นักศึกษาพม่า’ ที่เข้ามาเรียนต่อไทยจำนวนมาก หลังจากที่พม่าบังคับเกณฑ์ทหาร ดูเหมือนไทยจะกลายเป็นทางผ่านด้านการศึกษาของหนุ่มสาวพม่าจำนวนมาก ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 </p><h2>เฟรชชี่จากรัฐฉาน</h2><p>นักศึกษาชาติพันธุ์ไทใหญ่ ชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์กับประชาไท เธอขอใช้นามแฝงว่า หลาว (Lao) ที่แปลว่า ดาว ในภาษาไทใหญ่</p><p>หลาว วัย 20 ปี เรียนสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วิทยาลัยนานาชาติ เพิ่งมาถึงเมืองไทยเมื่อไม่นาน หลังจากที่รัฐบาลพม่าประกาศใช้กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารพลเรือน ท่ามกลางความระส่ำระสายทางการเมือง</p><p>กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 18-35 ปี และผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 18-27 ปี ต้องรับใช้กองทัพเป็นเวลา 2 ปี</p><p>“ตอนที่ฉันมาไทยถือว่าง่ายและราบรื่น มหาวิทยาลัยช่วยจัดหาเอกสารทุกอย่างสำหรับขอวีซ่านักศึกษา มันจึงไม่ยากสำหรับฉัน แต่ว่าสำหรับเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยอื่นหรือคนที่ไปเรียนต่อประเทศอื่น สำหรับพวกเขาขั้นตอนมันยุ่งยากมาก”</p><p>เธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงจำนวนน้อย อีกทั้งยังเป็นคนเดียวในรุ่นที่มีพื้นเพจากเมืองแสนหวี ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ท่ามกลางอีก 90% ของเพื่อนในรุ่นที่มาจากพม่าเหมือนกัน ส่วนมากเป็นเพศชายและมาจากนครย่างกุ้ง บ้างจบปริญญาตรีสาขาอื่นมาแล้ว แต่ก็ใช้สถานะนักเรียนเป็นใบเบิกทางย้ายประเทศ</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>กองทัพพม่าจับกุมผู้อพยพราว 200 คนที่เมืองมะริด ระหว่างข้ามมาไทย บังคับเกณฑ์ทหารมากกว่าครึ่ง (https://prachatai.com/journal/2024/10/111174)</li><li aria-level="1">กองทัพพม่ามีแผนเกณฑ์ชายอายุ 35+ เป็น 'ทหารกองหนุน' หลังเสียกำลังพลอย่างหนัก (https://prachatai.com/journal/2024/09/110562)</li></ul></div><p>แรกเริ่มหลาวสมัครไปถึง 3 มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ลงเอยที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้เพราะมหาวิทยาลัยมอบทุนให้ครอบคลุมค่าเล่าเรียน 50% จนจบสี่ปีการศึกษา ท่ามกลางนักเรียนส่วนใหญ่ที่ครอบครัวจ่ายได้ทั้งหมด</p><p>อย่างไรก็ตาม ค่าเทอมส่วนที่เหลือและค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็ยังมากเกินไป หลาวผู้ใช้ภาษาอังกฤษ ไทใหญ่ และพม่าได้คล่องแคล่ว จึงแอบรับงงจังเป็นล่ามและแปลเอกสาร แม้เงื่อนไขของวีซ่านักเรียนต่างชาติจะไม่อนุญาตให้ทำงงจัง</p><p>ย้อนไปก่อนที่จะมีเหตุการณ์รัฐประหารพม่าในปี 2564 หลาวมีชีวิตวัยรุ่นตามปกติ เธอฝันอยากเป็นหมอ เนื่องจากเห็นความสูญเสียจากเหตุการณ์สู้รบในรัฐฉานจึงอยากช่วยเหลือคนบวกกับความหวังว่าเงินเดือนของหมอจะช่วยยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวได้ อาจพูดได้ว่าหากไม่มีการรัฐประหาร เธอคงกำลังเรียนคณะแพทย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ</p><p>หลังรัฐประหารทำให้หลาวไม่อยากเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐ ตกอยู่ในสภาวะเคว้งๆ หมดหนทางอยู่พักหนึ่งก่อนทิ้งความฝันเดิมแล้วมุ่งมั่นเรียนเตรียมสอบ GED หรือ General Educational Development การสอบเทียบวุฒิ ม.