พิมพ์หน้านี้ - ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆจานบิน ( Lenticular cloud )

"ปริศนาเมฆจานบิน"

โดย:บัญชา ธนบุญสมบัติ

* บทความนี้จะได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือ "รื่นรมย์ ชมเมฆ"
ของชมรมคนรักมวลเมฆ*

มีเมฆรูปร่างประหลาดแบบหนึ่งที่เคยทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า
มนุษย์ต่างดาวบุกโลกเข้าให้แล้ว
เมฆแบบนี้มีรูปร่างคล้ายๆ ขนมครก ฝาเดียวบ้าง สองฝาประกบกันบูดๆ เบี้ยวๆ บ้าง

(http://www.uppic.net/tu/ufo_cloud1.jpg) (http://www.uppic.net/show/b01b8db7deffda8818f6a56fab95eebd)

ฝรั่งชาวบ้านเรียกเมฆแบบนี้ว่า เมฆรูปเลนส์ (lenticular cloud)
แต่บ่อยครั้งก็เรียกแบบง่ายๆ ว่า เมฆสิ่งบินลึกลับ (UFO cloud)
เพราะคำว่า UFO มาจาก Unidentifed Flying Object
แต่ผมขอเรียกแบบพี่ไทยว่า เมฆจานบิน ก็แล้วกัน

(http://www.uppic.net/id/dufo2.jpg) (http://www.uppic.net/show/b1f5c2a012ee6de7f81348d1b62abae7)

เมฆจานบินอาจจะเกิดปรากฏการณ์สีรุ้งได้ด้วย

แล้วเมฆจานบินเกิดขึ้นได้ยังไง? ทำไมไม่ค่อยได้เห็น?

"เมฆจานบินนี้เกิดจากการที่กระแสอากาศในแนวระดับเคลื่อนที่ปะทะเนินหรือภูเขา ทำให้อากาศถูกบังคับให้ยกตัวสูงขึ้น แต่เมื่อผ่านเนิน (หรือภูเขา) นั้นไปแล้ว
อากาศก็จะลดต่ำลง มองจากด้านข้างคล้ายๆ เป็นคลื่นกระเพื่อมวิ่งไป"

(http://www.uppic.net/iu/7ufo3.jpg) (http://www.uppic.net/show/512c63a3a776c07f6ada938c50bb1ecb)
แผนภาพการเกิดเมฆจานบิน แต่ละเส้นแทนการไหลของกระแสอากาศ
โปรดสังเกตว่าเมฆชนิดนี้เกิดบริเวณยอดคลื่น

"อย่างไรก็ดี ในสภาพจริงนั้น กระแสอากาศจะแบ่งเป็นชั้นๆ ซ้อนกันอยู่
ดังนั้น หากมองในภาพรวม ก็จะพบว่า กระแสอากาศในชั้นล่างๆ
กระเพื่อมมากหน่อย ส่วนชั้นบนกระเพื่อมน้อยกว่า"

อากาศในแต่ละชั้นเมื่อถูกยกให้ลอยสูงขึ้น ก็จะขยายตัวออก
ส่งผลให้มีอุณหภูมิลดลง ผลก็คือ ไอน้ำ (แต่เดิม)
เมื่อลอยสูงขึ้น ก็จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเล็กๆ เต็มไปหมด
ซึ่งมองโดยภาพรวมก็คือ เมฆ นั่นเอง แต่เมฆที่เกิดขึ้นนี้ถูกกัก
อยู่ในชั้นอากาศที่ว่ามาแล้ว จึงมีรูปร่างออกจะแบนๆ ในแนวดิ่ง
และยืดยาวออกทางด้านข้างโดยรอบ กลายเป็น ‘จานบิน’ นั่นเอง

"เห็นเมฆจานบินที่ไหน แสดงว่าตรงนั้นเป็นยอดคลื่น
หรือบริเวณที่คลื่นอากาศกระเพื่อมขึ้นสูงสุด
ทำให้อากาศเย็นสุดจนไอน้ำกลั่นตัวเป็นหยด"

เนื่องจากหยดน้ำในเมฆจานบินนี้มักจะมีขนาดเล็กมากๆ และมีขนาดพอๆกัน
ดังนั้น จึงสามารถทำให้แสงสีขาวจากดวงอาทิตย์เกิดการเลี้ยวเบน
แตกออกเป็นสีรุ้งได้โดยง่ายด้วย

"เมฆจานบินบางก้อนอาจมีลักษณะเป็นชั้นๆ หลายชั้นซ้อนกัน
เป็นเพราะความชื้นในอากาศมีค่ามากน้อยสลับกันเป็นชั้นๆ
ชั้นไหนมีความชื้นมาก ก็จะมีโอกาสเกิดหยดน้ำได้มากนั่นเอง"

(http://www.uppic.net/to/oufo4.jpg) (http://www.uppic.net/show/2c32f763b5afa3cf71f35f90be5df954)

เมฆจานบินแบบหลายชั้น

"ส่วนเมฆจานบินแบบสุดท้ายนั้น ผมเคยโม้ให้ฟังไปแล้วในหนังสือ ‘มิติคู่ขนาน’
แต่ขออนุญาตเอาของเก่ามาหากินอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ครบถ้วน…อะแฮ่ม…
เหตุผลฟังขึ้นไหมครับ (อิ..อิ)

(http://www.uppic.net/tb/2ufo5.jpg) (http://www.uppic.net/show/656fbe0231e94b83c68d17257e6472eb)

เมฆรูปหมวกเหนือยอดเขา

เมฆจานบินแบบนี้เกิดเหนือยอดเขาสูงๆ โดยลมที่พัดพาเอาความชื้น
มาจากบริเวณที่ราบโดยรอบ จะถูกแนวสันเขาบังคับให้ไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ทีนี้พอความชื้นขึ้นไปเจออากาศหนาวๆ แถวยอดเขา
ก็จะแปลงกายกลายเป็นหยดน้ำเกาะกลุ่มปกคลุมอยู่เหนือยอดเขา
บางคนก็มองเป็นดอกเห็ดขนาดยักษ์ แต่ฝรั่งเขาว่าเหมือนภูเขาสวมหมวก
ก็เลยเรียกเมฆจานบินแบบพิเศษนี้ว่า เมฆ (ซึ่งมีรูปร่างเหมือน) หมวก
หรือ cap cloud

"คราวหน้า หากคุณคิดว่าเห็นจานบินอยู่บนท้องฟ้า ก็ลองจ้องให้ชัดๆ อีกที
เพราะสิ่งที่เห็นนั้น อาจจะไม่ใช่ยานพาหนะของมะนาวต่างดุ๊ด
แต่เป็นเมฆสุดพิเศษพวกนี้นั่นเอง"

ที่มา:http://gotoknow.org/blog/weather/79047

คลังรูปภาพเมฆจานบิน

(http://www.uppic.net/ij/jufo6.jpg) (http://www.uppic.net/show/89e4eaa24bf3c59d329edbba54bdc376)

ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เกิดขึ้นที่ภูเขา Mt.Rainier ในรัฐ Washington
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2009

(http://www.uppic.net/ih/8ufo7.jpg) (http://www.uppic.net/show/bf0b3f37b176c208c1ebd0a510384048)

ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เกิดขึ้นที่ภูเขา Mt.Rainier ในรัฐ Washington

(http://www.uppic.net/ih/hufo8.jpg) (http://www.uppic.net/show/48974813079a865541b1065529453e33)

ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เกิดขึ้นที่ภูเขา Mt.Rainier ในรัฐ Washington

Mount Fuji : Cap Cloud จานบินร่อนลงเหนือภูเขาไฟฟูจิ

(http://www.uppic.net/tn/nareefujiyama9.jpg) (http://www.uppic.net/show/8ab340b8b426ea008e0213c105839224)

บันทึกภาพโดยคุณ Naree ในเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548
ขณะกำลังเจริญอาหารกับมื้อเช้าแสนอร่อยในห้องอาหารชั้น 8
ของโรงเแรม Fujinobukaen Hotel ของประเทศญี่ปุ่น

(http://www.uppic.net/tn/nareefujiyama10.jpg) (http://www.uppic.net/show/b83841d7ea7c8fc52e74efc5788667b1)

(http://www.uppic.net/tf/fuji11.jpg) (http://www.uppic.net/show/6b03960f5371e3fcfd8e8b99c34758e6)

(http://www.uppic.net/tn/nareefujiyama12.jpg) (http://www.uppic.net/show/137070c4f01957b0c14644e9d886b2d1)

(http://www.uppic.net/tf/fuji13.jpg) (http://www.uppic.net/show/1498db95ec2696a76e1d500e9a933ac2)

โดยที่เธอกล่าวไว้สั้นๆว่า

"บางทีเราก็มัวแต่ก้มหน้าทำงานโดยไม่มีโอกาสชื่นชมธรรมชาติรอบตัวเลย
เรามักคิดว่าต้องแร่งสะสมเงินทองเพื่อจะมีความสุขในภายหน้า
แต่เมื่อถึงวันนั้นอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้

…ความสุขมีอยู่รอบๆตัวเราโดยไม่ต้องซื้อหา โลกใบนี้ยังคงงดงามเสมอ

แนะนำให้ชื่นชมท้องฟ้าค่ะเราจะได้ภาพจริงที่สวยงามไม่ซ้ำกันเลยสักวันนะคะ…"

แล้วจะมาต่อเรื่องหินเดินได้นะคะ

http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=5175.0 (http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=5175.0)

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => เรื่องราว จากนอกโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊ก ที่ 26 มิถุนายน 2553 20:25:36