หัวข้อ: มหาตมะ คานธี บิดาแห่งชาติอินเดีย ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสันติวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 19:49:28 (https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/7a/Mahatma-Gandhi%2C_studio%2C_1931.jpg/640px-Mahatma-Gandhi%2C_studio%2C_1931.jpg) มหาตมะ คานธี บิดาแห่งชาติอินเดีย ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสันติวิธี ---------------------------- มหาตมะ คานธี หรือชื่อเดิม โมหันทาส การามจันทร์ คานธี (Mohandas Karamchand Gandhi) บุคคลสำคัญระดับโลก ผู้มีบทบาทสำคัญในการนำพาประเทศอินเดียสู่อิสรภาพจากจักรวรรดิอังกฤษ ด้วยวิธีการต่อสู้อันโดดเด่น คือ "อหิงสา" หรือการต่อต้านโดยสันติวิธี ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็น "บิดาแห่งชาติอินเดีย" และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมืองและเสรีภาพทั่วโลก คานธีเกิดเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๑๒ (ค.ศ.๑๘๖๙) ที่เมืองปอร์บันดาร์ รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย บิดามีตำแหน่งเป็นนายกเมืองปอร์บันดาร์ เติบโตมาในครอบครัววรรณะแพศย์ที่มีการศึกษาสูง เคร่งครัดในจริยธรรมและถือมังสวิรัติ เขาได้รับการศึกษาตามแบบชาวตะวันตก และเดินทางไปศึกษาต่อด้านกฎหมายที่ประเทศอังกฤษ เมื่อสำเร็จการศึกษา ได้กลับมาประกอบอาชีพทนายความในอินเดีย และต่อมาได้เดินทางไปทำงานที่แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ในแอฟริกาใต้ คานธีได้เผชิญกับการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติอย่างรุนแรง ทำให้เขาตระหนักถึงความไม่ยุติธรรม และเริ่มนำหลักการ "สัตยาเคราะห์" (Satyagraha) มาใช้ในการต่อสู้ สัตยาเคราะห์ หมายถึง "พลังแห่งความจริง" หรือการยึดมั่นในความจริงและความถูกต้อง โดยใช้วิธีการต่อต้านอย่างสันติ เช่น การเดินขบวน การอดอาหารประท้วง และการดื้อแพ่งต่อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม การต่อสู้ของคานธีในแอฟริกาใต้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และเป็นรากฐานสำคัญในการต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดียในเวลาต่อมา ในปี พ.ศ.๒๔๕๘ (ค.ศ.๑๙๑๕) คานธีเดินทางกลับสู่อินเดีย และได้เข้าร่วมในขบวนการเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ เขาได้นำหลักการสัตยาเคราะห์มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ขบวนการได้รับความสนใจและการสนับสนุนจากประชาชนชาวอินเดียอย่างกว้างขวาง การต่อสู้ของคานธีเป็นการต่อสู้ทางศีลธรรมและจิตวิญญาณ ที่เน้นการเปลี่ยนแปลงจากภายใน และการใช้ความรักและความอดทนในการเอาชนะความเกลียดชังและความรุนแรง ตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญในการต่อสู้ของคานธี ได้แก่ ๑. การเดินขบวนเกลือ (Salt March) ในปี พ.ศ.๒๔๗๓ (ค.ศ.๑๙๓๐) ซึ่งเป็นการประท้วงต่อต้านกฎหมายผูกขาดเกลือของอังกฤษ โดยคานธีนำผู้คนเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า ๓๙๐ กิโลเมตร ไปยังชายฝั่งทะเล เพื่อผลิตเกลือด้วยตนเอง การเดินขบวนครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทั่วโลก และเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้โดยสันติวิธี ๒. ขบวนการ "ถอนออกไปให้หมดจากอินเดีย" (Quit India Movement) ในปี พ.ศ.๒๔๘๕ (ค.ศ.๑๙๔๒) ซึ่งเป็นการเรียกร้องให้อังกฤษออกจากอินเดียอย่างเด็ดขาด ขบวนการนี้มีบทบาทสำคัญในการเร่งกระบวนการได้รับเอกราชของอินเดีย ในที่สุด อินเดียก็ได้รับเอกราชจากอังกฤษในวันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๐ (ค.ศ.๑๙๔๗) แต่ถูกแบ่งประเทศออกเป็นอินเดียที่มีฮินดูเป็นหลักและปากีสถานที่มีมุสลิมเป็นหลัก ทำให้เกิดความขัดแย้งและความรุนแรงทางศาสนา คานธีพยายามอย่างสุดความสามารถในการเรียกร้องสันติภาพและความสมานฉันท์ แต่ในวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๑ (ค.ศ.๑๙๔๘) คานธีถูกลอบสังหารโดยชาวฮินดูหัวรุนแรง ผู้ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของเขา มหาตมะ คานธี ได้ทิ้งมรดกอันยิ่งใหญ่ไว้ให้แก่มนุษยชาติ แนวคิดเรื่องอหิงสาและการต่อสู้โดยสันติวิธี ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมืองและเสรีภาพทั่วโลก เช่น ขบวนการของมาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์ ในสหรัฐอเมริกา และเนลสัน แมนเดลา ในแอฟริกาใต้ คานธีถือเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญทางศีลธรรม ความอดทน และความเชื่อมั่นในพลังแห่งความจริงและความรัก ทั้งยังเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ นักคิด นักปรัชญา และนักปฏิวัติ ผู้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยพลังแห่งสันติวิธีที่ควรค่าแก่การยกย่อง มรดกของเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกต่อสู้เพื่อความยุติธรรม สันติภาพ และเสรีภาพ ที่มา - มหาตมะ คานธี : บิดาแห่งชาติอินเดีย ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสันติวิธี โดย นางสาวพัชรีพร ชูศรีทอง บรรณารักษ์ปฏิบัติการ กลุ่มบริการทรัพยากรสารสนเทศ กรมศิลปากร |