ปลาย (ม.6) ในระบบอเมริกัน เพื่อใช้ยื่นเข้าเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ</p><p>“ในอนาคตฉันอยากใช้เทคโนโลยีเพื่อสืบทอดภาษาไทใหญ่ ซึ่งเป็นมรดกของชุมชนของเราเอาไว้”</p><p>หลาวเรียนเตรียมสอบกับองค์กรภาคประชาสังคมเพื่อสิทธิด้านการศึกษาของชาวไทใหญ่ และได้ทำงานเป็นครูอาสาสมัครที่นั่น 2 ปี ก่อนจะย้ายมาเมืองไทย ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนยังอยู่กับเธอแม้ในวันที่ต้องไกลบ้านแบบนี้ เธอกล่าวถึงเป้าหมายพร้อมบอกด้วยว่าหลังเรียนจบจะหางานและพาตัวเองไปประเทศที่สามให้ได้</p><p class="picture-with-caption"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54106650696_b1fbc2b877_b.jpg" width="720" height="960" loading="lazy"> </p><p class="picture-with-caption">หลาวในชุดนักศึกษา</p><h2>ปลอดภัย-ได้เรียนเต็มที่</h2><p>“ฉันสังเกตว่าการเรียนที่ไทยจะมีภาคปฏิบัติมากกว่า ถ้าเทียบกับในพม่าที่เรามักได้เรียนภาคทฤษฎีเป็นส่วนมาก ที่ไทยก็ยังให้การสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติมากๆ ด้วย มันทำให้ฉันปรับตัวง่ายขึ้น”</p><p>ตุลา* นักศึกษาปีที่ 2 สาขาเคมีประยุกต์ จากมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงราย และผู้มีความหลากหลายทางเพศ กล่าวว่าการย้ายมาที่นี่ทำให้รู้สึกมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น โฟกัสกับการเรียนได้เต็มที่ แตกต่างจากบรรยากาศในพม่าอย่างสิ้นเชิง</p><p>เช่นเดียวกันกับหลาว ตุลาได้รับทุนค่าเล่าเรียนจากมหาวิทยาลัย ต่างไปตรงที่ตุลาต้องเก็บชั่วโมงฝึกงานเป็นบาริสต้าในมหาวิทยาลัยตามเงื่อนไขของทุน โดยบางเดือนอาจได้ค่าตอบแทนเล็กน้อยราว 500-800 บาท ในส่วนค่าครองชีพยังต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากครอบครัว</p><p>ตุลาสะท้อนว่าอุปสรรคใหญ่ที่สุดของนักศึกษาจากพม่า คือความยุ่งยากในการทำเอกสารและวีซ่า บ่อยครั้งที่กระบวนการติดขัดจนล่าช้า อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ จากพม่าต่างเข้าใจช่วยเหลือกันและกันเป็นอย่างดี</p><p class="picture-with-caption"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54107099540_08a7cd578e_b.jpg" width="768" height="1024" loading="lazy"> </p><p class="picture-with-caption">ตุลาในชุดฝึกงานบาริสต้า</p><h2>เริ่มเรียนใหม่หลังรัฐประหารทำสะดุด</h2><p>“ฉันรีบเตรียมเอกสารแบบฉุกละหุก เพราะกว่าจะเห็นประกาศรับสมัครทุนก็เหลือเวลาแค่เดือนเดียว ตอนนั้นสมัครแค่มหาวิทยาลัยนี้ที่เดียว แล้วก็ได้เลย จริงๆ ตอนแรกฉันสนใจไปอเมริกาด้วย แต่ว่าการขอวีซ่านั้นยากมากจริงๆ และมันก็ไกลจากบ้านเกินไป ถ้าเทียบกับเมืองไทยที่ฉันสามารถเจอพ่อกับแม่ได้ง่ายๆ เมื่อคิดถึงบ้าน”</p><p>เมย์* นักศึกษาปีสุดท้ายจากสาขาธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเอกชนในจังหวัดปทุมธานี เล่าย้อนถึงช่วงที่สมัครเรียนต่อ เธอจะเรียนจบในอีก 6 เดือนข้างหน้าและกำลังมองหางานด้านธุรกิจและการตลาดออนไลน์</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54107099545_81b7796e79_b.jpg" width="768" height="1024" loading="lazy"><p> </p><p class="picture-with-caption"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54107301109_7e0c40d2fe_b.jpg" width="1024" height="768" loading="lazy">เมย์ </p><p>เธอเป็นหนึ่งในนักเรียนทุนเพียงไม่กี่คนในรุ่น โดยได้ทุนค่าเล่าเรียน 50% จากมหาวิทยาลัยจนจบการศึกษา ครอบครัวของเมย์สามารถจ่ายส่วนที่เหลือรวมถึงค่าครองชีพ เมย์จึงสามารถทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับการเรียนและกิจกรรม</p><p>กิจกรรมของเมย์แบ่งได้เป็น 2 ประเภท อย่างแรกคือ การเป็นสต๊าฟในอีเวนต์ของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของทุน อย่างที่สองคือ การเข้าร่วมแข่งขันด้านธุรกิจและค่ายเยาวชน ซึ่งอย่างหลังนี้เธอหวังว่ามันอาจช่วยให้เธอได้งานดีๆ ในอนาคต</p><p>“ตอนนี้สถานการณ์ในพม่าเข้าแย่ลงกว่าเดิม ถ้าเรากลับไปที่นั่น