หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - ศึก 'ชิงการนำ' ย้อนแอคชั่น รัฐบาล-กองทัพ หน้าสิ่วหน้าขวาน พิพาทกัมพูชา เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 21 มิถุนายน 2568 10:00:43 ศึก 'ชิงการนำ'
ย้อนแอคชั่น รัฐบาล-กองทัพ
หน้าสิ่วหน้าขวาน พิพาทกัมพูชา
<span>ศึก 'ชิงการนำ' ย้อนแอคชั่น รัฐบาล-กองทัพ หน้าสิ่วหน้าขวาน พิพาทกัมพูชา</span> <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>ทีมข่าวการเมือง</p></div> <span><span>admin666</span></span> <span><time datetime="2025-06-20T19:39:36+07:00" title="Friday, June 20, 2025 - 19:39">Fri, 2025-06-20 - 19:39</time> </span> <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชากำลังปะทุและยังหาทางลงกันไม่ได้ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาก็ปล่อยคลิปเสียงที่แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยโทรสายส่วนตัวไปเจรจาเรื่องเปิด-ปิดด่านชายแดนเพื่อลดความร้อนแรงของสถานการณ์ กลายเป็นการดีดถ่านร้อนเข้ามาฝั่งไทย จนกลายเป็นว่าความมั่นคงของรัฐบาลไทยที่ยังชุลมุนกับปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลยิ่งง่อนแง่นเข้าไปอีก</p><p>แต่คลิปเสียงนี้มีประเด็นที่น่าสนใจพอๆ กับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เพราะยังสะท้อนภาพความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับกองทัพไทยด้วย</p><p>ในคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีของไทยไปบอกกล่าวกับผู้นำของกัมพูชาว่า กองทัพภาคที่ 2 เป็น ‘ฝ่ายตรงข้าม’ แม้ว่าภายหลังแพทองธารจะออกมาแก้ว่าเป็นเพียงเทคนิคในการเจรจา แต่โดยข้อเท็จจริงก็เห็นกันอยู่ว่า การแสดงออกของคนในกองทัพในปมความขัดแย้งรอบนี้ มีหลายครั้งที่ไปคนละทิศละทางกับรัฐบาล</p><p>อีกทั้งฮุนเซนก็ยังกล่าวหาว่าทางกองทัพไทยยังคงปิดด่านที่ชายแดนแม้ว่าจะรับปากกันแล้วว่าหากทางกัมพูชายอมปรับกำลังบริเวณชายแดนแล้วจะกลับสู่เหตุการณ์ปกติก่อนปะทะ</p><p>มาตรการเกี่ยวกับด่านชายแดน แม้ดูเหมือนควรอยู่ในมือรัฐบาลผู้มีอำนาจกำหนดจังหวะก้าวในการต่อรอง แต่หลังการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ปรากฏว่าได้มอบอำนาจในการเปิด-ปิดด่านชายแดนให้ไปอยู่ในมือของกองทัพบก ตามมาด้วยการสั่งปรับเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนใน 7 จังหวัด ตราด จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมถึงงดส่งออกสินค้า เช่น ปูน เหล็กเส้นสำหรับก่อสร้างและยุทธภัณฑ์ ไปจนถึงการห้ามคนไทยไปเล่นการพนันในบ่อนฝั่งกัมพูชา</p><p>แม้ด่านไทย-กัมพูชาจะไม่ได้ปิดสนิทแต่ดูเหมือนส่งผลกระทบต่อผู้นำกัมพูชาไม่น้อย จนฮุนเซนต้องนำมาสนทนากับนายกฯ ของไทยเพื่อเป็นเงื่อนไขต่อรองดังปรากฏในคลิป แต่นายกฯ บอกว่าต้องกลับไปหารือกองทัพในเรื่องนี้ น่าสนใจว่าทำไมนายกฯ ไม่ใช่คนเคาะเรื่องนี้ ทั้งที่การเปิดปิดด่านชายแดนไม่ได้มีแต่เรื่องความมั่นคง แต่ยังมีเรื่องทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย และกองทัพมีบทบาทขนาดไหนในสถานการณ์เช่นนี้</p><p>เรื่องนี้อาจต้องย้อนกลับไปดูความเคลื่อนไหวของกองทัพไทยตั้งแต่วิกฤติความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาปะทุขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี และพัฒนาการของสถานการณ์ที่ไหลเร็วและแรงขึ้นมากในเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนหลังการปะทะที่ช่องบกจนถึงจุดแตกหักระหว่างแพทองธาร-ฮุนเซนจากคลิปเสียงที่ทางกัมพูชาปล่อยมา ดูเหมือนตลอดเส้นทางดังกล่าว การแสดงบทบาทของกองทัพไทยดูจะเหนือกว่ารัฐบาลพลเรือน </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54599120717_108ac93b82_o.jpg" width="4000" height="5000" loading="lazy"><p> </p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>กองทัพ ‘ล้ำเส้น’ รัฐบาลพลเรือน? ชิงความนิยมบนกระแส ‘รักชาติ’ ข้อกังวลการเมืองไทย จากปมชายแดน (https://prachatai.com/journal/2025/06/113186)</li><li>กต.ไทยแถลงสัญญาณดี ไทย-กัมพูชา "ปรับกำลัง" หวัง JBC เคลียร์ปมขัดแย้ง (https://prachatai.com/journal/2025/06/113236)</li><li>นายกฯ แจงคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามกองทัพ แม่ทัพภาค 2 เผยเคลียร์กันแล้ว (https://prachatai.com/journal/2025/06/113351)</li><li>ไทม์ไลน์ ‘อ่านระหว่างบรรทัด’ รัฐบาลพลเรือน VS ทหาร ก่อนเจอหมัดหนัก ‘คลิปเสียง’ (https://prachatai.com/journal/2025/06/113360)</li></ul></div><h2>จากปะทะฝีปาก สู่ยิงจริงตายจริง</h2><p>แม้ว่าการแสดงท่าทีของรัฐบาลไทยต่อการปะทะที่เกิดขึ้นที่ช่องบกจะช้าไม่ทันใจใครหลายคน ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ระดับที่กองทัพส่งเครื่องบินขับไล่ F-5 (https://www.youtube.com/watch?v=IKxWAitogdk) ขึ้นไปรับสถานการณ์ตั้งแต่เกิดการปะทะ เราเห็นเพียงออกมาให้ข่าวสั้นๆ ของภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่ารับทราบเรื่องจากรายงานในพื้นที่ว่าเป็นเหตุจำเป็นที่จะต้องยิงตอบโต้ รุ่งขึ้นนายกรัฐมนตรีถึงออกมาให้ข่าวว่าทางไทยพร้อมจบเรื่องหากไม่มีการเสริมกำลังจากทางฝ่ายกัมพูชา ส่วนภูมิธรรมก็ออกมาพูดเรื่องที่ไทยกับกัมพูชาต่างฝ่ายต่างถอยกำลังออกเพิ่มเติมหลังปะทะเป็นฝ่ายละ 400 เมตร (https://www.facebook.com/share/v/1BDSqTv7pr/) พร้อมแสดงท่าทีว่าไทยต้องการสันติภาพ แต่ก็ไม่ได้พูดถึงมาตรการที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการทางทูตหรือการทหารอย่างไรต่อกัมพูชา</p><p>ยังไม่นับว่ารัฐบาลไทยอาจจะดูเบาต่อสถานการณ์ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่คุกรุ่นมาตั้งแต่ต้นปีตั้งแต่กรณีทหารไทย-กัมพูชาปะทะคารมณ์กันที่ปราสาทตาเมือนธมเพราะมีนายทหารกัมพูชานำคนมาร้องเพลงชาติ (https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2842476)เมื่อ 17 ก.พ.2568 ตามมาด้วยเหตุศาลาตรีมุขถูกเผาเมื่อ 1 มี.ค.2568 (https://www.thaipost.net/general-news/750150/) แต่ฝ่ายไทยยังอธิบายเรื่องนี้ในตอนแรกว่าว่าเป็นแค่ไฟลามจากบ้านเรือนมาถึงที่สุดท้ายมีการแก้ข่าวว่าเป็นการวางเพลิง (https://siamrath.co.th/n/605532) จนมาเกิดการปะทะกันด้วยอาวุธจริงที่ช่องบกเมื่อ 28 พ.ค.ที่ผ่านมาจนมีทหารกัมพูชาเสียชีวิตไป 1 นาย</p><p>เป็นไปได้ว่ารัฐบาลอาจมองว่าไม่ควรทำให้เรื่องลุกลามบานปลาย แต่กระแสประชาชนกลับรู้สึกว่ารัฐบาลทำ ‘ช้า’ และ ‘น้อย’ เกินไป ขณะที่ฝ่ายทหารได้แสดงบทบาทผ่านหน้าสื่ออย่างมากหลังเหตุการณ์เหล่านี้ จนคะแนนความนิยมกองทัพมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเป็นงานของรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศต้องเป็นผู้นำในการจัดการก็ตาม</p><p>ขณะเดียวกันในอีกมุมหนึ่ง การแสดงออกของกองทัพไทยก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า ทำเกินบทบาทของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกมายืนยันเส้นเขตแดนว่าพื้นที่ไหนบ้างเป็นอธิปไตยของไทย ทั้งที่ยังเป็นจุดที่ไทยและกัมพูชายังไม่ได้ดำเนินการปักปันเขตแดนตามกระบวนการทวิภาคีที่มีอยู่ ไปจนถึงแสดงท่าทีพร้อมรบของบรรดาเหล่าทัพต่างๆ ทั้งทางโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายทหารฝั่งไทยเอง</p><h2>ใช้แผนที่ไหน-ไม่ไปศาลโลก ตกลงรัฐบาลหรือทหารเป็นคนเคาะ?</h2><p>เริ่มจากท่าทีของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีหน้าที่ควบคุมกำลังพลในพื้นที่และเป็นนายพลที่เข้าไปเจรจาพูดคุยกับทางทหารของฝ่ายกัมพูชามาตั้งแต่ 21 ก.พ.2568 จนกลายเป็นคนที่รับหน้าเสื่อเรื่องนี้มาตั้งแต่วันนั้น</p><p>อย่างไรก็ตาม หลังเกิดการปะทะที่ช่องบกไม่กี่วัน ปรากฏคลิปสัมภาษณ์พล.ท.บุญสินในสำนักข่าวเนชั่นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรื่องฝ่ายไทยยอมรับแค่แผนที่ 1: 50,000 ของกรมแผนที่ทหาร (https://www.instagram.com/reel/DKcMe7IBvUZ/) แต่ไม่ยอมรับแผนที่ 1: 200,000 ที่อยู่ใน MOU43 ทั้งที่ MOU ฉบับนี้เป็นกรอบการเจรจาที่ไทยกับกัมพูชาทำขึ้นมาร่วมกันเมื่อปี 2543 และใช้เป็นกรอบการทำงานของ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission - JBC) ในการดำเนินการปักปันเขตแดนมาตั้งแต่เริ่มต้น (https://prachatai.com/journal/2025/06/113322) แม้สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ออกมาจากการทำงานของ JBC จะเป็นแผนที่ฉบับใหม่ที่ได้รับการยอมรับร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชาเพื่อใช้แทนแผนที่ 1 : 200,000 ก็ตาม</p><p>คำถามคือ ประเด็นในทางนโยบายเช่นนี้เป็นเรื่องที่กองทัพควรพูดก่อนรัฐบาลหรือไม่ </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54602220748_5d4f409afa_b.jpg" width="1024" height="684" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (กลางขวา) กับนายทหารฝั่งกัมพูชา(กลางซ้าย) ที่ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2568 </p><p>สำหรับเรื่องแผนที่ พล.ท.บุญสิน ยังออกมาย้ำอีกรอบหลังการประชุม JBC ด้วย (https://www.thaipbs.or.th/news/content/353248) โดยการย้ำเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังมีการข่าวปล่อยว่าไทยไปยอมรับแผนที่ 1:200,000 ในการประชุม JBC แม้ว่าภายหลังจะถูกพิสูจน์ว่าข่าวนั้นไม่ได้เป็นความจริง เพราะกระทรวงการต่างประเทศแถลงยืนยันในวันที่ 16 มิ.ย.ว่าไม่ได้มีวาระเรื่องนี้ในการประชุม JBC</p><p>ระดับรองแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าง พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ก็ยังนิยมแสดงออกทางโซเชียลมีเดียในเรื่องที่เป็นคำถามว่าเป็นบทบาทของทหารหรือไม่ ทั้งเรื่องจะใช้กลไกใดในการเจรจา ไทยจะไปหรือไม่ไปศาลโลก (https://www.thansettakij.com/politics/629400) ยังไม่นับว่าสุดท้ายแล้วรองแม่ทัพที่มีลุคใจเย็นในหน้าสื่อพร้อมแสวงหาแนวทางเจรจาก็ยังลงเอยด้วยการถามว่า <a href="https://www.facebook.com/mammoth.s.nutt/posts/pfbid0CRWEnicoCAAVAFqSfrGNQKBPRTWNCfRbseGxoSALBRNwEMiEdZ82nM6A49hyGjQ2l?__cft__[0]=AZVLa52A58JqaIjv45AnV8b-WY0vKt57Df3IX8gxaY2Ww2Kow9s_doY-FynUTBqH-9wHPhAM3tyhEx3PaEI-i6bGmVWjw0oXboaAbbNXPoACbvLKO5jM56G2kJBC1uCGUBJTgqErOxCOxGcOtDoBK3bN3x7XsmPVQHlLyT2zy__ZzvhrJpPuPhFng8St798dxr0&__tn__=%2CO%2CP-R">“ไม่ต้องมีข้อตกลงใดๆ ดีไหม เอาให้เละก่อนโต”[/url] </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54601060357_ef0dc3f420_b.jpg" width="1023" height="681" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 (กลางภาพ) ถ่ายที่หน้าศาลาตรีมุขก่อนถูกเผาทำลาย</p><h2>รัฐบาลยันใช้เจรจา แต่กองทัพโปรโมท ‘ส่งด่วน’ </h2><p>เรื่องความพร้อมรบ ไม่ได้แสดงออกโดยนายทหารใหญ่เท่านั้น แต่ยังไปปรากฏในช่องทางต่างๆ ของเหล่าทัพต่างๆ ทั้งการแถลงอย่างเป็นทางการของกองทัพบก ไปจนถึงโพสต์ทีเล่นทีจริงแสดงความพร้อมรบด้วยมุขจากหนังดังใน Netflix อย่าง ‘สงครามส่งด่วน’</p><p>ขณะที่ภูมิธรรมเพิ่งไปประชุมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาในวันที่ 5 มิ.ย.2568 <a href="https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/pfbid0317NKxeNWgm5QceNiCXzaWE3UXHZS71vi4ud8C3B9w7MAtN2wr28LzieYYk1TxSPJl?__cft__[0]=AZWY_wqTjwD_Xijg4Xguhf_2oaPmt2ozAR9uZyNi_jmhj_UUwP9i09w0lInCT611WzORWq1GBUCk3Qw9w7qn5VSkFB7C1v_rVbkzduxcy7ST6OnCJRRJKwG62J0sjkMFqISb8s1RaLxTY2mZFkHySPo0sDkvsKjID1zAYZvlULsnOQ&__tn__=%2CO%2CP-R">เพื่อให้มีการปรับกำลังตามแนวชายแดนให้กลับไปเหมือนตอนปี 2567 แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ[/url] อย่างไรก็ดีเขายังยืนยันว่าจะยังใช้กลไกทวิภาคี (เรื่องนี้ยังมีเหตุแทรกซ้อนกล่าวหาภูมิธรรมยอมบินไปเจรจาในฝั่งกัมพูชา ทั้งที่สองฝ่ายประชุมกันที่จ.สระแก้ว)</p><p>ค่ำวันเดียวกันกับที่ รมว.กลาโหมไปเจรจาโดยยังไม่ทันได้แถลงสิ่งใด กองทัพบกก็ชิงออกแถลงการณ์ โดย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกแถลงโต้เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน ไม่เป็นความจริง หากแต่เป็นฝ่ายกัมพูชาที่ใช้อาวุธตอบโต้เมื่อทางฝ่ายไทยส่งหน่วยลาดตระเวณเข้าไปพิสูจน์ทราบการรุกล้ำ ที่น่าสนใจกว่าคือ การแสดงความพร้อมรบในสถานการณ์ที่รัฐบาลพลเรือนยังคงยืนยันใช้การเจรจาผ่านกลไกทวิภาคีอยู่</p><p>“ผู้บัญชาการทหารบกจึงมีคำสั่งให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมให้อยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ ในการตอบสนองต่อภารกิจในขั้นของการใช้กำลังทางทหาร ตามแผนป้องกันประเทศ เพื่อตอบโต้กรณีการรุกล้ำอธิปไตยในขอบเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อใช้ความพยายามแก้ไขปัญหาตามแนวทางแห่งสันติที่ทุกฝ่ายปรารถนาแล้ว แต่ไม่บรรลุผล” ส่วนหนึ่งในแถลงของกองทัพบก</p><p>แถลงของกองทัพบก ทำเอาหลายคนสงสัยว่าตกลงแล้วกองทัพยังอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลหรือไม่ </p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>ผบ.