หัวข้อ: บาปธรรมทั้งหลายไม่เคยนำสิ่งดี ๆ มาให้เลย เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 15 มีนาคม 2555 01:09:24 (http://www.seesod.com/storage35/NUJbJgS6u51286704197/o.jpg) ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม)ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่าน อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้งรวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้น ๆ เหมาะ สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกันเพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม)ตามความเป็นจริงถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้นแต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ อยู่ในตัวควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่งดังนี้.............................................. ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ครั้งที่ ๓๐ พระพุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้คนหลงงมงาย ไม่ได้สอนให้ไม่รู้ ไม่ได้สอนให้หลง ยึดติด แต่เป็นคำสอนที่เป็นไปเพื่อละ ด้วยความรู้ โลภะ ไม่อดทน โลภะ พาให้ไปทำอย่างอื่น อะไรที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง นั้น ก็ตรงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทุกประการ ไม่ควรลืมว่า ธรรม คือ ขณะนี้ ไม่ใช่อยู่ในตำรา กายดี วาจา ดี เพราะสติเกิดขึ้นระลึกเป็นไปในกุศล ความโกรธ เมื่อเกิดขึ้น ประทุษร้ายใคร ต้องตัวเองก่อนอย่างแน่นอน ขณะที่ให้อภัยใครได้ประโยชน์? เมตตา{เกิด}จะไม่เกลียดใครเลย ธรรม บังคับบัญชาไม่ได้ บังคับไม่ให้ไม่โกรธ ก็ไม่ได้ เมื่อมีเหตุปัจจัย ความโกรธ ก็เกิดขึ้น แต่ต้องรู้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ดี อกุศลทั้งหลาย ไม่มีอะไรดีเลย เมื่อคนอื่นเขาพูดไม่ดี ทำไม่ดี ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเราเลย ทำไมจะต้อง ไปเก็บเอาความไม่ดีของผู้อื่นมาใส่ไว้ในใจของตนเอง ต้นตอของสิ่งที่น่ารังเกียจ(คือ อกุศลทั้งหลาย) มาจากความไม่รู้ ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่แล้วล้วนคลุกคลีอยู่กับสิ่งที่น่ารังเกียจ โดยไม่รู้ตัวเลย อวิชชา(ความไม่รู้) เป็นมูลแห่งวัฏฏะ ตราบใดที่ยังมีอวิชชาอยู่ สัตว์โลก ยังจะต้อง ถูกอวิชชารวบรัดไว้ไม่ให้พ้นไปจากสังสารวัฏฏ์ ได้ อวิชชา เป็นความไม่รู้ จะเปลี่ยนให้เป็นความรู้ ก็ไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่อวิชชาเกิด เมื่อนั้นไม่รู้ธรรมตามความเป็นจริง ประพฤติปฏิบัติในข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด แล้วเข้าใจว่าถูก นี่แหละ คือ มิจฉาทิฏฐิ บาปธรรมทั้งหลายไม่เคยนำสิ่งดี ๆ มาให้เลย บุคคลผู้ที่ประมาทมัวเมาปล่อยจิตไปแต่ในทางที่เป็นอกุศลย่อมไม่มีวันถึงการ ดับกิเลสได้เลย การที่จะกระทำอกุศลกรรมหนัก ๆ ได้ย่อมมาจากการกระทำไปทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งขาดความละอายแล้วก็สามารถที่จะกระทำทุจริตกรรมที่ร้ายแรงได้ซึ่งจะ ประมาทกำลังของอกุศลไม่ได้เลยทีเดียว {ธรรม}เป็นเพียงสิ่งที่มีจริง ๆ ชั่วคราว แล้วเราอยู่ตรงไหน ไม่มีเราเลย มีแต่ธรรมที่ เกิดขึ้นแล้วดับไปเท่านั้นเอง เรื่องของการขัดเกลากิเลส เป็นเรื่องที่ต้องเพียรอบรมจริง ๆ เพราะเหตุว่ากุศลนั้น เป็นของธรรมดาที่ว่าย่อมเกิดยาก เจริญยากกว่าอกุศล แต่อกุศลเกิดง่ายมากเหลือเกิน ในชีวิตประจำวัน ฟังธรรม มีชื่อมากนับไม่ถ้วน ทั้ง ๓ ปิฎก แต่ทั้งหมด นั้น เพื่อเข้าใจสภาพธรรมตาม ความเป็นจริง พร้อมที่จะเป็นผู้ว่าง่าย ในการฟังพระธรรม เพื่อเข้าใจในสิ่งที่กำลังฟัง หรือยัง? ถ้าตราบใดที่ยังไม่ได้เข้าใจธรรมก็พูดคำที่ไม่รู้จักต่อไป ได้เห็นดอกไม้ที่ผู้มีจิตศรัทธา จัดอย่างสวยงามเพื่อบูชาพระรัตนตรัยแล้วลืม อนุโมทนาในกุศลของผู้จัดหรือเปล่า ฟังธรรมกันมานานหลายปีแล้ว ฟังมาเยอะแยะแล้ว เห็นโทษของอกุศลบ้างหรือยัง? ฟังธรรม เพื่อเข้าใจธรรม เพื่อละความไม่รู้ จนกว่าความไม่รู้ จะไม่เกิดขึ้นอีก http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma |