|
หัวข้อ: หมอรามาฯ ไขปัญหาสุขภาพ “สาวผิวคล้ำ” เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 กรกฎาคม 2555 14:46:33 (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcT3vev4npaSX15q0sHpHeF1831ubyBmVo3ahqE7u36AYy9psLsRIQ) ภาพจาก :xn--72czp0c1b9j.com เจาะประเด็น หมอรามาฯ ไขปัญหาสุขภาพ “สาวผิวคล้ำ” สาว ๆ หลายคนอาจมีปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวมัน ผิวไม่เนียนเรียบหรือผิวแพ้ง่าย แต่ปัญหาผิวติดอันดับสำหรับสาวไทยอีกปัญหาหนึ่ง คือ การมีผิวคล้ำ เพราะค่านิยมในปัจจุบันที่ว่า “สาว ๆ ต้องมีผิวขาว” ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า แต่ละคนมีสีผิวแตกต่างกัน คนไทยมีผิวขาวเหลืองแบบคนเชีย แต่ก็มีบางคนที่มีผิวสีเข้ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ๒ ประการ คือ ปัจจัยภายใน ได้แก่กรรมพันธุ์ เชื้อชาติ กระบวนการเผาผลาญภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอก ได้แก่พฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการโดนแดดหรือรังสียูวี การออกไปเจอมลพิษต่าง ๆ การรับประทานอาหาร รวมไปถึงการดูแลสุขภาพผิว อย่างการใช้เครื่องสำอางก็มีส่วนเช่นกัน ประเด็นสำคัญที่สุดของการดูแลผิวหมองคล้ำ ให้แลดูกระจ่างใส โดยใช้สารที่ทำให้ผิวขาว ซึ่งมีหลายประเภทได้แก่ • สารฟอกสี เป็นสารอันตรายและห้ามใช้ในเครื่องสำอาง เช่น ไฮโดรควิโนน ก่อให้เกิด ฝ้า จุดด่างขาว ตุ่มนูนสีดำ และปรอทแอมโมเนีย หากเกิดพิษสะสม จะทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ • สารทำให้ผิวขาว นิยมใช้ในเครื่องสำอาง เช่น อาร์บิวติน กรดโคจิด และวิตามินซี แอลคอร์บิกแมกนีเซียมฟอสเฟต ซึ่งเป็นสารที่เกิดระคายเคืองและมีผลข้างเคียงน้อย • สารปกคลุมผิว เป็นสารทึบแสง และช่วยให้ผิวขาวทันที สารทิตาเนียมไดออกไซด์ เป็นสารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแต่เมื่อล้างออกก็ยังมีสีผิวเดิม ไม่ได้ให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีขาวถาวร • สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือ เอเอชเอ สารกลุ่มนี้ไม่ได้ช่วยลดการสร้างเม็ดสีโดยตรง แต่ช่วยเร่งการหลุดลอกของผิวชั้นนอกออกไป ทำให้ดูขาวขึ้น เป็นกรดผลไม้ เป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติที่เคยได้ยินกันบ่อย ๆ คือ กรดแล็กติค ได้จากนมเปรี้ยวและมะเขือเทศ กรดซิตริค สกัดได้จากส้มและมะนาว นอกจากนี้ยังมี กรดไกลโคลิค สกัดจากอ้อย หรือกรดเมลิค สกัดได้จากแอปเปิ้ล สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือ เอเอชเอ เป็นสารที่แพทย์ใช้ในการรักษาโรคผิวหนังมานานแล้ว และด้วยคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวดูขาวขึ้น เนียนเรียบ และลดรอยเหี่ยวย่น ปัจจุบันจึงนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางหลายประเภท ปริมาณที่ใช้จะต้องมีความเข้มข้นไม่เกิน ๑๕ % เพราะหากมากกว่านี้อาจจะทำให้ระคายเคืองและผิวลอกได้ ซึ่งประมาณการใช้ที่มีความเข้มข้นสูงตั้งแต่ ๒๐ – ๗๐ % นั้น จะนำใช้กับวิธีการลอกผิว โดยจะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้คือ เราใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ผลัดเซลล์ผิว ผิวด้านนอกถูกลอกออกไป ผิวหนังชั้นในขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเป็นผิวที่บอบบางกว่า โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการถูกแสงแดดก็มีมากขึ้น ผิวคล้ำง่ายกว่าปกติ และต้องระวังไม่ให้เกิดอาการแพ้ การทดสอบว่ามีอาการแพ้หรือไม่ ให้ทาบริเวณใต้ท้องแขน เช้า – เย็น เป็นเวลา ๗ วัน หากไม่มีความผิดปกติก็แสดงว่าปลอดภัยใช้ได้แน่นอน • สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หลายคนอาจไม่คุ้นหู แต่สารตัวนี้จัดเป็นเครื่องสำอางควบคุม มีส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ยาสีฟัน ยาย้อมผม หรือกัดสีผม สารฟอกหนัง สำหรับทางการแพทย์แล้ว จะนำมาใช้ในการทำความสะอาดแผลลึก ปากแผลแคบ แต่สาว ๆ ที่ใจร้อน อยากมีผิวขาวเร็ว ก็จะใช้สารตัวนี้ซึ่งอยู่ในรูปของครีมเปลี่ยนสีผิว ครีมฟอกสีผิว หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายส่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม บางยี่ห้อสามารถเปลี่ยนได้ทั้งสีผิวและสีขนอีกด้วย หลายคนอาจจะดีใจที่ผิวเปลี่ยนมาขาวกระจ่างใสด้วยระยะเวลาไม่นาน แต่ถ้าหากใช้บ่อย ๆ อาจทำให้ร่างกายไม่ผลิตสารเม็ดสีเมลานินให้กับผิวหนัง ทำให้เมื่อโดนแดด มีอาการแสบหรือระคายเคืองได้ ที่สำคัญที่สุดคือ มีโอกาสเสี่ยงเป็นเนื้องอกและมะเร็งผิวหนังได้มากกว่าผิวธรรมดา ดังนั้น การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไม่ว่าประเภทใดก็แล้วแต่ ควรเลือกซื้ออย่างมีสติ ไม่หลงเชื่อคำโฆษณา การดูแลผิวให้มีสุขภาพดีนั้น ต้องเริ่มจากภายใน พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการทำร้ายผิว เช่น การสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และวิธีที่ง่ายที่สุดคือ ดูแลผิวพรรณให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะมีผิวเฉดสีใดก็สวยได้ เพียงแค่มีความมั่นใจในแบบของตนเอง รศ.พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ย่อความจาก คอลัมน์ "เจาะประเด็น สาวผิวคล้ำ" หมอรามาไขปัญหาสุขภาพ หน้า ๒๘ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ (:UU:) |