เหล่าทัพ จัดประชุมเฉพาะกิจ หารือแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา (https://prachatai.com/journal/2025/06/113193)</li></ul></div><p>วันรุ่งขึ้น 6 มิ.ย. หลังรัฐบาลถูกวิจารณ์ว่าทำอะไรล่าช้ามาหลายวันก็ได้ประชุมสภาความมั่นคง (สมช.) เสียที และมีท่าทีชัดเจนมากขึ้นหลังปล่อยให้กองทัพแสดงบทบาทมาหลายวัน โดยรัฐบาลยังยืนยันที่จะใช้สันติวิธีและจะใช้กลไกทวิภาคีต่อไปในการหาทางออก พร้อมกับยืนยันไม่รับอำนาจศาลโลกต่อ ส่วนทางกองทัพก็แสดงท่าทีว่าจะดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ สมช.ยังมีมติให้อำนาจกองทัพบกเป็นผู้พิจารณาดำเนินการเปิด-ปิดด่านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54602065189_bc54e015b6_b.jpg" width="1024" height="427" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">กองทัพอากาศ (ซ้าย) กองทัพบก (กลาง) กองทัพเรือ (ขวา)</p><p>แต่เหมือนกองทัพกลัวจะเสียของ ในเมื่อทำแคมเปญ “ส่ง(ทหาร กระสุน จรวด)ด่วน” เพื่อเกาะกระแสซีรี่ย์เนตฟลิกมาเตรียมปล่อยในวัน 6.6 (วันเซลล์สินค้าประจำเดือนในแอพต่างๆ) ไว้แล้ว คล้อยหลังรัฐบาลยืนยันแนวทางเจรจาสันติวิธีไม่นาน ก็ปรากฏการโพสต์แคมเปญ ‘ส่งด่วน’ ในบัญชีโซเชียลของทั้งทัพบก เรือ อากาศ ยาวไปตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น เรียกว่าส่งสัญญาณไปคนละทิศละทาง จนไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วไทยจะรบกับกัมพูชาจริงๆ หรือแค่จะเกทับความพร้อม</p><p>แม้ว่าแคมเปญทีเล่นทีจริงของทั้ง 3 เหล่าทัพที่ทำให้เรื่องความเป็นความตายของประชาชนทั้ง 2 ประเทศกลายเป็นเรื่องตลกนี้ควรถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสม แต่ท่ามกลางความไม่พอใจความช้าของรัฐบาล บวกกับความไม่ไว้ใจความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนจะกลายเป็นแรงผลักให้คนยิ่งส่งแรงเชียร์กองทัพมากขึ้น จนกระทั่งเริ่มปรากฏความเห็นที่เลยเถิดไปในทำนองว่า ควรปล่อยให้ทหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเสียที</p><h2>ส่งอำนาจเปิด-ปิดด่านให้กองทัพ</h2><p>ต่อมาตลอดสัปดาห์ที่สองของเดือน มิ.ย. เมื่อมาตรการตอบโต้จากทางไทยเริ่มขึ้น กองทัพบกเริ่มสั่งปิดด่านตามแนวชายแดนเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. แม้จะไม่ได้ปิดสนิทเพราะจำกัดการส่งสินค้ายุทธภัณฑ์และวัสดุก่อสร้างและห้ามคนไปเที่ยวเล่นพนันในบ่อนฝั่งกัมพูชาแต่ก็ส่งผลให้วันรุ่งขึ้น 8 มิ.ย.ก็มีการรายงานข่าวทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาว่าแต่ละฝ่ายได้ปรับกำลังทหารลดการเผชิญหน้ากันแล้ว พร้อมกับกลบสนามเพลาะ(คูเลต) เรียบร้อย แต่มาตรการปิดด่านของฝั่งไทยยังเดินหน้าไป จนกระทั่งถึงวันประชุม JBC</p><p>ผลการประชุม JBC ทั้ง 2 ฝ่ายจะยังเดินหน้าหาทางปักปันเขตแดนร่วมกันต่อภายใต้กลไกทวิภาคี แม้จะไม่มีเรื่องของ 4 พื้นที่ที่เป็นปัญหา (ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต) อยู่ในการประชุม เพราะกัมพูชายืนยันว่าจะเอาเรื่องขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกให้ได้ แต่เรื่องก็ไม่ได้จบง่ายๆ</p><p>เช้าวันจันทร์ (16 มิ.