หัวข้อ: "เสียงตำหมาก : เบญจมาศกลีบสุดท้าย" เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 13 สิงหาคม 2553 14:46:10 (http://www.aksorn.com/userfiles/image/0752/soc/230752_2.JPEG) "เสียงตำหมาก : เบญจมาศกลีบสุดท้าย" ค้างพลูน้ำตาพรูร่ำไห้ ใบหมากไหวลูกร่วง ปูนขาวแดงแห้งแตกลายสะอื้น แว่วเสียงตำหมากสุดท้ายลอยหายไปทางปล่องเมรุ ควันสีขาวนำทางยายเล็กไปสวรรค์แล้ว …ตื่นได้แล้ว เสียงยายเรียกหลานสาวคนโตให้ตื่น ก่อนไอ้โต้งจะโก่งคอขัน ตั้งหม้อ หุงข้าว ทอดปลา เปิดประตู กวาดบ้าน ไม่นานฟ้าคลี่ม่านสีเหลืองอ่อน ปรากฏหลวงตามายืนหน้าบ้าน ยายเล็กถือถาดรออยู่ก่อนแล้ว ยายตักข้าวแกงใส่บาตร ยายเล็กใส่ขนม ฉันใส่บาตรด้วยดอกไม้ เช้านี้ดอกไม้บูชาพระรัตนตรัยเป็นดอกเบญจมาศสุดรักของยาย อิมินา ปุญญะกัมเมนะ…… ธารกรวดน้ำหลั่งรินบนพุ่มเบญจมาศ ริ้วรอยการจากพรากทำให้ฉันใจหาย นึกถึงดอกเบญจมาศที่ตัดไปเมื่อครู่ นึกถึงตาที่ฉันไม่มีโอกาสได้เห็นหน้า ยินแต่ยายเล่าว่าตารักต้นไม้ไม่น้อยไปกว่ายาย สวนดอกไม้จึงสะพรั่งแผ่กว้างโอบบ้านหลังเล็กหลังนี้ ฉันรู้สึกรักและผูกพันกับตา จากเรื่องเล่า จากสายเลือด จากผืนดินที่ฉันยืนอยู่ จากกลิ่นหอมของดอกไม้…. ……มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ สิ้นการแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้กับตา ฉันกระซิบถามยายว่า ไม่เสียดายดอกเบญจมาศเหรอ มีดอกไม้อื่นอีกหลายดอก แต่ไม่สวยเท่าเบญจมาศ ทำไมยายไม่เอาใส่บาตร ยายเล็กแสร้งบอกว่าเอาไปให้ตาชื่นชมบนสวรรค์ด้วย แล้วยายก็สอนว่า จะใส่บาตรต้องใส่ด้วยกายใจบริสุทธิ์ สิ่งของที่ใส่ก็ต้องบริสุทธิ์ อย่าง ข้าวปากหม้อ แกงจวักแรก และดอกไม้แรกแย้ม ยายเล็กเล่าให้ฟังบ้างว่า แม่ค้าขนมอย่างยาย ก็ต้องตัดขนมหัวถาดไว้ใส่บาตรก่อนเอาไปขาย เป็นมิ่งมงคล เป็นกุศลของชีวิต พอหลวงตาเดินลับตา พระอาทิตย์ยิ้มทักทาย ถึงเวลาที่พี่น้องสองยายเปิดสภาน้ำหมาก เสียงตำหมากบนแคร่สะเทือน ยายกินหมากปูนแดง ยายเล็กหมากปูนขาว แต่ทั้งสองคนไม่เคยทะเลาะกันให้เสียชื่อกินหมากเชี่ยนเดียวกัน (http://www.thaidigitalphoto.com/Galleries/Life/images/01.jpg) บทสนทนาในทุกๆ เช้ามักเป็นเรื่องเดิมๆ เรื่องอาการปวดเมื่อยตอนกลางคืน เรื่องนอนไม่ค่อยหลับ เรื่องทำบุญ เรื่องวีรกรรมความซนของหลานคนเล็ก เรื่องความทรงจำเก่าๆ บ้างก็บ่นว่าข้องใจคนโน้น คิดถึงคนนี้ เรื่องต้นไม้ ดอกไม้ เช้านี้ฉันได้ยินยายเล็กถามแซวยายมาว่า ไม่เสียดายจริงๆ เหรอ ดอกเบญจมาศดอกนั้นงามจังนิ ยายหัวเราะ ตำหมากโขลกๆ ตอบว่า เสียดายสิ แต่จะหวงไว้ทำไม สังขารไม่เที่ยงแท้ วันนี้งาม พรุ่งนี้เฉา ร่วงโรย ทุกสรรพสิ่งชีวิตหนีไม่พ้น ๑๔ กุมภา ๔๙ วันที่ดอกกุหลาบบานเต็มเมือง ลมมรณะได้พรากเบญจมาศกลีบหนึ่งหล่นร่วง ยายได้จากพวกเราไปด้วยวัยเก้าสิบสี่ปี ทิ้งยายเล็กผู้เปรียบเสมือนน้องสาว ให้นั่งตำหมากเพียงลำพัง จนมาถึงวันนี้ สิ้นพฤจิกา ๕๒ เบญจมาศกลีบสุดท้ายก็หมดวาระ ทิ้งร่างคืนผืนดิน ยายเล็กจากเราไปอีกคนด้วยวัยเก้าสิบปี ฉันรู้สึกใจหายเหมือนวันที่ตัดเบญจมาศดอกนั้นใส่บาตร คำสอนของยายทั้งสองยังดังกึกก้องอยู่ในสำนึก ขอให้เบญจมาศดอกนั้นไปเบ่งบานบนสวรรค์ ขอให้ความดีงามนำทางยายเล็กไปสู่สุขคติ ด้วยใจที่อาลัยยิ่ง หลานสาวของดอกไม้ Posted by ดาวปลาตะเพียน (http://www.adirek.com/stwork/flower/picture%20USE/DSC01035.JPG) |