[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ใต้เงาไม้ => ข้อความที่เริ่มโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 15 มิถุนายน 2553 14:15:47



หัวข้อ: หนังสือที่นกแก้วอ่าน...
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 15 มิถุนายน 2553 14:15:47
(http://www.nectec.or.th/oncc/province/pictures/e8/mukda2-703-1-1.jpg)

หนังสือที่นกแก้วอ่าน...

กาล ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีนกแก้วตัวหนึ่งน่ารักช่างพูดช่างเจรจา ชอบร้องเพลง ไปตามเรื่องตามราว
ด้วยความที่รักที่จะเจรจาและเสียงเพลง บรรเลงอักษร ไปตามเรื่องราวที่นกแก้วได้เจอะเจอมา
จนมีบรรดาเพื่อนๆในป่าใหญ่ชื่นชอบ และรักที่จะฟังนกแก้วพูด ร้องเพลง ไปตามเรื่องราวในแต่ละวัน อย่างปกติสุข
จนกระทั่งวันหนึ่ง.ได้มีโคแก่ ตัวหนึ่งได้เดินทางเข้ามาในป่าใหญ่แห่งนี้
นกแก้วก็ยังพาทีพูดคุยตามนิสัย นกช่างพูด ช่างเจรจาทักทายเป็นกัลยาณมิตร ในฐานะเป็นเจ้าบ้านที่ดี

โคแก่ตัวนี้นั่งมองนกแก้วตาปรือด้วยความชื่นชอบนกแก้วช่างพูด เหมือนดั่งสมาชิกในป่าใหญ่
และแล้วปฏิบัติการของโคแก่ก็เริ่มขึ้น โดยการเลียนเสียงนกแก้ว ไม่ว่านกแก้วจะพูดอะไรโคแก่ตัวนี้ก็พูดตามแทบทุกถ้อยอักษร
จนสมาชิกในป่าใหญ่และป่าใกล้เคียง เริ่มเข้ามาเชียร์ด้วยความสนุก
นกแก้วเริ่มสงสัยว่า โคแก่ไร้ตัวตนตัวนี้ชื่ออะไร และแล้วโคแก่ตัวนี้ ก็ได้ส่งสารมาให้นกแก้ว อาศัยอยู่ในป่าแถบชายเมืองสวยงามแห่งหนึ่ง
มีอาชีพเป็นโคที่คึกคะนองแม้จะอายุมากแล้ว (จริงๆโคอายุเท่านี้ต้องไปวัดไปวาได้แล้ว) อยากจะเลี้ยงดูนกแก้ว สงสารนกแก้วจับใจ
เพราะบางทีนกแก้วก็ร้องเพลงสนุกสนาน ร้องเพลงเศร้านกแก้วก็เศร้าจนคนสงสาร ชีวิตอะไรจะเศร้ามากมายเช่นนั้น
นกแก้วเริ่มมองโคแก่ด้วยความสงสารโดยไม่มี พื้นฐานที่จะรักโคแก่อย่างชู้สาว เป็นไปไม่ได้ในเมื่อนกแก้วคือนกแก้ว โคแก่คือโคแก่ จะรักกันได้อย่างไร
ในเมื่อนกแก้วรู้ว่า ในป่าใหญ่ของโคแก่ มีแม่โคและลูกโคอีก2ตัว ที่อยู่ข้างหลัง

นกแก้วขอความสัมพันธ์แค่เพื่อนเท่านั้น นกแก้วพูดยังคงร้องรำทำเพลงเป็นปกติสุขภายใจป่าของตัวเองกับสมาชิกภายในบ้าน
ด้วยความอึดอัดทุกครั้งที่มีการเลียนเสียงนกแก้ว โคแก่ก็จะเลียนเสียงแบบละลาบละล้วง
จนถึงการจับเนื้อต้องตัวกันโดยที่คนทั่วไปคิดว่า นกแก้วกับโคแก่ มีอะไรกันภายนอกป่าแล้ว
ตอนนี้นกแก้วพูดติดขัด อึดอัดมาก ขอร้องให้เพลาๆการเลียนแบบ อย่าเรียกที่รัก หรือแม้แต่การกอดจูบลูบแก้มอะไรปานนั้น
โคแก่รับปากแต่ไม่หยุด ยังคงเลียนเสียงเรื่อยไป เพื่อนๆที่รู้จักนกแก้วเริ่มอึกอัดตาม มีการต่อว่า ทำไมโคแก่ไม่ให้เกรียติ นกแก้ว มันมากไปแล้ว

