หัวข้อ: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 16:27:25 (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTAQ7nNxk24NEmBzt9da-drXw3ZtAztecA6odJRNSWgAXSN_T96) ภาพจาก :watthailumbini-th.org สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ สวนลุมพินีวัน สถานที่ประสูติ สังเวชนียสถานแห่งที่ ๑ ลุมพินีวัน (Lumbini) เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ที่อำเภอไภรวา แคว้นอูธ ประเทศเนปาล เป็นพุทธสังเวชียสถาน ๔ ตำบลเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย ลุมพินีวันเดิมเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยาน ที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน ในสมัยพุทธกาล ลุมพินีวันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ ในแคว้นสักกะ บนฝั่งแม่น้ำโรหิณี หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติ เรียกว่า เสาอโศก ที่จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้ ปัจจุบันลุมพินีวันอยู่ในเขตประเทศเนปาล ติดชายแดนประเทศอินเดียทางเหนือเมืองโคราฆปุระ ห่างจากสิทธารถนคร หรือนครเทวทหะ ทางทิศตะวันตกประมาณ ๒๒ กิโลเมตร และห่างจากเมืองติเลาราโกต (หรือนครกบิลพัสดุ์) ทางทิศตะวันออก ๒๒ กิโลเมตร ซึ่งถูกต้องตามตำราพระพุทธศาสนา ที่กล่าวว่าลุมพินีวันสถานที่ประสูติ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะ ปัจจุบัน ลุมพินีวันมีเนื้อที่ประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่ ทางการเรียกสถานที่นี้ว่า รุมมินเด มีสภาพเป็นชนบท มีผู้อาศัยอยู่ไม่มาก มีสิ่งปลูกสร้างเป็นพุทธสถานเพียงเล็กน้อย แต่มีวัดพุทธอยู่ในบริเวณนี้หลายวัด รวมทั้งวัดไทยลุมพินี ลุมพินีวันได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTEX2iES0HIyNvL7_trmIMyomaLwpBAR_4UxYLP94r-AVElVcrZYw) เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช ภาพจาก : thaigoodview.com เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช ตั้งอยู่ในวงล้อมของรั้วเหล็ก พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองนครปาฏลีบุตรได้ปักเสาหินต้นนี้ ตามคำยืนยันของพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระว่า สถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ประสูติจากพระครรภ์พระพุทธมารดา คราวเสด็จจาริกแสวงบุญบูชาสังเวชนียสถานทั่วชมพูทวีป ซึ่งมีเสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราชที่สูง ๒๒ ฟุต ๔ นิ้ว ตั้งอยู่ จารึกด้วยภาษาพราหมีว่าเป็นสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSeFnW4ZTNzcjf_FzXx4qG0PVvFYaefq_-E9uTCIlojl7kl2Bv3uw) มายาเทวีวิหาร ภาพจาก :m.thairath.co.th มายาเทวีวิหาร ภายในวิหารมีรูปแกะสลัก เป็นรูปพระนางสิริมหามายาเทวี พระพุทธมารดายืนประทับเหนี่ยวกิ่งสาละอยู่พร้อมกับพระสนม และข้างหน้าพระพุทธมารดาเป็นรูปเจ้าชายสิทธัตถะกำลังก้าวพระบาทไปบนดอกบัว (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSaNZVZUQGYw6OkvQSF3fWuwBWQuADtFtq81OaShU3zUtPB6AD8Gw) สระโบกขรณี (ด้านหลังคือมายาเทวีวิหาร) ภาพจาก : watthailumbini-th.org สระโบกขรณี สถานที่สรงสนานพระกุมารหลังจากประสูติกาล หัวข้อ: Re: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 16:56:30 .
พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTmHYWoPgYPnM8_9UtSdbmA6wUzOUX1l3N-J9WV5bx63zl0WnYbyA) เจดีย์พุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ภาพจาก watphraprangsida.com พุทธคยา (Bodh Gaya, หรือ Mahabodhi Temple) คือ คำเรียกกลุ่มพุทธสถานสำคัญในอำเภอคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นพุทธสถานที่มีความสำคัญที่สุด ๑ ใน ๔ แห่งของพุทธศาสนา เป็นที่ตั้งสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดมหาโพธิ อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการร่วมชาวพุทธและชาวฮินดู พุทธคยา ปัจจุบันตั้งอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเนรัญชรา ไกลจากฝั่งแม่น้ำประมาณ ๓๕๐ เมตร พุทธคยามีสัญลักษณ์ที่สำคัญคือ องค์เจดีย์สี่เหลี่ยมสูงใหญ่ โดยสูงถึง ๕๑ เมตร ฐานวัดโดยรอบได้ ๑๒๑.๒๙ เมตร ล้อมรอบด้วยโบราณวัตถุ โบราณสถานสำคัญ เช่น ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระแท่นวัชรอาสน์ ที่ประทับตรัสรู้และอนิมิสสเจดีย์ เป็นต้น สำหรับชาวพุทธ พุทธคยานับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญที่สุดของนักแสวงบุญชาวพุทธทั่วโลกที่ต้องการมาสักการะสังเวชนียสถานสำคัญ ๑ ใน ๔ แห่งของพระพุทธศาสนา โดยในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ วัดมหาโพธิ (พุทธคยา) สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSBvQiSUFHezuEyvSeyJshM3Vz2Pe8WdKl0vEa8JQyaPdQENAZCvg) ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ประเทศอินเดีย ภาพจาก pla1234580.blogspot.com ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธองค์อยู่ติดกับองค์พระเจดีย์เป็นศรีสง่าแก่โพธิมณฑล มีพระแทนวัชรอาสน์คั่นกลาง ต้นปัจจุบันเป็นต้นที่ ๔ ปัจจุบันต้นโพธิ์มีอายุ ๑๓๒ ปี (๒๕๕๔) ขนาดใหญ่ ๓ คนโอบ สูง ๘๐ เมตร แผ่กิ่งก้านสาขาเป็นร่มโพธิ์ของชาวพุทธ ขณะนี้รัฐบาลอินเดียได้ดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อให้ต้นโพธิ์มีอายุยืนยาวที่สุด โดยให้นักพฤกษชาติวิทยาดูแลทุก ๆ ๗ วัน และจัดสร้างกำแพงกั้นล้อมไว้เป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันคนเข้าถึงลำต้นโพธิ์ (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSxqz0gSqo4yefZqxJZ6HdE2iW7vE0fZ-hMxqFLWN4z8WOPe0so) พระแท่นวัชรอาสน์ :ภาพจาก handytour.blogspot.com พระแท่นวัชรอาสน์ แปลว่า พระแท่นมหาบุรุษใจเพชร สร้างด้วยวัสดุหินทรายเป็นรูปหัวเพชรสี่เหลี่ยม กว้าง ๔.๑๐ นิ้ว ยาว ๗.๖ นิ้ว หนา ๕ นิ้วครึ่ง ตั้งอยู่บนฐานก่ออิฐฉาบด้วยปูน ด้านบนพื้นผิวแกะสลักเป็นศิลปะเหมือนกับหัวแหวนเพชรและมีเพชรซีกประดับอยู่โดยรอบเรือนแหวน ด้านข้างแต่ละด้านแกะเป็นรูปดอกบัว รูปพญาหงส์ (คล้ายห่าน) และรูปดอกบัวมณฑารพ ปัจจุบันมีอายุ ๒,๓๐๐ ปีเศษ พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างพระแท่นจำลองขึ้นทับพระแท่นเดิม เพื่อยืนยันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ณ จุดนี้ ปัจจุบันประชาชนและรัฐบาลศรีลังกาได้อุทิศสร้างกำแพงแก้ว ทำด้วยทองคำแท้ ประดิษฐานรอบต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระแท่นวัชรอาสน์ (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR06yuV6Hj__7rvHoEFgkFzQgrv69p4_s7g5OmBkpjFUukWuRNNSg) พระพุทธเมตตา ประดิษฐานภายในเจดีย์พุทธคยา : ภาพจาก images.palungjit.com พระพุทธเมตตา ในมหาโพธิเจดีย์ สร้างในสมัยปาละด้วยหินแกรนิตสีดำ มีอายุกว่า ๑,๔๐๐ ปีเศษ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดูอย่างปาฏิหาริย์ ประดิษฐานภายในมหาเจดีย์พุทธคยา ด้วยพระพักตร์ที่แสดงออกด้วยเมตตากรุณาอันเปี่ยมล้น ชาวพุทธทั่วโลกจึงต่างพากันเบียดเสียดเพื่อเข้าไปกราบไหว้บูชา (http://www.phuketdata.net/main/images/stories/easygallery/resized/173/1216564603_%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B8%B2026.jpg) . หัวข้อ: Re: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 18:43:34 .
สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา สังเวชนียสถานแห่งที่ ๓ (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQavQNXyOXbsRAwZSl8eDzw5R-MO_RozAW3ZjgrYZXo9pLXR8eKEw) ธัมเมกขสถูป อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน หรือ แคว้นมคธ ชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาล ภาพจาก bloggang.com สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา เรียกว่า ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แปลว่า ป่าอันยกให้แก่หมู่กวาง และเป็นที่ชุมนุมของเหล่าฤษี นักบวช นักพรตต่าง ๆ ที่มาบำเพ็ญตบะและโยคะ ทำให้เหล่าปัญจวัคคีย์ที่ปลีกตัวมาจากเจ้าชายสัทธัตถะมาบำเพ็ญตบะที่นี่ และพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกที่บริเวณป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เพื่อโปรดเหล่าปัญจวัคคีย์ ก็คือ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมเป็นครั้งแรก ณ สารนาถ หรืออิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งเป็นสถานที่โล่ง มีซากอิฐปรักหักพังมากมาย ด้านหน้าจะมีบริเวณซึ่งกั้นเอาไว้เป็นลูกกรงล้อมรอบ ๔ ด้าน ภายในนั้นมีเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราชปักอยู่ แต่ปลายจะหัก ส่วนยอดเสาก็จะเป็นรูปจาตุรสิงห์ที่แสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ เสาหินนี้ได้สร้างไว้ ณ ที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเป็นครั้งแรก (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQ7R9uqMgkQXyUMAvXGQFr9sRVxJJt9YTs6jB7UyyLZpTI3jMGCCA) ภาพจาก : rmutphysics.com พระมูลคันธกุฎี เป็นที่ประทับของพระพุทธองค์ ยังปรากฏเป็นร่องรอยชัดเจนอยู่ ซึ่งตั้งติด ๆ กับเสาหินนั้น พระพุทธเจ้าได้ทรงจำพรรษาแรกที่สารนาถนี้ และเป็นพรรษาเดียวเท่านั้น หลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ก็ทรงพิจารณาเห็นว่า ปัญจวัคคีย์ ที่ได้หนีพระองค์มาอยู่ในป่าอิสิปตนมฤคทายวันเป็นผู้มีบารมีมาก ควรที่จะได้ฟังพระธรรมเทศนาครั้งแรกของพระองค์ จึงได้เสด็จมาที่นี่และได้แสดงปฐมเทศนาที่ “ธัมเมกขสถูป” ซึ่งมีปรากฏให้เห็น ณ สถานนี้ และธรรมที่แสดงนั้นชื่อ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ผลของการแสดงพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร พระโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งใดมีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา เมื่อได้บรรลุเป็นพระโสดาบันแล้วจึงขอบวชเป็นภิกขุสงฆ์สาวกโสดาบันองค์แรกของโลก ดังนั้น พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เกิดครบครั้งแรกในโลกก็ที่นี่ นอกจากธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแล้ว พระพุทธองค์ได้แสดงสูตรอื่น ๆ ที่นี่อีกหลายสูตร เช่น ปัญจสูตร รถการสูตร ฯลฯ และจากการแสดงอนัตตลักขณสูตร ว่าด้วยเรื่องเบญจขันธ์ไม่ใช่ตัวตน จนเกิดความเบื่อหน่ายในเบญจขันธ์ พระปัญจวัคคีย์ก็สำเร็จพระอรหันต์ เป็นอันว่าในครั้งนั้นพระอรหันต์มีในโลกขึ้นแล้ว ๖ องค์ คือพระพุทธเจ้า และพระสาวกอีก ๕ พระองค์ หัวข้อ: Re: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 19:15:42 .
เมืองกุสินารา สถานที่ปรินิพพาน สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔ (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRIYwYR9UCQyG3Z35wzY8xqWkmo7HyIjoz2-zyviHgWi3WaagH5-A) พระพุทธรูปปางมหาปรินิพพาน ในพระวิหารแห่งมหาปรินิพพานสถูปจดีย์พุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ภาพจาก bloggang.com เมืองกุสินารา ตั้งอยู่ ตำบลมถากัวร์ อำเภอกุสินคร จังหวัดเดวเย หรือเทวริยา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอก ๑ ใน ๒ ของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวา เป็นที่ตั้งของสาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน และเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า มาถากุนวะระกาโกฏ ซึ่งแปลว่า ตำบลเจ้าชายสิ้นชีพ เมืองกุสินารา อันเป็นที่ตั้งของสาลวโนทยาน อยู่ในแคว้นมัลละ ๑ ใน ๑๖ แคว้น ซึ่งเป็นเขตการปกครองสมัยพุทธกาล โดยในสมัยนั้นแคว้นมัลละแยกเป็นสองส่วน คือ ฝ่ายเหนือมีเมืองกุสินาราเป็นเมืองหลวง เจ้าปกครองเรียกว่า “โกสินารกะ” และฝ่ายใต้มีเมืองปาวาเป็นเมืองหลวง เจ้าปกครองเรียกว่า “ปาเวยยะกะ” ทั้งสองเมืองนั้นตั้งอยู่ห่างกันเพียง ๑๒ กิโลเมตร โดยมีแม่น้ำหิรัญญวดีคั่นตรงกลาง กุสินารานั้นเมื่อเปรียบเทียบกับแคว้นอื่น ๆ ในสมัยพุทธกาล จัดว่าเป็นแคว้นเล็กไม่ค่อยมีความสำคัญมากนักในด้านเศรษฐกิจ สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์อยู่ในพระราชอุทยานของเจ้ามัลละฝ่ายเหนือแห่งกุสินารา ภายในสาลวโนทยาน แปลว่า สวนป่าไม้สาละ ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญญดี เป็นป่าไม้สาละร่มรื่น ซึ่งหลังการปรินิพพานของพระพุทธองค์แล้ว กษัตริย์แห่งมัลละก็ได้ประดิษฐานพระพุทธสรีระไว้ ณ เมืองกุสินาราเป็นเวลากว่า ๗ วัน ก่อนที่จะประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ มกุฏพันธนเจดีย์ (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e6/Kusinara.jpg/250px-Kusinara.jpg) มหาปรินิพพานวิหาร ภายในสาลวโนทยาน ประเทศอินเดีย ภาพจาก วิกิพีเดีย พระวิหารพุทธปรินิพพาน ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน พระสรีระกายของพระพุทธองค์ทอดยาวเหยียดแนบพื้นพสุธา เป็นพระอิริยาบถที่เรียกว่า อนุฏฐานะไสยา ซึ่งแปลว่า ประทับนอนโดยไม่ลุกขึ้นอีก องค์พระยาว ๒๓ ฟุต ๙ นิ้ว กว้าง ๕ ฟุต ๖ นิ้ว สูง ๒ ฟุต ๑ นิ้ว ส่วนหนึ่งของฐานสร้างด้วยหินจุณศิลาเป็นรูปปั้นของสุภัททปริพาชก ผู้ขอบวชและได้เป็นพระอรหันต์ ๖ รูป สุดท้ายที่ทันเห็นพุทธองค์ ถัดไปก็พระอนุรุทธะ ผู้เข้าฌานสมาบัติติดตามดูองค์สมเด็จพระชินสีห์เข้าสู่ปรินิพพาน ถัดไปก็เป็นรูปของพระอานนท์กำลังร้องไห้อยู่ (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/15/Pava.jpg/150px-Pava.jpg) จุนทสถูป บนที่ตั้งของบ้านนายจุนทะ เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสวยพระกระยาหารมื้อสุดท้ายก่อนปรินิพพาน ภาพจาก วิกิพีเดีย พระเจดีย์ปรินิพพาน องค์พระสถูปอยู่ด้านหลังของพระวิหารพุทธปรินิพพาน (นิรวาณวิหาร) เป็นองค์สถูปที่พระพุทธองค์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละทั้งคู่ เมื่อวันเพ็ญวิสาขบูชา เป็นทรงบาตรคว่ำ สูงราว ๗๐ ฟุต บนยอดสถูปมีฉัตร ๓ ชั้น เป็นสถูปเก่าแก่บูรณะกันมาหลายครั้ง ปัจจุบันได้รับการบูรณะเรียบร้อยแล้ว ตามประวัติยืนยันว่าสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช โดยสร้างคร่อมแท่นปรินิพพาน (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTUzwW98cpga4lndwaXhK2jyU_zT_bVcDCpa8N1lhoRSFKJqkF9tg) มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า ประเทศอินเดีย ภาพจาก phrasiarn.com มกุฏพันธนเจดีย์ หรือท้องถิ่นเรียกว่า “รัมภาร์สถูป” อยู่ห่างจากสาลวโนทยาน ประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษ เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ มีสภาพเป็นเนินดินก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่ ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมไว้อย่างดี |