หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - จากแม่ครัวสู่คนรักของชาวอุยกูร์ เล่าชีวิตใน ตม.- เรือนจำ เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 04 มีนาคม 2568 22:44:22 จากแม่ครัวสู่คนรักของชาวอุยกูร์ เล่าชีวิตใน ตม.- เรือนจำ
<span>จากแม่ครัวสู่คนรักของชาวอุยกูร์ เล่าชีวิตใน ตม.- เรือนจำ</span> <span><span>See Think</span></span> <span><time datetime="2025-03-04T20:22:20+07:00" title="Tuesday, March 4, 2025 - 20:22">Tue, 2025-03-04 - 20:22</time> </span> <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>เรื่อง: ทีมข่าวการเมือง</p><p>ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์</p></div> <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>เป็นเวลา 6 ปีที่ ‘มาซียะห์’ แม่ครัวคนหนึ่งทำกับข้าวส่งให้ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ถูกคุมตัวในห้องกักขังของตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร</p><p>แม้ว่าจะเคยทำอาหารส่งให้ชาวโรฮิงญามาแล้ว แต่ในช่วงแรกๆ เธอยังไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ และค่อนข้างรู้สึกหวาดกลัว จากภาพจำเหมารวมที่ฝังหัว แต่การส่งอาหารที่เกิดขึ้นทุกวัน วันละ 3 มื้อ รวมไปถึงมื้ออาหารในช่วงเดือนรอมฎอน กิจวัตรเหล่านี้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนาที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเธอและคนในห้องกัก</p><p>จนกระทั่งเมื่อปี 2563 เธอตัดสินใจเริ่มความสัมพันธ์แบบคนรักกับ ‘โพลัต’ (นามสมมติ) ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์คนหนึ่งที่อยู่ในห้องกัก ความเห็นอกเห็นใจก่อตัวเป็นความรัก ความผูกพัน เธอกลายเป็นญาติคนหนึ่งของชาวอุยกูร์ และเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม</p><p>มาซียะห์ (นามสมมติ) ให้สัมภาษณ์ประชาไทถึงชาวอุยกูร์ในมุมที่เธอรู้จัก สภาพความเป็นอยู่ภายในห้องกัก ตม. ท่ามกลางความกังวลเรื่องความปลอดภัยของชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน ที่รัฐบาลไทยส่งตัวกลับไปให้ทางการจีนแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา</p><h2>ส่งข้าว ส่งรัก</h2><p>เมื่อบทสนทนาวกเข้าเรื่องอาหารและความสัมพันธ์กับคนรัก แววตาและน้ำเสียงของมาซียะห์ดูสดใสมากกว่าตอนที่พูดเรื่องอื่น</p><p>“อุยกูร์จะมีความเคร่งกว่าโรฮิงญา โรฮิงญาจะกินเผ็ดและยอมกินเนื้อสัตว์ที่เราทำ เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ โดยที่เขาไม่ซีเรียสเท่าไร แต่เขา (ชาวอุยกูร์) จะกังวลเรื่องฮาลาลมาก เขาไม่ยอมกินเนื้อไก่จากพี่ประมาณ 3 ปี เพราะเขาไม่มั่นใจ ในตอนนั้นพี่ยังไม่ได้เป็นมุสลิม”</p><p>“ในช่วงแรก (ชาวอุยกูร์) เขากินแต่ปลาทูกับไข่ พี่เคยพูดกับเขาว่าถ้าคุณกินเนื้อ คุณจะแข็งแรง เค้าบอกไม่เป็นไร ตอนนี้เขาสุขภาพดี ถ้าเขาตายไปโดยที่เขากินของที่ฮาลาล เขาก็จะบริสุทธิ์”</p><p>ในช่วงแรกเริ่มที่เธอต้องส่งอาหาร ชาวอุยกูร์ในห้องกักยังไม่รู้จักว่าแม่ครัวคนนี้เป็นใคร มาดีหรือมาร้าย อีกทั้งแนวปฏิบัติที่เคร่งครัดของชาวมุสลิม ชายกับหญิงมักจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันโดยตรง ทำให้พวกเขาส่งเพื่อนในกลุ่มมาคนหนึ่งเพื่อคุยกับมาซียะห์ ผู้ชายคนนั้นก็คือ โพลัต นั่นเอง</p><p>“ได้คุยกันบ่อย เพราะคนนี้ (โพลัต) เป็นคนที่เพื่อนเชื่อใจ สมมติว่า วันนี้เราให้กินอันนี้นะ ถ้าเขาหันไปพูดกับเพื่อน เพื่อนก็จะตกลง”</p><p>การส่งอาหารให้ชาวโรฮิงญาทำให้เห็นความแตกต่างของอาหารที่ 2 กลุ่มกิน แม้พวกเขาเป็นมุสลิมเหมือนกัน แต่อุยกูร์มีข้อจำกัดด้านการกินมากกว่า คือ ต้องฮาลาล ไม่เผ็ด และไม่ใส่ผงชูรส</p><p>พวกเขาไม่กินผักบางอย่าง เช่น มะเขือเปราะ ฟัก ส่วนของที่ชอบคือ แครอท มันฝรั่ง และมักกะโรนี</p><p>ตัวอย่างเมนูอาหารที่เธอทำให้พวกเขาทาน ได้แก่ ผัดผัก ผัดบร็อคโคลี่ ผัดผักกาดขาวใส่เต้าหู้ หรือใส่ไข่ และแกงมัสมั่น</p><p>หลังจากเริ่มสนิทกับชาวอุยกูร์ มาซียะห์คอยเป็นตัวกลางช่วยพวกเขาติดต่อกับญาติทางจดหมาย และประสานหายาให้เมื่อมีคนในนั้นเจ็บป่วย มิตรภาพและความเชื่อใจเกิดขึ้นเพราะอาหารและความช่วยเหลือ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียว</p><p>“เพราะว่าเราเป็นคนไม่เคยโกหกเขา ชาวอุยกูร์เขาจะเป็นคนที่…ถ้าใครโกหกเขาครั้งหนึ่ง เขาจะไม่เชื่ออีกเลย”</p><p>“แต่อย่างพี่…เวลาเขา (ชาวอุยกูร์) ขออะไรพี่ ถ้าพี่ให้ได้ พี่จะบอกว่าพี่ให้ได้ แล้วให้เขารอหน่อย พี่จะให้เขาเป็นอาหาร เขาก็เลยเชื่อใจเราที่ทําอาหารสามมื้อทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น แล้วก็เดือนรอมฎอนก็ส่งกลางคืนให้เขา เขาก็จะรักเราเพราะว่าตี 3 แล้วยังก็หอบกับข้าวมาส่งให้เขา”</p><p>มาซียะห์เล่าถึงชาวอุยกูร์ พวกเขาไม่ใช่คนน่ากลัวอย่างที่เธอเคยคิด ตรงกันข้าม พวกเขาอ่อนโยน และไม่เคยขออะไรที่เกินกำลังของเธอ</p><p>“มี (ชาวอุยกูร์) บางคนที่เขาได้ติดต่อกับลูกเขา ทุกครั้งที่เขาถามเกี่ยวกับลูกเขา เขาจะถามว่าลูกเขาท่องอัลกุรอานได้กี่บทแล้ว พี่ไม่เคยเห็นเขาพูดเกี่ยวกับความคับแค้นใจที่เขาโดนขัง”</p><p>“เมื่อก่อนด้วยความที่พี่เป็นคนส่งอาหารเอง เวลาพี่รับ (จดหมาย) พี่ก็จะรับกลับมา ก็จะเก็บไว้ เวลาเขา (อุยกูร์) ถามถึงญาติพี่น้อง เขาไม่ใช่คนน่ากลัว ไม่ใช่คนเลวร้ายเลย เขาอ่อนโยนด้วยซ้ำไป”</p><p>ครั้งหนึ่งมาซียะห์เคยนับถือศาสนาพุทธเฉกเช่นคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ “พี่เริ่มคิดเปลี่ยน (ศาสนา) เพราะว่าพี่ต้องมาหาเขา (โพลัต) บ่อยๆ เขาก็จะเริ่มชวน สมัยก่อนพี่ดื่ม (เบียร์) เก่ง เขาก็ชวนเลิก พี่ก็เลิกแอลกอฮอล์มาเกือบ 6 ปีแล้ว เขาชวนเราทําแต่เรื่องดีๆ นะ”</p><p>ประชาไทถามต่อด้วยว่าเธอชอบโพลัตที่ตรงไหน และใครขอใครเป็นแฟน</p><p>“เขาไม่เคยคิดที่จะทําให้เราลําบาก เขาไม่เคยชักชวนเราทําอะไรไม่ดี พอคุยกันเราก็เลยมีความรู้สึกว่า เราหายไปจากเขาไม่ได้แล้วแหละ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ก็จะช่วยเขาไปแบบนี้ เพราะว่าถ้าเราหายไป เขาก็ไม่มีใครที่จะมาคอยทำให้เขาแบบนี้”</p><p>“เขาเคยทําแหวนให้วงหนึ่ง เป็นแหวนถัก แล้วเขาถามพี่ว่า พี่เลิกกับสามีแล้วใช่ไหม พี่ก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่พี่ใส่แหวนวงนั้นนะ มาส่งข้าวเขา คนพวกนี้ (คนอุยกูร์) เขาจะถักของเก่งมาก”</p><h2>ห้องกัก ตม.