หัวข้อ: อุทยานหินเขางู ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 ธันวาคม 2567 15:01:58 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/34183053920666_1_Copy_.jpg) อุทยานหินเขางู ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี อุทยานหินเขางู มีพื้นที่อยู่บริเวณแหล่งภูเขาหินปูน ในสวนสาธารณะเขางู ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ ๘ กิโลเมตร แต่เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินที่สำคัญของไทยตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เนื่องจากเป็นปูนที่มีคุณภาพดี ต่อมาทั้งภาครัฐและประชาชนได้เล็งเห็นถึงความเสื่อมโทรมของสภาพภูมิประเทศและวิวทิวทัศน์ อีกทั้งที่เขางูนี้ยังเป็นศาสนสถานอันเก่าแก่ จึงได้มีการยกเลิกสัมปทานการระเบิดและย่อยหินที่บริเวณนี้ไป หลังจากยกเลิกสัมปทาน เขางูกลายเป็นเหมืองร้าง มีสภาพทรุดโทรม ทางจังหวัดราชบุรีจึงได้พัฒนาเขางูให้เป็นสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดี ได้สร้างพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ เต็มพื้นที่หน้าผา สร้างจากการยิงแสงเลเซอร์ลงหน้าผาหิน ต่อมาได้เพิ่มการท่องเที่ยวแนวผจญภัยเข้าไปเรียกว่า "เขางู แอดเวนเจอร์ ปาร์ค" โดยมีเทศบาลตำบลเขางูเป็นผู้ดูแลรักษา ภายในอุทยานหินเขางูแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีอยู่หลายแห่ง ซึ่งจะเป็นถ้ำที่อยู่บนภูเขามีถ้ำฤๅษี ถ้ำฝาโถและถ้ำจีน-จาม แต่ละถ้ำอยู่ไม่ไกลกัน แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไต่เขาไปค่อนข้างสูง บริเวณรอบๆ จะมีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ภายในถ้ำต่างๆ จะพบพระพุทธรูปจำหลัก หรือพระพุทธรูปที่สลักหินที่ฝาผนังถ้ำอยู่หลายองค์ ซึ่งพระพุทธรูปเหล่านี้เป็นพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยทวารวดี ถ้ำในบริเวณอุทยานหินเขางู • ถ้ำฤๅษี พบพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ๒ องค์ องค์แรกประทับห้อยพระบาท (ประลัมพปาทาสนะ) พระหัตถ์ขวาอยู่ในปางแสดงธรรม (วิตรรกมุทรา) พระหัตถ์ซ้ายวางในพระเพลา ระหว่างพระบาทมีจารึกว่า ปุญกรมชฺระ ศฺรีสมาธิคุปฺต (ะ) แปลว่า พระศรีสมาธิคุปตะเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยการกระทำบุญ อีกฟากของผนังถ้ำมีพระพุทธรูปยืนปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางสมาธิอื่นๆอีกหลายองค์ • ถ้ำฝาโถ พบพระพุทธรูปนอนจำหลักปางมหาปรินิพพานมีประภามณฑลและลายปูนปั้นรูปต้นสาละ ด้านบนมีรูปเทพชุมนุม ผนังด้านตรงข้ามมีภาพสาวก ๒ องค์ • ถ้ำจีน พบพระพุทธรูปจำหลัก ๒ องค์ ปางสมาธิ พระหัตถ์แสดงวิตรรกมุทรา มีร่องรอยของการพอกปูนทับ องค์ที่อยู่ใกล้ปากถ้ำมีรอยหักพัง ไม่สมบูรณ์ • ถ้ำจาม พบพบพระพุทธรูปนอนจำหลักปางมหาปรินิพพาน และภาพยมกปาฏิหาริย์ มีภาพปูนปั้นรูปต้นมะม่วง ถัดมายังพบรูปบุคคลยืนซ้อนกันและรูปพญานาคอีกด้วย พุทธสถานแต่ละถ้ำนี้ น่าจะสร้างขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เนื่องจากลักษณะทางศิลปกรรมมีความใกล้เคียงกัน และจากการเปรียบเทียบกับงานศิลปะอื่นๆ ก็สามารถกำหนดช่วงเวลาของศิลปะบริเวณเขางูนี้ได้ว่า อยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔ และด้วยความสมบูรณ์และจำนวนพุทธศิลป์ที่มีอยู่มากที่เขางูนี้ จึงแสดงให้เห็นว่าที่ถ้ำเขางูนี้น่าจะเป็นศาสนสถานที่สำคัญของดินแดนแถบนี้ เหมือนเมืองสำคัญๆเช่น เมืองนครปฐมโบราณ .....