หัวข้อ: แกงส้มผักหวานป่า ผักปลอดภัยไร้สารพิษ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 08 ธันวาคม 2555 11:21:56 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/86240529889861_images_5_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/42860176331467_images_6_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/21211189197169_images_2_.jpg) แกงส้มผักหวานป่า ผักปลอดภัยไร้สารพิษ • เครื่องปรุง - ผักหวานป่า 2 ขีด (ขีดละประมาณ 12 บาท) - ปลากดย่าง หรือปลาเนื้ออ่อนย่าง 1 ตัว - น้ำพริกแกงส้ม 3 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะขามเปียก - น้ำตาลปีบ - น้ำปลาดี (https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQpvfKAR4FG0YqMttntbl8fLQODI1rpcJnV-HAmsp7gxXX3kFbulA) • เครื่องปรุงน้ำพริกแกง - พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ด 3 – 5 เมล็ด - กระชายหั่นละเอียด 3 - 5 ราก - หอมแดง 5 หัว - กระเทียม ½ หัว - กะปิ 2 ช้อนชา - ปลาทูทอดแกะก้าง ½ ตัว (หรือแกะเนื้อปลาย่างสักส่วนหนึ่ง...โขลกรวมกับพริกแกงเพื่อให้น้ำแกงข้น) • วิธีทำ 1. แกะก้างปลาย่าง และนำเฉพาะหัวปลาไปต้มน้ำด้วยไฟอ่อน ๆ 2. เด็ด หรือรูดใบผักหวานป่า ออกจากก้านใบแข็ง ๆ ให้หมด 3. โขลกส่วนผสมเครื่องแกงให้เอียด ตามด้วยกะปิ และเนื้อปลาแกะก้าง 4. ใส่เครื่องแกงในหม้อน้ำต้มหัวปลา คนให้ละลาย ปรุงรสให้เข้มข้นได้ 3 รส (เปรี้ยว เค็ม หวาน) ใส่ปลาย่างแกะก้าง พอน้ำแกงเดือดจัด ใส่ผักหวานป่า คนให้เข้ากัน ตักใส่ชาม (http://www.sookjaipic.com/images/8595311351_4.JPG) ผักหวานป่า ผักหวานป่า (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melientha suavis Pierre ) เป็นพืชในวงศ์ Opiliaceae เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ต้นโตเต็มที่อาจสูงถึง 13 เมตร แต่ที่พบโดยทั่วไปมักมีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก หรือเป็นพุ่ม เนื่องจากมีการหักกิ่ง เด็ดยอด เพื่อกระตุ้นให้เกิดกิ่งและยอดอ่อนซึ่งเป็นส่วนที่ใช้บริโภคสามารถนำยอดและใบอ่อนมาปรุงอาหารได้หลากหลายทั้งต้ม ผัด แกง เช่น แกงเลียงผักหวานป่า ต้มจืดผักหวานป่า ในอดีตจะมีให้บริโภคเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น คือ ช่วง มีนาคม - พฤษภาคม แต่ปัจจุบันมีการนำมาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจอย่างแพร่หลาย และให้ผลผลิตได้ตลอดปี บทความเกี่ยวกับผักหวานป่าจากผู้เริ่มทดลองปลูก ว่าได้นำต้นผักหวานป่าไปปลูกในแปลงทดลอง โดยขุดดินลึกมาก ใส่ปุ๋ย ถอนวัชพืช รดน้ำพรวนดิน เรียกว่าดูแลเป็นอย่างดี แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นานต้นผักหวานป่าเริ่มค่อย ๆ เหี่ยวเฉาตายไปจนหมด แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม ได้ทดลองปลูกขึ้นมาใหม่ โดยศึกษาและสอบถามข้อมูลจากผู้รู้ จึงทราบว่าต้นผักหวานป่าเป็นพืชที่ต้องอาศัยพวกหมู่มาก ๆ หมายความว่าต้องปลูกพืชชนิดอื่น ๆ แซมร่วมเข้าไปด้วย เช่น ส้ม ลำไย ฯลฯ เพื่อให้รากของต้นผักหวานป่าดูดซึมอาหารจากต้นไม้เหล่านั้นมาหล่อเลี้ยงชีวิต (คล้ายกาฝาก คือต้นไม้อื่นต้องหาอาหารมาเลี้ยงต้นผักหวานป่า) และห้ามมิให้ใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์หรือปุ๋ยเคมีเป็นอันขาด ใส่ได้เฉพาะปุ๋ยคอก จากมูลวัว มูลไก่ การพรวนดินก็ไม่ต้องทำอีกเช่นกัน เพราะหากรากของต้นผักหวานป่าขาด ต้นผักหวานป่าจะตายไปในที่สุด |