หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - เรื่องเล่าแอคติวิสต์พม่า-ข้อเสนอแก้ปัญหา เก็บตกวงใน ประชุมอาเซียนภาคประชาชน เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 14 มิถุนายน 2568 08:14:24 เรื่องเล่าแอคติวิสต์พม่า-ข้อเสนอแก้ปัญหา เก็บตกวงใน ประชุมอาเซียนภาคประชาชน
<span>เรื่องเล่าแอคติวิสต์พม่า-ข้อเสนอแก้ปัญหา เก็บตกวงใน ประชุมอาเซียนภาคประชาชน</span> <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>เรื่อง: พัชญ์สิตา รุ่งโรจน์ธนกุล</p><p>ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์</p></div> <span><span>See Think</span></span> <span><time datetime="2025-06-01T22:46:41+07:00" title="Sunday, June 1, 2025 - 22:46">Sun, 2025-06-01 - 22:46</time> </span> <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>สองวันก่อนที่การประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) ครั้งที่ 46 จะเริ่มขึ้น องค์กรภาคประชาชนในหมู่ประเทศสมาชิกอาเซียนจัดเวทีประชุมคู่ขนาน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นเจ้าภาพในปีนี้</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54555903630_6533b69c64_o.jpg" width="1280" height="960" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">มีการประดับป้ายสัญลักษณ์การประชุมอาเซียนไว้บริเวณเกาะกลางถนน มองจากตรงนี้ เห็นหอคอยกัวลาลัมเปอร์อยู่ด้านหลัง</p><p class="picture-with-caption">(ถ่ายเมื่อ 23 พ.ค. 2568)</p><p>เวทีภาคประชาชนอาเซียนจัดขึ้นในย่านกลางเมืองเช่นเดียวกับเวทีของผู้นำ การประชุมนี้ถือว่ายังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในหมู่คนไทย แต่ก็มีความสำคัญและมีหลายประเด็นให้จับตามอง</p><p>ในปีนี้เวทีภาคประชาชนใช้ชื่อว่า “ASEANPeople@ASEAN2025” โดยมีผู้เข้าร่วมจากภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรระดับชุมชน จาก 11 ประเทศ (รวมติมอร์-เลสเต)</p><p>ส่วนประเด็นเรื่องทุนของการจัดงานในปีนี้มาจากสหภาพยุโรปเพียงแหล่งเดียว จึงเป็นเรื่องน่าตลกที่การพูดคุยเรื่องในภูมิภาคต้องได้รับการสนับสนุนจากองค์กรนอกภูมิภาค</p><p>การประชุมอาเซียนภาคประชาชนได้รับการริเริ่มเป็นครั้งแรกเมื่อ สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะมีข้อครหาว่าเวทีความร่วมมืออาเซียนเป็นเวทีความร่วมมือของรัฐบาลเท่านั้น ในช่วงแรกเริ่มเป็นการประชุมกันระหว่างนักวิชาการและภาคประชาชน</p><p>ต่อมาในปี 2548 ในปีที่มาเลเซียเป็นประธานอาเซียน ได้มีการจัดตั้งเวทีภาคประชาชนอาเซียนที่ภาคประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยปกติในการประชุมทุกปี แต่ละชาติจะส่งตัวแทนภาคประชาชนไปกล่าวแถลงการณ์กับผู้นำชาติสมาชิกอาเซียนหรือที่เรียกว่า Interface Meeting การพบปะของภาคประชาสังคมกับผู้นำรัฐครั้งสุดท้ายที่มีการทำเป็นกิจจะลักษณะมีขึ้นในปี 2558 ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ</p><p>ในปีนี้วาระที่ถูกจับตามากเป็นพิเศษก็หนีไม่พ้นเรื่องสันติภาพพม่า คำถามหลักๆ ถูกนำมาพูดคุยกัน อย่างเช่น มาเลเซียที่มีเวลา 1 ปีในฐานะประธานอาเซียนควรจะทำอะไรบ้าง, ประเทศไทยที่เป็นประเทศหน้าด่านควรมีนโยบายต่างประเทศและนโยบายภายในอย่างไร</p><p>ผู้สื่อข่าวประชาไทมีโอกาสเข้าร่วมสังเกตการณ์ในทั้งสองวันของการประชุม โดยได้สรุปประเด็นที่น่าสนใจสำหรับผู้อ่านชาวไทยมาไว้ด้านล่าง</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54555562301_4e8aa55765_o.jpg" width="1280" height="960" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ภาคประชาชนจากประเทศอาเซียนยืนคล้องแขนถ่ายภาพร่วมกันในพิธีเปิดการประชุมอาเซียนภาคประชาชน</p><p class="picture-with-caption">(ถ่ายเมื่อ 24 พ.