หัวข้อ: ชีวิตินทริย เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 30 มีนาคม 2555 17:04:51 (http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=32270.0;attach=1853;image) (http://image.ohozaa.com/i/1ec/prwheel.gif) เมื่อพูดถึง ชีวิตินทริย นั้น มีทั้ง รูป และ นาม(เจตสิก) อธิบายดังนี้....................... ชีวิตินทริยเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดำรงรักษาสัมปยุตตธรรม ให้ดำรงชีวิตอยู่ก่อนที่จะดับ ไปแม้แต่นามธรรมที่เกิดขึ้นแล้วนั้นจะดำรงอยู่ได้เพียงชั่วขณะ ก็ยังต้องอาศัยปัจจัย คือ ชีวิตินทริยเจตสิกที่เกิดร่วมกันในขณะนั้นรักษาไว้จึงดำรงอยู่ได้ ชีวิตินทริยเจตสิกจึงเป็น ปัจจัยแก่จิตและเจตสิกที่เกิดร่วมกันโดยเป็นอินทริยปัจจัย คือ เป็นใหญ่ในการรักษา สัมปยุตตธรรมที่เกิดร่วมด้วยให้ดำรงอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะดับไป ชีวิตินทริยรูป คือ รูปที่เป็นใหญ่ในความเป็นอยู่ทำให้มีอายุอยู่ได้ หมายถึง สภาวรูปที่ มีลักษณะรักษาสหชาตรูป คือรูปที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ให้มีชีวิตดำรงอยู่ได้ เหมือนน้ำที่หล่อ เลี้ยงดอกอุบลฉะนั้น ชีวิตรูปเป็นรูปที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน คือเกิดจากกรรม จึงตามอนุ บาลรักษากัมมชรูปที่เกิดพร้อมกันเท่านั้น ทำให้รูปของสัตว์ที่มีชีวิตแตกต่างจากรูปของ สิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือสัตว์ที่ตายแล้ว ดังนั้น รูปของสัตว์ที่มีชีวิต จึงมี{ชีวิตินทริย}รูปแต่ รูป ของสิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีชีวิตินทริยรูป ถึงแม้ชีวิตอินทรีย์ จะเป็นทั้งรูปและเจตสิก แต่ก็เป็นธรรมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ปะปนกัน เพราะเหตุว่า..........ถ้าเป็นชีวิตินทริย{เจตสิก}แล้วเป็นนามธรรมที่เกิดร่วมกับ จิตทุกขณะทุกประเภทไม่มีเว้น เป็นใหญ่ในการรักษาจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมกันให้ ดำรงอยู่จนกว่าจะดับไป ถ้าเป็น{ชีวิตทริยรูป}แล้วไม่ใช่นามธรรมไม่ใช่สภาพรู้ แต่เป็นธรรมที่มีจริง เป็น รูปธรรมประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นเพราะกรรมเป็นสมุฏฐานกลุ่มของรูปที่เกิดจากกรรม จะมีชีวิตินทริยรูปเกิดด้วยเสมอชีวิตินทริยรูปเป็นใหญ่ในการรักษารูปที่เกิดจากกรรม ด้วยกันชีวิตินทริยรูปจะไม่เกิดจากสมุฏฐานอื่นเลยนอกจากกรรมเป็นสมุฏฐาน เท่านั้น จาก บร์อดมูลนิธิบ้านธรรมมะโดย ท่าน อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์และคณะวิทยากร http://www.fungdham.com/download/sound/rein/new/01/01.mp3 |