หัวข้อ: โกณฑัญญะ พราหมณ์ผู้พยากรณ์ทางเดียว เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 18 พฤษภาคม 2555 01:00:06 โกณฑัญญะ พราหมณ์ผู้พยากรณ์ทางเดียว
หลังจากที่ท่านพระดาบสกาฬเทวิลได้เยี่ยมเยียนพระโอรสแล้ว ทำให้ทราบว่าตนมีบุญน้อยจะไม่ได้พบพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงร้องไห้ออกมา หลังจากนั้นท่านพระดาบสทำอย่างไร ติดตามต่อได้เลยครับ ลำดับนั้น ท่านจึงใคร่ครวญดูว่า บรรดาพวกญาติของเรา ญาติผู้ใดจักได้ทันเห็นบุรุษนี้เป็นพระพุทธเจ้าบ้างไหม ก็ได้เห็นนาลกทารกผู้เป็นหลานของตน. ท่านจึงไปยังเรือนของน้องสาวแล้วถามว่า นาลกะบุตรของเจ้าอยู่ไหน. น้องสาวตอบว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า เขาอยู่ในเรือนเจ้าค่ะ. พระดาบสกล่าวว่า จงไปเรียกเขามา ครั้นให้เรียกมาแล้ว จึงพูดกะกุมารผู้มายังสำนักของตนว่า นี่แน่ะพ่อหลานชาย พระราชบุตรประสูติในราชสกุลของพระเจ้าสุทโธทนมหาราช พระราชบุตรนั่นเป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร ล่วงไป ๓๕ ปีจักได้เป็นพระพุทธเจ้า เจ้าจักได้ทันเห็นพระองค์ เจ้าจงบวชเสียในวันนี้ทีเดียว. ฝ่ายทารกผู้เกิดในตระกูลมีทรัพย์ ๘๗ โกฏิคิดว่า ท่านลุงจักไม่ชักชวนเราในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ทันใดนั้นเองจึงให้คนไปซื้อผ้ากาสายะและบาตรดินมาจากตลาด แล้วปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสายะประคองอัญชลีมุ่งหน้าไปทางพระโพธิสัตว์ โดยคิดว่า เราบวชอุทิศท่านผู้อุดมบุคคลในโลก ดังนี้แล้วกราบไหว้ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ เอาบาตรใส่ถุงคล้องจะงอยบ่า เข้าป่าหิมพานต์ กระทำสมณธรรม. ท่านนาลกะนั้น เข้าไปเฝ้าพระตถาคตผู้ได้บรรลุพระปรมาภิสัมโพธิญาณแล้ว ขอให้ตรัสนาลกปฏิปทา แล้วกลับเข้าป่าหิมพานต์อีก บรรลุพระอรหัตแล้วปฏิบัติปฏิปทาอย่างอุกฤษฎ์ รักษาอายุอยู่ได้ ๗ เดือนเท่านั้นยืนพิงภูเขาทองลูกหนึ่ง อยู่ท่าเดียว ปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ฝ่ายพระโพธิสัตว์แล พระประยูรญาติทั้งหลายให้สนานพระเศียรในวันที่ ๕ แล้วคิดกันว่า จักเฉลิมพระนาม จึงให้ฉาบทาพระราชมณเฑียรด้วยคันธชาติ ๔ ชนิด โปรยดอกไม้มีข้าวตอกเป็นที่ ๕ ให้จัดข้าวปายาสล้วน ๆ แล้วเชิญพราหมณ์ ๑๐๘ คน ผู้เรียนจบไตรเพท ให้นั่งในพระราชมณเฑียร ให้ฉันโภชนะอย่างดี กระทำสักการะอย่างมากมายแล้วให้ทายพระลักษณะว่า อะไรจักเกิดมีหนอแล. บรรดาพราหมณ์เหล่านั้น ครั้งนั้น พราหมณ์ ๘ คนนั้น คือรามพราหมณ์ ธชพราหมณ์ ลักขณพราหมณ์ มันตีพราหมณ์ ยัญญพราหมณ์ สุโภชพราหมณ์ สุยามพราหมณ์ และสุทัตตพราหมณ์ เป็นผู้จบเวทางคศาสตร์มีองค์ ๖ กระทำให้แจ้งซึ่งมนต์แล้ว ด้วยประการฉะนี้ หัวข้อ: Re: โกณฑัญญะ พราหมณ์ผู้พยากรณ์ทางเดียว เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 