นกแก้วได้แต่รับฟังแต่พูดไม่ออกว่าได้ขอร้องแล้ว แต่โคแก่ ไม่หยุดยังคงเลียนเสียงนกแก้ว
ข้อนี้นกแก้วผิดเองที่ไม่เข้มแข็งตัดบทเสีย แต่ทีแรก อาจเพราะสงสารโคแก่ที่ น่าสงสารชอบเล่าเรื่องที่แม่โคทารุณกรรมทางบ้านให้ฟัง

นกแก้วยังคง เจรจาพาทีอยู่มนป่าใหญ่แห่งนั้นด้วยความอึดอัดบางทีจะร้องเพลงที ก็คิดไปหลายวันร้องไม่ออก ร้องออกไปก็คงมีคนเลียนเสียงพูด
นานวันเข้า ก็มีเรื่องจนได้ โดยมีสุภาพสตรีแกะขาวฝูงหนึ่ง ได้เข้ามาเป็นแฟนคลับของโคแก่ ว่ารักมั่นคง หาไม่ได้แล้วโคสมัยนี้จะรักมั่นคง เหมือนโคแก่
มีสุภาพสตรีแกะขาวให้ท่าโคแก่จนน่าเกลียดก็มี นกแก้วเชื่อว่า ลูกแกะตัวเล็กๆ ในป่าใหญ่ก็มาก
มาเห็นท่าทีสตรีที่ให้ท่าโคแก่ คงไม่ดีแน่ หมดความเป็นสุภาพชน ปัญญาชนไปในทันที

เรื่องของโคแก่บานปลายภายใน ป่าใหญ่ มีแกะขาวสตรีหลายตัวพยายามกลางอากาศ ให้ท่าโคแก่มอบรักให้โคแก่แม้ต่างวัยยังไงก็จะรัก
นกแก้วกลายเป็นเป้าให้โจมตี ไปแจรจาพาทีกับใครดั่งเคยมี ไม่ได้แล้วครานี้โดนหนักกว่าเดิม
ตั้งกระทู้ว่ากันนกแก้วหลายใจ บ้างนกแก้วไม่จริงใจบ้าง นกแก้วออกอาการ งง ! มากมาย คิดกันไปได้อย่างไร นั่นมัน !สามีชาวบ้านนะ
นกแก้วยอมเสียมารยาทนอกจอ (โดยการออกอาการยิ้มหยามเหยียดแกะขาวบางตัวที่ให้ท่าโคแก่ โดยคิดว่าตัวเอง ขาดความรักมากมายขนาดต้องขอใครสักคนหรือ)
ปกตินิสัยของนกแก้วมักยอมแพ้คนดีอยู่แล้ว และเจรจาโดยมีมิตรภาพตราบสิ้นดินฟ้า

นกแก้วได้รู้ว่าได้ทำความ รำคาญให้สมาชิกในบ้านจึงออกมาได้มาเจอบ้านหลังหนึ่ง
มีพลัง ของ ปัญญาชนอยู่เต็มเปี่ยม คงพอจะให้โคแก่ได้อาศัยไม่ไปยุ่งยากที่ป่าใหญ่แห่งนั้น แล้วนกแก้วก็คงไป อยู่ในป่าดั่งเดิม
แต่ผิดคาด นกแก้วได้รู้จัก สมาชิกบ้านแห่งนี้หลายท่านจากภูมิความรู้ ที่นำเสนอ รวมทั้งแกะน้อยสีทองตัวหนึ่ง น่ารัก เก่ง รอบรู้ไปทุกเรื่อง มีวุฒิการศึกษา
ความกลัวว่าแกะสีทองจะได้รับอิทธิพลในความไม่รู้ เท่าทัน ของใครบางคน จนทำให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นมา ปรึกษาหลายท่าน จะทำอย่างไรดี

สุดท้าย ก็ต้องกลับมา สายไปเสียแล้ว นกแก้วมาสายไปแล้วจริงๆ ..แล้วแต่จะเข้าใจกันนะคะว่าทำไมและทำไม...
นกแก้วบินของมันรำพึงกับตัวเอง. เบาเบาว่า..มันเป็นเช่นนั้นเอง.. แล้วสัญญากับตัวเองว่าจะไม่บินกลับไปที่นั่นอีก

