[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ห้องสมุด => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 17 พฤษภาคม 2555 19:19:22



หัวข้อ: กว่าจะเป็นเพลงชาติ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 พฤษภาคม 2555 19:19:22
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRxavXtc8_gUYvjSbGeX2hiT9P-sznh89mjnWXtWOLTwUNuGzrm5Q)..........กว่าจะเป็นเพลงชาติ
ภาพจาก : luangpukahlong.com


หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕  คณะราษฎรสั่งให้แต่งเพลงชาติ...พระเจนดุริยางค์ (ปิติวาทยะกร)  เอาเพลงชาติฝรั่งเศสมาปรับเป็นทำนอง  
ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า  กาญจนาคพันธุ์)  แต่งเนื้อร้อง  

บาทแรกขึ้นต้นว่า  “แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง”   คนสยาม...ได้ร้องเพลงชาติเพลงนี้ราว ๖ ปีกว่า.... ปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ท่านผู้นำมีดำริว่าให้เปลี่ยนชื่อประเทศ  
จาก สยาม  เป็น ไทย  เพลงชาติที่เริ่มร้องกันคล่องปาก  วรรคนำสองวรรคแรก มีคำ “สยาม”  ก็ถือว่าล้าสมัย

คณะรัฐมนตรีมีมติประกาศประกวดเนื้อร้องเพลงชาติ  ผลปรากฏว่าผู้ชนะเลิศได้แก่  นายพันเอกหลวงสารานุประพันธ์ (นวล  ปราจิณพยัคฆ์)  ส่งในนามกองทัพบก

๑๐ ธันวาคม ๒๔๘๒  จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ลงนามประกาศเป็นรัฐนิยม คนไทยก็ได้ร้องเพลงชาติ ขึ้นต้นว่า ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย....
....เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัย ชโย....
นับแต่บัดนั้น

หลวงสารานุประพันธ์ เขียนเรื่องเนื้อร้องเพลงชาติ ๘๒  ไว้ในหนังสือวรรณคดีสาร เล่ม ๑๑ เดือนมิถุนายน ๒๔๘๖ ว่า นับแต่รับปาก  พลโทมังกร  พรหมโยธี  
รมช.กลาโหม  จะแต่งเนื้อเพลงชาติ  ก็พบข้อยากอย่างแสนลำเค็ญหลายข้อ
๑. เนื้อร้องต้องเป็นบทร้อยกรอง  ประเภทที่สงเคราะห์เข้ากลอนแปด หรือกลอนเสภา
๒. จำกัดให้มีเพียง ๘ วรรค หรือ ๔ คำกลอน
๓. ในวรรคนั้นต้องบรรจุถ้อยคำไพเราะและปลุกใจ
๔. ต้องวางคำให้ถูกจังหวะเพลง ที่ไม่ทำให้เสียอรรถรสของใจความ
และ ๕.  ข้อที่ยากที่สุด คำที่จะวางลงไป  ต้องให้ลงกันกับเสียงสูงต่ำของโน้ตดนตรี เพื่อไม่ให้ฟังเป็น “แผ่นดินสะยาม นามประเทื้องว่าเหมื่องทอง....”  ไปอีก

ได้เพลงชาติให้คนไทยร้องได้ไม่นาน กองทัพบกจารึกข้อความในสมุดประวัติหลวงสารานุประพันธ์   ว่า “แต่งเนื้อและทำนองเพลงชาติใหม่ให้กองทัพบก  
โดยมิขอรับตอบแทนแต่อย่างใด"
(ตามประกาศให้รางวัล ๑ พันบาท)  

หลวงสารานุประพันธ์  เขียนสั่งบุตรธิดาทุกคนว่า “ในกาลภายหน้า เมื่อถึงวาระที่ฉันจะต้องเกษียณอายุลาโลกไปแล้ว  ขณะใกล้จะขาดอัสสาสะ  ขอให้หา
จานเสียงเพลงชาติอันนี้มาเปิดให้ฟังจงได้  เพื่อบังเกิดความชุ่มชื่นระรื่นในใจ  อันจะไม่มีวันเสื่อมคลาย ตราบสิ้นลมปราณ”



ย่อความจาก   “กว่าจะเป็นเพลงชาติ”   คอลัมภ์ ชักธงรบ    โดย กิเลน  ประลองเชิง   นสพ.ไทยรัฐ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕

.