[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 19 เมษายน 2555 19:57:45



หัวข้อ: รู้จักเนยแข็งหรือชีสก่อน www.sookjai.com พาเข้าครัวทำชีสเค้กแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 19 เมษายน 2555 19:57:45

(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRXXquQm8KWMgQ6UFXNcNrZqYhFBgXA3ZUo9k0En3f9RPIww6SyAl87mA)  (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTDYhTtlKLQOiTTSBs1o8AwQnU-ZcvLDwL9kbvXWlCW46sBBRTmUR7zag) (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRQ4o5n8hfVFCaTm1JXhn9Dahjo7OZFeZJJZUf5auURV22uL-O9lK2NK4fl)



เนยแข็ง หรือชีส (cheese)
ปกิณกะโดย..กิมเล้ง







เนยแข็ง หรือชีส  cheese   นั้นเกิดด้วยความบังเอิญจากการเดินทางของชายอาหรับเผ่าเร่ร่อนเบดูอินคนหนึ่งที่เดินทางรอนแรมไปในทะเลทราย    ชายผู้นั้นได้นำกระเพาะอาหารของแพะมาใช้เป็นภาชนะบรรจุน้ำนม เพื่อเป็นเสบียงอาหารระหว่างการเดินทาง  โดยบรรทุกไว้บนหลังอูฐ    ขณะที่เดินทางนั้นกระเพาะอาหารของแพะได้รับความร้อนจากอากาศในทะเลทราย  และบวกกับการถูกเขย่าตลอดระยะทาง  ส่งผลให้เอนไซม์เรนนินในกระเพาะสัตว์แยกน้ำและไขมันในนมออกจากกัน  เมื่อชายผู้นี้เกิดความกระหายหมายจะดื่มน้ำนมก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบกับก้อนนมแทนที่จะเป็นน้ำนม    ชายผู้นี้จึงนำก้อนนมที่ได้มารับประทานเป็นอาหารแทน  และกลายเป็นที่มาของการผลิตเนยและเนยแข็งในปัจจุบัน

หลายคนมีความเข้าใจผิดว่าเนยแข็งและเนยเหลวเป็นอาหารประเภทไขมันเช่นเดียวกัน   อันที่จริงแล้วเนยแข็งหรือชีส (cheese) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโปรตีนในน้ำนมวัว   ในขณะที่เนยเหลวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากไขมันในน้ำนมวัว      ดังนั้น  เนยแข็งจึงจัดเป็นอาหารจำพวกโปรตีนเหมือนเนื้อสัตว์   และมีคุณค่าทางโภชนาการไม่แพ้น้ำนมวัว   เนยแข็งให้สารอาหารจำพวก แคลเซียม โปรตีน ฟอสฟอรัส วิตามินบี 12

เนยแข็ง หรือ ชีส (cheese)  คือ ผลิตภัณฑ์จากนม  ซึ่งสามารถผลิตได้จากนมวัว  แพะ แกะ ควาย  หรืออูฐ  นำไปผ่านกระบวนการคัดแยกให้โปรตีนในนมแยกตัวออกมา   หรือที่เรียกกันว่าเคิร์ด (curds)     แล้วนำโปรตีนนั้นมาผสมเชื้อราหรือแบคทีเรีย    ผ่านกระบวนการบ่มหมักเป็นชีสประเภทต่าง ๆ     ซึ่งแตกต่างจากเนยที่ทำจากไขมันของนม   อย่างไรก็ตาม ปริมาณไขมันในชีสแต่ละประเภทจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของนมที่ใช้ทำ เช่น นมสดหรือนมพร่องมันเนย  


ประเภทของชีสที่ใช้ทำขนมหรือชีสเค้ก

ชีสที่ใช้ทำชีสเค้กส่วนใหญ่เป็น “ชีสแบบสด หรือ Fresh cheese”     คือเนยแข็งที่ไม่ต้องผ่านความร้อนและไม่ต้องบ่มหมัก  ทำให้รสชาติของชีสสำหรับทำขนมหรือชีสเค้ก  กลิ่นไม่แรง  ออกรสเปรี้ยวอ่อน ๆ  เนื้อนิ่มเป็นครีมและมีความชื้นสูง เช่น  Cream Cheese,  Feta, Mozzarella,  Ricotta,  Cottage Cheese,  Mascarpone

การทำ Cream Cheese  :  ครีมชีสทำจากครีมผสมกับนมวัวและใส่แบคทีเรียแต่งรสเปรี้ยวนิด ๆ  แล้วนำไปผ่านกระบวนการไล่น้ำออกและพาสเจอร์ไรซ์*ทันที   ครีมชีสจึงมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมและมีรสมันเพราะมีไขมันสูงถึง 60 – 70 %    