ค. 2568)</p><h2>ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า อยากมาแต่มาไม่ได้ ติดเรื่องวีซ่า</h2><p>การกดปราบทางการเมืองและสิทธิผู้ลี้ภัยในภูมิภาคอาเซียนเป็นปัญหามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เวทีของภาคประชาชนจึงเป็นเหมือนกับพื้นที่แห่งเสรีภาพที่เพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง และยิ่งมีความหมายต่อผู้คนสัญชาติพม่าที่หลบลี้หนีภัยไม่ว่าจะเป็นเอ็นจีโอ, ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร และตัวแทนจากกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ (EAOs) จากที่พม่าเผชิญแผ่นดินไหวใหญ่ ซ้ำเติมประเทศที่บอบช้ำอยู่แล้วจากสงครามกลางเมืองให้ยิ่งเสียหายสาหัส</p><p>อย่างไรก็ดี อุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ชาวพม่าจำนวนหนึ่งไม่สามารถมาเข้าร่วมงานได้ คือปัญหาเรื่องวีซ่าและเอกสาร รวมถึงความเสี่ยงในการถูกจับกุม</p><p>ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ประธานมูลนิธิศักยภาพชุมชน ให้ข้อมูลกับประชาไทในประเด็นนี้ โดยยกตัวอย่างกรณีของ สตีเฟน* (นามสมมติ) นักเคลื่อนไหวพม่าคนหนึ่งที่มีบทบาทเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 1988 เดิมทีเขาคนนี้ตั้งใจจะมาร่วมงานด้วย มีจดหมายรับรองจากผู้จัดงาน แต่เขากลับมาไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องวีซ่า แต่กรณีนี้มีลักษณะเฉพาะ เนื่องจากสตีเฟนถือเอกสารการเดินทางของประเทศหนึ่งในยุโรป ซึ่งเอกสารนี้ไม่ได้มีสถานะเทียบเท่ากับพาสปอร์ต นี่อาจเป็นเหตุให้เกิดความติดขัดก็ได้</p><p>ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้สื่อข่าวประชาไทมีโอกาสพูดคุยกับ ซู* (นามสมมติ) ชาวพม่าที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อมาร่วมงานนี้จนได้ นี่ถือเป็นการบินออกนอกประเทศไทยครั้งแรกของซู ผู้เป็นนักเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง </p><p>ในระหว่างการประชุม ซูจะนั่งฟังอยู่หลังห้อง หลีกเลี่ยงการถูกถ่ายภาพ และแทบไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ</p><p>“สำหรับผม นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของการต่อต้าน” เขาตอบ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามันคุ้มเสี่ยงแล้วหรือไม่</p><p>ซูหนีมาอาศัยในจังหวัดชายแดนของไทยตั้งแต่เกิดรัฐประหารปี 2564 ส่วนครอบครัวและลูกๆ ย้ายไปสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ตัวเขาปฏิเสธที่จะไปสหรัฐฯ เพราะยังอยากต่อสู้อยู่ใกล้บ้านเกิด แม้สันติภาพจะยังคงไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน</p><p>ก่อนการประชุมอาเซียนจะเริ่มขึ้น สถานเอกอัครราชทูตพม่า ณ กรุงเทพฯ ออกประกาศ (https://www.facebook.com/share/p/1AeXXxgqwd/?mibextid=wwXIfr)เตือนชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในไทยเรื่องการปลอมแปลงพาสปอร์ต (อ่านคำแปลอย่างไม่เป็นทางการ (https://www.gnlm.com.mm/myanmar-citizens-in-thailand-urged-to-avoid-forging-passports/)ได้ที่ Global New Light of Myanmar ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ)</p><p>แตกต่างจากซู ผู้สื่อข่าวยังได้พบชาวพม่าอีกกลุ่มหนึ่งที่มีวีซ่าและเอกสารการเดินทางอย่างถูกต้อง บางคนได้สถานะผู้ลี้ภัยจากประเทศตะวันตกและได้เปลี่ยนไปถือพาสปอร์ตประเทศนั้นแล้ว ทว่ายังคงมีความกลัวที่จะถูกจับกุมอยู่ลึกๆ ในใจ</p><p> </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54555802958_cdf321eb2b_o.jpg" width="1280" height="960" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ (ถ่ายเมื่อ 25 พ.