หัวข้อ: วั น วิ ส า ข บู ช า :อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 25 พฤษภาคม 2555 18:28:36 (http://www.dhammajak.net/board/files/visakha_340.jpg) วั น วิ ส า ข บู ช า อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า วันวิสาขบูชาคือวันบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึง เหตุการณ์สำคัญ ๓ ประการ ในพระพุทธประวัติ คือ การประสูติ การตรัสรู้ และการปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันแต่ต่างปีกัน อนึ่ง เหตุการณ์สำคัญที่เกิดสืบเนื่องก็คือ หลังจากที่ตรัสรู้สัจจธรรมแล้ว พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปประกาศพระพุทธศาสนา แนะนำประชาชนให้เว้นความชั่ว บำเพ็ญความดี และชำระจิตใจของตนให้บริสุทธิ์สะอาด เป็นเวลาถึง ๔๕ ปี อันทำให้พระพุทธศาสนาแพร่หลายไปในหลายสิบประเทศทั่วโลก มีการจัดตั้งองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกขึ้น มีสาขาส่วนภูมิภาคถึง ๑๓๕ แห่ง และประเทศไทยได้รับเกียรติ ให้เป็นที่ตั้งถาวรแห่งสำนักงานใหญ่ขององค์การนี้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ หลังจากที่องค์การนี้ตั้งขึ้นครั้งแรกในประเทศศรีลังกา และต่อมาได้ย้ายมาตั้งในประเทศพม่า แล้วย้ายมาตั้งอยู่ในประเทศไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ นี้ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ตั้งมาได้ครบ ๕๐ ปีเป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ในปีแรกแห่งการก่อตั้งองค์การนี้ ก็ได้มีข้อความระบุไว้ในธรรมนูญขององค์การว่า ในฝายบรรพชิต สมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศไทยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ในลำดับแรก ส่วนในฝ่ายคฤหัสถ์ พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ในลำดับแรก เช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้น สมัชชาใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ก็ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ถือว่าวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากล นับเป็นข่าวที่น่ายินดีของพุทธศาสนิกชนทั่วไป การที่พระพุทธศาสนามาตั้งมั่นอยู่ในประเทศไทย และประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นที่ตั้งถาวร แห่งองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ทำให้เราทั้งหลายต้องรำลึกถึงพระเดชพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านบรรพบุรุษไทย ที่ยอมสละแรงกาย แรงใจ รวมทั้งเลือดเนื้อและชีวิต ทำนุบำรุงปกป้องพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้น สำนักงานใหญ่องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกในประเทศไทย ยังได้จัดตั้งมูลนิธิอุปถัมภ์สงฆ์ บำรุงพระภิกษุสามเณรชาวต่างประเทศ ที่มาศึกษาและปฏิบัติธรรมในประเทศไทย ให้ได้รับความสะดวกไม่น้อยกว่าปีละ ๘๐ รูป ต่อเนื่องกันมาหลายปีแล้ว ในโอกาสพิเศษแห่งวันวิสาขบูชาปีนี้ ขออัญเชิญพระพุทธวจนะจาก พระไตรปิฎกเล่ม ๒๓ นวกนิบาต อังคุตตรนิกาย ท้ายสีหนาทวรรค แนะข้อปฏิบัติง่ายๆ เพียง ๔ ประการ ซึ่งไม่ต้องลงทุนลงแรง หรือสิ่งของเงินทองใดๆ แต่มีผลยิ่งใหญ่กว่าการถวายทานแด่พระพุทธเจ้า หรือถวายทานแด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นพระประมุข เรื่องน่าอัศจรรย์ของการปฏิบัติง่ายๆ แต่มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระพุทธเจ้า หรือพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นพระประมุข ก็คือต้องการให้การปฏิบัติมาอยู่ที่แต่ละบุคคล ผู้ลงมือกระทำด้วยตนเอง ไม่ใช่คอยแต่ชื่นชมตื่นเต้น ในคุณงามความดีของบุคคลสำคัญท่านอื่นๆ (http://www.dhammajak.net/board/files/resize_of__170.jpg) ซึ่งเปรียบเหมือนการพบมหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์หลายหมื่นหลายแสนล้าน แต่เสร็จแล้วผู้พบและแสดงน้ำใจอันดีงามต่อท่านมหาเศรษฐีนั้น ก็ยังคงไม่มีทรัพย์หรือไม่มีคุณความดีเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เพราะมิได้ลงมือปฏิบัติอะไรด้วยตนเอง พระพุทธวจนะที่ตรัสสอนข้อปฎิบัติง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนลงแรงมาก เพียง ๔ ข้อดังต่อไปนี้ คือ ๑. เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสถึงพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะหรือที่พึ่งที่ระลึก ๒. เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสตั้งใจรักษาศีลห้า ๓. เจริญหรือแผ่เมตตาจิตคือไมตรีจิตคิดจะให้ผู้อื่นเป็นสุข แม้ชั่วระยะเวลาอันสั้น เพียงแค่รีดนมโคจากบนลงล่าง ๔. เจริญอนิจจสัญญา หรือกำหนดหมายความไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืนของสิ่งที่มีปัจจัยปรุงแต่งทั้งหลาย แม้ชั่วระยะเวลาสั้นๆ แค่งอนิ้วหรือเหยียดนิ้ว คุณธรรมทั้ง ๔ ข้อนี้ปฏิบัติได้ง่ายและมีคุณค่ามาก เพราะไม่ใช่คุณธรรมของผู้อื่น แต่เป็นการลงมือกระทำด้วยตนเองของแต่ละบุคคล เป็นคุณธรรมจากระดับต่ำสุดถึงสูงสุด ซึ่งจะเพิ่มคุณค่าให้แก่ผู้ปฏิบัติ ถึงขนาดที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระอริยบุคคล ๔ ระดับ มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นพระประมุข มีผลมากกว่าการสร้างที่อยู่อาศัยถวายแด่พระสงฆ์จากสี่ทิศ เมื่อทุกคนมีสิทธิจะได้รับผลดีและสูงยิ่งด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเสียกำลังแรงงาน หรือค่าใช้จ่ายใดๆ อย่างนี้ จึงน่าจะได้รับพระพุทธวจนะนี้ไว้เป็นแนวปฏิบัติประจำวันของเราทั้งหลาย อันเป็นการบูชาด้วยการปฏิบัติ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่ามีค่ายิ่งกว่าการบูชาด้วยอามิสมีดอกไม้ธูปเทียน เป็นต้น คณะอนุกรรมการส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติสำนักนายกรัฐมนตรี ขอถือโอกาสแห่งวันวิสาขบูชานี้ แผ่ความปรารถนาดีต่อพี่น้องร่วมชาติและร่วมโลก ไม่จำกัดประเทศชาติ ศาสนาและภาษาตลอดจนสรรพสัตว์ ขอจงมีความสุขความเจริญ ปราศจากอันตรายภัยพิบัติ ประสบแต่สรรพสิ่งอันพึงประสงค์จงทุกประการ (ที่มา :http://www.dharma-gateway.com/ubasok/ubasok-main-page.htm) กุหลาบสีชา :http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15830 หมายเหตุ : บทความเรื่องนี้เป็นข้อเขียนชิ้นสุดท้ายของอาจารย์ สุชีพ ปุญญานุภาพ ซึ่งตีลงพิมพ์ในนิตยสาร “ธรรมจักษุ” : ฉบับพฤษภาคม ๒๕๔๓ หัวข้อ: Re: วั น วิ ส า ข บู ช า :อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 พฤษภาคม 2555 17:48:25 (http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=32948.0;attach=2087;image) (http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33864.0;attach=2280;image) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) สาธุ สาธุ สาธุ http://audio.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=18072 |