ชีสเค้กจัดเป็นของหวานที่ทันสมัยมากในปัจจุบัน   แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าชีสเค้กเป็นหนึ่งในของหวานที่ใช้เสิร์ฟนักกีฬาในการแข่งขันกีฬาสมัยโบราณมาตั้งแต่ 776 ปีก่อนคริสตศักราช  ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกที่เกาะ Delos ในประเทศกรีก   หลังจากโรมันรบชนะกรีกชีสเค้กก็เป็นที่แพร่หลายทั่วไปในโรมัน  โดยเรียกของหวานชนิดนี้ว่า “placenta”  หรือ “libum”   ปรากฏหลักฐานในบันทึกของ Marcus Porcius Cato นักเขียนสมัยโรมันผู้อบขนมลักษณะคล้ายชีสเค้กปัจจุบันนี้ ถวายพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ในสหรัฐอเมริกา ชีสเค้กจัดเป็นขนมยอดนิยมที่รับประทานกันอย่างแพร่หลายในหมู่ชนชาวอเมริกันในปัจจุบัน    ร้านเบเกอรี่หรือร้านอาหารแทบทุกร้านต้องมีขนมชนิดนี้วางจำหน่าย   โดยต่างร้านต่างมีสูตรลับเฉพาะของตัวเอง  แต่ส่วนผสมหลัก ๆ ที่ใช้ในประกอบการทำก็เหมือน ๆ กัน คือครีมชีส  น้ำตาล  ไข่ไก่  และวิปปิ้งครีม    เพียงแต่เพิ่มแต่งรสชาติผลไม้หรือช็อกโกแลตที่เราต้องการลงในเนื้อชีสเค้กก่อนนำไปอบ  หรือบางทีอบเสร็จแล้วจึงราดหน้าเค้กด้วยผลไม้ เช่น  บลูเบอร์รี่   สตรอว์เบอร์รี่กวน  ส้ม  สับปะรด  หรือมูสรสต่าง ๆ   ซึ่งก็เป็นกลยุทธ์ในทางการตลาดของแต่ละร้านนั่นเอง   เพราะรสชาติชีสเค้กไม่จำเป็นต้องเพิ่มเสริมแต่งก็เป็นที่ถูกปากของผู้ที่รับประทานอยูแล้ว

ชีสเค้ก   จึงจัดเป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจหากใครจะเริ่มทำเบเกอรี่   ด้วยส่วนผสมและวิธีการทำไม่ยุ่งยากเหมือนการทำเค้กต่าง ๆ    รสชาติที่ได้มีความนุ่มนวล  หวาน  มัน  




* พาสเจอร์ไรซ์   คือกระบวนการทำลายเชื้อแบคทีเรียบางชนิด  โดยผู้คิดค้นวิธีการนี้สำเร็จคือ หลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส   ปัจจุบันการพาสเจอร์ไรเซซัน pasteurization  ใช้เวลาและอุณหภูมิแตกต่างกัน  เช่น อุณหภูมิ 62.8 องศาเซลเซียส  เป็นเวลา 30 นาที   หรือ 77 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 วินาที  การใช้อุณหภูมิ และเวลานี้ยังไม่สามารถทำลายแบคทีเรียที่ทนร้อนอีกหลายชนิด  จึงต้องเก็บผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์ไว้ที่อุณหภูมิต่ำ  เพื่อป้องกันการเจริญของเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น สำหรับนมที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อนี้จะมีคุณค่าสารอาหารเกือบเท่ากับน้ำนมก่อนผ่านการฆ่าเชื้อ  ตลอดจนรสชาติของนมจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำนมตามธรรมชาติมากกว่าวิธีอื่น






(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRs94-X5CEy3LVp7TsV6d1gfVLjiRDMRPZjGHLkMPDy8WssIovDHVXwQDo)


 
(:11:)    โปรดติดตามวิธีการทำนะคะ...กิมเล้งยังไม่เคยทานเบเกอรี่ชนิดใดอร่อยเท่าชีสเค้กมาก่อน...วันนี้ขอตัว  (:SLE:)  (:SLE:)  (:SLE:)   ...






.





หัวข้อ: Re: รู้จักเนยแข็งหรือชีสก่อน www.sookjai.com พาเข้าครัวทำเค้กชีสแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 19 เมษายน 2555 22:33:34




 
(:11:)    โปรดติดตามวิธีการทำนะคะ...กิมเล้งยังไม่เคยทานเบเกอรี่ชนิดใดอร่อยเท่าเค้กชีสมาก่อน...วันนี้ขอตัว  (:SLE:)  (:SLE:)  (:SLE:)  ...




(:88:)  ค่ะ ขอบคุณนะคะ (:6:)



หัวข้อ: Re: รู้จักเนยแข็งหรือชีสก่อน www.sookjai.com พาเข้าครัวทำเค้กชีสแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 19 เมษายน 2555 22:38:24
เค้าเรียกชีสเค้ก

ไม่ใช่เค้กชีส

อ่อนใจ...

 (:PL:) (:PL:) (:PL:)




หัวข้อ: Re: รู้จักเนยแข็งหรือชีสก่อน www.sookjai.com พาเข้าครัวทำชีสเค้กแสนอร่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 เมษายน 2555 05:37:58




- ขอบใจมากนาย mck. ที่ท้วงติง... แก้ไขแล้ว   เอ็งปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในฐานะเจ้าของเว็ปฯ ได้ยอดเยี่ยมมาก 



โอกาสหน้าต้องมาคุยกันเรื่องค่าตัว...ประชาสัมพันธ์เว็ปฯ เอ็งไว้มากมายยังไม่ได้คุยเรื่องค่าตัว
ไม่งั้น ข้าฯ ย้ายสังกัด..... (:RL:)  (:RL:)  (:RL:) (จะไปดีไหมวุ๊ย ?)


 
;D   ;D  ;D  ;D  ;D




.