หัวข้อ: เริ่มมีโรงแรมในประเทศไทย เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 07 มิถุนายน 2553 07:05:20 (http://byfiles.storage.live.com/y1pxws9pMMLqXcw3Hzxcuv3SRG9LxcKMZOGDBCc2tV4ISj0Ku1OZF7-0_3TxMe6apmDqwCOJukTX_u5EhE5FawJbA) เริ่มมีโรงแรมในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 1213 ประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรกที่ริเริ่มทำธุรกิจด้านโรงแรม และในสมัยนั้นเราเรียกโรงแรมว่า INN คำว่า INN มาจาก IN หมายถึง TO LOUNGE OF ERINGLOSE & FOOD FOR TRAVELLER ต่อมาคำว่า INN จึงเปลี่ยนมาเป็น MOTEL และก็เปลี่ยนเป็น HOTEL ซึ่งคำนี้ความหมายของแต่ละตัวอักษรแยกออกได้ดังนี้ H House O Oganization T Tourism E Eat L Live (http://byfiles.storage.live.com/y1pFMc7z6RuVwNqc4uD3SAHczuC3xDAi9DnaRVdgjRiV7POsCBN36yKE8Tmm6moTnpo3nN98vXMMwAF2pQq51tLuQ) โรงแรมในประเทศไทยเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นในลักษณะกึ่งราชกาลได้ปลูกสร้างขึ้นในเขตพยาไท โดยใช้ชื่อว่า โรงแรมพญาไท และเวลาต่อมาได้เปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลพระมงกุฏปัจจุบัน ...ส่วนโรงแรมของเอกชนที่สร้างขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันคือ Oriental hotel ผู้จัดการที่บริหารโรงแรมในเวลานั้นคือ พระยาทุมมา ราชทน ( ยม เสถียรโกเศศ ) ...ต่อมาได้มีการสร้างสถานีหัวลำโพง จึงทำให้เกิดโรงแรมขึ้นมาสองแบบ คือ โรงแรมที่พักอาศัย และโรงแรมที่มีหญิงโสเภณีบริการ และถัดไปบนถนนเจริญกรุงมุมถนนสุริวงศ์ก้เกิดโรงแรมขึ้นอีกชื่อว่า โทรกาเดโร Toecadero เจ้าของชื่อ นายวิลาศ บุนนาค ไม่นานนักทางสำนักพระราชวังได้ใช้พื้นที่ในที่ดินส่วนหนึ่งของพระมหากษัตริย์สร้างโรงแรมบนถนนสายราชดำเนินทั้งตอนต้น และตอนปลายสร้างโรงแรม 2 โรงแรมมีชื่อว่า โรงแรมรัตนโกสินทร์ และโรงแรม ศรีสุริยานนท์ ที่กล่าวมานี้นับได้ว่าเป็นโรงแรมขั้นประวัติศาสตร์ และมีโรงแรมขนาดใหญ่ในเวลานั้นเกิดขึ้นอีกหนึ่งโรงแรมโดยข้าหลวงในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด คือ นายอุดม บุณยประสพ และคุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ เนติบัณฑิตสตรีคนแรกของไทย ได้เปิดทำการธุรกิจโรงแรมเมื่อปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ.1953) โดยตั้งชื่อโรงแรมว่า โรงแรมเวียงใต้ เนื่องจากท่านข้าหลวงอุดม ได้ไปประจำอยู่ทางภาคใต้ในหลาย ๆ จังหวัด และทางภาคเหนือ ระหว่างรับราชการได้เห็นความไม่สะดวก ของคนในจังหวัดห่างไกลเหล่านั้นด้วยเมื่อเดินทางมาติดต่อธุรกิจ หรือมาเยี่ยมลูกหลานที่เรียนหนังสืออยู่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากที่พัก หรือโรงแรมมีน้อยมาก และแทบจะไม่มีเลยสำหรับประชาชนโดยทั่ว ๆ ไป ...ที่มาของชื่อ " โรงแรมเวียงใต้ " ก็เพื่อให้ผู้คนที่เดินทางมาพักทั้งที่เดินทางมาจากภาคเหนือ และภาคใต้ ไม่เกิดความรู้สึกว่าห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอน คนทางภาคเหนือก็ให้รู้สึกว่าคุ้นเคย คนทางภาคใต้ก็ให้รู้สึกว่าพักที่บ้านของตนเอง ...ในระยะเริ่มแรกของการเปิดดำเนินการมีห้องพักเพียง 10-20 ห้อง (เป็นห้องพัดลม) โดยได้ปรับปรุงจากบ้านขุนนางในสมัยก่อน ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางบางลำพู ต่อมาข้าหลวงอุดมเห็นว่ากิจการด้านนี้จะดำเนินการไปได้ดี ท่านทั้งสองจึงขยายห้องพักเพิ่มเติม โดยทยอยซื้อที่ดินที่ติดกับที่ดินแปลงเดิม และได้โรงแรมที่มีห้องพัก 80-100 ห้อง และเปิดรับคนไทย และชาวต่างชาติ ...