ฉันไม่แน่ใจว่าเราจะออกมาอีกได้หรือเปล่า”</p><p>ชีวิตมหาวิทยาลัยของเมย์ไม่ได้เริ่มที่นี่เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เธอเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศ ย่างกุ้ง (Yangon University Of Foreign Languages) ทว่าเกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้มหาวิทยาลัยจำต้องหยุดการเรียนการสอน หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์รัฐประหารตามมา</p><p>เช่นเดียวกับวัยรุ่นจำนวนมาก เธอลงถนนประท้วงและร่วมแคมเปญรณรงค์ทางออนไลน์อยู่หลายเดือน ต่อมามหาวิทยาลัยกลับมาเปิดอีกครั้ง ทว่าเมย์ตัดสินใจไม่เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเดิมอีกต่อไป เนื่องจากอาจารย์มหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่งได้ลาออกไปร่วมกับกลุ่มต่อต้าน ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร รวมถึงความรู้สึกผิดต่อเพื่อนในวัยเดียวกันที่ต้องหลุดจากระบบการศึกษาทำให้ เมย์มองหาทางเรียนต่อต่างประเทศ</p><p>พื้นเพของเมย์เป็นชาวไทใหญ่-พม่าจากนครย่างกุ้ง พ่อทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทเอกชน ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน เธอบอกด้วยว่าถ้าสุดท้ายหางานไม่ได้ในเมืองไทยก็จะย้ายไปประเทศที่สาม</p><h2>กลับไม่ได้ หางานก็ไม่ง่าย</h2><p>การเดินทางกลับประเทศยิ่งเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายสำหรับนักศึกษาที่มีพื้นเพเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง พวกเขามีแนวโน้มกระจุกตัวตามคณะสายสังคมศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือของไทย </p><p>“ผมมาที่นี่ในปี 2566 ตอนแรกคิดว่าเรียนจบแล้วก็จะกลับบ้าน เพราะว่าตอนนั้นกองทัพพม่ายังไม่ได้นำกฎหมายเกณฑ์ทหารกลับมาใช้ แต่หลังจากที่ปีนี้ มีการประกาศใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร ตอนนั้นแหละผมคิดจะอยู่ต่อเมืองไทย เพราะผมกลับไปไม่ได้แล้ว”</p><p>คำบอกเล่าจาก โม* วัยยี่สิบปลายผู้เคยเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง เขากำลังเรียนปริญญาโท หลักสูตรระยะสั้น ด้านนโยบายสาธารณะ</p><p class="picture-with-caption"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54106650011_95fc0fa330_b.jpg" width="944" height="880" loading="lazy"> โม</p><p>ตัวเขาเก็บหน่วยกิตครบแล้ว แต่เลือกที่จะยืดระยะเวลาจบการศึกษาออกไปตราบเท่าที่เกณฑ์มหาวิทยาลัยกำหนด นี่เป็นวิธีที่นักศึกษาจากพม่าจำนวนหนึ่งต้องทำ เพราะต้องการคงสถานะนักศึกษาเพื่ออยู่อาศัยและหางานทำ ขณะนี้โมยังคงหางานไม่ได้ ยังต้องพึ่งพาเงินที่ครอบครัวส่งมาให้ทุกเดือนราวๆ 10,000 บาท</p><p>ย้อนไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โมมีบทบาทเป็นประธานสหภาพนักศึกษา หลังเรียนจบจากสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยดะโก่ง เขาได้ทำงานด้านการพัฒนาชนบทในองค์การระหว่างประเทศเป็นเวลา 3 ปี ประสบการณ์ในสายงานกลายมาเป็นใบเบิกทางให้ได้ทุนค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน หากปราศจากทุนการศึกษา เขาก็คงออกมาได้ยาก</p><p>“ช่วงหลังรัฐประหาร ตอนนั้นสถานการณ์มันแย่แบบที่ผมไม่รู้จะอธิบายด้วยคำไหน การมีชีวิตอยู่แต่ว่าไม่มีความหวังก็เหมือนกับตายทั้งเป็น คนหนุ่มสาวเริ่มรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเสียเวลาอยู่ในประเทศแบบนี้ จะเป็นยังไงถ้าเราหาทางไปต่างประเทศและเริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง”</p><p>แม้โมจะเป็นนักเรียนหัวกะทิพร้อมประสบการณ์ทำงาน แต่การหางานสายเดิมในไทยก็นับเป็นเรื่องยาก เขาพบว่ากำแพงภาษายังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ บางองค์กรระหว่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ยังคงกำหนดให้แคนดิเดตต้องใช้ภาษาไทยได้ด้วย