หัวข้อ: บทสวด กายานุปัสสนา อานาปานบรรพ - มหาสติปัฏฐานสูตร ฉบับบาลีอักษรไทย(แปล) เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 18 ธันวาคม 2567 12:11:26 .
(https://f.ptcdn.info/543/039/000/o1hklkkpvWejTKFM4fe-o.jpg) มหาสติปัฏฐานสูตร ฉบับ บาลีอักษรไทย(แปล) กายานุปัสสนา อานาปานบรรพ วัดป่ามหาชัย จ.นครพนม (http://www.watpamahachai.net/metta_8.gif) (นำ) หันทะ มะยัง อานาปานะปัพพะปาฐัง ภะณามะ เส ฯ (รับ) กะถัญจะ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ - ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ เป็นอย่างไรเล่า? อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ - ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ อะรัญญะคะโต วา - ไปสู่ป่าก็ดี รุกขะมูละคะโต วา - ไปสู่โคนไม้ก็ดี สุญญาคาระโต วา - ไปสู่เรือนว่างก็ดี นิสีทะติ ปัลลังกัง อาภุชิต๎วา - นั่งคู้ขาเข้ามาโดยรอบ อุชุ กายัง ปะณิธายะ - ตั้งกายตรง ปะริมุขัง สะติง อุปัฏฐะเปต๎วา - ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า โส สะโต วา อัสสะสะติ - เธอมีสติ หายใจเข้า สะโต ปัสสะสะติ - มีสติ หายใจออก ทีฆัง วา อัสสะสันโต ทีฆัง อัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาว ทีฆัง วา ปัสสะสันโต ทีฆัง ปัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว รัสสัง วา อัสสะสันโต รัสสัง อัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น รัสสัง วา ปัสสะสันโตรัสสัง ปัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น สัพพะกายะปะฏิสังเวที อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจเข้า สัพพะกายะปะฏิสังเวที ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจออก ปัสสัมภะยัง กายะสังขารัง อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้ระงับ หายใจเข้า ปัสสัมภะยัง กายะสังขารัง ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้ระงับ หายใจออก เสยยะถาปิ ภิกขะเว ทักโข ภะมะกาโร วา ภะมะการันเตวาสี วา - ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนนายช่างกลึง หรือลูกมือของนายช่างกลึงผู้ขยัน ทีฆัง วา อัญฉันโต ทีฆัง อัญฉามีติ ปะชานาติ - เมื่อชักเชือกกลึงยาว ก็รู้ชัดว่า เราชักเชือกกลึงยาว รัสสัง วา อัญฉันโต รัสสัง อัญฉามีติ ปะชานาติ - เมื่อชักเชือกกลึงสั้น ก็รู้ชัดว่า เราชักเชือกกลึงสั้น เอวะเมวะ โข ภิกขะเว ภิกขุ - ภิกษุทั้งหลาย แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน ทีฆัง วา อัสสะสันโต ทีฆัง อัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาว ทีฆัง วา ปัสสะสันโต ทีฆัง ปัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว รัสสัง วา อัสสะสันโต รัสสัง อัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น รัสสัง วา ปัสสะสันโต รัสสัง ปัสสะสามีติ ปะชานาติ - เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น สัพพะกายะปะฏิสังเวที อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจเข้า สัพพะกายะปะฏิสังเวที ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจออก ปัสสัมภะยัง กายะสังขารัง อัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้ระงับ หายใจเข้า ปัสสัมภะยัง กายะสังขารัง ปัสสะสิสสามีติ สิกขะติ - ย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้ระงับ หายใจออก อิติ อัชฌัตตัง วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ - ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกาย ภายในบ้าง พะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ - พิจารณาเห็นกายในกาย ภายนอกบ้าง อัชฌัตตะพะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ - พิจารณาเห็นกายในกาย ทั้งภายในและภายนอกบ้าง สะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ - พิจารณาเห็นธรรม คือความเกิดขึ้น ในกายบ้าง วะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ - พิจารณาเห็นธรรม คือความเสื่อมไป ในกายบ้าง สะมุทะยะวะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ - พิจารณาเห็นธรรม ทั้งความเกิดขึ้นและเสื่อมไป ในกายบ้าง อัตถิ กาโยติ วา ปะนัสสะ สะติ ปัจจุปัฏฐิตา โหติ - อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า กายมีอยู่ ยาวะเทวะ ญาณะมัตตายะ ปะติสสะติมัตตายะ - เพียงสักว่ารู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น อะนิสสิโต จะ วิหะระติ - เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้ นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ - ไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เอวัมปิ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ - ภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ |