หัวข้อ: โน๊ตประกอบทำนองร้องและทำนองดนตรีไทย : เพลงบุหลัน เถา(ชุดพระจันทร์ ๗.) เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 19 เมษายน 2556 14:17:21 .
ถ้อยแถลง..เพลงชุดพระจันทร์ พระจันทร์ เป็นสิ่งที่ประดับความงามให้กับราตรี และความเย็นยะเยือกของพระจันทร์ยังช่วยกล่อมอารมณ์ของมนุษย์ให้สงบลงได้ พระจันทร์จึงมีอิทธิพลต่อความเชื่อและความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ทำให้เกิดประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์ขึ้นมามากมาย ทางด้านวรรณกรรม นำความงามของพระจันทร์สร้างฉาก สร้างอารมณ์ทั้งสุขและทุกข์ของตัวละคร ทางด้านเพลงก็ไม่ใช่น้อยที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์ โดยเฉพาะในเพลงไทยที่มีพระจันทร์มาเกี่ยวข้อง โดยใช้เป็นชื่อเพลงบ้าง แฝงไว้ในบทร้องบ้าง และรวมทั้งชื่อเพลงกับบทร้องบ้าง ในบางครั้งการบรรเลงดนตรีไทยในคืนที่มีพระจันทร์ นึกจะบรรเลงเล่นตามบรรยากาศ ก็นึกชื่อเพลงที่เหมาะสมไม่ได้ เท่าที่นึกกันได้บางเพลง มีบทร้องไม่ตรงความหมายของชื่อเพลง เช่น เพลงไส้พระจันทร์ เพลงชมแสงจันทร์ เป็นต้น เมื่อมีโอกาสที่ได้บรรเลงเช่นกันในคืนที่มีพระจันทร์ ผู้เขียนได้พยายามรวบรวมเพลงไทยที่จะเสริมอารมณ์ทั้งผู้ฟังและผู้บรรเลงในบรรยากาศเช่นนี้ เป็นเพลงเถาและต่อด้วยเพลงสองชั้นเพื่อให้สมบูรณ์แบบตามลักษณะของการบรรเลงดนตรีไทย...สมพล อนุตตรังกูร เพลงบุหลัน เถา บุหลัน เถา : ในสมัยโบราณมีเพลงในอัตราสองชั้นอยู่เพลงหนึ่ง ชื่อว่า “เพลงชกมวย” ไม่มีผู้ใดทราบว่ามีประวัติเกี่ยวกับการชกมวยอย่างไร เป็นเพลงสำหรับร้องประกอบการแสดงละครนอก เพราะเป็นเพลงที่มีจังหวะค่อนข้างเร็ว เหมาะกับการแสดงละครนอก ซึ่งมีลีลาท่ารำกระฉับกระเฉงว่องไว ในราวปลายรัชกาลที่ ๔ เป็นสมัยที่นิยมการแต่งขยายเพลงสองชั้นเป็นสามชั้น ครูทัตซึ่งเป็นครูขับร้องและมโหรีในบ้านสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) และเป็นศิษย์ของพระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) ได้นำเพลงชกมวยมาขยายเป็นสามชั้นทั้งทางร้องและทางดนตรี และตั้งชื่อใหม่ว่า “เพลงบุหลัน” เพลงชกมวยของเดิมมี ๒ ท่อน ครูทัตรวมทำนองทั้ง ๒ ท่อนเป็นท่อน ๑ แล้วนำเพลงใบ้คลั่งท่อน ๓ มาแก้ไขเสียงตก ใช้เป็นท่อน ๒ ระหว่างท่อน ๑ กับท่อน ๒ ได้แทรกเท่าลอยๆ ไว้ ๒ จังหวะ กับได้แต่งทำนองเที่ยวกลับไว้ต่างหาก จึงนับว่าเพลงบุหลันสามชั้นของครูทัตเป็นเพลงที่มีสำนวนทำนอง ลูกล้อลูกขัด วิจิตรพิสดารไพเราะน่าฟัง ยากที่จะหาเพลงใดเทียบได้ ภายหลังได้มีผู้แต่งครบเป็นเพลงเถา ไม่ทราบว่าครูทัตหรือผู้ใดแต่ง สำหรับบทร้อง จากเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ตอนท้าวดาหาและบริวารเสด็จกลับจากการแก้บนและเที่ยวชมวิลิศมาหราคีรี ในระหว่างทางเมื่อมืดลงดวงจันทร์ได้ส่องแสงโชติช่วงอยู่เบื้องบน เบื้องล่างมีแสงโคมส่องทางสว่างไสว ระเด่นบุษบาประทับมาในราชรถคันหนึ่ง เผยม่านออกชมแสงจันทร์อย่างเพลิดเพลิน หาทราบไม่ว่าอิเหนากับสี่พี่เลี้ยงได้ปลอมตัวเป็นอำมาตย์ขับขี่ม้าวนเวียนอยู่ในขบวนใกล้ราชรถนั้น ...สมพล อนุตตรังกูร บทร้องเพลงบุหลัน เถา สามชั้น ครั้นค่ำสนธยาราตรีกาล จึงเผยม่านออกชมแสงบุหลัน ทรงกลดหมดเมฆอยู่พรายพรรณ แสงจันทร์จับแสงรถทรง แสงโคมประทีปทองส่องสว่าง กระจ่างจับพุ่มไม้ไพรระหง พวงพะยอมหอมหวนลำดวนดง สายหยุดประยงค์โยธกา สองชั้น หอมกลิ่นกล้วยไม้ที่ใกล้ทาง ตรัสบอกบาหยันพลางแล้วแลหา ลมหวนอวลกลิ่นสุมาลย์มา ระคนกลิ่นบุหงารำไป เรไรจักจั่นสนั่นเสียง เพราะเพียงดนตรีปี่ไฉน บุหรงร้องพร้องเพรียกพงไพร ฟังเพลินเจริญใจไปมา ชั้นเดียว เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีใจกล้า เป็นทัพหลังรั้งพลไคลคลา เวลาค่ำคำนึงถึงเทวี จึงปลอมแปลงแต่งองค์เป็นอำมาตย์ ชวนพี่เลี้ยงราชทั้งสี่ ทรงสินธพชาติพาชี ฝ่าพลมนตรีขึ้นมา (http://www.sookjaipic.com/images_upload/53979396613107_v1.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/96116855409410_v2.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/33687894294659_v3.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/94494819723897_v4.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/42388868166340_v5.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/23797831187645_a1.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/41471989866759_a2.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/11278916191723_a3.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/22260032263066_a4.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/81305960772765_5.png) อาจารย์สมพล อนุตตรังกูร ปัจจุบันอายุ ๘๔ ปี (เมษายน ๒๕๕๖) และทุกวันนี้ท่านยังคงสอนดนตรีไทยเป็นวิทยาทานแก่บุคคลทั่วไป (ระนาด ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย ขิม จะเข้ ขลุ่ย ฯลฯ) ..ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์สมพล อนุตตรังกูร ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ด้านดนตรีไทย ที่อนุญาตให้นำทำนองดนตรีไทย ซึ่งท่านเป็นผู้ประพันธ์และเขียนด้วยลายมือของท่านเอง เผยแพร่เป็นวิทยาทานใน www.sookjai.com (http://www.sookjai.com) โดยวัตถุประสงค์ เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่า และช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะการดนตรีไทย ให้สืบทอดยาวนานตลอดไป มา ณ ที่นี้ ด้วยความเคารพสูงยิ่ง. |