หัวข้อ: ชาวไวกิ้ง (Vikings) เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 28 พฤศจิกายน 2567 15:43:54 (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/78/Viking_attack_on_Gu%C3%A9rande%2C_from_a_Saint-Aubin_MS.jpg/800px-Viking_attack_on_Gu%C3%A9rande%2C_from_a_Saint-Aubin_MS.jpg) ภาพชาวไวกิ้งกำลังล่องเรือ ปี ค.ศ.๑๑๐๐ ไวกิง (Vikings) ไวกิง (Vikings) ในความหมายหลักหมายถึงชนเผ่านักรบ นักการค้า และนักตั้งถิ่นฐานจากนอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก ซึ่งบุกรบชนะ ยึดครอง และตั้งอาณานิคมอาณาเขตในส่วนใหญ่ของอังกฤษ นอร์ม็องดี และรัสเซียเมื่อระหว่างประมาณ ค.ศ.๖๕๗ - ค.ศ.๑๐๔๗ นอกจากนี้ยังบุกจู่โจมสเปน โมร็อกโก และอิตาลี ติดต่อการค้ากับจักรวรรดิไบแซนไทน์ เปอร์เซีย และอินเดีย ชาวไวกิงยังได้ค้นพบและยึดครองไอซ์แลนด์ และกรีนแลนด์ เดินเรือไปถึงชายทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย ชนเผ่านี้เป็นนักเดินเรือที่ชำนาญ กล้าที่จะนำเรือแล่นออกไปในมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อหาหมู่เกาะเป็นดินแดนทำมาหากินให้อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากการรบกวนของชนเผ่าอื่น ไวกิงจึงเป็นชาวยุโรปพวกแรกที่เดินเรือออกไปนอกทะเลลึก และลอยลำอยู่ท่ามกลางลูกคลื่นและแสงแดด มองไปรอบด้านจะเห็นแต่ขอบฟ้าและพื้นน้ำเท่านั้น แต่ในการค้นหาแผ่นดินใหม่ พวกไวกิงใช้วิธีปล่อยนกดุเหว่าที่นำติดไปกับเรือด้วยให้ออกจากกรงขัง เมื่อนกดุเหว่าหลุดออกจากกรงขัง มันจะโผบินเป็นวงกลมสูงขึ้นไปในอากาศ ถ้ามันบินกลับย้อนทางเดิม ก็หมายความว่าเบื้องหน้าต่อไปนั้นจะไม่มีแผ่นดินอยู่เลย แต่ถ้ามันบินพุ่งไปในทะเลทางทิศใดทิศทางหนึ่ง พวกไวกิงก็ทราบได้ทันทีว่า ทิศทางนั้นต้องมีผืนแผ่นดินอยู่ไกลลับสายตาเบื้องหน้าโน้น ซึ่งพวกเขาจะนำเรือออกค้นความจนพบดินแดนนั้นได้ ไวกิงได้ยกกองทัพบุกอังกฤษ ทางชายฝั่งนอร์ทัมเบรีย ตอนเหนือของประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ค.ศ.๗๙๓ บุกเผาทำลายโบสถ์แห่งลินดิสฟาร์นและฆ่าพระบาทหลวงจนหมด ในอีกสองปีต่อมาก็ได้รุกลึกเข้าไปในแผ่นดินใหญ่อังกฤษในพื้นที่ที่เป็นสกอตแลนด์ปัจจุบัน บุกโจมตีไอร์แลนด์และตั้งราชอาณาจักรไวกิงที่เมืองดับลิน ลิเมอริก และวอเตอร์ฟอร์ด แม้เมื่อแรกพวกไวกิงจะทำลายโบสถ์และฆ่าบาทหลวง แต่ในที่สุดชาวไวกิงได้เข้ารีตเป็นคริสต์ศาสนิกชน ไวกิงยึดครองเมืองต่างๆ ได้หลายเมือง กษัตริย์ไวกิงที่มีนามว่า แฮรัลด์ บลูทูท (Harald Bluetooth) ได้เข้าปกครองอังกฤษและไอร์แลนด์ ในปี ค.ศ.