ย.) รัฐบาลไทยเริ่มทำให้เรื่องนี้ชัดเจนขึ้นทั้งในส่วนของนายกฯ ที่ออกมาแถลงข่าวหลังประชุม JBC ว่าทางไทยยืนยันจะใช้กลไกทวิภาคี พร้อมยังได้กล่าวถึงท่าทีของผู้นำกัมพูชาที่จะมีมาตรการกับทางไทยหากไม่เปิดด่าน 6 เรื่อง (https://www.thaipbs.or.th/news/content/353178) ว่าทางไทยไม่ได้ปิดด่าน แต่เป็นการปรับเวลาเปิดปิดเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยประชาชน 2 ฝั่งหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด</p><p>อย่างไรก็ตาม ในการแถลงของแพทองธารไม่ได้พูดแค่เรื่องเปิดปิดด่านเท่านั้น อีกเรื่องที่อยู่ในการแถลงคือ นายกฯ ไทยวิพากษ์วิจารณ์การใช้โซเชียลมีเดียของผู้นำประเทศกัมพูชาว่า “ไม่เป็นมืออาชีพ” ด้วย ทั้งที่เธอได้แจ้งกับทางกัมพูชาแล้วว่าจะมีการประชุมในวันจันทร์ว่าจะดำเนินการอย่างไร</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา-กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดน (https://prachatai.com/journal/2025/06/113204)</li><li>สรุปท่าทีไทย-กัมพูชา 48 ชั่วโมงก่อนเจรจา JBC ชิงประกาศหยุดซื้ออินเตอร์เน็ต-ไฟฟ้า-ปิดด่าน (https://prachatai.com/journal/2025/06/113277)</li><li>'ไทย-กัมพูชา' ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน (https://prachatai.com/journal/2025/06/113308)</li><li>นายกฯ ท้วงกัมพูชา โพสต์ไม่มืออาชีพสร้างปัญหา กต.ย้ำจุดยืนใช้คุยทวิภาคีดีกว่า (https://prachatai.com/journal/2025/06/113322)</li></ul></div><h2>กัมพูชาปล่อย ‘คลิปเสียง’ หมัดเด็ดสั่นคลอนการเมืองไทย</h2><p>ไม่รู้คำว่า “ไม่เป็นมืออาชีพ” นั้นสร้างความขุ่นข้องหมองใจฮุนเซนเพียงใด เพราะในขณะที่กัมพูชาเริ่มดำเนินตามมาตรการที่ประกาศไว้ 2 วันให้หลังแพทองธารวิจารณ์ผู้นำกัมพูชา วันพุธที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) สื่อทางฝั่งกัมพูชาก็ปล่อยคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนายกฯ ไทยกับฮุนเซนเรื่องการเปิดด่าน ซึ่งคาดเดาได้ไม่ยากนักว่าคนปล่อยคลิปเป็นใคร เพราะผลร้ายที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะเกิดแต่กับฝั่งไทย จนทำเอาความมั่นคงของรัฐบาลไทยง่อนแง่นทันที</p><p>ไม่ว่าสาระหลักในคลิปเสียงจะเป็นเรื่องอะไร แต่สิ่งที่สังคมไทยจับมาเป็นประเด็นมีอยู่ 2 เรื่อง</p><p>เรื่องแรก การเรียกฮุนเซนว่า ‘ลุง’ อย่างใกล้ชิดและความอ่อนน้อมในการเจรจาประหนึ่งญาติมิตรของนายกฯ ไทย รวมทั้งการถามว่า “อยากได้อะไรขอให้บอก” เหมือนไปตอกย้ำความเชื่อของฝ่ายที่เกลียดชังตระกูลชินวัตรเป็นทุนเดิม</p><p>เรื่องที่สอง นายกฯ ไทยบอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 (ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากท่าทีแข็งกร้าวที่มีต่อกัมพูชา) เป็น ‘ฝ่ายตรงข้าม’ เรื่องนี้ก็ไปตอกย้ำความเชื่อก่อนหน้านี้ว่ารัฐบาลหาทางปลดแม่ทัพภาคที่ 2 (https://www.thaipbs.or.th/news/content/352824) เพราะขัดแย้งกันเรื่องข้อเสนอให้ปิดด่านระหว่างไทย-กัมพูชา แม้ว่าอายุราชการของพล.ท.บุญสินจะเหลืออีกแค่ไม่กี่เดือนก็ตาม และ รมว.กลาโหมเองก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือตั้งแต่ต้น</p><p>คลิปเสียงนี้ทำให้แพทองธารถูกวิจารณ์อย่างหนักทันทีเสมือนว่าได้ ‘ขายชาติ’ ไปแล้ว จนเกิดแรงต้านรุนแรงถึงขนาดเรียกร้องให้ยุบสภาตั้งแต่วันที่คลิปเสียงเปิดออกมา รุ่งขึ้นบรรดานักร้องต่างไปฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งในศาลยุติธรรมและองค์กรอิสระ พร้อมกับมีคนนัดหมายม็อบต่างๆ ต่อมานายกฯ ออกมาขออภัยต่อประชาชนและชี้แจงว่าเป็นเรื่องเทคนิคการเจรจา และการบอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามก็อยู่ในบริบทที่หมายถึงเป็นคู่ความขัดแย้งกับทางกัมพูชา อย่างไรก็ดี ได้ปรับความเข้าใจกับแม่ทัพภาคที่ 2 แล้วเรียบร้อย หันดูรายงานข่าวของสื่อมวลชนพบว่า พล.ท.บุญสินให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>ทบ.โพสต์พร้อมปกป้องอธิปไตย ติด #saveแม่ทัพภาคที่2 คนไลก์เกือบแสน แต่ลบแท็กออกทีหลัง (https://prachatai.com/journal/2025/06/113355)</li></ul></div><p>นอกจากกระแสสังคมแล้ว กองทัพก็มีท่าทีต่อเรื่องคลิปเสียงด้วย โดยเพจกองทัพบกโพสต์ข้อความในเวลา 19.55 น.ของวันที่ 18 มิ.ย.ว่า</p><p class="text-align-center">"ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร...</p><p class="text-align-center">กองทัพบก พร้อม ยืนหยัด</p><p class="text-align-center">ปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มกำลัง</p><p class="text-align-center">#ทหารมีไว้เพื่อปกป้องอธิปไตย</p><p class="text-align-center">#saveแม่ทัพภาคที่2</p><p class="text-align-center">#กองทัพบก"</p><p>แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร ไม่นานนักเพจกองทัพบกก็มีการลบเฉพาะคำว่า #saveแม่ทัพภาคที่2 ออกตอน 21.15 น. (แต่เพจของกองทัพภาคที่ 2 ยังมีแฮชแท็กนี้อยู่จนวันนี้)</p><p>ที่กล่าวไปนี้เป็นเพียงแค่การสื่อสารในช่องทางทางการของบิ๊กทหารและเหล่าทัพต่างๆ ยังมีการรับลูกไปเล่นต่อในบัญชีโซเชียลมีเดียที่มีพฤติกรรมค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเครือข่ายของกองทัพซึ่งจะแสดงออกชัดเจน ‘ตรงไปตรงมา’ กว่ามาก</p><h2>‘เพจเครือข่ายทหาร’ ปลุกกระแสออกรบสวนทางรัฐบาลไม่หยุด</h2><p>นอกจากท่าทีบนโซเชียลมีเดีย ‘official’ ของเหล่าทัพต่างๆ สิ่งที่เป็นคลื่นใต้น้ำตอกย้ำความไม่ยอมเป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาล คือ ท่าทีของ ‘เพจทหาร’ และเครือข่าย ที่หลายครั้งชวนสงสัยว่ากำลังเตะตัดขากันอยู่หรือไม่ เพจทหารเหล่านี้มีทั้งที่เป็นบัญชี ‘ออร์แกนิก’ และส่วนที่มีข้อพิรุธชวนสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกองทัพ</p><p>ตัวอย่างเช่นเพจเฟซบุ๊ก ข่าวทหาร (https://www.facebook.com/ilovethaiarmy) (อดีตเคยใช้ชื่อ ‘ข่าวทหาร ททบ.5’) ผู้ติดตามกว่า 2.7 แสนบัญชี เคยถูกแท็กและเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลในโพสต์ของเพจเหล่าทัพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน. (https://www.facebook.com/share/p/1Ao7Ugw8MF/) กองร้อยทหารพรานที่ 4215 (https://www.facebook.com/share/v/1B7NWP5it3/) กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 (https://www.facebook.com/share/p/1FftEMRw2u/) ฯลฯ</p><p>นอกจากแชร์ข่าวสารและแคมเปญกองทัพ เพจข่าวทหารยังโพสต์ข้อความที่มีนัยยะต่อต้านหัวเรือชินวัตรอยู่เรื่อย ๆ เช่น โพสต์รูปภาพแถลงการณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (https://www.facebook.com/share/p/1AeWxqHuGd/) หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังคลิปเสียงหลุด พร้อมพาดหัว</p><p class="text-align-center">‘“ลุงป้อม” ออกแถลงการณ์ "พลังประชารัฐ" ติง “นายกฯ”</p><p class="text-align-center">ไร้ความสามารถแก้ปัญหาชายแดน ทำชาติเสียเปรียบ…’</p><p>รวมทั้งแชร์โพสต์นักการเมืองคนอื่น ๆ อันเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมาของ ‘ชินวัตร’ ซึ่งมีท่าทีพร้อมรบ (ขัดกับแนวทางสันติวิธีเน้นเจรจาของรัฐบาล) เช่นโพสต์ (https://www.facebook.com/ilovethaiarmy/posts/pfbid02krksWenMrkQA1kbvHELEb3rCh7UqCqDAEtt1s8Ybh1R4EwYGGNnUtU2uWzGba3SMl)ของ <a href="https://www.facebook.com/atavit.s?__cft__[0]=AZUyKKgy5Hl9flVM4AefnOXHPqA7rvDDM1p5qyBAzrB3cSNUV6DcT-Q9ILM68QrLnZzKJsMPBB4t1xdkmN0jCN1b9k3HjabHDrZ7M00XiGKApy5NzjUEEpS-efM-fy-uVh0SWaKoFdDtErwMqptWxHqtQle2hJDo7c3OdGRENrcmlRq25yQ5AtXFFhWNGP67lSpE3f2s_UsNWYggG8Cv7R_Yx3tADb3HcBd-6zXmqmzz-A&__tn__=-UC%2CP-y-R">อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี[/url] อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ พร้อมแคปชั่นที่คัดลอกจากโพสต์ต้นทาง</p><p class="text-align-center">“รบเป็นรบ! เขมรตั้งใจรุกไทยในเขตที่ชัดเจนแล้ว!...”</p><p>หรือล่าสุด หลังคลิปเสียงหลุดจนรัฐบาลถูกประณามอย่างหนักว่าเป็นนักการเมืองเลว เช้าวันที่ 19 มิ.ย. 68 เพจข่าวทหารโพสต์ข้อความจากพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง “...ให้คนดีปกครองบ้านเมือง…” (https://www.facebook.com/share/p/18wpuREL4E/) คอการเมืองคงคุ้นเคยกันดีมาตั้งแต่สมัยก่อรัฐประหาร 2549, 2557 ว่าวาทกรรมนักการเมืองเลวและแนวคิดให้คนดีปกครองบ้านเมือง ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มการเมืองต่อต้านชินวัตรจนนำมาสู่การรัฐประหารทั้งสองครั้ง</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54602178555_99f3e79156_b.jpg" width="1024" height="548" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา: ข่าวทหาร (https://www.facebook.com/share/p/1AVe6CcgMu/)</p><p>หรือเพจเฟซบุ๊ก ‘ทหารเป็นตาฮัก (https://www.facebook.com/profile.php?id=100050182012881)’ ผู้ติดตาม 4.7 แสนบัญชี ซึ่งรายงานข่าวของประชาไทก่อนหน้านี้เคยพบความเชื่อมโยงของเพจกับกองพลทหารราบที่ 3 (อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่ (https://prachatai.com/journal/2025/06/113187)) นับตั้งแต่เกิดข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชารอบใหม่ โดยเฉพาะหลังเหตุปะทะที่ช่องบอก (28 พ.