[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปรษณีย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 29 พฤษภาคม 2568 12:21:31



หัวข้อ: ถ้ำ Nutty Putty โศกนาฏกรรมการตายที่ทรมานที่สุดในท่าห้อยหัวลง 28 ช.ม.
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 29 พฤษภาคม 2568 12:21:31
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/63891397457983_499883269_9877217935702153_563.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/96147761452529_499827695_9877218059035474_614.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/83280361319581_501629475_9877248145699132_831.jpg)

ถ้ำ Nutty Putty โศกนาฏกรรมการตายที่ทรมานที่สุด
ในท่าห้อยหัวลง 28 ชั่วโมง ก่อนการหมดลม

ถ้ำนัตตี้พัตตี้ (Nutty Putty) ในเมืองซอลต์เลก รัฐยูทาห์ นั้นก็เป็นถ้ำยอดนิยมของเหล่านักสำรวจถ้ำ เพราะได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในถ้ำที่อันตรายที่สุด และชื่อ Nutty Putty นั่นก็มีที่มาจากผนังด้านในถ้ำที่มีผิวอ่อนนุ่มเหมือนกับสีที่ใช้โป๊ผนัง

ไม่มีนักสำรวจถ้ำคนใดสามารถเข้าไปในถ้ำนัตตี้พัตตี้ได้อีกต่อไป เพราะทางรัฐได้ทำการปิดตายทางเข้าถ้ำด้วยคอนกรีตมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว หลังจากเกิดเหตุโศกสลด กับการเสียชีวิตของ จอห์น เอ็ดเวิร์ด โจนส์ (John Edward Jones) นักสำรวจถ้ำ และเป็นการตายที่เชื่อกันว่า โจนส์จะต้องเผชิญกับความอึดอัดทรมานอย่างสุดแสนก่อนที่จะหมดลมหายใจ เนื่องจากร่างของเขาอยู่ในท่าห้อยหัวลงเพราะติดอยู่ในอุโมงค์แคบเป็นเวลา 28 ชั่วโมง

จอห์น เอ็ดเวิร์ด โจนส์ เป็นนักศึกษาแพทย์ วัย 26 ปี เขาเป็นผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมสำรวจถ้ำมาตั้งแต่เยาว์วัย ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2009 เขาและจอช น้องชายของเขา รวมไปถึงเพื่อน ๆ อีก 11 คนได้ชวนกันลงไปในถ้ำนัตตี้พัตตี้ จอห์นพบกับเหตุวิกฤตเมื่อเขามุดอุโมงค์ผ่านเส้นทางไปยังจุดที่รู้จักกันในชื่อ “Birth Canal” ซึ่งเป็นช่องทางที่แคบมาก นักสำรวจจะต้องคลานกระดืบเข้าไปทีละนิด ทีละนิด ตลอดระยะทาง 120 เมตรนับจากทางเข้าถ้ำ ซึ่งจอห์นเลือกที่จะสำรวจเส้นทางนี้ก็เพราะเขาจำได้ว่าเคยผ่านเส้นทางนี้มาแล้วเมื่อตอนยังเด็ก

จนมาถึงจุดที่เป็นทางหักศอกรูปตัว L แล้วยังเป็นช่วงที่แคบที่สุด กว้างคูณยาวที่ 25 x 46 ซม. เท่านั้น ทำให้ร่างของจอห์นติดคาอยู่ที่จุดนั้นในลักษณะห้อยหัวลง แน่นอนว่าเขาไม่มีทางที่จะถอยหลังกลับได้ จอห์นจึงพยายามหายใจออกให้มากที่สุด เพื่อให้ลำตัวลีบลงแล้วจะได้กระดืบร่างผ่านจุดนั้นไปได้ แต่พอหมดแรงกลั้นหายใจ จำต้องหายใจเข้าอีกครั้ง หน้าอกของเขาก็ขยายตัวออก และทำให้ร่างจอห์นติดแหง็กคาอยู่จุดนั้น