๘๗๔ เอริกเดอะเรด (Eric the Red) นักรบไวกิงผู้ถูกเนรเทศจากไอร์แลนด์ได้อพยพพาครอบครัวและเรือ ๒๕ ลำเดินทางไปทางทิศตะวันตกและได้พบเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งทั้งๆ ที่เกาะกรีนแลนด์มีหิมะและน้ำแข็งปกคลุมคลอดทั้งปี แต่แอริคต้องการให้ชื่อเกาะดึงดูดนักผจญภัยอื่นๆ เขาจึงตั้งชื่อเกาะที่พบว่า กรีนแลนด์ (ดินแดนสีเขียว) ในปี ค.ศ.๙๘๕ เลฟ เอริกสัน (Leif Ericson) บุตรของเอริกเดอะเรด ได้รายงานการพบแผ่นดินที่นักประวัติศาสตร์ทุกวันนี้เชื่อว่าเป็นแลบราดอร์, นิวฟันด์แลนด์ และนิวอิงแลนด์ เพราะเลฟได้บรรยายว่าบนดินแดนใหม่นี้มีป่าไม้ ทุ่งข้าวสาลี และไร่องุ่น แต่ชาวไวกิงตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนใหม่นี้ได้ไม่นานก็ถูกชนพื้นเมืองรุกรานจนต้องอพยพกลับกรีนแลนด์ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เกิดก่อนที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส จะพบอเมริกาประมาณ ๕๐๐ ปี (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/53/Gokstadskipet1.jpg/800px-Gokstadskipet1.jpg) เรือไวกิงที่แสดงในพิพิธภัณฑ์กรุงออสโล นอร์เวย์ ด้วยธรรมชาติของการเป็นนักจู่โจมทางเรือโดยทางทะเลซึ่งจะต้องเข้มแข็ง ดุดันและไม่กลัวอันตราย ชาวไวกิงจึงมีกิตติศัพท์หรือได้สมญาว่าเป็นพวกโหดเหี้ยมทารุณและเป็นนักทำลายล้าง แต่ในฐานะของพ่อค้าและนักปกครองอาณานิคม ชาวไวกิงนับได้ว่าเป็นผู้มีบทบาทและอิทธิพลสูงทางดีในด้านการพัฒนายุโรปยุคกลาง การตั้งถิ่นฐานโพ้นทะเลในยุคแรกๆ ของชาวไวกิงได้แก่การตั้งเมือง "ออร์กนีย์" และที่หมู่เกาะ "เชตแลนด์" ซึ่งอยู่ในการปกครองของนอร์เวย์เรื่อยมาและสิ้นสุดเมื่อ ค.ศ.๑๔๗๒ ช่วงเวลาที่นับเป็นยุคไวกิง อยู่ระหว่าง ค.ศ.๗๙๓ - ค.ศ.๑๐๖๖ ซึ่งสิ้นสุดยุคประมาณระหว่างยุคเชียงแสนและหริภุญชัย หรือก่อนสถาปนาราชวงศ์พระร่วงโดยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (ค.ศ.๑๒๔๙) ๑๘๓ ปี จากบันทึก ในช่วงเวลาคริสต์ทศวรรษ ๗๙๐ จนถึงการพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มันในปี ค.ศ.๑๐๖๖ ถือว่าเป็นยุคไวกิงในประวัติศาสตร์ของสแกนดิเนเวีย ชาวไวกิงได้ใช้ทะเลนอร์วีเจียนและทะเลบอลติกเป็นเส้นทางมุ่งสู่ทางใต้และแผ่อิทธิพลลงมาถึงดัชชีนอร์ม็องดีช่วงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๐ ก่อนสืบเชื้อสายกลายเป็นชาวนอร์มัน สำหรับผู้สืบเชื้อสายไวกิงที่งมีอิทธิพลในยุโรปเหนือในยุคนั้น ได้แก่ พระเจ้าฮาโรลด์ กอดวินสัน กษัตริย์แองโกล-แซกซันองค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรอังกฤษผู้มีบรรพบุรุษเป็นชาวเดนมาร์ก และสองชาวไวกิงที่ขึ้นครองบัลลังก์ราชอาณาจักรอังกฤษ พระเจ้าสเวน ฟอร์กเบียร์ดผู้ครองบัลลังก์ราชอาณาจักรอังกฤษระหว่างปี ค.ศ.๑๐๑๓ - ๑๐๑๔ และพระราชโอรส พระเจ้าคนุตมหาราชผู้ครองบัลลังก์ราชอาณาจักรอังกฤษระหว่างปี ค.ศ.