[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 08 มิถุนายน 2553 22:18:22



หัวข้อ: นครแห่งบาป : Two Sin Cities
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 08 มิถุนายน 2553 22:18:22
[ อ.มดเอ็ก โพส์ไว้ในบอร์ดเก่าของเราครับ ]



นครแห่งบาป : Two Sin Cities
 

"โซดอม และ กอมเมอร์ราห์" (Sodom and Gommorah)

เมื่อเอ่ยถึงนครแฝดทั้งสองนี้คงมีหลายท่านที่คุ้นหูและผ่านตากันดีกับเมืองที่เต็มไปด้วยความชั่วและบาปหนาจนเกินกว่าที่แผ่นดินจะแบกรับได้ ดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าจึงฝังเมืองนี้ไว้ใต้ธรณี ตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ลนั้น อิบรอฮีม(อับราฮัม) ได้ส่ง “ลูฏ”(โลต) หลานชายของท่านไปยังเมืองโซดอมเพื่อตักเตือนชาวเมืองให้เห็นถึงผลร้ายของความชั่วดังกล่าวและละเว้นจากพฤติกรรมนี้เสียแต่ความพยายามของลูฏก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีและดูเหมือนว่ายิ่งนานวัน ศีลธรรมของผู้คนในเมืองโซดอมจะยิ่งเสื่อมทรามลงทุกวัน (โปรดดูวิดีโอสารคดีเรื่อง Sodom and Gomorrah ท้าย entry นี้ประกอบ)

(http://www.vinylrecords.ch/S/SO/Sodom/Mortal/sodom-mortal-20.jpg)
ภาพชาวเมืองโซดอมที่มัวเมาในความบาปและความชั่ว

ความชั่วและบาปทุกชนิดสุดที่จะบรรยายได้ล้วนมีอยู่ในเมืองโซดอมและกอมเมอร์ราห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความนิยมเสพกามวิปริตต่างๆ ลักร่วมเพศระหว่างชายด้วยกันเรียกได้ว่าสมัยนั้นเมืองทั้งสองนี้เป็นสรวงสวรรค์ของเกย์เลยทีเดียวนอกจากเสพกันเองในหมู่ชาวเมืองแล้ว หากมีพ่อค้าหรือผู้สัญจรผ่านไปมาจะถูกนำตัวไปข่มขืนอย่างทารุณแต่นั่นย่อมหลังจากที่ชาวเมืองได้รุมทึ้งขโมยสินค้าและเงินทองของคนเหล่านั้นเสียก่อน ความเสื่อมทรามทางศีลธรรมที่ทำให้เมืองนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ก็คือความนิยมในเรื่องรักร่วมเพศในหมู่ผู้ชายด้วยกันจนชื่อของเมืองนี้ได้กลายเป็นที่มาของคำว่า “โซโดมี” (Sodomy) ซึ่งหมายถึงการรักร่วมเพศนั่นเอง
[/FONT]
 
เมื่อไม่มีอำนาจใดสามารถยับยั้งความชั่วได้ ลูฏจึงได้วิงวอนต่อพระเจ้าให้ลงโทษผู้คนในเมืองโซดอมเพื่อมิให้ความชั่วของคนในเมืองนี้แพร่หลายออกไปยังดินแดนอื่น ดังนั้นพระเจ้าจึงตัดสินใจทำลายเมืองทั้งสองนี้ พระองค์ส่งทูตสวรรค์ลงมาแจ้งลูฏให้พาครอบครัวหนีภัยไปจากเมืองโซดอมโดยด่วน เวลาหนีก็ให้เร่งไปอย่างเร็วที่สุดอย่าได้หยุดหันหลังมองไปทางเมืองที่กำลังระเบิดเป็นอันขาด.... เรื่องนี้ภริยาของลูฏไม่เชื่อ อาจเป็นเพราะนางเป็นสตรีจึงมีความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าบุรุษ ได้หันกลับไปมองเมืองที่เพิ่งผละจากมา ผลก็คือ ร่างของนางกลายเป็นเสาเกลือ (Pillar of Salt) ติดตรึงอยู่ ณ ที่นั้น และยังคงปรากฏสืบมาจนถึงเดี๋ยวนี้
 
(http://tbn1.google.com/images?q=tbn:uRrR47J2RJ-fEM:http://www.jesuswalk.com/abraham/images/martin_destruction_sodom640x422.jpg) (http://"http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.jesuswalk.com/abraham/images/martin_destruction_sodom640x422.jpg&imgrefurl=http://jmoorhead.blogspot.com/2008_01_01_archive.html&h=422&w=640&sz=55&hl=th&start=70&usg=__ATkblklJbnDYZ1NdlAapjb46tEc=&tbnid=uRrR47J2RJ-fEM:&tbnh=90&tbnw=137&prev=/images%3Fq%3Dsodom%26start%3D60%26gbv%3D2%26ndsp%3D20%26hl%3Dth%26sa%3DN") (http://tbn2.google.com/images?q=tbn:aRSK4N3e35_gtM:http://www.realclearreligion.com/index_files/sodom.gomorrah.jpg) (http://"http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.realclearreligion.com/index_files/sodom.gomorrah.jpg&imgrefurl=http://www.realclearreligion.com/index_files/jul-2007.html&h=501&w=401&sz=101&hl=th&start=163&usg=__87lSHrWv6BrimXiLA_QjcxQk5jI=&tbnid=aRSK4N3e35_gtM:&tbnh=130&tbnw=104&prev=/images%3Fq%3Dsodom%26start%3D160%26gbv%3D2%26ndsp%3D20%26hl%3Dth%26sa%3DN") (http://tbn2.google.com/images?q=tbn:MlcWFJaHAJqzXM:http://www.freewebtown.com/greentea501/lot_s_wife.jpg)

นครแห่งบาปล่มสลาย Lot ออกจากเมือง เสาหินเกลือ Lot's Wife

ดินแดนอันเป็นที่ตั้งของโซดอมและกอมเมอร์ราห์นั้น อยู่ในบริเวณที่เรียกว่าหุบเขาซิดดิม (Siddim) ใกล้กับทะเลแห่งความตาย "Dead Sea" ซึ่งเป็นความลับอันนน่าสะพรึงกลัวของโลกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะคุณภาพพิเศษอันไม่เหมือนใครของน้ำในทะเลแห่งนี้ ชาวโรมันเรียกว่า "ทะเลยางมะตอย" (Sea of Asphalt) ชาวกรีกกล่าวว่า เหนือทะเลเต็มไปด้วยแก๊สพิษที่เป็นอันตราย ส่วนชาวอาหรับเล่าว่าเป็นทะเลอาถรรพณ์ นกตัวไหนบินข้ามก็ตกลงมาตายหมด...ทะเลเด้ดซีครองความลับอันยิ่งใหญ่มานานจนถึงปี ค.ศ. 1848 นักธรณีวิทยาจึงสำรวจดูรู้ว่า น้ำในทะเลแห่งนี้เต็มไปด้วยเกลือ ซึ่งทำให้มีคุณภาพพิเศษแตกต่างจากที่อื่น เช่นวัตถุที่ตกน้ำจะไม่จม เป็นต้น... การค้นพบความลับของทะเลเด้ดซีนำไปสู่ความลับอย่างอื่น นั่นคือ รอบๆ บริเวณทะเลสาบ จะมีเกลือจับก้อนหินก้อนดินกลายเป็นโขดเขาเกลือขึ้นเรียงรายอยู่เป็นอันมาก หนึ่งในจำนวนนี้ได้แก่ เสาเกลือ ที่มีรูปร่างมองผาดๆ คล้ายสตรียืนอยู่... นี่แหละที่มาของตำนานภริยาลูฏผู้กลายเป็นเสาเกลือ ไปตามความในพระคัมภีร์
 
(http://byfiles.storage.live.com/y1pUYP1I1rAVIGdqc7odUGgyxUeUhhXC-mVNQP3vdpPcUQMF6QScQRM141Ap_3Ijoh0TIBc2nxbK9Y) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pUYP1I1rAVIGdqc7odUGgyxUeUhhXC-mVNQP3vdpPcUQMF6QScQRM141Ap_3Ijoh0TIBc2nxbK9Y")

