[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ตลาดสด => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 23 มิถุนายน 2568 12:54:48



หัวข้อ: นกกระเรียน
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 23 มิถุนายน 2568 12:54:48
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/53023352598150_508746112_1264468195688935_597.jpg)

นกกระเรียน

นกกระเรียนหรือว่านกเขียนในภาษาไทยถิ่นอีสานนั้น เคยสูญพันธุ์ไปจากบ้านเรามานานกว่า 50 ปีแล้ว โดยมีรายงานพบเห็นในธรรมชาติครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ.2511 บริเวณชายแดนไทยติดประเทศกัมพูชาแถว ๆ จังหวัดสุรินทร์ ในคอลัมน์ ดาวเด่น Specimen ประจำวันนี้ แอดมินพาไปเยี่ยมชมกันที่ #พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยามหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งที่นี่นั้นมีนกกระเรียนที่เป็นตัวอย่างสตัฟฟ์จัดแสดงอยู่ด้วย

ไม่น่าเชื่อว่า ครั้งหนึ่ง นกน้ำขนาดใหญ่ชนิดนี้ จะเคยพบเห็นอยู่เป็นจำนวนมากในภาคอีสาน ดังที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยบันทึกไว้เมื่อคราวเสด็จไปตรวจราชการหัวเมืองมณฑลอุดรกับมณฑลอีสานเมื่อปี พ.ศ.2448 ความว่า "เมื่อฉันเดินทางจากเมืองนครราชสีมาไป 2 วัน ถึงทุ่งมะค่า ก็เห็นฝูงนกกะเรียนทำรังอยู่มากมายอย่างเขาว่า พอมันเห็นคนหมู่ใหญ่ก็ตื่นพากันทิ้งรังบินหนีขึ้นไปร่อนอยู่เต็มท้องฟ้า ดูจำนวนนกนับด้วยหมื่น ไม่เคยเห็นมีที่ไหนเหมือน ในเมืองไทยนี้นกกะเรียนก็ไม่มีชุม เคยเห็นชินตาแต่ที่เขาจับเอามาเลี้ยงไว้ แต่นกกะเรียนเถื่อนมิใคร่จะได้เห็น จึงน่าพิศวงว่าไฉนนกกะเรียนนับหมื่นจึงพร้อมใจกันมาทำรังในทุ่งมะค่าและมาเสมอทุกปี"

แม้ว่าขอนแก่นจะไม่ใช่บ้านของนกกระเรียน แต่นกกระเรียนคู่ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่ #พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยามหาวิทยาลัยขอนแก่น แห่งนี้ เปรียบเสมือนตัวแทนของนกกระเรียนฝูงสุดท้ายแห่งภาคอีสานและสิ่งเตือนใจถึงความมุ่งมั่นพยายามในการฟื้นฟูประชากรด้วยการเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนตามธรรมชาติที่ยังมีหลงเหลืออยู่ในประเทศกัมพูชาแล้วปล่อยคืนสู่พื้นที่ชุมน้ำตามธรรมชาติและสามารถอยู่ร่วมกันกับชาวบ้านและชุมชนในพื้นที่โดยทีมนักวิจัยสัตว์ป่าของสวนสัตว์โคราช ที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2533
. . .
ไม่แน่ว่าในวันหนึ่งข้างหน้า เราอาจจะไม่ต้องจินตนาการถึงฝูง "นกนับด้วยหมื่น" ตามบันทึกเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ผ่านตัวอย่างจัดแสดงที่มีอยู่แค่ในพิพิธภัณฑ์ แต่จะมีโอกาสได้เห็นจริง ๆ ในธรรมชาติ ก็เป็นได้



ที่มา พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา Natural History Museum