ค. 2568)</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>เปิดใจ ‘นักศึกษาพม่า’ ในไทย ธุรกิจการศึกษาบูม หลังพม่าบังคับเกณฑ์ทหาร (https://prachatai.com/journal/2024/10/111238)</li></ul></div><h2>เสนอใช้ไทยเป็นที่กลางพูดคุย จะได้เจอชาติพันธุ์ด้วย</h2><p>เราเดินทางมาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์หนึ่งวันก่อนการประชุมอาเซียนภาคประชาชนจะเริ่มขึ้น จึงได้ทราบว่า ภาคประชาชนอาเซียนจัดวงสนทนาเล็กๆ โดยมีการคุยทางออนไลน์กับ โอทมาน ฮาซิม (Othman Hashim) ผู้แทนพิเศษอาเซียนด้านกิจการพม่า (Asean Chair Special Envoy for Myanmar) และ โจฮัน อาริฟฟ์ (Johan Ariff) อุปทูตมาเลเซียประจำพม่า (Chargé d'Affaires of Malaysia to Myanmar)</p><p>ในระหว่างการพูดคุย ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ประธานมูลนิธิศักยภาพชุมชน เสนอว่าจากอุปสรรคใหญ่สุดที่ทำให้คนสัญชาติพม่าเดินทางมายังมาเลเซียไม่ได้คือเรื่องเอกสารการเดินทาง จึงอยากให้มาเลเซียส่งทูตพิเศษมาพูดคุยเรื่องสันติภาพพม่าโดยใช้ประเทศไทยเป็นพื้นที่กลางในการสนทนา เพื่อให้ตัวแทนของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ สามารถเข้ามาร่วมด้วยได้</p><p>“Envoy รับปากแล้ว เขาบอกว่าเราจะต้องทำงานด้วยกันนะ แล้วจะติดต่อไป เขาก็ให้นามบัตรให้อะไรเรามาหมดแล้ว เราก็ให้นามบัตรเขาไปแล้ว” ชลิดากล่าวยืนยันกับประชาไท</p><p>อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตำแหน่งประธานอาเซียนมีวาระเพียง 1 ปี โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสลับกันไปเรื่อยๆ ในหมู่ผู้นำของประเทศสมาชิก สิ่งนี้เป็นจุดอ่อนที่ทำให้อาเซียนขาดความต่อเนื่องในการทำงาน</p><p>ชลิดาเสนอให้อาเซียนภาคประชาชนมีกลไกการส่งต่องานที่เรียกว่า “ทรอยก้า” (Troika) ไว้ประสานงานกัน 3 ฝ่าย คือ ประธานอาเซียนปีที่แล้ว ประธานปีนี้ และประธานปีต่อไป เพื่อให้มีความต่อเนื่องของการทำงาน ในประเด็นสันติภาพพม่า ประเทศไทยที่มีพรมแดนติดกันและได้รับผลกระทบหนักควรทำงานร่วมกับทรอยก้าด้วย ไม่ว่าประธานอาเซียนในปีนั้นๆ จะเวียนไปที่ประเทศใด</p><p>ทางด้านหญิงหลาว (Ying Lao) ผู้อำนวยการสถาบันสาละวินเพื่อนโยบายสาธารณะ (Salween Institute for Public Policy) กล่าววิจารณ์ในเรื่องความต่อเนื่องในการทำงานของอาเซียนเช่นกัน แต่ก็ชื่นชมพัฒนาการของอาเซียนในช่วงหลังรัฐประหารพม่าปี 2564 ด้วย จากการที่อาเซียนเข้ามามีส่วนร่วมกับตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐมากขึ้น</p><p>ชลิดาเปิดเผยว่าหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ภาคประชาชนจะมีการยื่นข้อเสนอแนะทางนโยบายเรื่องสันติภาพพม่า (Advisory paper) ให้กับตัวแทนของรัฐบาลมาเลเซียต่อไป</p><p>ขณะที่หญิงหลาวกล่าวว่า เมื่อเราพูดถึงนโยบายของประเทศไทยต่อวิกฤตพม่า เรามักจะโฟกัสไปที่นโยบายต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้วมันควรจะต้องรวมไปถึงนโยบายภายในของไทยด้วย เธอเสนอให้มีการตั้ง “คณะทำงานระหว่างกระทรวง” (Inter-Ministrial Task Force) ขึ้นมาเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างบูรณาการมากขึ้น</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54555562336_0484abd239_o.jpg" width="1280" height="960" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ภาคประชาชนอาเซียนจัดวงสนทนาเล็กๆ โดยมีการคุยทางออนไลน์กับ โอทมาน ฮาซิม (Othman Hashim) ผู้แทนพิเศษอาเซียนด้านกิจการพม่า (Asean Chair Special Envoy for Myanmar) และ โจฮัน อาริฟฟ์ (Johan Ariff) อุปทูตมาเลเซียประจำพม่า (Chargé d'Affaires of Malaysia to Myanmar)</p><p class="picture-with-caption">(ถ่ายเมื่อ 23 พ.ค. 2568) </p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>อันวาร์เผยหารือมินอ่องหล่าย-นายกฯ NUG ประเด็นสันติภาพพม่า-ช่วยเหลือแผ่นดินไหว (https://prachatai.com/journal/2025/04/112650)</li></ul></div><h2>เลือกตั้งพม่าไม่เพียงพอแก้วิกฤต แนะคุยข้อเสนอสหพันธรัฐ</h2><p>หญิงหลาวมองการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ว่าคล้ายๆ กับ “สนามแห่งการบงการ” (Arena of Manipulation) เพราะว่ากฎเกณฑ์ต่างๆ เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคที่สนับสนุนทหารพม่า