[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: Maintenence ที่ 06 มีนาคม 2568 19:24:52



หัวข้อ: ประวัติหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี
เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 06 มีนาคม 2568 19:24:52

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/67385664871997_88889_Copy_.jpg)

ประวัติหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก มีนามเดิมว่า : อินทร์ถวาย ผิวขำ

เกิดเมื่อ : วันศุกร์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๘ ตรงกับ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีระกา ณ บ้านหนองแวง ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร (จังหวัดนครพนมในขณะนั้น)

โยมบิดา : คุณพ่อแดง ผิวขำ

โยมมารดา : คุณแม่จอมแก้ว ผิวขำ

เป็นบุตรลำดับที่ ๖ ในจำนวนพี่น้อง ๗ คน โดยเป็นผู้หญิง ๓ คน และผู้ชาย ๔ คน

ตระกูล “ผิวขำ” เป็นตระกูลสัมมาทิฐิ สืบเชื้อสายมาจากชนเผ่าภูไท มาตั้งรกราก ณ หมู่บ้านคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำนา ทำไร่ ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ทอไหม โดยคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ คือผู้ที่ตั้งชื่อให้ว่า  "อินทร์ถวาย"


เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เตรียมบรรพชา : ช่วงต้นปี พ.ศ.๒๕๐๐ ขณะที่หลวงพ่อมีอายุ ๑๑ ปี และพึ่งสำเร็จการศึกษาจากชั้น ป.๔ ในช่วงนั้น หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ได้มาจำพรรษา ณ วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ทำให้หลวงพ่อได้มีโอกาสเข้าไปอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่หล้าที่วัด โดยหลวงปู่หล้าได้เมตตาสั่งสอน ข้อวัตร ข้อปฏิบัติ ของพระภิกษุสามเณรที่จะเข้ามาบวชในพุทธศาสนา และฝึกหลวงพ่อท่องขานนาค เตรียมบรรพชาเป็นสามเณร

บรรพชา : หลวงปู่หล้า เขมปัตโตได้พาหลวงพ่อไปบรรพชาสามเณร ณ วัดป่ากลางสนาม อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร (เดิมคือ ต.หนองสูง อ.คำชะอี จ.นครพนม) ในวันศุกร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๐ โดยพระมุกดาหารโมลี เจ้าคณะอำเภอได้มอบหมายให้ หลวงปู่กงแก้ว ขันติโก เจ้าคณะตำบล เป็นพระอุปัชฌาย์ในการบรรพชาสามเณร


ชีวิตนักบวช
ชีวิตสามเณร : หลังจากบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว หลวงพ่อได้อยู่ศึกษา ปฏิบัติธรรมและการเจริญภาวนากับหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ณ วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) เป็นระยะเวลา ๘ ปี โดยหลวงพ่อสามารถท่องสวดปาฏิโมกข์ได้ ตั้งแต่ตอนเป็นสามเณร
 
อุปสมบท : เมื่อได้อายุครบอุปสมบท หลวงพ่อจึงได้รับการญัตติเป็นพระภิกษุที่ วัดศิลาวิเวก อ.เมือง จ.มุกดาหาร ในวันศุกร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘ โดยมี หลวงปู่คำ คัมภีรญาโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งท่านเป็นผู้ให้ฉายาหลวงพ่อว่า “สนฺตุสฺสโก” มีความหมายว่า ผู้มักน้อยสันโดษ


การจำพรรษา
พ.ศ.๒๕๐๘ : พรรษาแรก ได้อยู่จำพรรษา กับหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ที่วัดภูจ้อก้อ
พ.ศ.๒๕๐๙ : พรรษาที่ ๒ ได้ไปจำพรรษากับ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ที่วัดป่าวิเวกวัฒนาราม
                บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ๑ พรรษา
พ.ศ.๒๕๑๐ : พรรษาที่ ๓ หลวงพ่อได้ติดตามองค์หลวงปู่จาม ขึ้นไปจังหวัดเชียงใหม่ และได้มีโอกาส
                จำพรรษากับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าวจ.เชียงใหม่ เป็นเวลา ๑ พรรษา
พ.ศ.๒๕๑๑ : พรรษาที่ ๔ หลวงพ่อได้กลับลงมาจากเชียงใหม่ และได้มาจำพรรษา
                กับหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ที่วัดป่าห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร อีกครั้ง
พ.ศ.๒๕๑๒ : ตั้งแต่พรรษาที่ ๕ เป็นต้นไป หลวงพ่อได้เข้าไปศึกษาและจำพรรษากับ
                องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
                (พ.ศ. ๒๕๑๒-๒๕๒๕) รวมเป็นระยะเวลากว่า ๑๓ ปี
​​
ในช่วงนอกพรรษาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๖ เป็นต้นมา หลวงพ่อได้ลาองค์หลวงตา มาเที่ยววิเวกธุดงค์ ในแถบ จ.อุดรธานี เลย หนองคาย สกลนคร นครพนม และมุกดาหารเพื่อปฏิบัติภาวนาหาความสงบเข้าสู่จิตใจ ตามแนวแถวพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระธุดงค์กรรมฐาน


