[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะจากพระอาจารย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: Maintenence ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2568 11:53:38



หัวข้อ: โลกธรรม ๘ โดย พอจ.สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2568 11:53:38
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79128118231892_476079763_1201676641340490_619.jpg)

โลกธรรม ๘
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จ.ชลบุรี


พระพุทธเจ้าทรงเป็นโลกวิทู ผู้รู้โลก ทรงรู้ถึงสิ่งที่มนุษย์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้ต้องสัมผัส ต้องเจอกัน และทรงรู้จักวิธีปฏิบัติกับสิ่งเหล่านี้ ที่เรียกว่าโลกธรรม ๘ คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ซึ่งมีทั้งเจริญและเสื่อมควบคู่กันไป เป็น ๔ คู่ด้วยกัน ได้แก่การเจริญลาภ เจริญยศ สรรเสริญ สุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นทา กข์ เป็นของคู่กัน โลกธรรม ๘ นี้มีทั้งได้มีทั้งเสีย บางทีก็ได้เงินได้ทองมา บางทีก็ต้องเสียเงินเสียทองไป บางทีก็ได้รับเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่ง บางทีก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง บางทีก็ได้รับการชมเชย บางทีก็ได้รับการตำหนิติเตียน บางทีก็มีความสุข บางทีก็มีความทุกข์ นี่คือส่วนประกอบของชีวิตของพวกเรา ถ้ารู้ทัน รู้ว่ามีได้ก็ต้องมีเสีย มีเกิดก็ต้องมีดับ ก็จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ เวลาที่ได้อะไรมาก็จะได้ไม่หลงระเริงกับสิ่งที่ได้มา ต้องทำความเข้าใจเสมอว่า ถึงแม้จะไม่มีสิ่งที่ได้มาในวันนี้ ก็ยังอยู่ได้ มีความสุขได้ ถ้าไม่ไปหลงยึดติดกับสิ่งที่ได้มา

แต่ถ้าไม่ได้คิดไว้ก่อน เวลาได้อะไรมาก็ดีอกดีใจ มีความสุขกับสิ่งที่ได้มาจนติดนิสัยไป เหมือนกับติดยาเสพติดหรือติดสิ่งอื่นๆ เช่นบุหรี่สุรายาเมา เราก็ไม่ได้เกิดมากับสิ่งเหล่านี้ เมื่อก่อนไม่เคยสูบบุหรี่ ไม่เคยกินเหล้า ก็อยู่ได้ แต่พอเริ่มสูบบุหรี่แล้ว เริ่มเสพสุราแล้ว ก็ติดเป็นนิสัย พอวันใดไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่ได้เสพสุรา ก็จะไม่สบายใจ เป็นความทุกข์ขึ้นมา ถ้าจะสูบบุหรี่ เสพสุรา ต้องมีความแน่ใจว่า วันไหนไม่มี ก็ต้องอยู่ได้ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ถ้าอยากจะเสพโดยไม่เกิดความทุกข์ ก็ต้องฝึกด้วยการเสพบ้าง ไม่เสพบ้าง สูบบุหรี่สัก ๓ วันแล้วก็หยุดไป ๓ วัน  แล้วค่อยกลับมาสูบใหม่ ฝึกทั้ง ๒ ด้าน ฝึกกับการมีและฝึกกับการไม่มี เพื่อจิตใจจะได้รู้จักวิธีปรับตัว ให้รับกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น นี่คือการปฏิบัติธรรม ให้รู้ทันกับสิ่งเหล่านี้ แล้วสามารถปล่อยวางได้ เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่เราจำเป็นต้องมี เช่นเงินทอง ทุกคนต้องมีไว้ใช้ เพียงแต่ต้องระมัดระวัง ไม่ให้ติดจนเดือดร้อน เวลาไม่มีเงินไม่มีทอง จริงอยู่ที่ต้องมีเงินทองไว้สำหรับซื้ออาหารและปัจจัย ๔ แต่ก็อย่าไปซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น เงินทองจะได้ไม่ขาดมือ

พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้พิจารณาโลกธรรม ๘ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องเผชิญ ต้องสัมผัสกัน ถ้ามีปัญญารู้เท่าทันว่า มันไม่แน่นอนนะ สิ่งต่างๆที่เราสัมผัสวันนี้ วันพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้สัมผัสก็ได้ วันนี้มีความสุข พรุ่งนี้ก็มีความทุกข์ได้ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนวิธีที่จะเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ คือให้หาสิ่งที่ดีกว่านี้ ซึ่งมีอยู่ในตัวของเราแล้ว คือความสุขภายในที่เกิดจากการทำบุญทำทาน รักษาศีล และภาวนา เพราะเมื่อได้ทำแล้ว จะทำให้จิตใจสงบตัวลง เพราะได้รับการชำระ กิเลสตัณหาต่างๆจะถูกกำจัดไปทีละเล็กทีละน้อย ทุกวันนี้ที่เราต้องออกไปเกี่ยวข้องกับโลกธรรม ๘ ก็เพราะอำนาจของกิเลสตัณหานี้เอง เมื่อกิเลสตัณหาสร้างความหิว สร้างความต้องการขึ้นมา ก็ต้องออกไปหา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่ถ้าไม่มีกิเลสตัณหาผลักดันให้ออกไป ก็ไม่ต้องไปไหน อยู่เฉยๆ อยู่ในความสงบก็มีความสุขแล้ว เป็นความสุขที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า เป็นความสุขที่ชนะความสุขอื่นๆทั้งหมด รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวง ก็อยู่ที่รสแห่งความสงบนี้เอง ถ้าทำจิตใจให้สงบได้แล้ว ต่อไปก็จะไม่ต้องไปพึ่งพาอาศัยลาภ ยศ สรรเสริญ สุขเป็นเครื่องอยู่อีกต่อไป.