[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ใต้เงาไม้ => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 25 มกราคม 2556 10:50:36



หัวข้อ: นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 25 มกราคม 2556 10:50:36
.

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=47815.0;attach=6479;image)

ไปไม่กลับ

ตาลปัตรพัดที่พระใช้บังหน้าเวลาสวดพระอภิธรรมศพสมัยนี้  หลายวัดนิยมใช้ที่ปักคำว่า ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น

พระสวดเป็นภาษาบาลี ความจริงเป็นข้อธรรมะชั้นดี น่าเสียดายคนฟังไม่รู้เรื่อง บางวัดสวดแปล ธรรมะข้อหนึ่งได้ยินแล้วจับใจนัก

“อย่าร้องไห้พิร่ำพิไรไปเลย ไม่ว่าจะเสียน้ำตาสักเท่าใด ก็ช่วยคนตายไม่ได้  เขาจะไปสู่ภพที่ดีหรือภพที่ไม่ดีก็ด้วยกรรมที่เขาทำไว้”  คำสอนพุทธศาสนาคือ คนตายแล้วก็ตายลับ ไม่กลับมาอีก  ความเชื่อนี้ คนไทยแม้กลัวผีแต่ก็ยังไม่มากเหมือนคนสมัยดึกดำบรรพ์ซึ่งกลัวผีเกินประมาณ

เมื่อกว่า ๔ พันปีก่อนคริสตกาล  ฝังศพคนตายในตะกร้าสานจากกิ่งไม้เล็ก ๆ ที่ถักร้อยเป็นเปีย  ตะกร้าสานต้นแบบโลงศพเกิดขึ้น เพราะคนเป็นกลัวคนตาย

ในยุโรปเหนือมีมาตรการเพื่อกันคนตายไม่ให้เป็นผีมาหลอกหลอนเข้มงวดมาก  มีการมัดร่างกายและตัดศีรษะกับเท้าของคนตาย เพื่อให้มั่นใจว่าจะหาทางกลับบ้านไม่ถูก  เส้นทางตอนหามศพไปสุสานก็จะทำให้วกไปเวียนมาน่าสับสน  ตั้งใจทำให้คนตายหลง

หลาย ๆ วัฒนธรรม ญาติพี่น้องจะแบกคนตายออกจากบ้านทางช่องที่เจาะขึ้นโดยเฉพาะ  และช่องนี้จะถูกปิดให้เหมือนสภาพเดิมทันทีที่นำศพออก  แม้ศพจะถูกฝังลงในดินลึกถึง ๖ ฟุต  ซึ่งน่าจะเป็นความลึกที่พอเพียง แต่กระนั้นเมื่อบรรจุศพลงในโลงก็ยังต้องเพิ่มมาตรการเพื่อความมั่นใจ มีการตอกตะปูปิดฝาโลงเป็นการใหญ่  

นักโบราณคดีพบว่า โลงศพยุคแรก ๆ มีตะปูตอกจำนวนมากเกินจุดประสงค์ที่กันฝาโลงหล่นเลื่อนระหว่างแห่ศพไปสุสาน เมื่อหย่อนโลงศพที่ตอกตะปูแน่นหนาลงในหลุมลึกแล้ว มาตรการขั้นสุดท้ายก็ยังต้องวางหินก้อนใหญ่ไว้บนฝาโลงแล้วจึงขุดดินกลบปากหลุม เพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้ศพเปิดโลงออกมา ด้วยความกลัวเป็นประการสำคัญ

ในสมัยต่อมาคนเป็นกลัวคนตายน้อยลง หินก้อนที่ใช้วางฝาโลงถูกยกขึ้นมาไว้เหนือหลุมฝังศพ มีจารึกข้อความแสดงความไว้อาลัยรักต่อผู้ตาย จนเป็นธรรมเนียมให้ลูกหลานญาติพี่น้องถือดอกไม้ไปวาง  ก้อนหินก้อนเดียวกันที่เคยสื่อความกลัว ก็กลายเป็นหินก้อนใหม่ที่สื่อถึงความรักความผูกพัน

ธรรมเนียมไทย แม้สมัยก่อนจะกลัวผี แต่ก็คงกลัวน้อยกว่าฝรั่ง มีการมัดตราสังศพ ตอกตะปูปิดฝาโลงแน่นหนาเหมือนกัน ทอดเวลาให้ความรักอาลัยเจือจาง เมื่อถึงเวลาก็ไปขุดศพขึ้นมาเผา แล้วเก็บแต่เถ้ากระดูกไว้ให้ลูกหลานกราบไหว้ในบ้าน แสดงว่าคนไทยไม่กลัวผี กล้าอยู่กับผี    ทั้งศพไทยศพฝรั่ง แม้จะถูกฝังถูกเก็บไว้ต่างกัน แต่ที่เหมือนกันก็คือ เรื่องของกรรมที่ทำไว้ก่อนตาย  ผู้เฒ่าคนไทยมักสอนลูกหลาน
“นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์  สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"  

ข้อมูล : “ไปไม่กลับ” คอลัมน์ ชักธงรบ  โดยกิเลน  ประลองเชิง หน้า ๓ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