แต่นั่นไม่ได้แปลว่าพม่าไม่ควรมีการเลือกตั้ง เธอต้องการจะสื่อว่าแค่การเลือกตั้งอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะพาพม่าออกจากวิกฤตการเมืองได้ เราต้องยอมรับก่อนว่าต้นตอของปัญหาคือความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ ฉะนั้นการจะสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นได้ หัวข้อของการพูดคุยต้องไปให้ไกลกว่าแค่เรื่องการหยุดยิง แต่ต้องรวมถึงการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ</p><p>หญิงหลาวกล่าวอีกว่า ในเรื่องกระบวนการสร้างสันติภาพพม่าว่า พวกเราเข้าใจเรื่องนี้ดี เพราะว่าตลอดประวัติศาสตร์ ชาวพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์เคยผ่านกระบวนการนี้มาแล้ว 5 ครั้งหลักๆ แต่มันก็ล้มเหลวทุกครั้งด้วยเหตุผลหลัก 4 ประการ คือ</p><ol><li aria-level="1">ไม่มีการประนีประนอมทางการเมืองอย่างแท้จริง ที่ผ่านๆ มารัฐบาลยื่นข้อเสนอปลดอาวุธและโอกาสทางธุรกิจ แต่ไม่ได้ยอมรับข้อเสนอการปกครองตนเอง หรือการปฏิรูประดับสหพันธรัฐ</li><li aria-level="1">แนวทางการทหารนำ เน้นชักจูงด้วยการบังคับมากกว่าให้การรับรอง</li><li aria-level="1">ยุทธศาสตร์แบ่งแยกและปกครอง การหยุดยิงแบบเลือกปฏิบัติสร้างความไม่ไว้วางใจและความแตกแยก</li><li aria-level="1"><p>การบงการจากภายนอก โดยเฉพาะบทบาทของจีนในการจุดชนวนและเป็นตัวกลางในความขัดแย้ง</p><p> </p></li></ol><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54555802948_e610f2b53f_o.jpg" width="1280" height="960" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">หญิงหลาว (ถ่ายเมื่อ 25 พ.ค. 2568)</p><h2>ความช่วยเหลือแผ่นดินไหว ขอหยุดส่งให้ทหาร-แนะส่งให้ ปชช.ดีกว่า</h2><p>ชาวพม่าคนหนึ่งที่ลี้ภัยในมาเลเซีย กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเหตุแผ่นดินไหวพม่าว่า ขอให้หยุดการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) เนื่องจากความช่วยเหลือดังกล่าวอาจถูกนำไปสนับสนุนการปฏิบัติการของกองทัพโดยอ้อม นอกจากนี้ บริบทของสงครามกลางเมืองยังทำให้รัฐบาลทหารกระจายความช่วยเหลือไปได้ไม่ทั่วถึง</p><p>เขาต้องการให้ชาติอาเซียนรับรู้เกี่ยวกับผู้เดือดร้อนในพม่าที่แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ หนึ่ง ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางอาวุธและความรุนแรงทางการเมือง ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ สอง คือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ซึ่งแต่ละกลุ่มต้องการความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมที่แตกต่างกัน</p><p>เขากล่าวว่าปัจจุบันรูปแบบความช่วยเหลือที่เชื่อถือได้และพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิผลมากที่สุดคือการส่งผ่านเครือข่ายประชาชนด้วยกันเอง จึงเรียกร้องให้ชาติอาเซียนนำ "กลไกคู่ขนาน" มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่องค์กรต่อต้านรัฐบาลทหารของกลุ่มชาติพันธุ์ (ERO), รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) และภาคประชาสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลทหาร</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>‘คนตัวเล็ก’ ช่วยเหยื่อแผ่นดินไหวพม่า หลอมรวมพลังในไทย ส่งตรงไม่ผ่านรัฐบาลทหาร (https://prachatai.com/journal/2025/05/112871)</li></ul></div><h2>อันวาร์ชมทักษิณ ช่วยหาทางออกวิกฤตพม่า</h2><p>เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย (https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/39/iid/392474)ว่า อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (Anwar Bin Ibrahim) กล่าวเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวถึง คณะที่ปรึกษาของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งมีทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ จำนวนมาก