18 พฤษภาคม 2555 01:00:47 (http://dhammaweekly.files.wordpress.com/2010/03/e0b89ee0b8a2e0b8b2e0b881e0b8a3e0b893e0b98c.jpg?w=477) พราหมณ์ได้รับเชิญมาพยากรณ์พระกุมาร พราหมณ์เฉพาะ ๘ คนนี้นี่แล ได้เป็นผู้ทำนายพระลักษณะ. แม้พระสุบินในวันที่ถือปฏิสนธิ พราหมณ์ทั้ง ๘ คนนี้นั่นแหละ ก็ได้ทำนายแล้ว. บรรดาพราหมณ์ทั้ง ๘ คนนั้น ๗ คนชูขึ้น ๒ นิ้ว ทำนายพระโพธิสัตว์นั้นเป็น ๒ สถานว่า ผู้ประกอบด้วยพระลักษณะเหล่านี้ ถ้าอยู่ครองเรือน จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าบวชจักได้เป็นพระพุทธเจ้า แล้วบอกสิริสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิทั้งหมด. แต่มาณพชื่อโกณฑัญญะ โดยโคตร เป็นหนุ่มกว่าพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ตรวจดูลักษณสมบัติอันประเสริฐของพระโพธิสัตว์แล้ว ชูขึ้นนิ้วเดียว พยากรณ์โดยสถานเดียวเท่านั้นว่า พระกุมารนี้ไม่มีเหตุที่จะดำรงอยู่ท่ามกลางเรือน พระกุมารนี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้า มีกิเลสดุจหลังคาอันเปิดแล้ว โดยส่วนเดียว. อันโกณฑัญญมาณพนี้ได้กระทำบุญญาธิการไว้ เป็นสัตว์ผู้จะเกิดในภพสุดท้าย มีปัญญาเหนือคนทั้ง ๗ นอกนี้ ได้เห็นคติเดียวเท่านั้นกล่าวคือ พระโพธิสัตว์ผู้ประกอบด้วยลักษณะเหล่านี้จะเป็นพระพุทธเจ้าโดยแน่นอน เพราะเหตุนั้น จึงชูขึ้นนิ้วเดียวแล้วพยากรณ์อย่างนั้น. ลำดับนั้น พราหมณ์ทั้งหลายเมื่อจะเฉลิมพระนามของพระโพธิสัตว์นั้น จึงขนานพระนามว่า สิทธัตถะ เพราะกระทำให้สำเร็จความต้องการแก่โลกทั้งปวง หัวข้อ: Re: โกณฑัญญะ พราหมณ์ผู้พยากรณ์ทางเดียว เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 18 พฤษภาคม 2555 01:01:37 (http://dhammaweekly.files.wordpress.com/2010/03/e0b982e0b881e0b893e0b891e0b8b1e0b88de0b88de0b8b0e0b89ee0b8a2e0b8b2e0b881e0b8a3e0b893e0b98c.jpg?w=477&h=532) พราหมณ์โกณฑัญญะพยากรณ์พระกุมารต้องได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน ลำดับนั้น พราหมณ์เหล่านั้นจึงไปยังเรือนของตน ๆ เรียกลูก ๆ มาบอกว่า นี่แน่ะพ่อทั้งหลาย พวกเราเป็นคนแก่ จะอยู่ถึงพระราชบุตรของพระเจ้าสุทโธทนมหาราชบรรลุพระสัพพัญญุตญาณหรือไม่ (ก็ไม่รู้) เมื่อพระราชกุมารนั้นบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว พวกเจ้าพึงบวชในสำนักของพระองค์. พราหมณ์ทั้ง ๗ คนนั้นดำรงอยู่ตราบชั่วอายุแล้วได้ไปตามกรรม ส่วนโกณฑัญญมาณพเท่านั้นยังมีชีวิตอยู่. โกณฑัญญมานพนั้น เมื่อพระมหาสัตว์อาศัยความเจริญแล้วออกมหาภิเนษกรมณ์บวชแล้ว เสด็จถึงอุรุเวลาประเทศโดยลำดับ ทรงพระ-ดำริว่า ภูมิภาคนี้น่ารื่นรมย์จริงหนอ ที่นี้สมควรที่จะบำเพ็ญเพียรของกุลบุตรผู้มีความต้องการจะบำเพ็ญเพียร จึงเสด็จเข้าไปอยู่ ณ ที่นั้น เขาได้ฟังข่าวว่า พระมหาบุรุษทรงผนวชแล้ว