ที่ตั้งของเมือง Sodom และ Gomorrah ที่ค้นพบ

นอกจากนี้ การค้นพบความลับของทะเลสาบเด้ดซี ยังนำไปสู่ความสนใจในทางโบราณคดีอีกด้วย ศาสตราจารย์ ดับบลิว เอฟลินซ์ นักธรณีวิทยาใหญ่เกิดนึกถึงเมืองชื่อ โซดอม กอมเมอร์ราห์ในพระคัมภีร์ได้ว่า เคยตั้งอยู่ในหุบเขาซิดดิมนี้แหละ ร่วมกับเมืองอื่นๆ อีก 3 เมือง คือ โซอาร์, เซบัวอิม และ แอดมาห์... เมื่อค้นพบทั้งทะเลเด้ดซี, แม่น้ำจอร์แดน และหุบผาซิดดิม แล้วก็น่าจะพบซากเมืองในพระคัมภีร์เหล่านี้ (ถ้ามีอยู่จริง) จึงได้ทำการค้นหาเป็นการใหญ่ พบว่าด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลเด้ดซีมีซากเมืองโบราณที่ชาวอาหรับเรียกว่า "ไรอาร์" ตามชื่อเมืองในพระคัมภีร์อยู่ด้วยจริงๆแต่จากการขุดสำรวจทางโบราณคดี พบว่าซากเมืองไรอาร์เป็นเมืองใหม่เกิดขึ้นในสมัยกลางนี่เอง นักโบราณคดีจึงทำการค้นหาซากเมืองในพระคัมภีร์ต่อไป
 
(http://byfiles.storage.live.com/y1pYaiCdB_LuHpuh2TZqiZyfmHl3VHvQTuIhuxJTpii7dQrAB8U9Fbt-70Tyroi4goY7TnKrezBxVc) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pYaiCdB_LuHpuh2TZqiZyfmHl3VHvQTuIhuxJTpii7dQrAB8U9Fbt-70Tyroi4goY7TnKrezBxVc") (http://byfiles.storage.live.com/y1pVVFbpoF5JFGsnMm2tHUplxQw7nCWpu4zINiPhAzAi96_nl5RiG895lbqAK8QrY10H96uPxaBerQ) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pVVFbpoF5JFGsnMm2tHUplxQw7nCWpu4zINiPhAzAi96_nl5RiG895lbqAK8QrY10H96uPxaBerQ")

แผนที่เมืองโบราณทั้ง 5 ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล

 
ความพยายามนำมาซึ่งความสำเร็จ และเป็นความสำเร็จที่ยืนยันความถูกต้องบางประการของพระคัมภีร์ไบเบิ้ลในฐานะตำราประวัติศาสตร์ได้ด้วย นั่นคือ ถ้าจะไปค้นหาซากเมืองโซดอมและกอมเมอร์ราห์บนพื้นดินก็หาไม่พบ เพราะจมลงไปอยู่ใต้ผิวทะเลเด้ดซี โซดอมและกอมเมอร์ราห์จมลงไปใต้น้ำด้วยแรงระเบิดจริง แต่ไม่ใช่ระเบิดของทูตสวรรค์ตามข้อความในพระคัมภีร์ ทว่า เป็นแรงระเบิดของธรรมชาตินี่เอง นั่นคือโซดอมและกอมเมอร์ราห์จมน้ำเพราะแผ่นดินไหว
 
(http://byfiles.storage.live.com/y1pz5ZQjFgmeI-oyVQaN39pxIWaSWl4QzGHbCCwzjvVrNpqD2E1K3X-mTPIuKit9S5H7q-J8xpQ9ow) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pz5ZQjFgmeI-oyVQaN39pxIWaSWl4QzGHbCCwzjvVrNpqD2E1K3X-mTPIuKit9S5H7q-J8xpQ9ow")(http://tbn2.google.com/images?q=tbn:At-CVqgj0x76tM:http://www.eo.travelwithus.com/Portals/0/Sodom%2520-%2520team%252033K.jpg) (http://"http://www.eo.travelwithus.com/Portals/0/Sodom%20-%20team%2033K.jpg")(http://byfiles.storage.live.com/y1p_2TfS2mazvKjomfPncxC5sZg7l8g3ybBf9wtvEZqJwo9hHZERdvC28LAtOKqQaADzVoHvfr1PXQ) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1p_2TfS2mazvKjomfPncxC5sZg7l8g3ybBf9wtvEZqJwo9hHZERdvC28LAtOKqQaADzVoHvfr1PXQ")
 