เกณฑ์ข้อนี้ก็ทำเขาตกม้าตาย อีกทั้งยังต้องแข่งขันกับชาวต่างชาติคนอื่น โดยเฉพาะนักศึกษาจากพม่าที่ก็อยู่ในภาวะดิ้นรนเอาตัวรอดไม่ต่างกัน</p><p>เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย (https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/37566.pdf)ประกาศขยายเวลาพำนักในประเทศไทยให้นักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป ที่ได้รับการตรวจลงตรา Non-Immigrant Visa รหัส ED หลังสำเร็จการศึกษา 1 ปี เพื่อหางาน เดินทางท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ในประเทศไทยได้</p><p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54106660026_c0275fb2e1_b.jpg" width="1024" height="1024" loading="lazy"> <img src="https://live.staticflickr.com/65535/54106999789_f4de617a49_b.jpg" width="1024" height="1024" loading="lazy"></p><h2>แนวโน้มการอพยพ</h2><p>พิมพ์ ไชยสาส์น เลขานุการเอก ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ให้สัมภาษณ์กับประชาไทถึงความท้าทายในการทำงานตรวจลงตรา ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาที่ทางการพม่านำกฎหมายเกณฑ์ทหารกลับมาบังคับใช้ คนหนุ่มสาวหลั่งไหลขอวีซ่าเข้าไทยมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ สถิติการตรวจลงตรานักเดินทางชาวพม่าทุกประเภท พุ่งขึ้นไปถึงวันละ 800 คน ซึ่งเต็มกำลังของสถานเอกอัครราชทูตแล้ว จากเดิมที่การตรวจลงตราจะมีประมาณวันละ 200 คน โดยพีคที่สุดแค่ช่วงเปิดเทอม</p><p> </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54107131280_d1fceaf3af_b.jpg" width="1024" height="768" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">คนหนุ่มสาวแห่ขอวีซ่าเข้าไทย หลังรัฐบาลประกาศกฎหมายเกณฑ์บังคับทหารพลเรือน </p><p class="picture-with-caption">ภาพจาก เฟซบุ๊ก (https://web.facebook.com/NolKannavee/posts/pfbid0eNBPsksiFPzGjfiaH1u2LXZv6yyqZXG5turYZoKTv5EHbaLYr3tHnZehTuZiKNYYl)กัณวีร์ สืบแสง</p><p>พิมพ์อธิบายภาพรวมของนักศึกษากลุ่มนี้ว่านับเป็นชนชั้นกลางค่อนบน จากหัวเมืองใหญ่ๆ อาทิ ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เป็นต้น กระทั่งกลุ่มที่ได้ทุนจากมหาวิทยาลัยไทยก็ยังต้องมีฐานะประมาณหนึ่ง</p><p>กลุ่มแรกนักศึกษาส่วนใหญ่มักเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งการแข่งขันสอบเข้าไม่ได้สูงมากเทียบเท่ามหาวิทยาลัยของรัฐ ส่วนอีกกลุ่มที่มีงบจำกัดลงมา อาจเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนตามแนวชายแดน หรือเลือกเรียนหลักสูตรระยะสั้น เช่น คอร์สภาษาไทยและอังกฤษ ด้วยเหตุผลเรื่องที่พักอาศัยหรือมีญาติพี่น้องอยู่บริเวณนั้น ส่วนชนชั้นนำอาจส่งลูกไปเรียนได้ไกลถึงประเทศตะวันตก</p><p>อีกหนึ่งอย่างที่สะท้อนให้เห็นความต้องการเรียนต่อไทยที่เพิ่มมากขึ้นก็คือ ผลตอบรับจากงาน Thailand Education Fair (Myanmar) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานมากถึง 3,600 คน</p><p>ในงานมีการออกบูธของสถาบันการศึกษาหลายสิบแห่ง แนะนำหลักสูตรและขั้นตอนการสมัคร ตลอดจนทุนการศึกษาต่างๆ โดยเป็นโครงการความร่วมมือของกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับสมาคมศิษย์เก่านักเรียนพม่าในประเทศไทย (Association of Myanmar Alumni from Universities in Thailand - AMAUT)</p><p>ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จะมีการจัดงาน Thailand Education Fair (Myanmar) ครั้งที่ 8 จากผลตอบรับของงานครั้งที่แล้วค่อนข้างจะพลุแตก ครั้งนี้จึงขยายระยะเวลางานเป็น 2 วัน โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 5,000-7,000 คน</p><p>พิมพ์กล่าวด้วยว่า