จึงเข้าไปหาพวกบุตรของพราหมณ์เหล่านั้น กล่าวอย่างนี้ว่า ได้ยินข่าวว่า พระสิทธัตถกุมารทรงผนวชแล้ว พระองค์จักได้เป็นพระพุทธเจ้าโดยไม่ต้องสงสัย ถ้าบิดาของท่านทั้งหลายยังมีชีวิตอยู่ ก็จะพึงออกบวชวันนี้ ถ้าแม้ท่านทั้งหลายจะต้องการจงมาซิ พวกเราจักบวชตามพระมหาบุรุษนั้น. พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถจะมีฉันทะเป็นอันเดียวกันได้ บรรดาชนทั้ง ๗ นั้น ๓ คนไม่บวช๔ คนนอกนี้บวช โดยตั้งให้โกณฑัญญพราหมณ์เป็นหัวหน้า พราหมณ์ทั้ง๕ คนนั้น จึงมีชื่อว่า พระปัญจวัคคีย์เถระ ก็ในครั้งนั้น พระเจ้าสุทโธทนะไม่ต้องการให้พระกุมารออกบวชจึงตรัสถามว่า บุตรของเราเห็นอะไรจึงจักบวช พวกอำมาตย์กราบทูลว่า เห็นบุพนิมิตทั้ง ๔. ตรัสถามว่า บุพนิมิตอะไรบ้าง. กราบทูลว่า คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิต. พระราชาตรัสว่า จำเดิมแต่นี้ไป พวกท่านอย่าได้ให้คนเห็นปานนี้เข้าไปยังสำนักแห่งบุตรของเรา เราไม่มีกิจกรรมที่จะให้บุตรของเราเป็นพระพุทธเจ้า เรามีความประสงค์จะเห็นบุตรของเราครอบครองราชสมบัติจักรพรรดิ อันมีความเป็นอิสริยาธิบดีในทวีปทั้ง ๔ มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวาร ห้อมล้อมด้วยบริษัทอันมีปริมณฑล ๓๖ โยชน์ ท่องเที่ยวไปในพื้นท้องฟ้า ก็แหละครั้นตรัสอย่างนี้แล้ว เพื่อที่จะห้ามมิให้บุพนิมิตทั้ง ๔ ประการนี้ มาสู่คลองจักษุพระกุมาร จึงทรงตั้งการอารักขาไว้ในที่ทุก ๆ คาวุตในทิศทั้ง ๔ หัวข้อ: Re: โกณฑัญญะ พราหมณ์ผู้พยากรณ์ทางเดียว เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 18 พฤษภาคม 2555 01:02:48 ก็วันนั้น เมื่อตระกูลพระญาติแปดหมื่นตระกูลประชุมกันในมงคลสถานแล้ว พระญาติองค์หนึ่ง ๆ ได้อนุญาตบุตรคนหนึ่ง ๆ ว่า พระราชกุมารนี้ จะเป็นพระพุทธเจ้าหรือเป็นพระราชาก็ตาม พวกเราจักให้บุตรคนละคน ถ้าแม้จักได้เป็นพระพุทธเจ้า จักเป็นผู้อันหมู่ขัตติยสมณะห้อมล้อมเที่ยวไป ถ้าแม้จักเป็นพระราชา จักเป็นผู้อันขัตติยกุมารห้อมล้อมกระทำไว้ในเบื้องหน้าเที่ยวไป. ฝ่ายพระราชาก็ทรงตั้งนางนมผู้ปราศจากสรรพโรค สมบูรณ์ด้วยรูปอันอุดมแก่พระโพธิสัตว์. พระโพธิสัตว์เจริญด้วยบริวารใหญ่ ด้วยสิริโสภาคย์อันยิ่งใหญ่
อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาทรงมีงานพระราชพิธีชื่อว่า วัปปมงคล วันนั้น ประชาชนต่างประดับประดาพระนครทั้งสิ้น ประดุจเทพนครคนทั้งหมดมีทาสและกรรมกรเป็นต้น นุ่งห่มผ้าใหม่ ประดับด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น ประชุมกันในราชสกุล เทียมไถถึงพันคันในงานพระราชพิธี. ก็ในวันนั้น ไถ ๑๐๘ คัน หย่อนไว้คันหนึ่ง (คือ ๑๐๗ คัน) พร้อมทั้งโคผู้ผูกเชือกสายตะพาย หุ้มด้วยเงิน. ส่วนไถที่พระ-ราชาทรงถือ หุ้มด้วยทองคำสุกปลั่ง. แม้เขา เชือกสายตะพาย และปฏักของโคผู้ทั้งหลาย หุ้มด้วยทองคำทั้งนั้น. พระราชาเสด็จออกด้วยบริวารใหญ่ ได้ทรงพาพระราชบุตรไปด้วย ในสถานที่ประกอบพระราชพิธี มีต้นหว้าต้นหนึ่ง มีใบหนาแน่น มีร่มเงาชิดสนิท. พระราชาทรงให้ปูลาดพระที่บรรทมของพระกุมาร ณ ภายใต้ต้นหว้านั้น ให้ผูกเพดานขจิตด้วยดาวทองไว้เบื้องบน ให้แวดวงด้วยปราการคือพระวิสูตร วางการอารักขาเสร็จแล้ว พระองค์ทรงประดับเครื่องราชอลังการทั้งปวง ห้อมล้อมด้วยหมู่อำมาตย์เสด็จไปยังสถานที่จรดพระนังคัล ณ ที่นั้นพระราชาทรงถือพระนังคัลทองคำ อำมาตย์ทั้งหลายถือไถเงิน ๑๐๗ คัน พวกชาวนาถือไถที่เหลือ. พวกเขาถือไถเหล่านั้นไถไปรอบ ๆ ส่วนพระราชาทรงไถจากด้านในไปสู่ด้านนอก ไถจากด้านนอกไปสู่ด้านใน. ในที่แห่งหนึ่ง มีมหาสมบัติ. พวกนางนมที่นั่งห้อมล้อมพระโพธิสัตว์ คิดว่าจักไปดูสมบัติของพระราชา จึงออกจากพระวิสูตรไปข้างนอก พระโพธิสัตว์ทรงแลดูไปรอบ ๆ ไม่เห็นมีใครเลย จึงเสด็จลุกขึ้นโดยเร็ว ทรงนั่งขัดสมาธิกำหนดลมหายใจเข้าออก ทำปฐมฌานให้เกิดขึ้นแล้ว. พวกนางนมเที่ยวไปในระหว่างเวลากินอาหาร จึงชักช้าไปหน่อยหนึ่ง. เงาของต้นไม้ที่เหลือคล้อยไป แต่เงาของต้นหว้านั้นคงตั้งอยู่เป็นปริมณฑล. พวกนางนมคิดได้ว่า พระลูกเจ้าประทับอยู่พระองค์เดียวจึงรีบยกพระวิสูตรขึ้นเข้าไปภายใน เห็นพระโพธิสัตว์นั่งขัดสมาธิบนพระที่บรรทม และเห็นปาฏิหาริย์นั้น จึงไปกราบทูลแด่พระราชาว่าข้าแต่สมมติเทพ พระกุมารประทับนั่งอย่างนี้ เงาของต้นไม้อื่น ๆ คล้อยไปแล้ว แต่เงาของต้นหว้าคงตั้งเป็นปริมณฑลอยู่. พระราชารีบเสด็จมาทรงเห็นปาฏิหาริย์ จึงทรงไหว้พระโอรสโดยตรัสว่า นี่แน่ะพ่อ นี้เป็นการไหว้เจ้าครั้งที่สอง ทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์ขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรายังเป็นพระกุมารอยู่ ต่อไปเมื่อพระกุมารเจริญพระชมม์จนอายุ 16 พรรษา จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นต่อไปนั้น ต้องติดตามต่อไป ขออนุโมธนาผู้มีบุญมากทุกท่าน ขออภัยท่านเจ้าของรูปหลายรูปที่นำมาเผยแพร่โดยไม่ได้บอกกล่าว ขออานิสงค์ในการเผยแผ่พระศาสนาจงเกิดแก่ท่านเจ้าของรูปภาพ ผู้ศึกษาธรรม และศึกษาพุทธประวัติด้วยเทอด (http://dhammaweekly.files.wordpress.com/2010/03/e0b8aae0b8a1e0b8b2e0b898e0b8b4.jpg?w=713&h=1024) พระโพธิสัตว์ประทับนั่งสมาธิใต้ต้นหว้า ทำปฐมฌาณให้เกิดขึ้น หัวข้อ: Re: โกณฑัญญะ พราหมณ์ผู้พยากรณ์ทางเดียว เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 18 พฤษภาคม 2555 01:04:06 (http://dhammaweekly.files.wordpress.com/2010/03/dscf0249.jpg?w=1024&h=768) ปราสาทในเมืองกบิลพัสดุ์ ปัจจุบันยังคงเห็นร่องรอยความยิ่งใหญ่ในอดีต (http://dhammaweekly.files.wordpress.com/2010/03/e0b881e0b89ae0b8b4e0b8a5e0b89ee0b8b1e0b8aae0b894e0b8b8e0b98c.jpg?w=477) เมืองกบิลพัสดุ์ในปัจจุบัน จากดาวเทียม ยังเห็นบริวเวณเมืองและปราสาทเก่าได้ |