การค้นพบร่องรอยของเมืองโดยนักธรณีวิทยาและนักโบราณคดี

นักธรณีวิทยาที่ทำการสำรวจดินแดนนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนพบว่า ระหว่างที่นั่งเรือสำรวจทะเลเด้ดซีนั่นเอง ในวันที่อากาศดี น้ำใสเป็นพิเศษก็สามารถมองเห็นซากปรักหักพังใต้น้ำได้รำไร.... ซากของโซดอมและกอมเมอร์ราห์นั่นเอง ที่ยังปรากฏให้เห็นอยู่ได้ก็เพราะเกลือในทะเลช่วยรักษาไว้ให้คงรูปเดิม จากการคำนวณอายุของซากเมืองใต้ทะเลพบว่ามันมีอายุย้อนหลังไปสมัยปี 1900 ก่อนคริสตกาล....ก็สมัยเดียวกับลูฏและอับราฮัมนั่นเอง....โซดอมและกอมเมอร์ราห์จึงมีอยู่จริงๆ ในยุคสามัยเดียวกับบุคคลในพระคัมภีร์
 
(http://byfiles.storage.live.com/y1pccb4vuKCOBDBkrUpxNhj6eAULDulmGiEdvmKhxLvdLn6YeuPRtEfW6huUKRok9KSvowlOcjJ4HE) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pccb4vuKCOBDBkrUpxNhj6eAULDulmGiEdvmKhxLvdLn6YeuPRtEfW6huUKRok9KSvowlOcjJ4HE")(http://byfiles.storage.live.com/y1pGM-SgL7uBKDPFEUndMoOsH8TTLpU7Y43_G8plJ9MkQGeRJdN2_iTOk2ZLIw1DkU35XF1rQKpy-g) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pGM-SgL7uBKDPFEUndMoOsH8TTLpU7Y43_G8plJ9MkQGeRJdN2_iTOk2ZLIw1DkU35XF1rQKpy-g") หลักฐานทางธรณีวิทยา
 
 

การที่แผ่นดินซึ่งเดิมเคยอยู่เหนือน้ำแล้วอย่ๆเลื่อนต่ำลงจนจมลงไปใต้น้ำนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งในโลก ส่วนหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน (หรืออาระเด็นตามฉบับคำแปลภาษาไทย) ก็ค่อยๆ เลื่อนลดลงไปอยู่ใต้ทะเลเด้ดซีเหมือนกัน แต่ในกรณีของโซดอมและกอมเมอร์ราห์ไม่ได้เกิดจากการค่อยๆ เลื่อนลงไปใต้น้ำ แต่นักธรณีวิทยาได้คำนวณว่าเกิดจากแผ่นดินไหวในบริเวณนี้อย่างรุนแรงจนกระทั่ง "กำมะถันและไฟจากพระยะโฮวาลงมาจากฟ้าตกที่เมืองซะโดมและเมืองกะโมรา พระองค์ได้ทรงทำลายเมืองเหล่านี้ คือแถบที่ราบนั้นทั้งหมดและพลเมืองทั้งสิ้นและบรรดาพืชพันธุ์ที่งอกขึ้นจากแผ่นดินให้พินาศไปสิ้น" ดังที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีแล้ว
(http://byfiles.storage.live.com/y1pt78psc7dBZE_s4xKcAx5erwPAm8B-ULmS_Wfew2fiMw3_Viju4l0IMSWEPlnx-ZuMV9-gBc9g8w) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pt78psc7dBZE_s4xKcAx5erwPAm8B-ULmS_Wfew2fiMw3_Viju4l0IMSWEPlnx-ZuMV9-gBc9g8w")(http://byfiles.storage.live.com/y1pvTZ_f8eHPuW0LJ619d9YSYH8O5jHFBxA1v4olndpU_Ewh0MQIS6W16Tm8ZuiiXvm8_SHVNTbvvw) (http://"http://byfiles.storage.live.com/y1pvTZ_f8eHPuW0LJ619d9YSYH8O5jHFBxA1v4olndpU_Ewh0MQIS6W16Tm8ZuiiXvm8_SHVNTbvvw")