ต่อมาท่านข้าหลวงอุดมได้เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ.1962) คุณหญิงแร่มจึงต้องบริหารโรงแรมเพียงตามลำพัง (ปัจจุบันคุณหญิงแร่มเสียชีวิตแล้วในปี พ.ศ. 2551ด้วยวัยชรา) หลังจากนั้นบุตรของคุณหญิงแร่มคือ คุณอรนุช ได้สร้างอาคารโรงแรมเพิ่มขึ้นอีกติดกับอาคารเดิม และขยายห้องพักจากเดิมเป็น 215 ห้อง มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในจำนวนไม่กี่แห่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ บางลำพู ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้าที่เก่าแก่ และเป็นชุมชนเก่าที่มีประวัติสืบทอดมานับตั้งแต่การสถาปนากรุงเทพมหานครขึ้นเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2325 ...โรงแรมเวียงใต้ตั้งอยู่ในสถานที่อันเป็นประวัติศาสตร์บนถนนรามบุตรีซึ่งเป็นสถานที่ที่ตั้งก็เป็นพระนามของพระราชธิดาในรัชกาลที่ 1 ซึ่งแต่เดิมถนนสายนี้เคยเป็นคลองที่เชื่อมออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีชื่อว่า คลองรามบุตรี คลองรามบุตรีนี้เป็นคลองประวัติศาสตร์ที่จะต้องจารึกไว้ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหารนั้น เหล่าเสนาอำมาตย์ได้กราบบังคมทูลพระองค์ท่านเสด็จเสวยราชสมบัติโดยเสด็จทางชลมาร์คจากวัดบวรนิเวศ โดยดำเนินไปตามคลองรามบุตรี หรือถนนรามบุตรีปัจจุบันนี้ ออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเสด็จไปยังพระบรมหมาราชวัง... ถนนรามบุตรีไมใช่เป็นถนนเล็ก แต่เป็นคลองที่สำคัญในการสัญจรไปมาในอดีต เมื่อพูดถึงโรงแรมยุคต้น ๆ ในประเทศไทยในเวลานั้น ได้มีโรงแรมสร้างขึ้นมาอีกมากมายที่สร้างไล่เลี่ยกันได้แก่ Indra Hotel ประตูน้ำ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เป็นประธาน Prince Hotel, Princes Hotel โดยนักธุรกิจหญิงสองคนคือ คุณสุภีรัตน์ เตลาน กับ คุณชนัตถ์ ปิยะอุย ...Erawan Hotel ต่อมาได้มีนักธุรกิจผู้หนึ่งชื่อ นายสุรินทร์ ล่ำซำ โดยซื้อที่ดินจากพระยา ศรีวิกร มาทิต ตรงสี่แยกราชประสงค์ สร้างโรงแรมขึ้นใช้ชื่อว่า Erawan Hotel และโรงแรมนี้ได้มีการสร้างขึ้นใหม่โดยใช้เนื้อที่เดิมตั้งชื่อใหม่ว่า Grand Hyatt Hotel โดยนักธุรกิจไทยชื่อดังสองกลุ่ม ก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการไม่ให้น้อยหน้าโรงแรม เอราวัณเดิม คุณสุภีรัตน์ เตลาน และคุณชนัตถ์ ปิยะอุย ก็ได้สร้างโรงแรมขึ้นอีกสองแห่งในเวลาไล่เลี่ยกันบนถนนสีลมตอนต้น และตอนปลายคือ โรงแรม รามา และโรงแรมดุสิตธานี ก่อน พ.ศ. 2509 ได้มีโรงแรมเกิดขึ้นอีกมากมาย มากกว่า 10 แห่งในกรุงเทพฯ เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ...เมื่อการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์จบสิ้น มีหลายโรงแรมก็เลิกกิจการไปตามเอเชี่ยนเกมส์ บ้างก็ให้ทหารอเมริกันเช่า ความสุภาพ และอัธยาศัยไมตรีที่เป็นกันเอง เป็นบรรยากาศของโรงแรมในประเทศไทย (:88:) http://cid-930457caa4c0c308.profile.live.com/Lists/cns (http://cid-930457caa4c0c308.profile.live.com/Lists/cns)!930457CAA4C0C308!1546/ หัวข้อ: Re: เริ่มมีโรงแรมในประเทศไทย เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 07 มิถุนายน 2553 10:32:33 ความรู้ดีมากเลยครับ
เพิ่งรู้ความหมาย |