วิดิพีเดีย สารานุกรมเสรี (ที่มาข้อมูล) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/61668926684392_8_Copy_.jpg) 800-26(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/77323773544695_2_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/81986209832959_3_Copy_.jpg) หัวข้อ: Re: ทุ่งเขางูราชบุรี...ถิ่นนี้มีเรื่องเล่า เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 ธันวาคม 2567 15:07:01 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14030560064646_12_Copy_.jpg)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60213094039095_13_Copy_.jpg) เขางูเมื่อหน้าน้ำ ราวปีพ.ศ. ๒๔๘๒ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/22766091260645_14_Copy_.jpg) งานประจำปี เขางู เป็นภาพเที่ยวเขางูหน้าน้ำ ประมาณปี พ.ศ.๒๔๘๔ จากนิตยสารสร้างตนเอง ฉบับ ๑ ตุลาคม ๒๔๘๔ ห้องสมุดอเนก นาวิกมูล ขอขอบคุณเว็บไซต์ "กรมศิลปากร" (ที่มาข้อมูล-ภาพ) “ทุ่งเขางู” ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่หน้าเขางูเป็นทุ่งกว้างใหญ่ และ ณ ทุ่งราบนี้เองเคยเป็นสมรภูมิรบในสงครามครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช คือ“สงครามเก้าทัพ” บริเวณทุ่งเขางูจะมีเทือกเขางู ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองราชบุรี ทอดยาวเหมือนงูเลื้อยอยู่ตรงกลาง ด้านหน้าเขางูเป็นท้องทุ่งใหญ่ แต่เดิมในช่วงฤดูน้ำหลากคือตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน บริเวณทุ่งราบหน้าเขางูจะมีน้ำจะไหลบ่าจากพืดเขาต่างๆ มาขังเต็มไปหมดทั้งทุ่งและท่วมนองไปจนถึงเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาบขนาดย่อมๆ นานอยู่หลายเดือน และมีความลึกพอที่เรือบรรทุกข้าวขนาดใหญ่และเรือยนต์ต่างๆ แล่นผ่านไปมาได้ ช่วงที่มีน้ำท่วมมากที่สุด คือเริ่มตั้งแต่วันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นต้นไป ในช่วงฤดูน้ำหลากนี้ ยังก่อให้เกิดเทศกาลประเพณีพายเรือไปนมัสการหลวงพ่อฤาษีและรอยพระพุทธบาทในช่วงวันขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ของทุกปี ถือเป็นงานประเพณีที่อยู่คู่กับท้องทุ่งแห่งนี้มาช้านาน คนในราชบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็นคนโพธาราม บ้านโป่งฯ ต่างรอคอยที่จะพายเรือมาไหว้พระที่เขางูแห่งนี้ ส่วนผู้ที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงถึงกับลงทุนเช่าเรือยนต์มาเที่ยวงานนี้ก็มีไม่น้อย ดังนั้นในทะเลสาบทุ่งเขางู จึงแน่นขนัดไปด้วยเรือทุกชนิด จะมองไปในทิศทางใดก็จะพบแต่เรือแพน้อยใหญ่เต็มท้องน้ำไปหมด และที่นับว่าสนุกสนานกันอย่างยิ่งในงานนี้ ก็คือ การแข่งเรือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จพระราชดำเนินทุ่งเขางูหลายครั้ง โดยในการเสด็จพระราชดำเนินเมื่อพ.ศ.๒๔๓๑ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเสด็จประพาสไทรโยคครั้งที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบรรยายลักษณะของเทือกเขางูไว้ว่า “...ตรงหน้านั้นเขางูเป็นหมู่ยาว แต่หลายยอดหลายอย่างต่างชื่อเสียง ที่เล็กเคียงข้างลงมาหน้าผาขาว เป็นเขางูอยู่อยู่เท่านั้นปั้นเรื่องราว เขาหลักว่าวแลเป็นสูงในฝูงนี้ ยอดเป็นหลักปักเห็นเด่นถนัด เขาที่ถัดเป็นรากกล้วยพรวยแผกหนี ถ้าเป็นเขารอกไปได้จะดี ต่อยอดนี้เขาจุฬาคว้าพนัน ตามเขากล่าวว่าว่าวสุวรรณหงส์ ที่ตกลงตามไต่ป่านผายผัน เมืองมัดตังอยู่ราวสุพรรณ เพียงเท่านั้นคงกันดารยักษ์มารมี...” สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงประทับใจกับทัศนียภาพและความงามของทุ่งเขางูมาก โดยได้เปรียบเทียบทุ่งเขางูกับสถานที่หลายแห่งที่พระองค์เคยเสด็จไป ดังปรากฏในรายงานการเสด็จตรวจราชการมณฑลราชบุรี เมืองราชบุรีและเมืองสมุทรสงคราม พ.ศ.๒๔๔๑ ร.ศ.๑๑๗ ซึ่งทรงกล่าวถึง “ทุ่งเขางู” ไว้ดังนี้ “... ฉันพึ่งเคยมาเห็นที่ทุ่งเขางูในระดูน้ำคราวนี้ พอแลเห็นก็ทำยอมโดยทันทีว่า บรรดาทุ่งที่จะเที่ยวเล่นในระดูน้ำ จะเปนทุ่งหนึ่งทุ่งใดในกรุงเก่าก็ดี ท้องพรหมมาศเมืองลพบุรีก็ดี แม้ที่สุดถึงบึงบอระเพ็ดนครสวรรค์ก็ดี บรรดาที่เคยไปเห็นแล้วไม่มีแห่งใดที่จะสู้ทุ่งเขางูนี้เลย ด้วยเป็นทุ่งกว้างน้ำลึกแลมีเขาอยู่ใกล้ๆ จะเล่นเรือพายไปเท่าใดก็ไม่มีที่สุด โดยจะมีเรือใบเล็กๆมาแล่นเล่นก็ได้ กระบวนที่จะเที่ยวทุ่งเก็บกุ่ม เก็บสายบัวอย่างทุ่งกรุงเก่าก็ได้ หรือเอาเรือแวะจอดเข้าที่ดอนขึ้นไร่เก็บน้อยหน่าก็ได้ จะเดินเลยเที่ยวไปถึงเขาก็ไม่ทันเหนื่อย เพราะอย่างนี้ใครๆ จึงได้กลับมาชมกันว่าสนุกนัก...” ในเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๔๔๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินเมืองราชบุรี ครั้งนั้นพระองค์ได้เสด็จประพาสทุ่งเขางูได้ทอดพระเนตรสภาพทุ่งเขางูในฤดูน้ำหลากด้วย และต่อมาภาพน้ำท่วมทุ่งที่เขางู ยังถูกใช้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดราชบุรี ในช่วงปีพ.ศ. ๒๕๐๐ -๒๕๐๙ อีกด้วย ปัจจุบันทุ่งเขางูแห่งนี้มีสภาพตื้นเขินกว่าเดิมมาก ไม่มีน้ำท่วมทุ่งเป็นทะเลสาบดังเช่นในอดีต ไม่สามารถนำเรือยนต์เข้าไปแล่น และไม่มีภาพบรรยากาศความงามของท้องทุ่งที่มีการแข่งเรือ การพายเรือเล่น ชมนกชมไม้ เก็บสายบัว กระจับ และสันตวาให้หวนคืนมาอีก นับตั้งแต่ที่ได้มีการตัดถนนหลวงผ่านหลายสายและมีการสร้างเขื่อนเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๖ ภาพชีวิตของผู้คนที่เคยผูกพันกับสายน้ำที่ทุ่งเขางูในอดีต จึงได้เลือนหายไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงของสังคม สภาพทุ่งเขางูที่คุ้นตาชาวราชบุรีในปัจจุบันคือเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนและเป็นพื้นที่เกษตรกรรมทำนาปลูกข้าวกระจายอยู่ทั่วไป (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f9/Ratchaburi_Provincial_Seal_%28old%29.svg/1024px-Ratchaburi_Provincial_Seal_%28old%29.svg.png) ตราประจำจังหวัดราชบุรี (แบบที่ 1) เป็นภาพทิวทัศน์ของเขางู มีการใช้งานระหว่างปี พ.ศ. 2483-2509 |