ย่ำแย่-ถูกทำร้ายจึงต้องหนี</h2><p>ย้อนไปเมื่อปี 2557 โพลัตอยู่ในกลุ่มของชาวอุยกูร์ 220 คน ที่ถูกจับกุมโดยตำรวจไทย ขณะพยายามข้ามพรมแดนไปยังมาเลเซีย ด้วยความผิดเพียงประการเดียวคือ หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย</p><p>ต่อมา กลุ่มผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ถูกกระจายไปตามห้องกักทั่วประเทศ โพลัตและเพื่อนรวม 7 คน ถูกส่งมาอยู่ห้องกักของ ตม.ที่ จ.มุกดาหาร ตั้งแต่ปี 2559 พวกเขาต้องมาติดอยู่ห้องกักของ ตม. เป็นเวลาเกือบ 11 ปี</p><p>ชาวอุยกูร์กลุ่มนี้เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมที่ลี้ภัยมาจาก "เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์" ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน แม้ว่าซินเจียงมีสถานะเป็นเขตปกครองตนเอง แต่รัฐบาลจีนก็ควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด</p><p>มาซียะห์บอกกับประชาไทว่า ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลุ่มนี้เคยเล่าให้เธอฟังว่า ซินเจียงไม่ใช่ที่ของพวกเขา เพราะว่าทางการจีนส่งคนจีนฮั่นเข้าไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และมีนโยบายไม่อนุญาตให้พวกเขาปฏิบัติศาสนกิจของอิสลาม รวมถึงหากต้องอยู่ในจีนต่อไป พวกเขาอาจโดนบังคับให้ทำอะไรที่ขัดกับหลักศาสนา เช่น การต้องออกไปเต้นแสดงโชว์วัฒนธรรม หรือดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งถือเป็นข้อห้ามตามหลักศาสนาอิสลาม</p><p>สำนักข่าวบีบีซี (https://www.bbc.com/thai/articles/cx2ynknrer5o)รายงานถึงการปราบปรามชาวอุยกูร์มุสลิมของจีนว่า มีการรวบรวมหลักฐานชัดเจนจากยูเอ็นและกลุ่มนักสิทธิมนุษยชน มีข้อมูลเชื่อว่าชาวอุยกูร์ถึง 1 ล้านคนถูกคุมขังในค่ายปรับทัศนคติ ซึ่งนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนระบุว่า เป็นแคมเปญของรัฐในการขจัดอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชาวอุยกูร์ มีข้อกล่าวหามากมายเกี่ยวกับการทรมานและการบังคับสูญหาย ซึ่งทางการจีนปฏิเสธ พวกเขาบอกแต่เพียงว่า ได้ทำ "ศูนย์ฝึกอาชีพ" ที่มุ่งเน้นการปรับทัศนคติชาวอุยกูร์ให้ห่างไกลจากความรุนแรง</p><p>“สภาพห้องกักแย่มาก ในห้องจะมีลูกกรง 2 ชั้น ลูกกรงชั้นใน ลูกกรงชั้นนอก แล้วก็ยังมีสังกะสีบังตา ไม่ให้ใครเห็นเขา ลมก็เข้าไม่ได้”</p><p>ตามคำบอกเล่าของมาซียะห์ สภาพชีวิตในห้องกักของ ตม.มุกดาหาร นั้นย่ำแย่มาก พวกเขาทั้งหมดต้องอยู่ร่วมกันในห้องแคบๆ ขนาด 4x6 เมตรที่มีห้องน้ำในตัว บางคนสายตาเสีย เพราะไม่เคยได้มองในระยะที่ไกลกว่านั้น ไม่เคยได้เจอแสงแดด พอต้องออกมาข้างนอกแล้วเจอแสงสว่างพวกเขาก็แสบตา</p><p>ที่นั่น ชาวอุยกูร์บางคนถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย บ้างถูกพูดเหยียดหยาม ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ของ ตม.มุกดาหารบางคนไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา</p><p>“(คนหนึ่ง) ที่อยู่ข้างในนี้ถูกทําร้ายร่างกาย เนื่องจากว่าคนนี้เขาจะชอบพูดภาษาไทย แล้วก็เขาจะชอบโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่บางคน…เขาก็เลยโดนตีหนัก”</p><p>“มี (ชาวอุยกูร์) คนหนึ่งเคยบอก เรื่องอาหารอะไรสักอย่างนี่แหละ แล้วเขา (เจ้าหน้าที่) ก็บอกว่าเรื่องมากจริงๆ เลย ไอ้พวกนี้ต้องให้กินหมู”</p><p>ย้อนไปเมื่อปี 2563 มีเหตุการณ์ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ จำนวน 7 คน ได้แหกห้องกักของ ตม.มุกดาหารและหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ติดตามและจับกุมตัวได้ทั้งหมด พวกเขาถูกพาตัวลงมาที่เรือนจำคลองเปรม ในจำนวนนี้ แบ่งเป็น</p><ul><li aria-level="1">ชาวอุยกูร์ 2 คนที่ครบกำหนดโทษแล้ว ถูกรัฐบาลไทยส่งกลับไปให้ทางการจีน เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา</li><li aria-level="1">ชาวอุยกูร์ 5 คน รวมโพลัต ถูกตั้งข้อหาแหกห้องขังและร่วมกันปล้นทรัพย์ชาวบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำคลองเปรม</li></ul><p>ชาวอุยกูร์ 5 คนในกลุ่มหลังนี้ ขณะหลบหนีได้จับชาวบ้านคนหนึ่งที่กำลังหาหนูในทุ่งนาเป็นตัวประกัน โดยได้มัดมือ มัดเท้า และขโมยหน้าไม้ยิงหนูนา โคมไฟส่องคาดหัว แล้วพากันหลบหนีไป</p><p>มาซียะห์เล่าให้ประชาไทฟังว่า เหตุผลที่พวกเขาจับชาวบ้านมัดมือมัดเท้า เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะไปแจ้งตำรวจ ไม่ได้มีเจตนาจะปล้นของมีค่าแต่อย่างใด</p><p>“เคยนั่งคุยกับ (ชาวบ้าน) คนที่โดนจับ ชาวบ้านบอก เขา (ชาวอุยกูร์) น่ารักมากเลยนะ เงินผม 20 บาทเขาก็ไม่เอา เขาล้วงเสร็จแล้วเขาก็ไม่เอา แล้วก็ก่อนเขาจะไป เขาเอารองเท้ามารองหัวให้ผม จะได้ไม่เมื่อย”</p><p>นี่ถือเป็นครั้งที่สองที่ชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ทำการแหกห้องกัก โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 แต่เจ้าหน้าที่ได้ตามจับมาดำเนินคดีครบทุกคน พวกเขาถูกนำไปขังที่เรือนจำใน จ.มุกดาหารจนครบกำหนด แล้วจึงย้ายกลับมาถูกกักที่ตรวจคนเข้าเมืองตามเดิม</p><p>ตามคำบอกเล่าของมาซียะห์ ชาวอุยกูร์กลุ่มนี้มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ของ ตม. มุกดาหารบ่อยๆ จนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด จนกระทั่งมีแนวโน้มว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย พวกเขาจึงจำต้องแหกห้องกักเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง</p><p>“ห้องกักมันจะมี 3 ห้อง ห้องใหญ่ 2 ห้อง ห้องเล็กที่เขา (ชาวอุยกูร์) อยู่ห้องหนึ่ง แล้วช่วงนั้นเขามีปัญหากับเจ้าหน้าที่ เพราะว่าเพื่อนคนหนึ่งป่วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมส่งโรงพยาบาล เสร็จแล้วทีนี้ พวกเขาก็น่าจะทุบอะไรสักอย่างนี่แหละ เจ้าหน้าที่ก็เลยเหมือนกับว่า เดี๋ยวจะย้ายเขาไปอยู่ห้องใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่น่ะ จ้างช่างมาทําห้องให้แน่นหนากว่าเดิม </p><p>แล้วมันมีแนวโน้มว่า ก่อนที่จะย้ายตัวเขาไป เจ้าหน้าที่เคยขอกําลังทหารเกือบ 20 นาย คาดว่าน่าจะมาทุบตีเขา แต่วันนั้นทหาร เปิดประตูห้องขังไม่ได้เพราะชาวอุยกูร์ทําลายแม่กุญแจไว้ก่อน เขาก็เลยรอด แล้วหลังจากนั้น เขาก็รู้แล้วว่าเขาอยู่ไม่ได้ ถ้าเขาอยู่เขาก็ต้องโดนตี”</p><p>มาซียะห์บอกว่าชาวอุยกูร์โอเคกับสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำคลองเปรมมากกว่า เมื่อเทียบกับความย่ำแย่ที่เคยเจอจนต้องแหกต้องกักถึง 2 ครั้ง</p><p>“เขา (ชาวอุยกูร์) ชอบที่นี่ (เรือนจำคลองเปรม) เพราะว่ามีโรงอาหารให้ทานแยกจากห้องนอน แล้วก็ได้เจอแสงแดด ฝนตกก็เปียกฝนนะ ซึ่งอยู่ ตม. (มุกดาหาร) มันไม่ได้เลย…แย่กว่าเรือนจํา”</p><p>“เขา (ชาวอุยกูร์) มีความรู้สึกว่า เขาอยากที่จะอยู่ที่เรือนจำมากกว่าที่ ตม. เพราะว่าสภาพแวดล้อมมันดีกว่า เจ็บป่วยก็ได้เจอหมอที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ (แต่ที่ ตม.มุกดาหาร) การจะออกไปหาหมอครั้งหนึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่เยอะมาก ถ้าไม่หนักจริงๆ เขา (เจ้าหน้าที่) ก็จะไม่พาไป แต่ที่นี่เราสามารถเขียนคําร้องได้ เราเป็นอะไร เราก็เขียนคําร้องแล้วส่งเข้าแดนพยาบาล”</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>3 รมต.แถลงด่วนส่งกลับ 40 อุยกูร์ กัก 10 กว่าปีหาประเทศที่ 3 ไม่ได้ โฟนอินจากจีนยันดูแลดี-ไม่มีคดี (https://prachatai.com/journal/2025/02/112248)</li><li>ย้อนหนึ่งทศวรรษของการคุมขังผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ (https://prachatai.com/journal/2024/03/108432)</li></ul></div><p> </p><h2>ไม่มีใครอยากกลับจีน</h2><p>“พวกเขาที่อยู่ในห้องกักไม่มีใครอยากกลับ เขามีแต่บอกให้เราละหมาดให้เขา ดุอาวฺ (อธิษฐาน) ให้เขา เพื่อให้เขาได้ไปประเทศที่ 3 ให้เขาพ้นจากจีน”</p><p>มาซียะห์ไม่เชื่อว่าผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ 40 คนในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู จะสมัครใจกลับประเทศจีน</p><p>“คุณ (รัฐบาล) ยินดีตลอดเวลาไหมที่จะทําให้เราได้ติดต่อกับ (ชาวอุยกูร์ 40 คน) ที่เขาเอากลับไป เพราะเรามีความรู้สึกว่าคนที่คุณเอามาโชว์ มีแต่คนที่อ่อนแอ คนที่ป่วย คนที่ไม่กล้าที่จะ (ต่อต้าน) ชาวอุยกูร์จะมีคนที่แข็งแรงและเป็นผู้นํา คอยจัดการทุกอย่างแทนเพื่อน ซึ่งในรูป ไม่มีพวกเขาเลย หายไปหมด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะโดนอะไรบ้าง”</p><p>ข้อมูลจากข่าวประชาสัมพันธ์ (https://prachatai.com/journal/2025/03/112266)ของรัฐบาลไทยเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ระบุว่า รัฐบาลจีนได้มีคำขออย่างเป็นทางการโดยหนังสือทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยส่งคนจีนเชื้อสายอุยกูร์ จำนวน 45 คน ที่กระทำความผิดโดยได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฏหมาย จึงถูกจับกุม และกักกันอยู่ในประเทศไทยมากว่า 10 ปีแล้ว โดยไม่มีข้อหาอื่นใด (ยกเว้นบางคนที่ทำการแหกห้องขัง และทำร้าย จนท.)