หัวข้อ: แกงส้มดอกผักหวานป่ากับปลาช่อนย่าง 1 ปีมีให้กินฤดูเดียว เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 13:02:58 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/61150064567724_1_Copy_.jpg) แกงส้มดอกผักหวานป่ากับปลาช่อนย่าง
• วิธีทำ 1. รูดดอกผักหวานป่า เอาก้านดอกที่เห็นว่าแข็งทิ้ง นำดอกผักหวานป่าใส่กระชอน ล้างน้ำให้หมดฝุ่นละออง พักไว้ 2. ล้างปลาช่อนให้สะอาด เลาะเอาก้างออก สับเป็นท่อนใหญ่ 3. ตั้งน้ำสะอาดสองถ้วยครึ่ง ใส่ปลาช่อนย่าง พริกแกง เคี่ยวด้วยไฟกลางประมาณ 5 นาที 4. เร่งไฟให้แรง พอน้ำเดือดจัด ใส่ดอกผักหวานป่า 5. ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปีบ ชิมรสตามชอบ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/91488648371564_2_Copy_.jpg) เครื่องปรุงแกงส้มดอกผักหวานป่า (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/34061968616313_4_Copy_.jpg) น้ำพริกแกงส้ม ใส่เนื้อปลาช่อนย่างให้น้ำพริกแกงมีความข้น น่ารับประทาน (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/15903468471434_3_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/61150064567724_1_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14581507361597_5_Copy_.jpg) ดอกผักหวานป่า เก็บได้ในป่าจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นดอกจากต้นตัวผู้(ดอกตัวผู้) ช่อดอกยาวแตกแขนงเป็นสาย ซึ่งจะไม่ออกผล เมื่อดอกแก่จัดช่อดอกจะร่วงลงสู่พื้นดิน สามารถพบได้ในป่าลึก ในต้นผักหวานที่มีต้นสูงๆ ผักหวานป่า เป็นผักพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในพื้นที่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เนื่องจากเป็นผักที่มีรสชาติหวานอร่อย แต่หารับประทานได้ค่อนข้างยากเพราะผักชนิดนี้จะให้ผลผลิตในบางช่วงฤดูกาลเท่านั้น คือในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน และส่วนใหญ่จะเก็บมาจากป่า แต่ในปัจจุบันได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกผักหวานป่าเพื่อการค้ากันมากขึ้น ทำให้ในหลาย ๆ พื้นที่มีผลผลิตออกจำหน่ายมากขึ้น โดยแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญในประเทศไทยอยู่ที่จังหวัดสระบุรี และพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้นผักหวานป่า มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 4-11 เมตร เปลือกต้นเรียบ กิ่งอ่อนเป็นสีเขียวเข้ม เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเทาอมสีน้ำตาลอ่อน เนื้อไม้มีความแข็ง เป็นพืชผลัดใบตามฤดูกาล จึงเก็บสะสมอาหารไว้ที่รากและลำต้น นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด มักจะพบต้นผักหวานป่าได้ตามป่าเบญจพรรณในที่ราบหรือเชิงเขาที่มีความสูงไม่เกิน 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล และโดยปกติจะชอบขึ้นอยู่บนดินร่วนปนทราย ดอกผักหวานป่า ออกดอกเป็นช่อยาว ก้านช่อดอกยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร โดยจะออกจากกิ่งหรือตามซอกใบ ใบประดับดอกเป็นรูปไข่ปลายแหลม ดอกเป็นแบบแยกเพศแต่อยู่บนก้านดอกเดียวกัน โดยดอกเพศผู้จะมีกลีบสีเขียวอ่อน เกสรสีเหลือง ส่วนดอกเพศเมียจะมีกลีบดอกเป็นสีเขียวเข้ม และก้านดอกจะสั้นกว่าดอกเพศผู้ โดยจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม.....ข้อมูลอ้างอิง : https://medthai.com 750/26 |