๑๐๑๖ - ๑๐๓๕ ในเชิงภูมิศาสตร์ ยุคไวกิงไม่เพียงจำกัดอยู่ในดินแดนสแกนดิเนเวีย (ประเทศเดนมาร์ก, ประเทศนอร์เวย์ และประเทศสวีเดน) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงดินแดนเขตปกครองเจอร์แมนิกเหนือ เดนลอว์ สแกนดิเนเวียนยอร์ก ศูนย์กลางการปกครองที่เหลืออยู่ของราชอาณาจักรนอร์ทัมเบรีย บางส่วนของราชอาณาจักรเมอร์เซีย และราชอาณาจักรอีสต์แองเกลีย นอกจากนี้ ชาวไวกิ้งยังได้เปิดหนทางใหม่สู่ดินแดนตอนเหนือ ตะวันตก และตะวันออกส่งผลให้เกิดการตั้งถิ่นฐานเป็นอิสระขึ้นในเชทแลนด์ ออร์กนีย์ และหมู่เกาะแฟโรในประเทศไอซ์แลนด์ กรีนแลนด์ และแลนโซเมโดส์ มีการตั้งถิ่นฐานในช่วงเวลาสั้นๆ ในรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ ซึ่งอาจเป็นความบังเอิญโดยไม่ตั้งใจของลูกเรือ และนิคมกรีนแลนด์อาจถูกทิ้งร้างเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ราชวงค์ชาวไวกิง รูลิค (Rurik) ได้ครองดินแดนสลาฟและเขตปกครองฟินโน-ยูกริกในยุโรปตะวันออกและผนวกเคียฟในปี ค.ศ.๘๘๒ ภายใต้จักรวรรดิเคียฟรุส ต้นยุคราวปี ค.ศ.๘๓๙ เมื่อทูตชาวสวีเดนได้เข้าไปเจริญสัมพันธไมตรีครั้งแรกในบิแซนเทียม ช่วงนั้นชาวสแกนดิเนเวียเป็นทหารรับจ้างของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๐ หน่วยองครักษ์แห่งจักรวรรดิหน่วยใหม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวสแกนดิเนเวีย รู้จักกันชื่อองครักษ์วารันเจียน คำว่า วารันเจียน (Varangian) อาจมาจากภาษานอร์สโบราณซึ่งหมายถึงคือชาวไวกิงและชาวนอร์ส แต่ในภาษาสลาฟและกรีกอาจหมายถึงชาวสแกนดิเนเวียหรือชาวแฟรงค์ ชาวสแกนดิเนเวียที่มีชื่อเสียงที่สุดในองครักษ์วารันเจียนคือฮาร์รัลด์ ฮาร์ดราด้า ผู้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งนอร์เวย์ (ค.ศ.๑๐๔๗-๖๖) มีหลักฐานทางโบราณคดีที่บ่งบอกว่าชาวไวกิงเดินทางถึงแบกแดด เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิอับบาซียะฮ์ ชาวนอร์สได้ใช้แม่น้ำวอลกาเป็นเส้นทางในการแลกเปลี่ยนสินค้า เช่น ขนสัตว์ เขี้ยว งา ไขมันผนึกเรือ และทาส เป็นประจำ ท่าเรือที่สำคัญในช่วงเวลานี้ได้แก่ เบียงกา (Birka) เฮียดบี (Hedeby) คุยปัง (Kaupang) จอร์วิก (Jorvik) สตาราเฮีย ลาโดกา (Staraya Ladoga) นอฟโกรอด (Novgorod) และ เคียฟ อาจกล่าวได้ว่า ชาวนอรเวย์ได้แผ่ขยายเข้าไปตั้งถิ่นฐานถึงทางเหนือและตะวันตก เช่น ประเทศไอร์แลนด์ สก็อตแลนด์ ไอซ์แลนด์ และกรีนแลนด์ ชาวเดนมาร์กไปถึงในอังกฤษและฝรั่งเศส ได้ตั้งถิ่นฐานในเดนลอว์ (ภาคเหนือและภาคตะวันออกของอังกฤษ) และแคว้นนอร์ม็องดี และชาวสวีเดนได้ไปถึงตะวันออก พบว่าแผ่ขยายไปถึงจักรวรรดิเคียฟรุส พบว่ามีอักษรรูนของคณะเดินทางชาวสวีเดนได้กล่าวถึงการบุกและการท่องไปถึงยุโรปตะวันตก ตามตำนานเรื่องเล่าของไอซ์แลนด์ไวกิงชาวนอรเวย์ได้เดินทางไปยุโรปตะวันออกด้วยเช่นกัน ในยุคไวกิง ประเทศนอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์กยังไม่มีตัวตน ชาวไวกิงส่วนใหญ่หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน มีความคล้ายคลึงกันในวัฒนธรรมและภาษาแม้จะมีความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ ชื่อกษัตริย์สแกนดิเนเวียเป็นที่รู้จักเฉพาะหลังยุคไวกิ้งเท่านั้น หลังจากสิ้นสุดยุคไวกิง ดินแดนจึงได้แบ่งเป็นอาณาจักรต่างๆ อย่างช้าๆ ตามสถานะที่แตกต่างกันไปในฐานะประเทศไปพร้อมกับการเข้ารีตเป็นคริสเตียน ดังนั้นการสิ้นสุดของยุคไวกิงสำหรับชาวสแกนดิเนเวียจึงเป็นจุดเริ่มต้นของยุคกลาง (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/99512537899944_468099048_864703555745768_1623.jpg)
(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/2b/Hammars_%28I%29.JPG/800px-Hammars_%28I%29.JPG) หิน Stora Hammars I แสดงให้เห็นเรื่องราวเกี่ยวกับฮิลเดอร์ ภายใต้พิธีกรรมของนกอินทรีสีเลือด และใต้ท้องเรือไวกิ้ง (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/a6/Nicholas_Roerich%2C_Guests_from_Overseas_%28corrected_colour%29.jpg) (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/73/Lbs_fragm_82%2C_0001v_-_1.jpg/800px-Lbs_fragm_82%2C_0001v_-_1.jpg) Heimskringla Sagas หนึ่งในต้นฉบับไม่กี่ฉบับที่ยังมีอยู่ เขียนโดย Snorri Sturluson c. 1230 เล่าถึงกษัตริย์โอลาฟูร์ (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/2b/Exhibition_in_Viking_Ship_Museum%2C_Oslo_01.jpg) เรือไวกิ้ง ในพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งในกรุงออสโล (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/df/Vikings_costumes_woman_man_Arkeologisk_museum_Stavanger%2C_Norway_2015-05-27.jpg/800px-Vikings_costumes_woman_man_Arkeologisk_museum_Stavanger%2C_Norway_2015-05-27.jpg) เครื่องแต่งกายไวกิ้งที่สร้างขึ้นใหม่ จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีในเมืองสตาวังเงร์ ประเทศนอร์เวย์ (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/de/Viking_swords.jpg/1024px-Viking_swords.jpg) ดาบไวกิ้ง (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e3/Box_and_scales.jpg/800px-Box_and_scales.jpg) ตาชั่งและน้ำหนักของพ่อค้าชาวไวกิ้ง ซึ่งใช้ในการตวงเงินและบางครั้งก็เป็นทอง (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c2/Viking_Siege_of_Paris.jpg/1280px-Viking_Siege_of_Paris.jpg) ภาพลายเส้น : เรือยาวไวกิ้งที่ปิดล้อมปารีสในปี ๘๔๕ เป็นภาพสมัยศตวรรษที่ ๑๙ (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/e/e0/Faroe_stamps_515-517_everyday_life_in_the_viking_age.jpg) ชีวิตประจำวันในยุคไวกิ้ง |