ค. 68) เพจทหารเป็นตาฮักโพสต์ข้อความในเชิงวิจารณ์รัฐบาลทางลบบ่อย ๆ หรือข้อความในเชิงที่ตีความได้ว่าไม่อยู่ใต้อาณัติของผู้ใดนอกจากทหารด้วยกันเอง เช่น</p><p class="text-align-center">6 มิ.ย. 68</p><p class="text-align-center">พาโล อปริณายโก “คนโง่ ไม่ควรเป็นผู้นำ!!” (https://www.facebook.com/share/p/1Ef2CNoUgu/)</p><p class="text-align-center">13 มิ.ย. 68</p><p class="text-align-center">ผู้นำ น่อมแน้ม (https://www.facebook.com/share/p/16nujpQXZg/) / กลับบ้านไปกินแปะก๊วยเถอะ มีประโยชน์กว่าเยอะ</p><p class="text-align-center">16 มิ.ย. 68</p><p class="text-align-center">นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น (https://www.facebook.com/share/p/1RG4GADdFk/) / เอ้า ใครจับใจความได้อธิบายให้ แอดฟังที่ (https://www.facebook.com/share/p/16YsrbGe8v/)</p><p class="text-align-center">(ทั้งสองข้อความ โพสต์ช่วงเที่ยง ขณะแพทองธารแถลง (https://www.facebook.com/share/v/165VJieqpK/)หลังประชุมแก้ปัญหาชายแดน)</p><p class="text-align-center">18 มิ.ย. 68 (วันคลิปเสียงหลุด)</p><p class="text-align-center">นายพวกเรา คือ แม่ทัพกุ้ง #saveแม่ทัพภาคที่2 (https://www.facebook.com/share/p/19zJW6JhTL/)</p><p> </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54602087338_b6ce6bb912_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy"><p> </p><p>นอกจากรูปแบบการโพสต์ดังกล่าว เพจทหารเป็นตาฮัก ยังโพสต์คลิปเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายชิ้น ล้วนมียอดการรับชมสูง คอมเมนต์จำนวนมากบ่น “คิดถึงลุง” บ้างเลยเถิดชี้ชวนรัฐประหาร ผู้สื่อข่าวพบโดยคร่าว ๆ อย่างน้อย 3 ชิ้น นับตั้งแต่หลังเหตุปะทะช่องบก โดยทหารเป็นตาฮักนำคลิปจาก TikTok มาโพสต์บนเพจ</p><p class="text-align-center">2 มิ.ย. 68</p><p class="text-align-center">คลิปรวมอิริยาบถ ‘ลุงตู่’ ในเครื่องแบบทหาร (https://www.facebook.com/share/v/16fYsg78Ky/) (ยอดรับชม 6.9 หมื่นครั้ง)</p><p class="text-align-center">3 มิ.ย. 68</p><p class="text-align-center">ประยุทธ์ขณะเป็นนายกฯ ชี้แจงในสภาถึงความจำเป็นของทหารเกณฑ์ เมื่อปี 2562 (https://www.facebook.com/share/v/15VjxycdJg/) (ยอดรับชม 1 ล้านครั้ง)</p><p class="text-align-center">6 มิ.ย. 68</p><p class="text-align-center">คลิปประยุทธ์ช่วงกรณีเขาพระวิหาร 2554 ลั่นถ้าจะรบกันไม่ยาก แค่สั่งมา (https://www.facebook.com/share/r/15JSFkMVWL/) (ยอดรับชม 6 แสนครั้ง)</p><p>รวมถึงเพจเฟซบุ๊ก ‘ชมรมทหารพรานกองทัพบก (https://www.facebook.com/profile.php?id=100064639423953)’ ที่รับลูกกระแสร้อนคลิปเสียงฉาว แสดงออกอย่างชัดเจนในช่วงเย็นวันที่ 18 มิ.ย. 68 ด้วยการโพสต์คลิปเพลง “หนักแผ่นดิน” (https://www.facebook.com/share/v/16n1TsiGQN/)</p><p> </p><p class="text-align-center"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54600995922_04c1bbe505_b.jpg" width="1024" height="503" loading="lazy"></p><p class="picture-with-caption">ที่มา: ทหารเป็นตาฮัก (https://www.facebook.com/share/r/15JSFkMVWL/)</p><p> </p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54601875946_3ea10d802c_o.jpg" width="815" height="662" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา: ชมรมทหารพรานกองทัพบก (https://www.facebook.com/share/v/16n1TsiGQN/)</p><p>ทั้งการวิจารณ์รัฐบาลอย่างเผ็ดร้อน และแสดงท่าทีสวนทางแนวคิดสันติวิธีเน้นเจรจาของรัฐบาล โดยเพจทหารเหล่านี้ อาจยิ่งตอกย้ำให้เห็นชัด ว่าแท้จริงกองทัพวางตัวอย่างไรในการเมืองไทย</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>กระแสเรียกทหารปฏิวัติ โลกโซเชียลฯ หนักแค่ไหน จากปมพิพาทไทย-กัมพูชา (https://prachatai.com/journal/2025/06/113187)</li></ul></div><h2>รมช.กลาโหม เตือนอย่าตกหลุมแผนฝั่งกัมพูชา</h2><p>อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องมากมายภายใน 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา คนที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสายทหารใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่าง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตีในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ <a href="https://www.facebook.com/AdHocCentreforThailandCambodiaBorderSituation/posts/pfbid02HEyPMMj1JHajdAPrY8atBNoXEuaY8xQ6q9XKYm37YNayR462GfLVreN4zitYV1vdl?__cft__[0]=AZWzKx3nh76fPgwsq5tYzix4RbKC8FKyICo8Igq9akii1l9Kg83GbWCkI_bUByj4STAmCsNp7FrhVXXc28W_FGJUAhXyaZDhZyELAj3CbwW_6PG6Vh4qXfVrduUdGgejqSxV2HtnsPJAPwApAA387r4k9-Jj49DunSI0_KA0q6J2CRghJ9CBavRSfrrSzk4TXGgh02qzXaISVdRxalrj_j7G&__tn__=%2CO%2CP-R">ก็ออกแถลงการณ์ในฐานะหัวหน้าทีมประเทศไทย (ชื่อเล่นของศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา)[/url] ที่ดูเหมือนจะมาช่วยลดโทนความร้อนแรงของสถานการณ์ฝั่งไทย</p><p>“เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการที่ซับซ้อน มีเป้าหมายที่ลึกซึ้งและแยบยลจากฝ่ายตรงข้าม การปล่อยคลิปเสียงในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการหวังผลทางการทูต แต่เป็นการ “ยิงกระสุนนัดเดียว เพื่อหวังจะได้นกทั้งรัง” และเราจะไม่ยอมให้เขาสมหวัง เป็นอันขาด”</p><p>เป็นข้อความที่ พล.อ.ณัฐพล สื่อออกมาค่อนข้างชัดเจนว่าอย่างน้อยตอนนี้คนในทีมไทยแลนด์ซึ่งก็ผนวกเอาไว้ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารต้องช่วยกันประคองสถานการณ์กันไปก่อนเพื่อไม่ให้เข้าทางฝั่งกัมพูชา และเมื่อสื่อสารสาธารณะออกมาก็คงคาดหวังให้ทุกองคาพยพร่วมประคองกันไปด้วย</p><p>นอกจากนั้นระหว่างที่มวลชนฝั่งอนุรักษ์นิยมเริ่มเรียกหาทหาร อีกฝั่งหนึ่งก็กำลังประเมินว่าสถานการณ์นี้จะเกิดรัฐประหารหรือไม่ ทางกองทัพก็ออกมาแก้ข่าว โดย เ<a href="https://www.facebook.com/royalthaiarmyRTA/posts/pfbid024D29aVT38HEUiT9HA9GU5LbdyswBarTfKdeX4zdT5rSH2QJhgrCJexB9FbvSPe7ul?__cft__[0]=AZWe7IRZmm991DomOpuXInm15SZPSTMrlfY9RHTnvRYqgfYd4HQX_B-s591QfmLERu-j-ZTTfC1C9BRa_UoN6Jz0KQzwUhY9hYs8tZXIZptQFeDygFyX11v37TdLbacxWHLgvLtRK4InRTodh2hIQLmPDpMKbtnlw_8nuFak2iOes9WdSItKxlsIFg5Ng4uiifJDHp-gBYFblLh_rWnSpt4O&__tn__=%2CO%2CP-R">พจกองทัพบกก็ออกมาโพสต์ข้อความจาก พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกว่า[/url]</p><p>“ขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่” และ ผบ.ทบ.ยังขอให้ประชาชนสามัคคีกันในการปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดีด้วย</p><p>ตั้งแต่เกิดวิกฤติพรมแดนไทย-กัมพูชารอบล่าสุดนี้ เราจะเห็นบทบาทของกองทัพที่ดูจะนำหน้ารัฐบาลอยู่เรื่อยๆ และหลายจังหวะก็ไม่เป็นเนื้อเดียวกับทิศทางรัฐบาล ขณะเดียวกันกระแสนิยมทหารก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนมีข้อเรียกร้องที่เลยเถิดถึงกับจะให้มีรัฐประหารอีกรอบ</p><p>จนถึงวันนี้( 21 มิ.ย.) สถานการณ์อาจเริ่มทรงตัวมากขึ้น อย่างน้อยจากสถานการณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังไม่ได้แห่ถอนตัวไปกันหมด ผู้ที่ใกล้ชิดกองทัพแสดงท่าทีชัดเจนมากขึ้นถึงความจำเป็นที่กองทัพต้องร่วมประคองสถานการณ์ เหล่านี้อาจต่ออายุรัฐบาลนี้ออกไปได้อีกระยะ แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอีกหรือไม่ เมื่อใด และจากฝ่ายใด</p></div> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่าว[/url]</li> </ul> </div> <!--/.node-taxonomy-container --> <div class="node-taxonomy-container"> <ul class="taxonomy-terms"> <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD% |