 
หลักฐานทางธรณีวิทยา
 
แจ๊ค ฟินนิแกน นักธรณีวิทยาคนสำคัญชาวอเมริกันกล่าวไว้ในปี ค.ศ. 1951 ว่า ความพินาศของ "เมืองบนที่ราบ" อันหมายถึงโซดอมและกอมเมอร์ราห์นี้เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งตามติดมาด้วยการระเบิดของแร่ธาตุใต้ดิน และอสุนีบาตอันน่าสะพรึงกลัว ทำให้แก๊สธรรมชาติพวยพุ่งขึ้นกระทบสายอสุนีบาตเกิดเป็นเพลิงลุกโพลงขึ้นทำลายเมืองทั้งสองราบคาบลง แล้วทรุดลงไปใต้ทะเลเด้ดซี(นึกภาพแล้วขนพองสยองเกล้ามากยิ่งกว่ารถแก๊ส1000คันระเบิดอีก)

นักธรณีวิทยาคนอื่นได้สำรวจเพิ่มเติมแล้วพบว่าใต้ทะเลแถวๆ นั้นมีภูเขาไฟด้วย จึงไม่น่าแปลกอะไรที่ภูเขาไฟอาจระเบิดซ้ำเติม ทำให้มองเห็นภาพ "กำมะถันและไฟ" ซึ่งพวยพุ่งจากใต้ดินสูงขึ้นไปในอากาศแล้วหวนตกลงมาทำลายชาวเมืองอีกครั้งออกจะเป็นภาพที่น่าสยดสยองในสายตาของผู้พบเห็นในยุคนั้นยิ่งนัก จนไม่รูจะเปรียบเทียบกับอะไรดี นอกจากการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้า
 
Revealing God's Treasure - Sodom & Gomorrah (http://www.youtube.com/watch?v=oG3QsisQrkc#normal)
 
VDO สารคดีการค้นพบนคร Sodom and Gommorrah (27 นาที)
 
หากไม่ได้นักธรณีวิทยาและนักโบราณคดีค้นคว้ากันอย่างใกล้ชิด เมืองในพระคัมภีร์ทั้งสองก็คงเป็นเมืองที่จมอยู่ในเงามืดตลอดกาล ไม่มีใครเชื่อว่ามีอยู่จริง เพราะไม่มีซากเหลือให้เห็นอีกเลย การค้นคว้าหาหลักฐานข้อเท็จจริงตามพระคัมภีร์จึงต้องพึ่งวิทยาการสมัยใหม่อยู่มากแต่เมื่อค้นคว้าแล้วก็ไม่ผิดหวัง คัมภีร์ไบเบิ้ลบางตอนจึงสามารถใช้เป็นประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือได้ทีเดียว อันการที่เมืองถล่มทลายลงไปใต้ดินนี้ คนโบราณเขาบันทึกไว้เกือบทุกชาติ แสดงว่าในอดีต เคยมีเมืองถล่มมาแล้วทั่วโลกนับแต่ทวีปแอตแลนติสเป็นต้นมา ในพระเวทของอินเดียก็กล่าวถึงเมืองทวารกาที่จมลงไปใต้ทะเล


อ้างอิง : arkdiscovery.com ,หนังสือ เปิดนครในตำนาน โดย ไดโนเสาร์ (แก่)

 
http://cid-ebb8f3cb9f8e21ef.spaces.live.com/blog/cns!EBB8F3CB9F8E21EF!702.entry (http://cid-ebb8f3cb9f8e21ef.spaces.live.com/blog/cns!EBB8F3CB9F8E21EF!702.entry)
[/FONT]