ประสบการณ์ครั้งนี้นกแก้วได้อะไรกลับมาบ้าง
นกแก้วได้เจอ..เพื่อนผู้ร่วมทุกข์..แม้จะเจรจาไม่กี่วัน..เขาก็รู้ว่านกแก้วพูดจริงและเชื่อมั่นในเพื่อน
นก แก้วได้เจอ..เวปบอรด์ของสื่อที่ใหญ่..แต่ไร้ความยุติธรรมในการแก้ปัญหา..
นิทานเรื่องนี้คือความจริง แต่เลือกที่จะปิดหูปิดตาผู้ที่อยากรู้ต้นสาย ปลายเหตุ..น่าเวทนาเวปบอร์ดแห่งนี้...ไม่น่าจะอยู่ในแวดวงการศึกษาเลย...

นก แก้วได้เรียนรู้ว่า..สังคมนอกบ้านกลอนน่ากลัวเหลือเกิน..ยามบินโดดเดี่ยวมัน เคว้งคว้าง
พายุฝนที่โหมกระหน่ำ บีกของนกแก้วแทบต้านทานไม่ไหว ขอซุกปีกอยู่ในบ้านอันอบอุ่นดีกว่า
นกแก้วได้เรียนรู้ว่า...หน้ากากของคน ที่ได้ชื่อว่า..ผู้มีสติปัญญาด้อยค่าเหลือกำลังยามมีความหลงในอัตตา เลยได้ แต่รำพึง..มันเป็นเช่นนั้นเอง
นกแก้วประทับใจคอมเม้นของท่านหนึ่ง..บอกนกแก้วว่า

• ทุกเรื่องราวมีที่มาเสมอ
• เราเชื่อมั่นตัวเรา...เราเชื่อมั่นในเพื่อน
• กาลเวลา..จะช่วยพิสูจน์การกระทำของคน
• ภาพที่มองเห็นบางครั้งไม่สามารถอธิบายได้
• คนบางคนเราใช้เวลาชั่วชีวิตในการอ่าน ยังอ่านไม่ออก
• หนังสือบางเล่มอ่านจบหลายรอบ..ยังตีความไม่ได้..
• นับประสาอะไรล่ะเพื่อน กับผู้คนและเรื่องราวในโลกไซเบอร์
• อย่างที่เคยบอก..ปิดจอ ปิดใจ..อย่าเอาเรื่องไร้สาระมาบั่นทอนตัวเอง
• รักนะ....แล้วเจอกันนะ

นกแก้วได้แต่รำพึงว่า..นั่นสิหนังสือหน้านี้มีราคาแพงเหลือเกิน..

หน้าหนึ่งของหนังสือที่นกแก้วอ่าน...

“คำว่าพูดเป็นธรรม มิได้หมายความว่า พูดเรื่องธรรม
แต่หมายความว่า พูดถูกต้อง มีเหตุผล
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน แต่เป็นไปเพื่อเกื้อกูล”

การสังวรวาจา
เมืองหนึ่งมีคนแปลกประหลาด คือมีปากเป็นขวาน
เมื่อไม่ชอบผู้ใด ก็ใช้ขวานที่ปากฟันผู้นั้น
แต่ก็มีข้อแปลกประหลาดคือฟันไม่ถูกที่ร่างกาย
แต่ไปถูกที่จิตใจที่ทำให้เจ็บยิ่งกว่าร่างกาย
คนที่ถูกฟันก็มีขวานที่ปากอีกเหมือนกัน
ก็ฟันตอบเข้าบ้างและก็ถูกที่ใจอีกเหมือนกัน

เมื่อใช้ปากขวานฟันกันไปฟันกันมา
ก็มีคนมารุมดูกันมากมาย สนับสนุนข้างโน้นบ้างข้างนี้บ้าง
บางที่ก็เข้าช่วยตะลุมบอนกันเป็นสองฝ่าย

เพราะต่างฝ่ายก็มีปากเป็นขวานอยู่ด้วยกันและมีแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่ง
คือนอกจากเป็นขวานที่ฟันไม่ถูกร่างกายของใครถูกแต่ใจแล้ว
ยังเป็นขวานที่เมื่อเหวี่ยงออกไปที่ใครอื่นแล้ว
ยังหมุนมาถูกตัวเจ้าของขวานเองอีกด้วย

