[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 16:27:25



หัวข้อ: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 16:27:25
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTAQ7nNxk24NEmBzt9da-drXw3ZtAztecA6odJRNSWgAXSN_T96)
ภาพจาก :watthailumbini-th.org

สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ

สวนลุมพินีวัน สถานที่ประสูติ
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๑


ลุมพินีวัน (Lumbini)  เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ  ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตั้งอยู่ที่อำเภอไภรวา  แคว้นอูธ  ประเทศเนปาล  เป็นพุทธสังเวชียสถาน ๔ ตำบลเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย  ลุมพินีวันเดิมเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยาน ที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน  

ในสมัยพุทธกาล ลุมพินีวันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ  ในแคว้นสักกะ  บนฝั่งแม่น้ำโรหิณี หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติ  เรียกว่า เสาอโศก  ที่จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้   ปัจจุบันลุมพินีวันอยู่ในเขตประเทศเนปาล ติดชายแดนประเทศอินเดียทางเหนือเมืองโคราฆปุระ   ห่างจากสิทธารถนคร หรือนครเทวทหะ ทางทิศตะวันตกประมาณ ๒๒ กิโลเมตร  และห่างจากเมืองติเลาราโกต (หรือนครกบิลพัสดุ์) ทางทิศตะวันออก ๒๒ กิโลเมตร  ซึ่งถูกต้องตามตำราพระพุทธศาสนา ที่กล่าวว่าลุมพินีวันสถานที่ประสูติ  ตั้งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะ  

ปัจจุบัน ลุมพินีวันมีเนื้อที่ประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่  ทางการเรียกสถานที่นี้ว่า รุมมินเด  มีสภาพเป็นชนบท มีผู้อาศัยอยู่ไม่มาก มีสิ่งปลูกสร้างเป็นพุทธสถานเพียงเล็กน้อย  แต่มีวัดพุทธอยู่ในบริเวณนี้หลายวัด  รวมทั้งวัดไทยลุมพินี  

ลุมพินีวันได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก  ประเภทมรดกทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐



(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTEX2iES0HIyNvL7_trmIMyomaLwpBAR_4UxYLP94r-AVElVcrZYw)
เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช  ภาพจาก : thaigoodview.com

เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช  ตั้งอยู่ในวงล้อมของรั้วเหล็ก  พระเจ้าอโศกมหาราช  ผู้ครองนครปาฏลีบุตรได้ปักเสาหินต้นนี้  ตามคำยืนยันของพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระว่า สถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ประสูติจากพระครรภ์พระพุทธมารดา  คราวเสด็จจาริกแสวงบุญบูชาสังเวชนียสถานทั่วชมพูทวีป  ซึ่งมีเสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราชที่สูง ๒๒ ฟุต ๔ นิ้ว ตั้งอยู่  จารึกด้วยภาษาพราหมีว่าเป็นสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSeFnW4ZTNzcjf_FzXx4qG0PVvFYaefq_-E9uTCIlojl7kl2Bv3uw)
มายาเทวีวิหาร  ภาพจาก :m.thairath.co.th


มายาเทวีวิหาร  ภายในวิหารมีรูปแกะสลัก เป็นรูปพระนางสิริมหามายาเทวี  พระพุทธมารดายืนประทับเหนี่ยวกิ่งสาละอยู่พร้อมกับพระสนม  และข้างหน้าพระพุทธมารดาเป็นรูปเจ้าชายสิทธัตถะกำลังก้าวพระบาทไปบนดอกบัว

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSaNZVZUQGYw6OkvQSF3fWuwBWQuADtFtq81OaShU3zUtPB6AD8Gw)
สระโบกขรณี (ด้านหลังคือมายาเทวีวิหาร)  ภาพจาก : watthailumbini-th.org

สระโบกขรณี   สถานที่สรงสนานพระกุมารหลังจากประสูติกาล





หัวข้อ: Re: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 16:56:30
.

พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒


(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTmHYWoPgYPnM8_9UtSdbmA6wUzOUX1l3N-J9WV5bx63zl0WnYbyA)
เจดีย์พุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร  ประเทศอินเดีย  
ภาพจาก watphraprangsida.com


พุทธคยา (Bodh Gaya,  หรือ Mahabodhi Temple) คือ คำเรียกกลุ่มพุทธสถานสำคัญในอำเภอคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย  ซึ่งเป็นพุทธสถานที่มีความสำคัญที่สุด ๑ ใน ๔ แห่งของพุทธศาสนา  เป็นที่ตั้งสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดมหาโพธิ อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการร่วมชาวพุทธและชาวฮินดู  พุทธคยา  ปัจจุบันตั้งอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเนรัญชรา  ไกลจากฝั่งแม่น้ำประมาณ ๓๕๐ เมตร 

พุทธคยามีสัญลักษณ์ที่สำคัญคือ องค์เจดีย์สี่เหลี่ยมสูงใหญ่ โดยสูงถึง ๕๑ เมตร  ฐานวัดโดยรอบได้ ๑๒๑.๒๙ เมตร  ล้อมรอบด้วยโบราณวัตถุ  โบราณสถานสำคัญ เช่น ต้นพระศรีมหาโพธิ์  พระแท่นวัชรอาสน์ ที่ประทับตรัสรู้และอนิมิสสเจดีย์  เป็นต้น  สำหรับชาวพุทธ  พุทธคยานับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญที่สุดของนักแสวงบุญชาวพุทธทั่วโลกที่ต้องการมาสักการะสังเวชนียสถานสำคัญ ๑ ใน ๔ แห่งของพระพุทธศาสนา  โดยในปี พ.ศ. ๒๕๔๕  วัดมหาโพธิ (พุทธคยา)  สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก  ประเภทมรดกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก



(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSBvQiSUFHezuEyvSeyJshM3Vz2Pe8WdKl0vEa8JQyaPdQENAZCvg)
ต้นพระศรีมหาโพธิ์  ประเทศอินเดีย  
ภาพจาก pla1234580.blogspot.com 

ต้นพระศรีมหาโพธิ์  สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธองค์อยู่ติดกับองค์พระเจดีย์เป็นศรีสง่าแก่โพธิมณฑล  มีพระแทนวัชรอาสน์คั่นกลาง  ต้นปัจจุบันเป็นต้นที่ ๔  ปัจจุบันต้นโพธิ์มีอายุ ๑๓๒ ปี (๒๕๕๔)  ขนาดใหญ่ ๓ คนโอบ  สูง ๘๐ เมตร  แผ่กิ่งก้านสาขาเป็นร่มโพธิ์ของชาวพุทธ  ขณะนี้รัฐบาลอินเดียได้ดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ  เพื่อให้ต้นโพธิ์มีอายุยืนยาวที่สุด  โดยให้นักพฤกษชาติวิทยาดูแลทุก ๆ ๗ วัน  และจัดสร้างกำแพงกั้นล้อมไว้เป็นสัดส่วน  เพื่อป้องกันคนเข้าถึงลำต้นโพธิ์

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSxqz0gSqo4yefZqxJZ6HdE2iW7vE0fZ-hMxqFLWN4z8WOPe0so)
พระแท่นวัชรอาสน์ :ภาพจาก handytour.blogspot.com

พระแท่นวัชรอาสน์  แปลว่า พระแท่นมหาบุรุษใจเพชร  สร้างด้วยวัสดุหินทรายเป็นรูปหัวเพชรสี่เหลี่ยม  กว้าง ๔.๑๐ นิ้ว  ยาว ๗.๖  นิ้ว  หนา ๕ นิ้วครึ่ง  ตั้งอยู่บนฐานก่ออิฐฉาบด้วยปูน  ด้านบนพื้นผิวแกะสลักเป็นศิลปะเหมือนกับหัวแหวนเพชรและมีเพชรซีกประดับอยู่โดยรอบเรือนแหวน  ด้านข้างแต่ละด้านแกะเป็นรูปดอกบัว  รูปพญาหงส์ (คล้ายห่าน)  และรูปดอกบัวมณฑารพ 

ปัจจุบันมีอายุ ๒,๓๐๐ ปีเศษ  พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างพระแท่นจำลองขึ้นทับพระแท่นเดิม เพื่อยืนยันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ณ จุดนี้ ปัจจุบันประชาชนและรัฐบาลศรีลังกาได้อุทิศสร้างกำแพงแก้ว  ทำด้วยทองคำแท้  ประดิษฐานรอบต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระแท่นวัชรอาสน์


(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR06yuV6Hj__7rvHoEFgkFzQgrv69p4_s7g5OmBkpjFUukWuRNNSg)
พระพุทธเมตตา ประดิษฐานภายในเจดีย์พุทธคยา : ภาพจาก images.palungjit.com

พระพุทธเมตตา  ในมหาโพธิเจดีย์ สร้างในสมัยปาละด้วยหินแกรนิตสีดำ มีอายุกว่า ๑,๔๐๐ ปีเศษ  ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดูอย่างปาฏิหาริย์  ประดิษฐานภายในมหาเจดีย์พุทธคยา  ด้วยพระพักตร์ที่แสดงออกด้วยเมตตากรุณาอันเปี่ยมล้น ชาวพุทธทั่วโลกจึงต่างพากันเบียดเสียดเพื่อเข้าไปกราบไหว้บูชา


(http://www.phuketdata.net/main/images/stories/easygallery/resized/173/1216564603_%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B8%B2026.jpg)

.


หัวข้อ: Re: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 18:43:34
.

สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๓


(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQavQNXyOXbsRAwZSl8eDzw5R-MO_RozAW3ZjgrYZXo9pLXR8eKEw)
ธัมเมกขสถูป
อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน หรือ แคว้นมคธ ชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาล

ภาพจาก bloggang.com



สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา  เรียกว่า ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  แปลว่า ป่าอันยกให้แก่หมู่กวาง และเป็นที่ชุมนุมของเหล่าฤษี  นักบวช นักพรตต่าง ๆ  ที่มาบำเพ็ญตบะและโยคะ  ทำให้เหล่าปัญจวัคคีย์ที่ปลีกตัวมาจากเจ้าชายสัทธัตถะมาบำเพ็ญตบะที่นี่  และพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกที่บริเวณป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เพื่อโปรดเหล่าปัญจวัคคีย์ ก็คือ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร”   พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมเป็นครั้งแรก ณ สารนาถ  หรืออิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งเป็นสถานที่โล่ง  มีซากอิฐปรักหักพังมากมาย ด้านหน้าจะมีบริเวณซึ่งกั้นเอาไว้เป็นลูกกรงล้อมรอบ ๔ ด้าน  ภายในนั้นมีเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราชปักอยู่ แต่ปลายจะหัก  ส่วนยอดเสาก็จะเป็นรูปจาตุรสิงห์ที่แสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์  เสาหินนี้ได้สร้างไว้ ณ ที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเป็นครั้งแรก 
 
(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQ7R9uqMgkQXyUMAvXGQFr9sRVxJJt9YTs6jB7UyyLZpTI3jMGCCA)
ภาพจาก : rmutphysics.com

พระมูลคันธกุฎี เป็นที่ประทับของพระพุทธองค์  ยังปรากฏเป็นร่องรอยชัดเจนอยู่  ซึ่งตั้งติด ๆ กับเสาหินนั้น  พระพุทธเจ้าได้ทรงจำพรรษาแรกที่สารนาถนี้  และเป็นพรรษาเดียวเท่านั้น  หลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์  พุทธคยา  ก็ทรงพิจารณาเห็นว่า ปัญจวัคคีย์  ที่ได้หนีพระองค์มาอยู่ในป่าอิสิปตนมฤคทายวันเป็นผู้มีบารมีมาก  ควรที่จะได้ฟังพระธรรมเทศนาครั้งแรกของพระองค์  จึงได้เสด็จมาที่นี่และได้แสดงปฐมเทศนาที่ “ธัมเมกขสถูป”  ซึ่งมีปรากฏให้เห็น ณ สถานนี้ และธรรมที่แสดงนั้นชื่อ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร”  ผลของการแสดงพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร   พระโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งใดมีความเกิดเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา  

เมื่อได้บรรลุเป็นพระโสดาบันแล้วจึงขอบวชเป็นภิกขุสงฆ์สาวกโสดาบันองค์แรกของโลก  ดังนั้น พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  เกิดครบครั้งแรกในโลกก็ที่นี่  นอกจากธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแล้ว  พระพุทธองค์ได้แสดงสูตรอื่น ๆ ที่นี่อีกหลายสูตร  เช่น ปัญจสูตร  รถการสูตร ฯลฯ  และจากการแสดงอนัตตลักขณสูตร ว่าด้วยเรื่องเบญจขันธ์ไม่ใช่ตัวตน  จนเกิดความเบื่อหน่ายในเบญจขันธ์  พระปัญจวัคคีย์ก็สำเร็จพระอรหันต์ เป็นอันว่าในครั้งนั้นพระอรหันต์มีในโลกขึ้นแล้ว ๖ องค์ คือพระพุทธเจ้า และพระสาวกอีก ๕ พระองค์



หัวข้อ: Re: สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ในดินแดนพุทธภูมิ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2555 19:15:42
.

เมืองกุสินารา  สถานที่ปรินิพพาน
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔


(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRIYwYR9UCQyG3Z35wzY8xqWkmo7HyIjoz2-zyviHgWi3WaagH5-A)
พระพุทธรูปปางมหาปรินิพพาน
ในพระวิหารแห่งมหาปรินิพพานสถูปจดีย์พุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร  ประเทศอินเดีย  

ภาพจาก bloggang.com


 
เมืองกุสินารา ตั้งอยู่ ตำบลมถากัวร์  อำเภอกุสินคร  จังหวัดเดวเย หรือเทวริยา  รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย  ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอก ๑ ใน ๒ ของแคว้นมัลละ  อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวา  เป็นที่ตั้งของสาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน และเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า  มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า มาถากุนวะระกาโกฏ  ซึ่งแปลว่า ตำบลเจ้าชายสิ้นชีพ

เมืองกุสินารา อันเป็นที่ตั้งของสาลวโนทยาน  อยู่ในแคว้นมัลละ ๑ ใน ๑๖ แคว้น  ซึ่งเป็นเขตการปกครองสมัยพุทธกาล  โดยในสมัยนั้นแคว้นมัลละแยกเป็นสองส่วน คือ ฝ่ายเหนือมีเมืองกุสินาราเป็นเมืองหลวง  เจ้าปกครองเรียกว่า “โกสินารกะ”  และฝ่ายใต้มีเมืองปาวาเป็นเมืองหลวง  เจ้าปกครองเรียกว่า “ปาเวยยะกะ” ทั้งสองเมืองนั้นตั้งอยู่ห่างกันเพียง ๑๒ กิโลเมตร  โดยมีแม่น้ำหิรัญญวดีคั่นตรงกลาง 

กุสินารานั้นเมื่อเปรียบเทียบกับแคว้นอื่น ๆ ในสมัยพุทธกาล  จัดว่าเป็นแคว้นเล็กไม่ค่อยมีความสำคัญมากนักในด้านเศรษฐกิจ  สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์อยู่ในพระราชอุทยานของเจ้ามัลละฝ่ายเหนือแห่งกุสินารา  ภายในสาลวโนทยาน  แปลว่า สวนป่าไม้สาละ  ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญญดี เป็นป่าไม้สาละร่มรื่น  ซึ่งหลังการปรินิพพานของพระพุทธองค์แล้ว กษัตริย์แห่งมัลละก็ได้ประดิษฐานพระพุทธสรีระไว้ ณ เมืองกุสินาราเป็นเวลากว่า ๗ วัน  ก่อนที่จะประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ มกุฏพันธนเจดีย์


(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e6/Kusinara.jpg/250px-Kusinara.jpg)
มหาปรินิพพานวิหาร ภายในสาลวโนทยาน  ประเทศอินเดีย  
ภาพจาก วิกิพีเดีย

พระวิหารพุทธปรินิพพาน ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน  พระสรีระกายของพระพุทธองค์ทอดยาวเหยียดแนบพื้นพสุธา  เป็นพระอิริยาบถที่เรียกว่า อนุฏฐานะไสยา  ซึ่งแปลว่า ประทับนอนโดยไม่ลุกขึ้นอีก  องค์พระยาว ๒๓ ฟุต ๙ นิ้ว กว้าง ๕ ฟุต ๖ นิ้ว สูง ๒ ฟุต ๑ นิ้ว  ส่วนหนึ่งของฐานสร้างด้วยหินจุณศิลาเป็นรูปปั้นของสุภัททปริพาชก   ผู้ขอบวชและได้เป็นพระอรหันต์ ๖ รูป  สุดท้ายที่ทันเห็นพุทธองค์  ถัดไปก็พระอนุรุทธะ  ผู้เข้าฌานสมาบัติติดตามดูองค์สมเด็จพระชินสีห์เข้าสู่ปรินิพพาน ถัดไปก็เป็นรูปของพระอานนท์กำลังร้องไห้อยู่


(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/15/Pava.jpg/150px-Pava.jpg)
จุนทสถูป บนที่ตั้งของบ้านนายจุนทะ
เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสวยพระกระยาหารมื้อสุดท้ายก่อนปรินิพพาน
ภาพจาก วิกิพีเดีย

พระเจดีย์ปรินิพพาน  องค์พระสถูปอยู่ด้านหลังของพระวิหารพุทธปรินิพพาน (นิรวาณวิหาร)  เป็นองค์สถูปที่พระพุทธองค์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละทั้งคู่  เมื่อวันเพ็ญวิสาขบูชา  เป็นทรงบาตรคว่ำ สูงราว ๗๐ ฟุต  บนยอดสถูปมีฉัตร ๓ ชั้น  เป็นสถูปเก่าแก่บูรณะกันมาหลายครั้ง  ปัจจุบันได้รับการบูรณะเรียบร้อยแล้ว ตามประวัติยืนยันว่าสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช  โดยสร้างคร่อมแท่นปรินิพพาน

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTUzwW98cpga4lndwaXhK2jyU_zT_bVcDCpa8N1lhoRSFKJqkF9tg)
มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า ประเทศอินเดีย  
ภาพจาก phrasiarn.com

มกุฏพันธนเจดีย์ หรือท้องถิ่นเรียกว่า “รัมภาร์สถูป”  อยู่ห่างจากสาลวโนทยาน  ประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษ  เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ  มีสภาพเป็นเนินดินก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่  ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมไว้อย่างดี