แม้จะมีเทรนด์อพยพของกลุ่มนักศึกษาเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขในอนาคตก็อาจไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่เป็นอยู่ เนื่องจากสัดส่วนชนชั้นกลางค่อนบนไม่ได้ใหญ่มากนัก รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำทางสังคม</p><p> </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54105780507_b80cf25dd6_b.jpg" width="1024" height="683" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">นักเรียนและผู้ปกครองเข้าร่วมงาน Thailand Education Fair (Myanmar) ครั้งที่ 7 เมื่อเดือนเมษายน 2567</p><p class="picture-with-caption">ภาพจากสมาคมศิษย์เก่านักเรียนพม่าในประเทศไทย (https://www.facebook.com/photo/?fbid=491351129915707&set=pb.100071224723379.-2207520000)</p><h2>พม่าพยายามดึงคนกลับไปเกณฑ์ทหาร ?</h2><p>เมื่อกลางกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลทหารพม่าประกาศว่า สถานเอกอัครราชทูตพม่าประจำกรุงเทพมหานคร หรือ กงสุลพม่าในจังหวัดเชียงใหม่ จะไม่ต่อหนังสือเดินทางให้นักศึกษาพม่าที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศไทยด้วยวีซ่านักเรียนระยะสั้น โดยนักศึกษากลุ่มนี้ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อต่อหนังสือเดินทางฉบับใหม่เท่านั้น</p><p>หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลทหารพม่าในการให้คนรุ่นใหม่กลับประเทศเพื่อเรียกตัวเข้าเกณฑ์ทหารหรือไม่</p><p>แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานถึงผลกระทบจากมาตรการนี้ แต่นักศึกษากลุ่มที่ประชาไทได้พูดคุยล้วนรู้สึกกังวลใจกับสถานะการอยู่อาศัยของพวกเขาในอนาคตอันใกล้</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>69 อาจารย์มหา’ลัยส่งจม.เปิดผนึกถึงนายกฯ ยื่น 5 ข้อเรียกร้องช่วยเหลือนักศึกษาพม่าที่ได้รับผลกระทบ (https://prachatai.com/journal/2024/04/108879)</li><li>ชาวพม่า – นักกิจกรรม เชียงใหม่ เรียกร้องยกเลิก 'ประหารชีวิต' 7 น.ศ. ต้านรัฐประหารในพม่า (https://prachatai.com/journal/2022/12/101769)</li></ul></div><p><strong>บทความนี้ได้รับการสนับสนุนโดย IOM ผ่านโครงการทุนเพื่อการรายงานข่าวเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐาน</strong></p></div> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" hreflang="th">รายงานพิเศษ[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88" hreflang="th">เศรษฐกิจ[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2" hreflang="th">การศึกษา[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยชน[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" hreflang="th">คุณภาพชีวิต[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเทศ[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">พม่า[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">นักศึกษาพม่า[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3" hreflang="th">กฎหมายเกณฑ์ทหาร[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2" hreflang="th">ธุรกิจการศึกษา[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B8%95-%E0%B8%93-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87" hreflang="th">สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2" hreflang="th">กระทรวงมหาดไทย[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="field field--name-field-promote-end field--type-string field--label-hidden field-item">ติดตาม "ประชาไท Prachatai.com" ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้า https://prachataistore.net</div> http://prachatai.com/journal/2024/10/111238 |