จอชตามมาพบพี่ชายเป็นคนแรก จอชคว้าขาของจอห์นไว้แล้วพยายามดึงตัวพี่ชายขึ้นมา แต่ไม่สำเร็จ ยิ่งพยายามดึง ร่างจอห์นก็ยิ่งไถลลึกลงไปอีก จอห์นล็อกตัวเองคาอุโมงค์ในท่าที่แขนของเขาสอดอยู่ใต้อก เมื่อหมดสิ้นหนทางจะช่วยพี่ชาย จอชรีบออกจากถ้ำไปแจ้งเหตุฉุกเฉินขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย
หน่วยกู้ภัยจากสำนักงานนายอำเภอยูทาห์เคาน์ตี้รีบรุดมายังที่เกิดเหตุทันที แล้วหน่วยกู้ภัยก็พบว่า “จอห์นอยู่ในตำแหน่งที่เลวร้ายที่สุดของเส้นทางในถ้ำนี้”

“มันเป็นช่วงที่แคบมาก และน่าอึดอัดมาก ยากมากที่หน่วยกู้ภัยจะลงไปยังจุดนั้นได้ มันเป็นจุดที่คับแคบจริง ๆ แต่เราก็พยายามกันจนไปใกล้ตัวเขาได้ บางช่วงเราก็จับมือเขาได้” ชอว์น ราวนด์ดี หนึ่งในหน่วยกู้ภัยเล่าเหตุการณ์

ในที่สุด หน่วยกู้ภัยก็เลือกใช้ระบบรอกเชือก แล้วสามารถดึงร่างของจอห์นให้ขยับถอยออกมาได้ แต่ถึงตอนนั้น จอห์นก็อยู่ในท่าห้อยหัวมา 8 ชั่วโมงแล้ว ทางหน่วยกู้ภัยก็สามารถส่งน้ำและอาหารไปให้เขาได้ จอห์นยังสามารถพูดกับภรรยาของเขาผ่านวิทยุตำรวจได้ด้วย

ในขณะที่ทุกคนกำลังเริ่มที่จะโล่งใจ แต่แล้วก็เกิดเหตุพลิกผันให้ทุกคนใจสลาย

ระบบรอกขัดข้องกะทันหันแล้วส่งร่างจอห์นกลับไปยังตำแหน่งเดิม ปฏิบัติการช่วยเหลือถอยหลังกลับมาเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง

“ถึงตอนนี้ร่างกายเขาไม่ค่อยไหวแล้ว เพราะเขาเจอแรงกดทับบนหน้าอกและแผ่นหลังหนักมาก แต่ร่างกายเขาก็มีความยืดหยุ่นอย่างเหลือเชื่อเลยนะ และมีกำลังใจดีมากสำหรับคนที่เผชิญสถานการณ์แบบนี้นะ” จ่าสิบเอกสเปนเซอร์ แคนนอน กล่าวกับผู้สื่อข่าว

หน่วยกู้ภัยลองใช้วิธีอื่น คราวนี้ใช้เครื่องสกัดหินมากะเทาะหินรอบ ๆ ตัวจอห์นออก แต่เมื่อปฏิบัติการช่วยเหลือดำเนินไปเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแล้ว ร่างกายของจอห์นที่เผชิญแรงกดทับและความเครียดมายาวนาน และพยายามกระเสือกกระสนที่จะหายใจอยู่หลายชั่วโมง และแล้วร่างของจอห์นก็ไร้ปฏิกิริยาตอบสนองในช่วงใกล้เที่ยงคืน

ปฏิบัติการช่วยเหลือเป็นอันยุติลง ทางรัฐตัดสินใจปิดทางเข้าถ้ำด้วยคอนกรีตในขณะที่ร่างจอห์นยังคงถูกทิ้งคาไว้ในถ้ำตลอดไป