บางคราวมีผู้วิเศษมาเป่ามนต์ลงไปว่าน้ำลม ลมน้ำ
อำนาจมนต์ทำให้ขวานหลุดจากปาก หมดอำนาจที่จะฟาดฟันกันต่อไป

เมืองที่มีคนปากขวานแปลกประหลาดนี้ สมมุติขึ้นตามพระพุทธภาษิตในพระสูตรหนึ่งที่ว่า
“ขวานเกิดที่ปากของคน ผู้เกิดมาแล้ว เป็นเครื่องตัดตนเองของคนโฉดผู้ชั่วร้าย ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรติเตียน
หรือติเตียนผู้ที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นย่อมก่อโทษขึ้นด้วยปาก ย่อมไม่ได้ความสุขเพราะโทษนั้น
หากเล่นการพนันเสียทรัพย์หมดสิ้น พร้อมทั้งตัวเองล้มละลาย โทษนี้แหละใหญ่ยิ่งกว่านัก”

พระพุทธภาษิตนี้ ตรัสสอนให้คนสังวรปาก สังวรวาจา เพื่อที่จะไม่ใช้วาจาฟาดฟันใครด้วยความคะนอง
เพราะวาจานั่นเองจะกลับมาเป็นขวานฟันตัวเองเข้าให้ ข้อที่ว่า “ขวานเกิดที่ปาก” เป็นข้อเตือนด้วยว่า
เมื่อว่าเขาได้ก็เป็นเหตุให้เขาว่าตอบเข้าบ้าง เพราะเท่ากับปากของตนเองเป็นขวาน ที่หวนกลับมาฟันตนเอง

เรื่องของความคะนองวาจา
ถึงจะไม่ไปทำอันตรายทางร่างกายแก่ใครๆ
แต่ก็ไปทำให้คนที่มุ่งจะว่า เกิดความเจ็บใจหรือทุกข์ใจขึ้นได้แม้อย่างสาหัส
ทั้งอาจจะเป็นชะนวนแห่งความวิวาทแตกร้าว ตลอดถึงเหตุรุนแรงอื่นๆ
ดังที่มีตัวอย่างเป็นอันมาก

พูดไม่ดีหน่อยเดียวก่อให้เกิดผลร้ายมากมาย หรือพูดดีไม่กี่คำ ก่อให้เกิดผลดีเป็นอันมาก
ผู้วิเศษที่มาช่วยเป่ามนต์นั้น คือใครก็ตามที่จะช่วยเตือนสติ
หรือแม้สติของตนเองที่เกิดเตือนใจว่า วาจาที่พูดนั้นเป็นเพียงลมปากหรือน้ำลาย
เพื่อผู้ที่จะพูดจะได้สงบลมปากของตน หรือระงับน้ำลายไว้ ไม่เป่าไม่พ่นออกไปแก่ใครและผู้ที่ฟังจะได้คิดว่า..
เพียงแต่ลมปากหรือเพียงแต่น้ำลาย

ถ้าตัวเองไม่รับเอาลมหรือน้ำลายมาปรุงปนขึ้นให้เป็นตัว ก็ไม่เป็นเรื่องเป็นราวเป็นพิษสงอะไรทั้งนั้น
แต่ถ้ารับมาปรุงมาแต่ง มาปรุงมาปั้นเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นแล้ว ลมปาก็กลายเป็นลมกรดแรงยิ่งกว่าพายุ
น้ำลายก็กลายเป็นน้ำที่มีระลอกคลื่นยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทร

จึงอยู่ที่ใจนี้เอง “ความสงบระงับสังขาร (ความปรุงแต่งใจนี่แหละ) เสียได้เป็นสุข”

(http://www1.dek-d.com/contentimg/nan/chaild%20read.jpg)


หัวข้อ: Re: หนังสือที่นกแก้วอ่าน...
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 16 มิถุนายน 2553 05:43:22

(http://www.212cafe.com/freewebboard/user_board/khamlungjai/picture/00029_5.gif)

khamlungjai

(http://statics.atcloud.com/files/entries/2/22831/images/1_thumbnail.jpg)

แค่ฉากหนึ่งในชีวิต แล้วมันก็จะผ่านไปค่ะ..
โลกนี้คือ.. ละคร

(http://www.212cafe.com/freewebboard/user_board/khamlungjai/picture/00018_9.gif)