ว่ามีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาหาทางออกวิกฤตเมียนมาให้ก้าวหน้าขึ้น ขณะเดียวกันก็เชิญชวนผู้นำอาเซียนและภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมประชาคมอาเซียนให้มีความเข้มแข็ง ด้วยการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงและยั่งยืน “Inclusivity and Sustainability”</p><p>จิรายุกล่าวต่อไปว่า ในการเปิดประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 นี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อ ประชาคมอาเซียน โดยยังคงมีมุมมองต่ออนาคตอาเซียนในเชิงบวก โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถฝ่าฟันช่วงการเปลี่ยนผ่านทางภูมิรัฐศาสตร์ และการค้าโลกที่ตกอยู่ภายใต้การกดดันจากการขึ้นภาษีระดับสูงของสหรัฐฯ โดยได้จัดตั้งคณะทำงาน ASEAN Geo-economics Task Force เพื่อหาแนวทางในกรณีภาษีสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียประธานอาเซียน ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณ คณะที่ปรึกษาประธานอาเซียนที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งการประชุมในครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ มีส่วนสำคัญในการผลักดันการแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา ด้วย แม้จะเป็นก้าวๆ เล็กที่ยังคงมีความเปราะบาง แต่ก็เป็นความพยายามของอาเซียน ในการขับเคลื่อนการแก้วิกฤตเมียนมา นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังคงเชื่อมั่นว่า ด้วยความเป็นปึกแผ่นและความเป็นแกนกลางของอาเซียน จะทำให้อาเซียนสามารถเผชิญต่อความท้าทายและความไม่แน่นอนต่างๆ ได้ ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ มาเลเซียยังได้ริเริ่มให้มีการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ-จีน (ASEAN-GCC-China Summit ) ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งการประชุมสุดยอดสามฝ่ายในครั้งนี้ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ความเป็นหุ้นส่วนที่หลากหลายของโลกที่มีหลากหลายขั้วอำนาจในวันนี้ โดยเชื่อว่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างต่อไป</p><p>ช่วงวันที่ 26-27 พ.ค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 โดยนายกฯ พร้อมผู้นำอาเซียน ร่วมพิธีลงนาม “ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: วางอนาคตร่วมกันของเรา” รับรองร่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045</p><p> </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54555802983_544fde6b0e_o.jpg" width="1280" height="960" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ป้ายงานประชุมอาเซียนปี 2025 หน้าตึกเปโตรนาสทาวเวอร์ ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์</p><p class="picture-with-caption">(ถ่ายเมื่อ 23 พ.ค. 2568)</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>เริ่มแล้วประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 ที่กัวลาลัมเปอร์ (https://prachatai.com/journal/2025/05/113057)</li></ul></div><p> </p></div> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่าว[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยชน[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเทศ[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%97" hreflang="th">อาเซียนซัมมิท[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">เวทีประชุมอาเซียนภาคประชาชน[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">พม่า[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">เจรจาสันติภาพพม่า[/url]</li> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">แผ่นดินไหวพม่า[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> http://prachatai.com/journal/2025/06/113138 |