</p><p>โพลัต ชายคนรักของเธอ เป็นหนึ่งใน 5 คนที่ยังไม่ถูกส่งตัวกลับไป เนื่องจากอยู่ระหว่างรับโทษจำคุกที่เรือนจำคลองเปรม ในคดีแหกห้องขังและปล้นทรัพย์</p><p>ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวตอนหนึ่งในงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมาระบุว่า ชาวอุยกูร์ 5 คนนี้อยู่ระหว่างต้องโทษอาญา และคาดว่าครบกำหนดโทษปี 2572 นี้ แล้วจะมีการตัดสินใจอีกครั้ง</p><p>มาซียะห์แสดงความกังวลว่าเมื่อพวกเขาพ้นโทษ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าไทยจะส่งตัวพวกเขาให้ทางการจีนหรือไม่</p><p>ประชาไทถามว่าเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา ฟังแล้วก็ดูจะไม่ง่าย เธอคิดอย่างไร</p><p>“มันก็…(ยากลำบาก) นิดหนึ่งอะค่ะ แต่ว่าเราก็มีความรู้สึกว่ามันก็ไม่ยากสักเท่าไหร่เลย คือคําว่าไม่ยาก ดีตรงที่ว่าเขา (โพลัต) อยู่ที่เรือนจํา (คลองเปรม) มันก็เลยไม่ยาก แต่ถ้าไปอยู่ ตม. เราน่าจะทุกข์ ตอนนี้เราไม่ค่อยทุกข์เท่าไหร่ เราจะทุกข์แค่ว่า เรากังวลว่าเขาจะถูกส่งกลับหรือเปล่า”</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>ชาวอุยกูร์ในเรือนจำคลองเปรมยืนยันขอไปประเทศที่ 3 ไม่เชื่อ 40 คนสมัครใจกลับจีน (https://prachatai.com/journal/2025/03/112266)</li><li>ประชาไทพบ ตม.สวนพลูย้ายผู้ต้องกัก 3 ชุดกลางดึก ไม่ทราบเป็นอุยกูร์หรือไม่ หลังมีข่าวลือไทยอาจส่งกลับจีน (https://prachatai.com/journal/2025/02/112242)</li></ul></div><p> </p></div> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C" hreflang="th">สัมภาษณ์[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือง[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยชน[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" hreflang="th">คุณภาพชีวิต[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเทศ[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87" hreflang="th">ความมั่นคง[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%8C" hreflang="th">อุยกูร์[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99" hreflang="th">จีน[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3" hreflang="th">ตม.มุกดาหาร[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A1" hreflang="th">เรือนจำคลองเปรม[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="field field--name-field-promote-end field--type-string field--label-hidden field-item">ติดตาม "ประชาไท Prachatai.com" ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้า https://prachataistore.net</div> http://prachatai.com/journal/2025/03/112285 |