จากบ้านตาดสู่นาคำน้อย
พ.ศ.๒๕๒๓ : หลวงพ่อได้มีโอกาสเที่ยววิเวกธุดงค์มาที่ บริเวณเขต อ.นายูง จ.อุดรธานี เห็นว่าเป็นสถานที่
                สัปปายะเหมาะ สำหรับการปฏิบัติภาวนา และได้รับการอาราธนาจาก คณะศรัทธาญาติโยม
                พุทธบริษัทในท้องที่ให้จำพรรษา ณ สถานที่แห่งนั้น แต่องค์หลวงตาได้ให้หลวงพ่อกลับ           
                ไปช่วยกิจยังวัดป่าบ้านตาดก่อน
 
กระทั่งกาลต่อมาหลวงพ่อจึงได้กลับ มายังเขตอำเภอนายูงอีกครั้งและได้ร่วมกับศรัทธาญาติโยมในท้องที่หมู่บ้านนาคำน้อย ร่วมก่อตั้ง “วัดป่านาคำน้อย” ขึ้น โดยองค์หลวงตาได้เมตตาตั้งชื่อวัดให้ว่า “วัดอุดมมงคลวนาราม” หลวงพ่ออินทร์ถวาย ได้ออกจากวัดป่าบ้านตาดในปี พ.ศ.๒๕๒๖ โดยได้อยู่ศึกษาปฏิบัติธรรมและจำพรรษาร่วมกับองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด รวมเป็นระยะเวลากว่า ๑๓ ปี
 
พ.ศ.๒๕๒๕ : พรรษาที่ ๑๙ หลวงพ่อได้เริ่มจำพรรษา ณ วัดป่านาคำน้อย พร้อมทั้งพัฒนา   
                เสนาสนะภายในวัดมาตามลำดับ
พ.ศ.๒๕๒๙ : วัดป่านาคำน้อยได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง
พ.ศ.๒๕๓๑ : วัดป่านาคำน้อยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา และในปีเดียวกันหลวงพ่อได้รับ การแต่งตั้งให้เป็น พระอธิการอินทร์ถวาย สันตุสสโก ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย  ในขณะพรรษา ๒๓


จากประโยชน์ตนสู่ประโยชน์ท่าน
บทบาทต่อสาธารณะประโยชน์

- ประธานมูลนิธิพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
- ประธานมูลนิธิหออภิบาลสงฆ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น
- ประธานมูลนิธิอภิบาลสงฆ์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โรงพยาบาลอุดรธานี จ.อุดรธานี
- ประธานมูลนิธิวิริยะ ณ ศีลวันต์
- อดีตประธานมูลนิธิสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าบ้านตาด
- ประธานมูลนิธิสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่านาคำน้อย
- ประธานการก่อสร้างฝ่ายบรรพชิตพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ จ.อุดรธานี
- ประธานการก่อสร้างเจดีย์เขมปัตตเจดีย์ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต จ.มุกดาหาร
- ประธานการก่อสร้างเจดีย์พระศรีไตรรัตนานุสรณ์ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ จ.มุกดาหาร


ผลงานจากการสร้างคุณประโยชน์ต่อสาธารณะ
- รับรางวัลเข็มเสมาธรรมจักรทองคำ จากกระทรวงศึกษาธิการ
- รับพระราชทานรางวัลพระธาตุพนมทองคำ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- รับโล่เชิดชูเกียรติ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- รับโล่เกียรติคุณ เป็นหนึ่งใน ๑๒๑ คนดีเมืองอุดรธานี จากจังหวัดอุดรธานี
- รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์แก่การศึกษาขั้นพื้นฐาน จากสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- โล่เกียรติคุณ ประธานกิตติมศักดิ์ฯ ในการระดมทุนการศึกษา จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- รางวัลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมและศาสนาประจำปี ๖๕ ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
- รางวัลเสาเสมาธรรมจักรพระราชทาน สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา

ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
- พ.ศ.๒๕๖๕ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปรัชญาและศาสนาตะวันออก) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- พ.ศ.๒๕๖๖ ปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (อาชีวศึกษา) ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
- พ.ศ.๒๕๖๖ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนา ม.ราชภัฏอุดรธานี


ถวายมุทิตาสักการะ
๘ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๖๔ องค์หลวงพ่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ "พระราชภาวนาวชิรากร สุนทรญาณวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี"
 
ปัจจุบัน : พ.ศ.๒๕๖๗ หลวงพ่อมีอายุ ๗๙ ปี พรรษา ๕๙ และหลวงพ่อจะมีอายุครบ ๘๐ ปี ในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๘ นี้

ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส วัดป่านาคำน้อย และรักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล


เวลาเข้ากราบหลวงพ่อ
ท่านสามารถเข้ากราบหลวงพ่อได้ ๒ เวลาคือ
๑.เวลาเช้า    : หลังฉันจังหันเช้าเสร็จ ตั้งแต่ ๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น.
๒.เวลาบ่าย   : ณ โรงน้ำร้อน เวลา ๑๔.๐๐-๑๗.๐๐ น.


(https://static.wixstatic.com/media/a5c40d_2a539485da2d4d0bb8b257db099ec0f4~mv2.png/v1/fill/w_573,h_598,fp_0.65_0.30,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/B-%20Head%2016.png)

(https://static.wixstatic.com/media/a5c40d_88e3dc6932a7449897a1343cd0ee14b4~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_1769,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/LP-Phone%20Head.jpg)


ที่มา วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี