|
หัวข้อ: อย่าขุ่นเคืองใจ ถ้าถูกใครเรียก “แรด” เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 01 ตุลาคม 2555 15:55:08 (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQXruQR5dz0oet2o0v2Vw4rKyD4H47Q0uRAb508VKDCjddbaf4k) ภาพจาก :biogang.net อย่าขุ่นเคืองใจ ถ้าถูกใครเรียก “แรด” ปลาแรด คือปลาที่มีโหนกนูนบนใบหน้าคล้ายนอแรด มะม่วงแรด คือมะม่วงที่มีโหนกนูนคล้ายนอแรด แต่คนแรดกลับหมายถึงหญิงสาว (ทั้งแท้และเทียม) ที่ชอบทำตัวไม่เรียบร้อย แต่งตัวน้อยชิ้น มีความมั่นใจสูง ชอบทำตัวสะดีดสะดิ้งโดยไม่มีเหตุผล มีความไวต่อผู้ชายเป็นพิเศษ ซึ่งไม่มีอะไรใกล้เคียงกับแรดตัวจริงเลยแม้แต่น้อย แรดตัวจริงคือสัตว์ป่าตัวล่ำ กินพืชจำพวกยอดไม้ ใบไม้ ผลไม้ มีนิ้ว ๓ กีบ มีนอบนใบหน้า ผิวหนังหนาพร้อมรอยพับจนดูเหมือนใส่ชุดเกราะ เล่ากันว่าชุดเกราะแรดนี้แข็งแกร่งกระทั่งปืนยังยิงไม่ทะลุ วิ่งได้เร็ว ดำน้ำเก่ง นิสัยดุไม่กลัวใคร สู้ได้แม้กระทั่งเสือหรือช้าง เป็นสัตว์ไม่มีต่อมเหงื่อ จึงชอบนอนแช่ปลักเหมือนควายหรือหมูเพื่อดับร้อนและป้องกันแมลงรบกวน อดอาหารเก่ง ถึกและอึดจนฝรั่งมีสำนวนชมคนว่าอดทนเหมือนแรด นอแรด เป็นเอกลักษณ์เด่นบนใบหน้าของแรด สำหรับใช้ต่อสู้ป้องกันตัว ขุดดิน ดันต้นไม้ให้โน้มลงเพื่อกินใบ เราอาจเข้าใจว่านอเป็นกระดูกที่งอกบนจมูก แต่ที่จริงแล้วนอเป็นขนที่ขึ้นมาหนาแน่นจนคล้ายของแข็ง ลักษณะของนอใช้แบ่งจำพวกของแรดได้ แรดที่มี ๒ นอจะเป็นแรดพันธุ์แอฟริกา ซึ่งได้แก่แรดขาวกับแรดดำ มีลำตัวใหญ่โต ส่วนแรดเอเชียมีนอเดียว คือแรดอินเดีย แรดชวา และแรดตัวเล็กมีขน แต่มี ๒ นอ เรียกตามภาษากระเหรี่ยงว่ากระซู่ สมัยกรุงศรีอยุธยา สยามประเทศยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ แรดเป็นสัตว์ป่าที่หาง่ายจนกระทั่งมีกีฬาชนแรด แรดเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้มหาศาล เพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งร่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความเชื่อจากตำรายาจีนโบราณ • เลือดแรด ที่แห้งจนเป็นเกล็ดคือยาบำรุงเลือด แก้ช้ำใน • นอแรด เป็นยาเย็นดับพิษร้อน • หนัง แก้โรคหืดหอบ • กีบเท้า ใช้ละลายเสมหะ • ฟันกรามไปจนกระดูก ใช้เป็นยาดับพิษไข้ ปัจจุบัน แม้แรดจะเป็นสัตว์ป่าสงวน แต่ก็ถูกล่าไปจนสูญพันธุ์หมดแล้วจากป่าธรรมชาติเมืองไทย ในตลาดมืดมีการตั้งราคานอแรดไว้ถึง ๙ แสนบาทต่อกิโลกรัม เมื่อบดเป็นผงแล้วสามารถลักลอบขายได้ง่ายยิ่งกว่ายาเสพติด โดยสามารถขายได้ถึง ๑.๕ แสนบาทต่อ ๑๐๐ กรัม โดยเฉพาะคนจีนที่ยังเชื่อกันอยู่ว่านอแรดสามารถรักษาได้สารพัดโรคแม้กระทั่งมะเร็ง ซึ่งไม่มีหลักฐานใดมารับรอง และแรดทุกพันธุ์ทั้งในเอเชียและแอฟริกาก็กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ไปจากโลกเต็มทีเพราะความเชื่อนี้ (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRlH2sNF3Z--Ys2uxkQ7ZK48kCuqCmNsJeLlt9Lw7S5wJFS4XW40w) ภาพจาก : patty---.gulife.com แม่รีแม่แรด ทำไมสาว ๆ ที่ทำตัวไม่เรียบร้อยจึงถูกเรียกว่า “แรด” บางคนบอกว่าเพราะแรดตัวเมียจะพุ่งหาตัวผู้เวลาผสมพันธุ์ แต่ความจริงแล้ว แรดตัวผู้ต่างหากที่ก้าวร้าวมากถึงขนาดทำร้ายตัวเมียได้ในเวลาผสมพันธุ์ ตัวเมียจึงจำเป็นต้องมีพื้นที่ให้พอวิ่งหนีแรดตัวผู้ได้ การพยายามผสมพันธุ์แรดในสวนสัตว์จึงไม่ค่อยได้ผล คำตอบที่น่าจะเข้าท่ามากที่สุดก็คือ คนไทยสมัยก่อนมีคำเรียกผู้หญิงที่ชอบเสนอหน้าจุ้นจ้านเรื่องของคนอื่นว่า “แม่รีแม่แรด” สุดท้ายน่าจะกร่อนลงเหลือแต่คำว่า “แรด” เพราะสั้นกระชับ พูดแล้วสะใจดี แล้วความหมายของคำว่า “แรด” นี้ก็เริ่มเพี้ยนไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแม่แรดสาวอย่างในยุคปัจจุบันสาว ๆ ที่ถูกเรียกเป็นแรดอย่าได้ขุ่นเคืองใจไป ให้รู้ไว้ว่าแรดที่แท้จริงนั้นแข็งแกร่ง ทรหดอดทน เป็นของมีค่าที่ใคร ๆ ต่างอยากครอบครอง และเหลืออยู่น้อยเต็มที สมควรจะทะนุถนอมไว้ให้อยู่คู่โลกนี้นาน ๆ อย่างสุดฝีมือ ข้อมูล : เดลินิวส์ *ซุกสุข* ฉบับเดือนกันยายน ๒๕๕๕ |